
ตอนเช้ามืด เป็นเวลาของการบรรลุธรรม
#1
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 04:57 PM
ทำไมต้องสั่งสมนิสัยดีๆ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า คนดีทำดีได้ง่าย ทำชั่วได้ยากเพราะไม่คุ้นกับความชั่ว คนชั่วทำชั่วได้ง่าย ทำดีได้ยาก เพราะไม่คุ้นกับความดี ถ้าทำดีจนเป็นนิสัย นิสัยดีๆจะติดตัวเราไปข้ามชาติ เรียกว่าสันดาน ทำให้ไม่คุ้นกับความชั่ว จะเป็นเกราะป้องกันตัวเราเองไม่ให้ทำความชั่ว
การสั่งสมนิสัยดีๆ จะสั่งสมตอนไหน
การนั่งสมาธิ ตอนเช้ามืด ตอนสาย ตอนบ่าย ตอนค่ำ ตอนเช้ามืดจะนั่งสมาธิได้ดีกว่าทุกรอบ
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ เคยให้โอวาทไว้ว่า คนเราตอน เกิด ดับ หลับ ตื่น ใจจะอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เวลามาเกิดก็มาเกิดที่กลางกาย คือ เมื่อวิญญาณปฏิสนธิ หรือกายละเอียดมาเกิดจะเข้าไปอยู่ที่ศูนย์กลางกายของบิดาก่อน โดยเข้าทางปากช่องจมูก แล้วจะบังคับจิตใจของบิดา ให้เข้าไปหามารดา ถ้าเข้าปากช่องจมูกซ้ายก็ได้เพศหญิง ถ้าเข้าปากช่องจมูกขวาก็ได้เพศชาย เมื่อลงไปอยู่ที่กลางกายของมารดา ถูกธาตุหยาบของมารดากับบิดาห่อหุ้ม จึงถือกำเนิดเป็นชีวิตขึ้นมา
ดังนั้น การนั่งสมาธิตอนเช้ามืดจะนั่งได้ดีกว่า เพราะตอนเราหลับ ใจจะอยู่ที่ กลางกายมาประมาณ 6 ชั่วโมง พอตื่นขึ้นมาแล้ววางใจนิ่งๆ ใจจะนิ่งได้ง่าย เพราะใจมันคุ้นที่กลางกายมาหลายชั่วโมงขณะนอนหลับ
ถ้านั่งสมาธิตอนกลางคืน เมื่อนั่งแล้ว ใจมักจะฟุ้งได้ง่าย เพราะใจคิดแก้ปัญหามาตลอดทั้งวัน คุ้นกับการคิดมาทั้งวัน ใจจึงไม่ค่อยยอมหยุดง่ายๆ คุ้นกับสิ่งใดก็จะไปคิดกับสิ่งนั้นก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า กลางคืนจะบรรลุธรรมไม่ได้
ตอนเช้ามืดจึงเป็นเวลาของการบรรลุธรรม
หนึ่งวันจะมีตอนเช้ามืดเพียงครั้งเดียว ในชีวิตคนที่มีอายุ 70-80 ปี จะมีเวลาเช้ามืด 25000-29000 ครั้ง
ถ้าเราเอาเวลาเช้ามืดไปให้กับการนอน เวลาของการบรรลุธรรมก็จะเสียไปเรื่อยๆ
วิธีการสั่งสมบุญบารมีเดินตามรอยพระบรมโพธิสัตว์ คือ ต้องตื่นเช้ามืดให้ได้ เพื่อการบรรลุธรรม
โทรศัพท์มือถือนำมาตั้งเป็นนาฬิกาปลุก ขอเวลาสักชั่วโมงครึ่ง ก่อนเวลาที่เราจะออกไปทำงาน แบ่งเป็นเวลานั่งสมาธิ 1 ชั่วโมง ทำสรีระกิจ 30 นาที สมมุติว่าออกจากบ้าน 6.30 น. ให้ตั้งนาฬิกาปลุก 5.00 น. ตั้งแล้วอย่าไว้ไกล้ตัว เดี๋ยวปิดซะก่อนไม่ยอมตื่น เอาวางห่างจากที่นอนสัก 3-5 เมตร ปลุกแล้วลุกขึ้นไปปิด แล้วตั้งใหม่ สัก 5.50 ก่อนออกไปทำสรีระกิจ สัก 10 นาที
เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว ถ้ามีอาการมึนหรือซึม นั่นเป็นอาการที่ร่างกายขาดน้ำวิธีแก้ไขคือ ก่อนนอนหาน้ำร้อนใส่กระบอกแสตนเลสไว้ 1 กระบอกเอาน้ำใส่เหยือกไว้ 3ใน4 ส่วนพอตื่นขึ้นมาก็ให้เอาน้ำร้อนในกระบอกแสตนเลสเทใส่ในเหยือกแล้วน้ำก็จะกลายเป็นน้ำอุ่นพอดี ดื่มประมาณ 15-20 อึก เมื่อน้ำอุ่นเข้าไปในร่างกาย จะไปทดแทนความชื้นที่เสียไปขณะที่เรานอน ทำให้หายมึนหายซึม
