
ผิดศีลข้อ3ไหม
เริ่มโดย tudtu, Oct 08 2010 11:18 AM
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 11:18 AM
หญิงมีสามีแล้วถูกล่วงละเมิดขณะหลับ แต่มารู้เรื่องเมื่อหลายวันต่อมา แต่ก็ไม่ได้ขุ่นเคืองแต่รู้สึกยินดี หญิงผู้นี้จะผิดศีลข้อ 3ไหม
เป็นนักสู้ที่ไร้นาม เหมือนดังน้าที่ไร้ชื่อ
#2
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 11:55 AM
ศีลพร่อง
#3
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 01:07 PM
ถ้าแล้วไปแล้ว ก็คงไม่ผิด หรอก คงเป็นกรรมเก่า
ถ้าหล่อน ชอบ ใจมันคงเริ่มหมอง บังคับให้ต้องผิดศีลข้อ3เต็มๆ เข้าสักวัน แบบมีชู้เป็นตัวเป็นตนไปซะเลย
ถ้าหล่อน ชอบ ใจมันคงเริ่มหมอง บังคับให้ต้องผิดศีลข้อ3เต็มๆ เข้าสักวัน แบบมีชู้เป็นตัวเป็นตนไปซะเลย
#4
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 03:10 PM
..ถ้าจิตยินดี ผิดศีลแน่นอนครับ แม้จะสมยอมหรือแกล้งไม่ยอมล้วนผิดทั้งสิ้น เว้นแต่จะขัดขืนด้วยจิตที่ไม่ยินยอมจริงๆ (เน้นว่าจริงๆ) เหมือนพระภิกษุณีในสมัยพุทธกาล
..ล่วงละเมิดในที่นี้ต้องหมายถึงมีอะไรกันหรือจ่อ หุหุ พอเข้าใจนะ เว้นจากนี้ถือว่าพร่อง หรือ ศีลทะลุ
..ล่วงละเมิดในที่นี้ต้องหมายถึงมีอะไรกันหรือจ่อ หุหุ พอเข้าใจนะ เว้นจากนี้ถือว่าพร่อง หรือ ศีลทะลุ
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....
#5
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 04:12 PM
เหมือนคำถามในการบ้านอภิธรรมศึกษาเลย............
"หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง"
#6
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 04:47 PM
เมื่อตื่นขึ้นมา ทันใดนั้น จิตแรกที่รับรู้ว่ามีการข่มขืนสำเร็จ....แล้วยินดี จะผิดศีลทันที
แต่หากจิตแรก ตกใจ เดือดร้อนใจ หรือเฉยๆ......ไม่ยินดีเลย จะไม่ผิดศีลครับ
.....................
หลังจากจิตแรกนั้น หลังจากช่วงเวลาแรกที่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ผ่านไปแล้ว.....ไม่ยินดีไปแล้ว
แต่กลับยินดีภายหลังต่อมา ก็เป็นเพียงแค่ใจเศร้าหมองในราคะหรือที่เรียว่า กามราคะครรับ ไม่ผิดศีล
แต่นึกถึงบ่อยๆก็ไม่ดี จะเป็นการสั่งสมบาป อาจจะนำไปสู่ทุคติได้
...................
ตอบตามแนว พระวินัยปิฎก เรื่องภิกษุและภิกษุณีถูกข่มขืนขณะนอนหลับ และตอบตามแนวพระอภิรรมปิฎก
แต่หากจิตแรก ตกใจ เดือดร้อนใจ หรือเฉยๆ......ไม่ยินดีเลย จะไม่ผิดศีลครับ
.....................
หลังจากจิตแรกนั้น หลังจากช่วงเวลาแรกที่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ผ่านไปแล้ว.....ไม่ยินดีไปแล้ว
แต่กลับยินดีภายหลังต่อมา ก็เป็นเพียงแค่ใจเศร้าหมองในราคะหรือที่เรียว่า กามราคะครรับ ไม่ผิดศีล
แต่นึกถึงบ่อยๆก็ไม่ดี จะเป็นการสั่งสมบาป อาจจะนำไปสู่ทุคติได้
...................
