มีเรื่องอยากมาระบายค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:18 PM
#2
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:45 PM
เช่น คุณแม่บอกให้เอาเงินไปช่วยหมู่ญาติดีกว่า นั่นก็ เป็นบุญอย่างหนึ่งครับ เรียกว่า สงเคราะห์ญาติ เป็นบุญครับ ทำไปเถอะ แล้วจะดี
เพียงแต่การทำบุญก็เหมือนการทานอาหารนั่นแหละครับ ต้องทานให้ครบ 5 หมู่ ทานอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่อย่างเดียวก็จะเป็นผลเสีย คือ เป็นโรคขาดสารอาหารนั่นเอง
เช่นเดียวกัน หากจะทำบุญก็ต้องสงเคราะห์ญาติด้วย สงเคราะห์โลกด้วย และสงเคราะห์พระศาสนาด้วย
หากเอาแต่สงเคราะห์พระศาสนาอย่างเดียว ไม่สงคราะห์ญาติเลย ได้บุญนั้นได้บุญจริง แต่อาจถูกญาติๆ รุมประนามว่า ไม่เห็นเคยช่วยเหลือญาติเลย เป็นต้น
ลองสิครับ ลองทำดีกับแม่ดู เพราะสิ่งที่ท่านพูดก็มีสิ่งที่ถูกอยู่ ไม่ได้ผิดไปเสียทั้งหมด ดังนิทานจีนเรื่องหนึ่ง
ว่า มีลูกสะใส้คนหนึ่ง พอแต่งงานเข้าไปในบ้านแม่ผัว เจอแม่ผัวที่จู้จี้ขี้บ่น ลูกสะใภ้ก็หงุดหงิด ทีนี้พอหงุดหงิดมากๆ เข้า ก็คิดจัดการแม่ผัวโดย
ไปหาหมอตี๋ที่สนิทกัน เล่าความคับแค้นให้ฟัง แล้วให้หมอตี๋ช่วย
หมอตี๋คิดอยู่ชั่วครู่จึงช่วย โดยส่งยาผงให้ซองหนึ่ง พรางบอกว่า "ยาซองนี้คือ ยาพิษร้ายแรง ให้นำยาซองนี้ไปละลายน้ำ แล้วนำไปให้แม่ผัวดื่มวันละนิด ทุกๆ วัน หมดซองเมื่อไหร่ ยาจะออกฤทธิ์ จะไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย เพราะตัวยาออกฤทธิ์วันละนิดเท่านั้น จากนี้ไป ต้องอย่าให้ใครสังเกตุเรื่องนี้ออกได้ โดยเธอจะต้องแกล้งทำดีกับแม่ผัว เขาว่าอะไรมา ก็เออๆ ออๆ เอาอกเอาใจเขาเต็มที่ รับรองไม่นานเกินรอ ได้ผลแน่"
หญิงสาวได้ฟังก็มีจิตยินดียิ่งนัก แล้วก็ไปดำเนินการตามแผน ใส่ยาพิษในซองไปทีละนิด พร้อมๆ กับทำดีกับแม่ผัวเต็มที่ ฝ่ายแม่ผัวเห็นลูกสะใภ้ทำดีเอาอกเอาใจ พูดจาดีๆ ด้วย จากที่จู้จี้ขี้บ่น ก็ค่อยๆ เกรงอกเกรงใจ จากที่ไม่ค่อยชอบหน้า ก็ค่อยๆ รักลูกสะใภ้ขึ้นมา จนในที่สุด รักเหมือนลูกตัวเอง ซึ่งลูกสะใภ้ก็สังเกตุออก
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือน แต่ยาก็ยังไม่หมดซอง ลูกสะใภ้มาหาหมอตี้ด้วยสิหน้าร้อนรนยิ่ง พรางบอกหมอว่า "พี่หมอ ทำไงดี ฉันไม่อยากให้แม่ผัวตายแล้ว เพราะตอนนี้ท่านดีกับฉันมากๆ พี่หมอมียาอะไรแก้พิษได้บ้างไหม"
หมอตี๋ยิ้มอย่างอารมณ์ดี พลางบอกว่า "ไม่จำเป็นต้องใช้ยาถอนพิษหรอก เพราะยาที่หมอให้ไปนั้นเป็นแค่วิตามินธรรมดาๆ ตอนนี้ ยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด ก็คือ ความขัดใจ ความโกรธเคืองผู้อื่น ได้ถูกขจัดให้หมดสิ้นไปแล้ว ด้วยความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น ที่มีในใจเธอขึ้นมาแทน เมื่อเป็นเช่นนี้ ยาถอนพิษใดๆ ก็ไร้ความจำเป็น
นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า เมตตาธรรม คิดต่อกันด้วยจิตเมตตาปรารถนา คือ ยาวิเศษแก้ปัญหาได้ทุกๆ โรคครับ
#3
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 05:04 PM
เชื่อว่า นรอ.usr37265 คงได้รับข้อคิดทีดีจากคำตอบนี้นำไปประยุกต์ใช้นะ
หลวงพี่ขอเสริมอีกนิดว่า
นอกจากปฏิบัติตามที่ นรอ.หัดฝัน แนะไว้ ก็ให้อธิษฐานจิตทุกครั้งที่ทำบุญ รักษาศีล นั่งสมาธิ ว่า ขอให้คุณแม่ท่านได้บุญกับเราด้วย
ทำควบคู่อย่างนี้กันไปเรื่อยๆ แล้วสักวันหนึ่งบุญจะได้ช่องไปดึงดูดบุญในตัวของท่านที่เคยทำไว้ในอดีต มารวมกันส่งผลให้ท่านเป็นสัมมาทิฏฐิขึ้น
แล้วพยายามพาท่านไปพบกับกัลยาณมิตรในวัยเดียวกัน (อาจเป็นผู้นำบุญอาวุโสท่านใดท่านหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในชีวิตที่ท่านยอมรับได้ง่าย) มาแนะนำเรื่องการทำสมาธิเพื่อสุขภาพ และพาไปปล่อยสัตว์ปล่อยปลาเพื่อสุขภาพ ตัดวิบากกรรม พาไปเลี้ยงเด็กกำพร้า ฯลฯ ซึ่งท่านตรองตามได้ง่ายๆไปก่อน
