เบื่อคนบ่น
#1
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 04:28 PM
#2
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 04:47 PM
ว่า "วันนี้ ไม่สบายใจเรื่องอะไรเหรอ"
อย่าไปเบื่อเขาเลย เพราะเขาน่าสงสาร
บ่นเก่งๆ ก็ผิดศีลข้อ 4 นะคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#3
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 04:49 PM
เราก็รับฟังไป (ถ้าที่บนนั้นเป็นเรื่องมีสาระก็รับฟัง) แล้วแก้ไข
ถ้าเปนเรื่องที่ไร้สาระ บ่นไม่เข้าเรื่องบ่นไป ก็ฟังๆไป แล้วก็เฉยๆ

DMC The only one
ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย
คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#4
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 05:01 PM
#5
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 05:06 PM
แล้วต้องมีศิลปะการอ่านใจคนด้วย
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#6
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 05:27 PM


#7
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 05:47 PM
คนฉลาดมักเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาศ
ส่วนคนประมาท มักเปลี่ยน โอกาศเป็นวิกฤติ..
.......
..........................................
ขยายความจากกระทู้ได้ว่า
ถ้าเราฉลาดเราก็เอาวิกฤติจากคนขี้บ่นนี้มาเป็นบททดสอบขันติ คือความอดทนอดกลั้น
เป็นตบะอย่างยิ่งของเราว่า มีระดับใหน ความอดทนนั้นเท่าที่ผมมีในฐานข้อมูลความคิดผมจากการเรียนธรรมที่ได้มาจากครูบาอาจารย์ท่านสอนว่าความอดทนมี 4 ระดับ คือ
1.อดทนต่อความไม่สบายเนื้อสบายตัว ไม่สบายใจในสถานที่หรือ สภาวะต่างๆ
2.อดทนต่อความหิวกระหาย
3.อดทนต่อการกระทบกระทั่ง (อดทนต่อคนขี้บ่น)
4.อดทนต่อกิเลสตัณหาความทะยานอยากที่ครอบงำเราอยู่
และใช้สติปัญญาของเราพิจารณาว่าจะ ชี้ทางสว่างให้กับคนขี้บ่นนั้นอย่างไร
นี้คือ คีย์เวิดที่สำคัญในเรื่อง "คนฉลาดมักเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาศ " และเปลี่ยนแนวคิดว่าเราโชคดีแล้วที่มีบทเรียนแบบเลินนิ่งบายดูอิ้ง ให้เราได้เรียนครับ...
....................................................................................
ส่วนถ้าเราเป็นคนประมาทเราก็จะกระเทือนใจเศร้าหมอง ถ้าเกิดทิ้งกายหยาบช่วงกำลังคนขี้บ่นมาบ่นตอนกำลังจะไปปรโลก....รับรองไปอบายเพราะจิตเศร้าหมอง อันนี้อันตรายครับ...
........................................
เมื่อจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใสทุกคติเป็นที่ไป น้องนาโอมิบอกครับ...
...........................
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#8
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 06:14 PM
กระทู้ของคุณ dritto วันนี้ 17:50 โพสต์ #1
นี่ก็เป้นหลักการที่ดีครับแก้คนขี้บ่นได้ครับ
นักเรียนอนุบาลพันธุ์แท้
โพสต์: 230
ทุกข์อยู่ตรงไหน การปฏิบัติก็อยู่ตรงนั้น
ถ้าเห็นว่าการที่มีอะไรยุ่ง ๆ ตลอดเวลา เป็นกรรมเป็นวิบากของเรา
ลองเปลี่ยนความคิดเสียหน่อยว่า นี่แหละคือการปฏิบัติของเรา
ถ้าเขาถามว่า การปฏิบัติของเราอยู่ตรงไหน
ตอบว่าทุกข์อยู่ตรงไหน การปฏิบัติของเราก็อยู่ตรงนั้น
เหมือนกับบ้านของเรากำลังไหม้ เราจะเอาน้ำไปดับตรงนั้น
เราก็ดับตรงที่มันไหม้นั่นแหละ
ทีนี้ เรามีปัญหาตรงไหน เราก็ปฏิบัติตรงนั้น ถือว่าเป็นการท้าทาย
สมมุติว่า เราเป็นคนขี้โกรธ วันนี้การท้าทายของเรา
คือ ไม่ให้จิตใจหลงเกิดความคับแค้นใจ รักษาไว้ในสภาพปกติ
นั่นแหละคือการปฏิบัติของเราในวันนี้
คติธรรม ของท่านพระอาจารย์ชยสาโร
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#9
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 06:59 PM
#10
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 07:37 PM
1.ไม่พูดให้เขารำคาญหรือเกลียดเรา
2.ไม่พูดมาก
***3.ถ้าจะพูดก็พูดกับเขาดีๆ***
( ใช้ได้ผลดีมากครับ )
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#11
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 08:04 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#12
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 08:17 PM



