
มีปัญหาอยากถามและสงสัยมานานแล้วค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 04:13 PM
1.ทวีบแอตแลนตีสและทวีบมูมีจริงหรือไม่ และมีเทคโนโลยีที่ล้ำกว่าเราหรือเปล่าคะ
2.ยูเอฟโอมีจริงหรือไม่ และดาวอื่นเคยมาเยี่ยมโลกเราจริงๆตามที่เค้ากล่าวไว้หรือเปล่า
3.ในโลกนี้ยังมีสัตว์ลึกลับ พวกพญาปลา หรือปลาตัวใหญ่ๆ ที่คนเราค้นพบไม่เจอหรือเปล่าคะ
#2
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 04:21 PM
#3
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 05:58 PM
ขอสันนิษฐาน คิดเล่นๆ ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะ
1. น่าจะเป็นทวีปที่พระเจ้าจักรพรรดิพาผู้คนจากโลกของตัวเองมาโลกนี้กระมั่ง แต่บังเอิญพระเจ้าจักรพรรดิสิ้นพระชนม์
ก็คงตั้งฐิ่นฐาน และคง ไม่ได้มีวิทยาศาสตร์อะไรที่ไอเทศหรอกจ้า น่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ทางใจมากกว่า
2 ก็ที่เขาเห็นเป็นแสงรูปเหมือน ยูเอฟโอ มันน่าจะเป็น จักรแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ได้นะ
3 มีสิ แต่ยังไม่เจอไง เพราะทะเลน้ำลึก มักจะมีสัตว์แปลกๆ
คอยดูต่อไป มนุษย์มีศีลมีธรรม มากขึ้น ทีนี้เราอาจจะเห็นกายละเอียดของ ยักษ์ ของ พญานาค บ้างก็ได้นะ และ อื่นๆ
ทีนี้ละสนุกทีเดียว
ไว้รอ ดร.dmc มาตอบละกัน *-*
บุญรักษาทุกๆท่าน
#4
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 06:27 PM
แต่คลิปนี้แบบว่้าชัดมากเลยนะคะ ถ้าคิดตามอย่างที่ Most-Of-Dhamma ตอบในข้อสอง ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 11:35 PM
http://main.dou.us/v...ent.php?s_id=17
ทวีบแอตแลนตีสและทวีบมูมีจริงหรือไม่ ...ไม่ทราบค่ะ ทราบแต่ว่ามีทวีปอื่นและมีมนุษย์อาศัยอยู่ และมีจักรวาลอื่น ศึกษาได้เพิ่มเติมในลิงค์ที่ให้ไว้ด้านบน รวมไปถึงอมนุษย์ต่างๆ(อมนุษย์ คือสัตว์ต่างๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์) เล่าแล้วคงยาวค่ะ และคงตงตกหล่นด้วย
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#6
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 04:46 AM
#7
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 12:44 PM
ผมขอตอบแทนด้วยความเห้นส่วนตัวครับ
เรื่องแบบนี้ ไม่จัดว่าฟุ้งซ่านเสียเวลาครับ จัดเป็นปกิณกะธรรมได้ หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ก็เล่าเรื่องเมืองลับแลเมื่อไม่นานมานี้ พระอาจารย์หลายรูปก็เล่าเรื่อง เบอร์มิวด้า พญานาค มนุษย์ต่างด่าว อยู่บ่อยๆ
ถึงเรื่องเหล่านี้จะไม่ได้ช่วยให้บรรลุธรรมก็ตาม แต่เรื่องเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่คนเรามีสิทธิที่จะสงสัยไคร่รู้ และมีสิทธิที่จะตอบได้ตามเท่าที่รู้
และเรื่องปกิณกะต่างๆ จะเป็นตัวช่วยเพิ่มเรทติ้งให้เว็บDMC อย่างมากทีเดียวครับ
#8
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 02:04 PM
#9
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 02:32 PM
และเรื่องปกิณกะต่างๆ จะเป็นตัวช่วยเพิ่มเรทติ้งให้เว็บDMC อย่างมากทีเดียวครับ
ไม่ควรใช้เวลาให้สูญเปล่าไปกับตำนานนอกตัวเหล่านี้ นำเวลามาไขปริศนาความลึกลับภายในตัวของเรา จะเป็นการดีนะ แล้วคำตอบของเรื่องที่ถามจะปรากฎได้ถ้าเราฝึกตนได้ถึงพร้อม...
