

ปวดหัวค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 10:48 PM

#2
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 12:14 AM
ไม่คาดหวังได้พบอะไรใหม่
เป็นใจเพียงไม่อยากได้ต่อสิ่งใด
ก็จะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ
#3
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 01:40 AM
น้าจี้
#4
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 02:12 AM
การปรับกาย ปรับใจ ต้องทำทุกรอบ
โดยเอาตัวเราเป็นเกณฑ์ เป็นครู
เราแสวงหา "ความพอดี" ว่า แค่ไหนพอเหมาะพอดี
ลองปรับดูทั้งร่างกายและจิตใจ
แล้วเราจะพบความพอดี
ความพอดีนั้นมีลักษณะ คือ
รู้สึกโปร่ง เบา ไม่เครียด แล้วเราพอใจ
ชอบใจอารมณ์นี้แหละ
รักษาอารมณ์นั้นให้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอะไร
ไม่ช้าความพอดีนั้นจะนำใจของเรากลับเข้าไปหยุดนิ่งอยู่ภายใน
แล้วแสงสว่างจะเกิดขึ้นเอง
โอวาทพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ 31 มีนาคม 2535
#5
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 07:17 AM
แสดงว่าตั้งใจมากไปหรือป่าวครับ หรือไม่ก็เอาใจไปจรดจ่อกับลมหายใจมากเกินไป หรือ สภาพจิตใจและร่างกายยังไม่พร้อมที่จะนั่งสมาธิในตอนนั้น ลองปรับจิตใจและร่างกายก่อนนั่งสมาธิ หลับตาก่อนดีไหมครับ ลองดูที่ลิงค์นี้นะครับ อาจจะช่วยได้
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5135
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 08:11 AM
ไปเรื่อยๆครับสังเกตุว่าตอนนั่งว่าเกร็งตรงไหนหือป่าวให้พิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า
ตอนที่เรานั้งไปเรื่อยๆช้า เจออย่างแน่นอนครับ เป็นความเห็นส่วนตัวครับ
#7
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 09:35 AM
แล้วต้องระวังตัวด้วย ถ้าเผลอก็จะเครียดเกิน ต้องมีสติกำกับตลอดเวลา
#8
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 10:32 AM
#9
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 11:16 PM
... มืดตื้อมืดมิดก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม (ขอให้มันหมายถึงตัวเราด้วยน่ะ )สาธุ สาธุ..

#10
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 02:48 AM
จริงแท้แน่นอนค่ะ

น้าจี้
#11
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 02:53 AM

ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#12
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 12:05 PM
1) ก่อนที่จะปิดตา ลองมองดวงแก้ว รูปหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย แบบสักแต่ว่าซัก 1 นาที มองท่านแบบไม่ได้ตั้งใจมองจนเกินไป ประมาณว่ามองแบบเหม่อๆ มองท่าน สักแต่ว่ามองท่าน ไม่ได้จ้องท่านแบบเอาเป็นเอาตาย
2) พอสักแต่ว่ามองซัก 1 นาทีแล้ว ลองปิดตาเบาๆ แล้วลองเงี่ยหูฟังเสียงรอบตัวอย่างเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงแอร์ เสียงรถ เสียงนกร้อง เสียงลม หรือเสียงอะไรก็ได้รอบตัวเรา แบบสักแต่ว่าฟัง เพลินๆ ซัก 1 นาที
3) ทีนี้ เราลองมาหลับตากันดู โดยค่อยๆ หลับตาเบาๆ มองหน้าตรง ยิ้มมุมปากนิดๆ พอให้ใบหน้าผ่อนคลาย อย่าก้มหน้าเพราะเราจะเผลอเอาตาเราไปจ้องท้อง อย่าเงยหน้าเพราะจะทำให้ต้นคอเกร็ง ไม่สบายตัวได้
4) เมื่อเราปิดเปลือกตาแล้ว เพื่อป้องกันการเพ่งการจ้อง ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้เราปวดนัยน์ตา ปวดขมับ เมื่อปิดเปลือกตาแล้ว ทำเป็นเหมือนเหลือบมองสูงทั้งๆ ที่ปิดเปลือกตาแล้วนิดนึง ย้ำนิดเดียวนะครับ ก็จะช่วยลดอาการกดลูกนัยน์ตาได้
5) เมื่อเราปรับอวัยวะบนใบหน้าจนสบายแล้ว ทีนี้ ก็มาสังเกตบ่า ไหล่ ลำตัว ฝ่ามือ เอว ขา น่อง ฝ่าเท้าว่าเรา มีส่วนไหนเกร็งไหม ถ้าเกร็ง ก็ผ่อนคลายซะ
6) เมื่อหลับตาแล้ว ถ้ายังกำหนดนิมิตดวงแก้ว องค์พระ หรือวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกายไม่ได้ ก็อย่าพึงทำอะไร ให้ปล่อยใจหลวมๆ สบายๆ ปล่อยให้ร่างกายเราหลวมรวมไปกับธรรมชาติและสิ่งรอบตัวก่อนดีกว่าไหม เช่น ลองฟังเสียงรอบตัวแบบเพลินๆ
7) เมื่อเรา ลองทำแบบนี้แล้ว เชื่อว่า ใจเราก็คงค่อยๆ ผ่อนคลายจนพร้อมที่จะเริ่มเข้าสู่การทำสมาธิ โดยไม่รู้สึกว่า เป็นการกดใจแล้ว เมื่อนั้น เราค่อยเริ่มกำหนดองค์พระ ดวงแก้ว หรือวางใจที่ศูนย์กลางกาย แบบสบายๆ
post by Miracle Dream ครับ
#13
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 03:45 PM

#14
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 04:51 PM
#15
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 07:00 PM
#16
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 10:18 AM
จะได้หายใจตลอด
ให้รู้สึกว่าลมหายใจมากระทบกับดวงแก้วกลางท้องตลอดเวลา
หนูก็ใช้บ่อยค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#17
โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 12:43 PM