ถ้าอย่างนั้นเราทำบุญทุกวันก็ได้ข้าวทิพย์ทุกวัน ทำไมเราไม่อิ่มละ
แต่เทวดามาถวายข้าวทิพย์ให้พระสงฆ์ ทำไมพระอิ่มได้แหละ
ข้าวทิพย์มีโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน อะไรเหรอ ถึงทำให้ร่างกายอิ่มได้
แล้วเทวดา มีร่างละเอียดขนาดนั้น ทำไมตาหยาบๆของมนุษย์เห็นได้แหละ
แล้วทำไมเทวดาไม่ลงมาถวายข้าวทิพย์ ให้พระสงฆ์ทุกวันละ วัดใหนไม่มีข้าวฉัน เทวดาชั้นจตุ ซึ้งไกล้โลก น่าจะมาทำบุญทุกวัน แสงสว่างในตัวจะได้สว่างเพิ่มๆขึ้น

ข้าวทิพย์ที่เทวดาถวาย เรากินแล้วทำไมอิ่มได้หละ
เริ่มโดย usr34071, Nov 01 2010 07:51 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 01 November 2010 - 07:51 PM
#2
โพสต์เมื่อ 01 November 2010 - 08:27 PM
.... สิ่งอันเป็นทิพย์ไม่ได้เกิดขึ้นกับใครก็ได้ แต่ต้องเป็นผู้มีบุญญาบารมี และทิพย์เหล่านั้นยังแบ่งความหยาบ และละเอียดไปตามกำลังของบุญผู้รับนั้นด้วย บุญมากก็รับแบบละเอียดมาก อิ่มมาก อร่อยมาก กำลังมาก และอยู่ได้ยาวนาน ฯลฯ
....อาหารทิพย์กับกายมนุษย์หยาบ ก็จะได้ต่อเมื่อมีบุญมากจนสามารถรับอาหารแห่งบารมีนั้นๆได้ ด้วยธาตุธรรมที่ต่างกัน หากความละเอียดไม่เท่ากันแล้ว ก็หมดสิทธิ์ แม้ผู้ทื่จะมาถวายก็จะไม่มี นี่ก็เป็นไปตามศีล ธรรม และความละเอียดเป็นสิ่งประกอบหลายๆอย่างนั่นเอง
....เท่าที่ทราบกายมนุษย์นั้นรับอาหารทิพย์ได้ก็คงน่าจะไม่เกินชั้นจาตุฯ เพราะใกล้โลกมนุษย์มากที่สุดและละเอียดพอจะรับกันได้ ชั้นสูงๆกว่านี้ คงต้องให้ผู้ครองกายมนุษย์นั้นสำเร็จในความละเอียดที่สูงๆขึ้นไป ซึ่งถึงชั้นไหนนั้นอันนี้กะบ่ฮู้คือกั๋น
....อาหารทิพย์กับกายมนุษย์หยาบ ก็จะได้ต่อเมื่อมีบุญมากจนสามารถรับอาหารแห่งบารมีนั้นๆได้ ด้วยธาตุธรรมที่ต่างกัน หากความละเอียดไม่เท่ากันแล้ว ก็หมดสิทธิ์ แม้ผู้ทื่จะมาถวายก็จะไม่มี นี่ก็เป็นไปตามศีล ธรรม และความละเอียดเป็นสิ่งประกอบหลายๆอย่างนั่นเอง
....เท่าที่ทราบกายมนุษย์นั้นรับอาหารทิพย์ได้ก็คงน่าจะไม่เกินชั้นจาตุฯ เพราะใกล้โลกมนุษย์มากที่สุดและละเอียดพอจะรับกันได้ ชั้นสูงๆกว่านี้ คงต้องให้ผู้ครองกายมนุษย์นั้นสำเร็จในความละเอียดที่สูงๆขึ้นไป ซึ่งถึงชั้นไหนนั้นอันนี้กะบ่ฮู้คือกั๋น
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....
#3
โพสต์เมื่อ 01 November 2010 - 08:32 PM
เทวดากับข้าวทิพย์ ก็คือเทวานุภาพที่ทำให้อิ่มน่ะครับ ผมไม่รู้จะอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร เพราะมันเป็นอจินไตยครับ
ที่ท่านปรากฏให้เห็นได้ก็คงเป็นเพราะเทวานุภาพอีกน่ะแหละ ไม่รู้จะเอาหลักฟิสิกใดๆมาอธิบายเหมือนกัน
ส่วนที่ว่าทำไมไม่ถวายพระทุกวันๆ ก็คงกับเหตุผลเดียวกับที่เวลาคุณมีเงิน ก็ไม่ยอมทำบุญทุกวัน หรือขี้เกียจตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวัน อะไรเทือกนี้น่ะครับ
ที่ท่านปรากฏให้เห็นได้ก็คงเป็นเพราะเทวานุภาพอีกน่ะแหละ ไม่รู้จะเอาหลักฟิสิกใดๆมาอธิบายเหมือนกัน
ส่วนที่ว่าทำไมไม่ถวายพระทุกวันๆ ก็คงกับเหตุผลเดียวกับที่เวลาคุณมีเงิน ก็ไม่ยอมทำบุญทุกวัน หรือขี้เกียจตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวัน อะไรเทือกนี้น่ะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 04 November 2010 - 01:46 AM
ถามเอามันส์รึครับ..