จากนั้นก็นำสื่อธรรมะที่ฟังง่ายสบายๆ อาจเป็นเพลงธรรมะ ละครฟื้นฟูศีลธรรม(อันนี้ดีมาก ใช้ได้ผลมาหลายรายแล้ว) ฯลฯ ไปเปิดชมหรือฟังที่บ้าน ให้ผ่่านๆตา ผ่านๆหู ท่านบ่อยๆ และ(แกล้ง)วางไว้ใกล้ๆโทรทัศน์เครืองเล่นvdo เดี๋ยวตอนเราไม่อยู่ ท่านอาจแอบมาเปิดดูเองเลยนะ
ขอให้อดทน ประคับประคองพระอรหันต์ในบ้าน ให้มาสู่เส้นทางธรรม ได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์เทอญ
ป.ล. ที่บ้านหลวงพี่ก็ครอบครัวคนจีนเหมือนกัน ยังต้องใช้เวลาเป็น 10 ปีเลยนะ กว่าจะให้โยมแม่เข้าใจเรื่องการทำบุญแบบถูกหลักวิชชาน่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 05:06 PM
Sadhu.gif 22.04K
20 ดาวน์โหลด
Sadhu.gif 22.04K
20 ดาวน์โหลดติ้อทำความดีกับบุพการี มารดาให้ยิ่งๆขึ้นไป ตามนิทานที่พี่ หัดฝัน นำมาฝาก แล้วอธิษฐานตามที่หลวงพี่ แนะนำทุกวัน นะครับ
มงคลที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=9089
#5
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 05:07 PM
จะเอาไว้ปรับใช้ในชีวิตของข้าพเจ้าด้วย
#6
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 05:47 PM
#7
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 06:10 PM
ท่านก็จะได้บุญแรงขึ้นด้วยวิธีการแบบนี้ การจะให้ท่านเข้าใจธรรมะและการสร้างบุญได้ ในตัวท่านก็ต้องมีบุญด้วย
ไม่ได้เล่าว่าที่บ้านติด DMC หรือไม่ ถ้ายังไม่ได้ติด ก็ให้ติด DMC แล้วก็เปิดๆ ไว้ ให้ผ่านหูผ่านตา ท่าน
ไม่นานหรอก จากแค่ผ่านหูผ่านตา ต่อมาก็จะกลายเป็น เข้าหูเข้าตา ไปเอง
และยิ่งนานๆ ไป ก็อาจจะกลายเป็น เข้าอกเข้าใจ
และเวลาที่นั่งสมาธินิ่งๆ ก็ให้อธิษฐานจิตเอา
และอย่าลืมอธิษฐานเผื่อชาติหน้าด้วยนะคะ ว่า "ให้ได้เกิดในครอบครัวธรรมกาย ครอบครัวสัมมาทิฐิ"
อย่าท้อเลยค่ะ พ่อแม่ดิฉันก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ก็ต้องพยายามกันต่อไป
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:58 PM
จากตัวอย่างที่คุณหัดฝันยกตัวอย่างมาดีมาก ๆ สาธุค่ะอนุโมทนาด้วยจ้า
ส่วนเจ้าของกระทู้นั้นในที่สุด "คุณก็ชะนะ-AT LAST YOU WIN" ด้วยค่ะ ขอเป็นกำลังใจด้วยคนค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 02:16 PM
ลองฟังท่านให้ดี..ด้วยความเคารพ..ด้วยความตั้งใจ..แล้วทำตามที่ท่านบอก..(ในเรื่องที่ไม่เสียหายนะ)..ให้ท่านเห็นว่าโยมเข้าวัดแล้วมีคุณธรรมมากขึ้น...มีความเคารพพ่อแม่มากขึ้น...กราบเท้าท่านทุกวันก่อนนอน...หลวงพ่อสอนพวกเราอย่างนี้มิใช่รึ...ไม่นานหรอกเดี๋ยวสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้น..
โยมทำได้แน่นอนจ้ะ...หลวงพี่ขออนุโมทนาบุญล่วงหน้าไว้เลยนะจ๊ะ...
#10
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 02:46 PM
#11
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 12:28 AM
..การที่ใส่บาตรกับบิดามารดา ภาพเหล่านี้สูญหายไปนานแล้ว การจะให้ใครสนใจพระพุทธศาสนาดูเป็นเรื่องตลก แต่การใส่บาตรนั้นยังเป็นที่ยอมรับ และกระทำง่ายอยู่ มีอย่างเดียวที่ยาก คือ ทำให้ตื่นเช้า หุหุ ลองอ้อนๆดู และเราก็ต้องตื่นให้ได้ด้วย ให้คิดว่า เราจะเผยแผ่พระศาสนา เราต้องเปลี่ยนตัวเราเอง เมื่อเราตื่นมาใส่บาตรบ่อยๆ หรือทุกวัน (ต้องอดทนทำเอง) แม้จะใส่คนเดียว แต่ต่อไปก็จะมีมาใส่ตามเราเองนั่นแหละ จากนั้นเมื่อเขามีบุญมากพอ และบุญได้ช่อง เขาก็จะเริ่มฟังเหตุผลของลูกภายหลังต่อมานั่นเอง ..แน่นอนทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับคุณ เพียงคนเดียว...