ตอบตามแนว พระวินัยปิฎก เรื่องภิกษุและภิกษุณีถูกข่มขืนขณะนอนหลับ และตอบตามแนวพระอภิรรมปิฎก

ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#7
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 07:13 PM
อนุโมทนาบุญกับคำถามคำตอบด้วยครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ .....
ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน .....
ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ .....
อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 07:57 PM
มีด้วยรึ แปลกดี
#9
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 08:43 PM
เจริญพร นรอ.ธาตุล้วนธรรมล้วน
ตอบได้ดีมาก สาธุ...
ตอบได้ดีมาก สาธุ...
#10
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 11:21 PM
ขอยกพระวินัยของพระมาเทียบนะครับ
ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า "...ในขณะที่เข้าไป หยุดอยู่ ถอนออก ภิกษุมีความรู้สึกยินดีแม้ในขณะใดขณะหนึ่ง
ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิก(กรณีเสพเมถุนกับสีกา)"
เทียบกรณีนี้ หากมีความยินดีแม้ในขณะหนึ่งก็อาจถือได้ว่าศีลขาดครับ
ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า "...ในขณะที่เข้าไป หยุดอยู่ ถอนออก ภิกษุมีความรู้สึกยินดีแม้ในขณะใดขณะหนึ่ง
ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิก(กรณีเสพเมถุนกับสีกา)"
เทียบกรณีนี้ หากมีความยินดีแม้ในขณะหนึ่งก็อาจถือได้ว่าศีลขาดครับ
#11
โพสต์เมื่อ 09 October 2010 - 12:23 AM
QUOTE
ขอยกพระวินัยของพระมาเทียบนะครับ
ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า "...ในขณะที่เข้าไป หยุดอยู่ ถอนออก ภิกษุมีความรู้สึกยินดีแม้ในขณะใดขณะหนึ่ง
ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิก(กรณีเสพเมถุนกับสีกา)"
เทียบกรณีนี้ หากมีความยินดีแม้ในขณะหนึ่งก็อาจถือได้ว่าศีลขาดครับ
ในพระไตรปิฏกใช้คำว่า "...ในขณะที่เข้าไป หยุดอยู่ ถอนออก ภิกษุมีความรู้สึกยินดีแม้ในขณะใดขณะหนึ่ง
ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิก(กรณีเสพเมถุนกับสีกา)"
เทียบกรณีนี้ หากมีความยินดีแม้ในขณะหนึ่งก็อาจถือได้ว่าศีลขาดครับ
สาธุครับ ...ถ้าหากมีสติยินดีขึ้นมาขณะนั้นก็ผิดศีลทันทีครับ
แต่กรณีลักหลับ....คือมีพระวินัยปิฎกอยู่ตอนนึง ในปาราชิกกันฑ์ เกี่ยวกับการถูกข่มขืนลักหลับตอนนั้นเขาไม่รู้ตัวกันเลยครับ ท่านว่าไว้ว่า
......พระภิกษุถูกข่มขืนขณะหลับ(ลักหลับ)ถ้าหากตื่นขึ้นมาแล้วให้ถามว่าท่านยินดีไหม ถ้ายินดีให้ปรับปาราชิก.....
ประมาณนี้นะครับ ผมไม่ขยันหา ใครขยันหาเอามาลงด้วย สาธุด้วยนะครับ
.......
แต่กรณีแบบนี้ขึ้นอยู่ที่จิตเจตสิกแรกนะครับ ว่ายินดีหรือไม่ แล้วก็ตัดสินกันตรงขณะจิตนั้น จบไปเลยครับ
หลังจากนั้นต่อให้เกิดยินดีขึ้นมา ก็ไม่นับว่าเป็นอาบัติแล้ว เทียบกับการผิดศีลก็เช่นกันครับ

ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#12
โพสต์เมื่อ 05 November 2010 - 01:59 PM
เฮ้อเวรกำเวรกำ