งั้นตอบเอามันส์นะครับ..
ข้าวทิพย์ที่เทวดาถวาย เรากินแล้วทำไมอิ่มได้หละ..ถ้าอย่างนั้นเราทำบุญทุกวันก็ได้ข้าวทิพย์ทุกวัน ทำไมเราไม่อิ่มละแต่เทวดามาถวายข้าวทิพย์ให้พระสงฆ์ ทำไมพระอิ่มได้แหละ
ตอบ..ข้าวทิพย์ที่เทวดาเอามาถวาย เป็นของกึ่งหยาบกึ่งละเอียดคล้ายๆบั้งไฟพญานาค จึงสามารถพอที่จะจับต้องได้ กินก็ิอิ่มได้เช่นกัน
ส่วนที่เราทำบุญทุกวัน เราไม่ได้ข้าวทิพย์ เราได้บุญ ตั้งแต่ผมทำบุญมายังไม่เคยได้ข้าวทิพย์เลย ไม่ได้เกี่ยวกัน ทำบุญไม่ได้หวังจะเอาข้าวทิพย์นะครับ..
บุญเป็นธาตุสำเร็จที่ละเอียด จับต้องไม่ได้ แต่พอจะรู้สึกได้ สามารถเปลี่ยนเเปลงพลังงานบุญเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวทิพย์..
ข้าวทิพย์มีโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน อะไรเหรอ ถึงทำให้ร่างกายอิ่มได้
ตอบ..แม้ไม่เคยกินและไม่เคยเอามาแยกสารอาหาร แต่ก็พอจะนึกออกว่า อะไรที่มันเป็นทิพย์มันก็น่าจะพิเศษ น่าจะไม่ธรรมดา ดังนั้น สิ่งที่ได้จากข้าวทิพย์มันอาจจะได้มากกว่าสารอาหาร หรือแค่ ความอิ่ม อาจจะอร่อยเกินกว่าจะหาอาหารใดๆในโลกนี้เทียบได้ อาจจะกินแค่ปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่อิ่มไปหลายวัน หรืออาจมีแรงกำลังเพิ่มมากขึ้น อะไรประมาณนี้..
แล้วเทวดา มีร่างละเอียดขนาดนั้น ทำไมตาหยาบๆของมนุษย์เห็นได้แหละ
ตอบ..ถ้าจะเห็นเทวดาได้ มีอยู่สองกรณี
คือหนึ่ง เทวดาทำให้เห็น เนื่องด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง
สอง เราเห็นเอง เนื่องจากบังเิอิญอายตนะตรงกันพอดี คล้ายๆกับการเห็นผีนั่นแหละ ซึ่งบางคนก็เห็นบางคนก็ไม่เห็น ไม่ใช่่ว่าจะได้เห็นกันทุกคน
แล้วทำไมเทวดาไม่ลงมาถวายข้าวทิพย์ ให้พระสงฆ์ทุกวันละ วัดใหนไม่มีข้าวฉัน เทวดาชั้นจตุ ซึ้งไกล้โลก น่าจะมาทำบุญทุกวัน แสงสว่างในตัวจะได้สว่างเพิ่มๆขึ้น
ตอบ..เป็นเทวดาก็ใช่ว่าจะทำอะไรในตามอำเภอใจนะครับ ต่างก็ต้องมีหน้าที่ด้วยกันทั้งนั้น และก็ใช่ว่าทุกท่านจะขวนขวายในบุญกันหมดซะเืมื่่อไหร่ บ้างก็อาจจะมัวแต่ชื่นชมทิพยสมบัติของตนเอง บ้างก็อาจจะมัวแต่เีที่ยวเล่นเป็๋นที่เพลิดเพลิน คล้ายๆกับมนุษย์นี่แหละครับ รู้ว่าทำบุญนั้นดี แต่ก็ไม่ค่อยจะทำกัน
เทวดาคือ ภพภูมิแห่งการเสวยผลบุญ ซึ่งมีมากน้อยแตกต่างกันไป อยากจะทำบุญก็ทำได้ยาก ทำแล้วก็ได้ผลบุญน้อย ได้แค่อนุโมทนาบุญ เพราะภพภูมิที่จะทำบุญ ให้ได้ผลบุญเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็คือ มนุษย์ เท่านั้น
ในภพสาม ทั้ง ๓๑ ภูมินี้ ไม่มีกายไหนที่จะสร้างบุญบารมีได้ดี เท่ากับกายมนุษย์อีกแล้ว พวกที่รู้ความเป็นจริงของชีวิต ลงมาเกิดกันก็เพราะการนี้