ถ้าต้องการสร้างนิสัยดีๆ ให้เตรียมปัจจัยไว้ทำบุญ โดยเมื่อเงินเดือนออก เราก็แบ่งไว้เลยว่า จะทำบุญกี่เปอร์เซ็น จะ 5 % 10 % ก็แล้วแต่ จะแลกเป็นเหรียญ หรือเป็นแบ้งค์ก็ได้ เอาไว้ใส่ในธนาคารบุญ (ออมสิน) ของเรา เก็บไว้เป็นสมบัติข้ามชาติ เอาปัจจัยนั้นใส่มือ แล้วอธิษฐานจิต หลังจากที่นั่งสมาธิไปจนถึงเวลา ก่อนจะเลิก 10 นาที
จากหนังสือ วงจรชีวิต เรียบเรียงโดย
พระครู ธรรมธรไพบูลย์ ธมมวิปุโล
#2
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 05:06 PM
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
#3
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 06:00 PM
อนุโมทนาบุญค่ะ ต้องไปหามาอ่านบ้างซะแล้ว อาทิตย์ที่ผ่านมาก็วุ่นซะจนลืมไปเลย
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#4
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 07:43 PM
"วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่"
เร่งทำความเพียรกันเถอะโยม แล้วเราจะได้จากโลกนี้ไปอย่างผู้มีชัยชนะกันทุกๆคน
#5
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 08:01 PM
จับต้นชนปลายไม่ได้เลยต้องออกจากสมาธิ แล้วก็มาคิดว่า สามีเขาออกจากบ้านทำงานตอนตี 4.30 นาที ก็เลยลุกก่อนเขามานั่งสมาธิ คือตี 3
กว่าๆ (ในเวลาต่างประเทศนะค่ะ เวลาเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง ค่ะ ) บ้านเรา ก็คงตี 1กว่าค่ะ รู้สึกว่านั่งช่วงเช้ามืดไกล้สว่าง จะนั่งสว่าง
มาก......ไม่เหมือนกับเวลาอื่นเลย เรียกว่าพอหลับตาเราก็จะเห็นแสงสว่าง ขึ้นมาแบบแสงไฟดีออน เลยที่ค่อย....สว่างขึ้นมาเรื่อย.....แล้วก็สว่าง
มาก....แล้วก็จะผุดขยายในขยายขึ้น เรื่อย....แรก...ไม่ค่อยเข้าเท่าไร แต่ก็ทำมาตลอดจน ถึงทุก....วันนี้ค่ะ มาตอนนี้ก็ยิ่งเข้าใจ แล้วค่ะ เพราะจะนั่ง
สบาย......มาก.....ค่ะ พอมาอ่านเจอในกระทู้อีกก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น ค่ะ ขอขอบพระคุณ คุณ.สิริปโภ อีกครั้ง ค่ะ ที่ให้ธรรรมะใส.....ในครั้งนี้ พร้อม
ขออนุโมทนาบุญ ด้วยนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 08:32 PM
และพระอาจารย์ไพบูลย์ก็อธิบายไว้ได้อย่างดีเช่นเคย เป็นเรื่องจริงที่ออกมาจากประสบการณ์ของท่านเองและหลายๆท่าน

ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#8
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 09:26 PM
อ้าว สงสัยมา ผิดงาน นี่ไม่ใช่งานเชียร์กีฬานี่นา หุหุ
เอาเป็นว่า อนุโมทนาบุญครับ
#9
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 09:48 PM
ขอลอง ...
ขออนุโมทนาบุญค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 04 October 2010 - 10:37 PM
#11
โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 01:09 AM
#12
โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 10:30 AM
#13
โพสต์เมื่อ 05 October 2010 - 12:21 PM
สงสัยต้องลองนั่งตอนเช้าดูบ้าง เผื่อจะสว่างจ้าพร้อมดวงอาทิตย์
ขอบคุณนะคะ