#10
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 08:51 PM
ที่แจ้งไปว่า กระทู้แบบนี้จะทำให้เกิดความฟุ้งซ่าน ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมากล่าวถึงในที่นี้ก็เพราะด้วยเหตุผลดังนี้
คำตอบของคำถามเหล่านี้ ยากที่จะหาสิ่งยืนยันได้ทางวัตถุที่สามารถศึกษาหาที่มาที่ไปได้มายืนยันคำตอบ
ไม่ว่าคำตอบจะออกมาใช่ หรือออกมาไม่ใช่ ก็กลับจะสร้างคำถาม ความเคลือบแคลงสงสัยที่มีต่อมาอีกมายมาย
คนที่เชื่อโดยขาดการไตร่ตรอง ก็จะเกิดความเชื่อถืองมงาย เพราะเข้าใจว่า เป็นของเวปนี้เชื่อถือได้ ผู้ตอบเป็นบุคคลในพระพุทธศาสนาที่น่าเชื่อถือได้ เรื่องนี้สรุปแล้วโดยผู้มีความรู้สามารถเอาไปเผยแพร่ต่อได้
คนที่ไม่เชื่อ ถ้าไม่มีอคติก็จะ คิดแค่ว่า พวกเราเพ้อเจ้อกันไปนอกลู่นอกทาง
ถ้าเจอคนที่อคติ ก็จะยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ อาจจะถึงขั้นกล่าวหาว่าเรามีการชี้นำในเรื่องที่ไม่เหมาะสม(พยายามใช้คำพูดที่เบาที่สุดแล้ว) แค่เรื่องการเผยแพร๋ธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแบบของเรา ก็เป็นที่ถกกันมากพออยู่แล้วในหมู่คนที่ไม่เข้าใจ
เรื่องทุกเรื่องมีประโยชน์ในตัวของมันเอง แต่ทุกเรื่องก็จะมีความควร ไม่ควร ความเหมาะแก่กาล ไม่เหมาะแก่กาล รวมอยู่ด้วยทั้งนั้น
ถ้าทางแอดมิน และโมดูเรเตอร์เห็นว่าเรื่องแบบนี้ "สมควร" และ "เหมาะสม" ที่จะมาพูดคุยกันเป็นสาธารณะแบบนี้ ตัวผมเองคงต้องทบทวนความเข้าใจที่มีกับเวปบอร์ดของที่นี่ใหม่
ผมอาจจะระแวงมากเกินไป คิดมากเกินไป แต่ทั้งนี้ก็เพื่อพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการป้องกันภัยที่จะมีมาในบอร์ดแห่งนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามการตัดสินใจของแอดมินกับโมดูเรเตอร์ ขอให้คำมั่นว่าจะไม่แทรกแทรงใดๆอีกแม้แต่นิดเดียว
ถ้าการกระทำใดที่ไม่เหมาะสมก็กราบขออภัยและกราบขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้
อนุโมทนาบุญ และ สวัสดี
ปล. ใครมีข้อตำหนิใดๆ กรุณา ส่งเป็นข้อความส่วนตัวเข้ามานะครับ เพราะจะไม่เข้ามาอ่านอีกแล้ว
#11
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 11:43 PM
#12
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 12:07 AM
แต่การได้คำตอบในหลายๆ เรื่องที่สงสัย ก็จะช่วยกำจัด วิจิกิจฉา ได้
วิธีกำจัด วิจิกิจฉา ก็คือการไปค้นหาคำตอบให้กับคำถามที่สงสัยข้องใจ
เมื่อไม่มี วิจิกิจฉา ก็จะทำให้ใจสงบขึ้น -->ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงธรรม
นอกจากนี้ คำตอบเหล่านี้ ยังสามารถสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นได้ด้วย
คนใหม่ๆ ช่วงแรกๆ ช่วง 1-3 ปีแรก ก็จะเป็นแบบนี้ คือมีความสงสัย ข้องใจมาก
สำหรับดิฉัน เป็นเจ้าหนูจำมัย สงสัยไปซะทุกเรื่องอยู่ประมาณ 2 ปี หลังจากตะลุยอ่าน หาความรู้ ได้เจอทั้งที่ควรรู้ และไม่ควรรู้(คือรู้แล้วเกิดอกุศลจิต เพราะธาตุธรรมยังอ่อน) หลังจากนั้นก็สงบขึ้น(ทั้งที่ก็มีเรื่องที่ยังไม่รู้อีกมาก แต่ก็สามารถปล่อยวางความสงสัยได้ รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี บางครั้งรู้ไปก็หนักสมอง แถมเสียเวลาอีกตะหาก)
ด้วยความเคารพนะคะ
ท่านใด(ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ)...ที่ช่วงนี้ หงุดหงิด ขัดใจ บ่อยๆ ก็ให้ "รู้ตัว" และ "เท่าทัน" นะคะ อย่าได้ตกลงในบ่วง อย่าให้ใจหมอง ...เดี๋ยวบุญหล่นหมด ไม่รู้ด้วยนะเออ...
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#13
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 11:42 PM
ไฟล์แนบ
#14
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 08:36 AM
พุทธประวัติ กฏแห่งกรรม ชาดก เรื่องแปลก ลึกลับ ภูติผีปิศาจ เทวดานางฟ้า นาค ยักษ์ คนธรรพ์ ลับแล แก้วกายสิทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์ อภิญญา ไสยเวท ดำขาว ฯลฯ เรื่องนี้นับเป็นปกิณกะที่ชาวDMC ควรจะเรียนรู้เอาไว้บ้างก็ดี เพื่อติดแข้งติดขาเอาไว้เล่าหรือสอนให้ผู้ที่ไม่รู้ได้ฟังกันครับ
ถ้าจะให้เว็บ DMC เป็นเว็บธรรมะล้วนๆอย่างเดียวคุยเรื่องอื่นไม่ได้ เดี๋ยวคนจะเบื่อเอาครับ บอกตรงๆ
#15
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 05:07 PM