ถ้าเป็นเทวดาและเอาทิพยสมบัติมาแลกบุญได้ คงไม่ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์กันให้เมื่อยหรอกครับ อยู่บนสวรรค์สบายกว่่ากันตั้งเยอะ
เพราะข้อเสียของมนุษย์คือต้องทำมาหากิน และส่วนมากก็ทำมาหากินซะจนลืมเป้าหมายที่แท้จริง
ก็มีบ้างนะครับ ที่ ภูมมเทวา รุกขเทวา หรือเทวดาพวกอื่่นๆ จะมาใส่บาตรพระสงฆ์องคเจ้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะมาใส่กับพระทุกองค์ เขาจะมาใส่กับองค์ที่มีศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์เท่า้นั้น
และศีลที่บริสุทธิ์บริบูรณ์นี้เอง ที่เป็นเหตุไปดลอกดลใจเทวดาที่อยู่ในละแวกนั้นให้มาใส่บาตร เนื่องจากอาณุภาพของศีลที่บริสุทธิ์นี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ในซอกเขาไหน ก็จะไม่มีวันอดอยาก มันจะมีเหตุให้เป็นไปโดยอัศจรรย์
บ้านมีกฎบ้าน เมื่องมีกฎเมือง ภพสามก็มีกฎแห่งการกระทำ เทวดาก็ย่อมมีกฎของเทวดา ไม่ใช่อยากจะมาทำบุญตักบาตรกับใครก็มาทำได้โดยง่าย
เพราะมันไม่ใช่หน้าที่และวิสัยของเขา
หากมันง่ายเช่นนั้น เทวดาทั้งหลายก็คงจะหอบวิมานของตน มาถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันหมดตั้งแต่ยุคโน้นแล้ว ไม่ต้องรอให้ท่านอนาถบิณทิกเศรษฐี มาสร้างวัดถวายให้เสียเวลา
หวังว่า การตอบเอามันส์แบบคร่าวๆของผม จะพอทำให้เข้าใจอะไรได้บ้างนะครับ..
งั้นตอบเอามันส์นะครับ..
ข้าวทิพย์ที่เทวดาถวาย เรากินแล้วทำไมอิ่มได้หละ..ถ้าอย่างนั้นเราทำบุญทุกวันก็ได้ข้าวทิพย์ทุกวัน ทำไมเราไม่อิ่มละแต่เทวดามาถวายข้าวทิพย์ให้พระสงฆ์ ทำไมพระอิ่มได้แหละ
ตอบ..ข้าวทิพย์ที่เทวดาเอามาถวาย เป็นของกึ่งหยาบกึ่งละเอียดคล้ายๆบั้งไฟพญานาค จึงสามารถพอที่จะจับต้องได้ กินก็ิอิ่มได้เช่นกัน
ส่วนที่เราทำบุญทุกวัน เราไม่ได้ข้าวทิพย์ เราได้บุญ ตั้งแต่ผมทำบุญมายังไม่เคยได้ข้าวทิพย์เลย ไม่ได้เกี่ยวกัน ทำบุญไม่ได้หวังจะเอาข้าวทิพย์นะครับ..
บุญเป็นธาตุสำเร็จที่ละเอียด จับต้องไม่ได้ แต่พอจะรู้สึกได้ สามารถเปลี่ยนเเปลงพลังงานบุญเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นข้าวทิพย์..
ข้าวทิพย์มีโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน อะไรเหรอ ถึงทำให้ร่างกายอิ่มได้
ตอบ..แม้ไม่เคยกินและไม่เคยเอามาแยกสารอาหาร แต่ก็พอจะนึกออกว่า อะไรที่มันเป็นทิพย์มันก็น่าจะพิเศษ น่าจะไม่ธรรมดา ดังนั้น สิ่งที่ได้จากข้าวทิพย์มันอาจจะได้มากกว่าสารอาหาร หรือแค่ ความอิ่ม อาจจะอร่อยเกินกว่าจะหาอาหารใดๆในโลกนี้เทียบได้ อาจจะกินแค่ปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่อิ่มไปหลายวัน หรืออาจมีแรงกำลังเพิ่มมากขึ้น อะไรประมาณนี้..