#13
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 09:30 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#14
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 09:45 PM
" โอกาส " ไม่ใช่ โอกาศ จ้า คุณเถลิงเกียรติ
( ขออนุญาตแนะนำนะคะ ^__^ )
#15
โพสต์เมื่อ 03 April 2006 - 10:10 PM
( ขออนุญาตแนะนำนะคะ ^__^ )
................
ขอบคุณมากครับ..
ผมภาษาไทยก็อ่อนแอ อังกฤษก็ไม่แข็งแรง จะมีแต่ภาษาธรรมนี่แหละพอมั่นใจหน่อย...
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#16
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 12:06 AM
ทำดีให้ใจหายเลย วันหนึ่งเมื่อเราไม่อยู่ เขาจะคิดถึงเราเอง
ทำดีให้เสมอต้นเสมอปลาย ดูสิจะบ่นได้สักกี่น้ำ แต่ทั้งนั้นอย่าลืมตรองดูตัวเราด้วยนาครับ
เห่ะ ๆ ร้องเพลงแซวแบบรู้ทันก่อนเขาจะอ้าปากบ่นก็น่ารักดี ไฉไลไปอีกแบบ
ก็เพราะว่าเธอน่ารัก ทุก ๆ วัน ฉันจึงยอมนั่งฟังตัวเธอได้เลย
#17
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 01:33 AM
#18
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 02:45 AM
ระหว่างที่ฟังเขาบ่นก็พยายามเจริญเมตตาสมาธิ แผ่เมตตาให้มากๆ
พอทำบุญก็รีบแผ่เมตตาให้เขาเลย และอธิษฐานทันทีค่ะ
ขอให้เขามีความสุขมากๆ สุขมากจนไม่อยากบ่นอีกแล้ว
เปลี่ยนจากเสียงบ่นมาเป็นเสียงภาวนา สัมมาอรหัง
และนอกจากนี้ ก็ควรพิจารณาตัวเราเองด้วยว่า
ทำอะไรให้เขาบ่น หรือ เรามีส่วนที่ทำให้เขาบ่นไหม ...
แทนที่จะพยายามแก้ไขที่ตัวเขา ทำไมไม่พยายามแก้ไขที่ตัวเราคะ
เพราะแก้ที่เรา ก็ได้ที่เราค่ะ
ใจนั้นเป็นของเรา ทำไมปล่อยให้เขารังแก ปล่อยให้เขาทำให้ใจเราหมอง
อย่ากระนั้นเลย พึงกระทำเยี่ยงบัณฑิตเถิด คือรักษาใจให้ผ่องใสให้ได้ตลอดเวลา
ใครจะว่าอะไรก็ช่างเถิด เอาใจไปหลบไว้ที่ศูนย์กลางกายดีกว่า ปลอดภัยไร้ห่วงค่ะ
#19
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 10:00 AM
หูก็เป็นหูของเรา
เราห้ามปากคนอื่น ไม่ให้พูด - ไม่ได้
เราห้ามหูของเรา ไม่ให้ฟัง - ย่อมทำได้
เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าเราไม่รับฟังซะอย่าง เสียงที่ออกมาจากปากของเขา มันย่อมไม่เข้ามาถึงสมองและส่งผลถึงใจของเราเป็นแน่ เพราะหูของเราปิดอยู่นั่นเอง
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#20
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 10:53 AM
หูเขายังไม่รำคาญตัวเองเลย
แล้วเราจะไปรำคาญเขาทำไมคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#21
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 12:11 PM
#22
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 06:26 PM
#23
โพสต์เมื่อ 04 April 2006 - 06:57 PM
อย่าให้ความตั้งใจที่ดี เปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราอาจจะอยู่หรือตาย
สิ่งที่เอาไปได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น ฉนั้น เราต้องอยู่กับวันนี้
วันที่เราบอกตัวเองว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด ในวันหนึ่งของชีวิตการสร้างบารมีของเรา
โอไดบะ
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
#24
โพสต์เมื่อ 05 April 2006 - 07:26 PM
#25
โพสต์เมื่อ 13 February 2007 - 09:17 AM