แล้วเทวดา มีร่างละเอียดขนาดนั้น ทำไมตาหยาบๆของมนุษย์เห็นได้แหละ
ตอบ..ถ้าจะเห็นเทวดาได้ มีอยู่สองกรณี
คือหนึ่ง เทวดาทำให้เห็น เนื่องด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง
สอง เราเห็นเอง เนื่องจากบังเิอิญอายตนะตรงกันพอดี คล้ายๆกับการเห็นผีนั่นแหละ ซึ่งบางคนก็เห็นบางคนก็ไม่เห็น ไม่ใช่่ว่าจะได้เห็นกันทุกคน
แล้วทำไมเทวดาไม่ลงมาถวายข้าวทิพย์ ให้พระสงฆ์ทุกวันละ วัดใหนไม่มีข้าวฉัน เทวดาชั้นจตุ ซึ้งไกล้โลก น่าจะมาทำบุญทุกวัน แสงสว่างในตัวจะได้สว่างเพิ่มๆขึ้น
ตอบ..เป็นเทวดาก็ใช่ว่าจะทำอะไรในตามอำเภอใจนะครับ ต่างก็ต้องมีหน้าที่ด้วยกันทั้งนั้น และก็ใช่ว่าทุกท่านจะขวนขวายในบุญกันหมดซะเืมื่่อไหร่ บ้างก็อาจจะมัวแต่ชื่นชมทิพยสมบัติของตนเอง บ้างก็อาจจะมัวแต่เีที่ยวเล่นเป็๋นที่เพลิดเพลิน คล้ายๆกับมนุษย์นี่แหละครับ รู้ว่าทำบุญนั้นดี แต่ก็ไม่ค่อยจะทำกัน
เทวดาคือ ภพภูมิแห่งการเสวยผลบุญ ซึ่งมีมากน้อยแตกต่างกันไป อยากจะทำบุญก็ทำได้ยาก ทำแล้วก็ได้ผลบุญน้อย ได้แค่อนุโมทนาบุญ เพราะภพภูมิที่จะทำบุญ ให้ได้ผลบุญเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็คือ มนุษย์ เท่านั้น
ในภพสาม ทั้ง ๓๑ ภูมินี้ ไม่มีกายไหนที่จะสร้างบุญบารมีได้ดี เท่ากับกายมนุษย์อีกแล้ว พวกที่รู้ความเป็นจริงของชีวิต ลงมาเกิดกันก็เพราะการนี้
ถ้าเป็นเทวดาและเอาทิพยสมบัติมาแลกบุญได้ คงไม่ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์กันให้เมื่อยหรอกครับ อยู่บนสวรรค์สบายกว่่ากันตั้งเยอะ
เพราะข้อเสียของมนุษย์คือต้องทำมาหากิน และส่วนมากก็ทำมาหากินซะจนลืมเป้าหมายที่แท้จริง
ก็มีบ้างนะครับ ที่ ภูมมเทวา รุกขเทวา หรือเทวดาพวกอื่่นๆ จะมาใส่บาตรพระสงฆ์องคเจ้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะมาใส่กับพระทุกองค์ เขาจะมาใส่กับองค์ที่มีศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์เท่า้นั้น
และศีลที่บริสุทธิ์บริบูรณ์นี้เอง ที่เป็นเหตุไปดลอกดลใจเทวดาที่อยู่ในละแวกนั้นให้มาใส่บาตร เนื่องจากอาณุภาพของศีลที่บริสุทธิ์นี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ในซอกเขาไหน ก็จะไม่มีวันอดอยาก มันจะมีเหตุให้เป็นไปโดยอัศจรรย์
บ้านมีกฎบ้าน เมื่องมีกฎเมือง ภพสามก็มีกฎแห่งการกระทำ เทวดาก็ย่อมมีกฎของเทวดา ไม่ใช่อยากจะมาทำบุญตักบาตรกับใครก็มาทำได้โดยง่าย
เพราะมันไม่ใช่หน้าที่และวิสัยของเขา
หากมันง่ายเช่นนั้น เทวดาทั้งหลายก็คงจะหอบวิมานของตน มาถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันหมดตั้งแต่ยุคโน้นแล้ว ไม่ต้องรอให้ท่านอนาถบิณทิกเศรษฐี มาสร้างวัดถวายให้เสียเวลา
หวังว่า การตอบเอามันส์แบบคร่าวๆของผม จะพอทำให้เข้าใจอะไรได้บ้างนะครับ..
ไฟล์แนบ
#5
โพสต์เมื่อ 04 November 2010 - 02:42 AM
37337 ตอบมันสจริง ๆหายแห้วเลยแต่ก็ได้รู้อีกรสหนึ่ง สาธุคร้า..........
#6
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 17 November 2010 - 05:03 PM
สาธุค่ะ เขียนตอบกันดีทุกคนเลยจ๊ะ ขออนุโมทนาสาธุ