ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

สมาธิวิทยาธร


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 20 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 11:37 AM

เคยได้ดูเรื่องของวิทยาธร โดยเข้าใจว่าพวกวิทยาธรคือพวกที่ฝึกสมาธิ
แต่เป็นพวก โลกียสมาธิ คือพวกที่ไม่ได้ฝึกเพื่อความหลุดพ้น

ตามความเข้าใจเช่น พวกใบ้หวยเห็นตัวเลข ( อันนี้บางเคสมีอาจาร์ยวิทยาธรทำได้ )
น่าจะเป็นระดับฌาณแล้ว บางทีก็สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้

แต่เหตุใดผู้ที่ได้ฌาณแล้วจึงเกิดเป็นแค่วิทยาธร ไม่ได้ไปเกิดเป็นพรหม



หยุดคือตัวสำเร็จ

#2 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 11:46 AM

QUOTE
แต่เหตุใดผู้ที่ได้ฌาณแล้วจึงเกิดเป็นแค่วิทยาธร ไม่ได้ไปเกิดเป็นพรหม

การจะไปเกิดยังพรหมโลกนั้น ต้องได้รูปฌาณ หรือ อรูปฌาณ ครับ
ส่วนวิทยาธรน่าจะเป็นสมาธิที่ต่ำกว่าและยังยึดติดในพวกวิชาคุณไสย ไสยศาสตร์อะไรประมาณนี้ด้วยครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#3 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 06:59 PM

QUOTE
การจะไปเกิดยังพรหมโลกนั้น ต้องได้รูปฌาณ หรือ อรูปฌาณ ครับ
ส่วนวิทยาธรน่าจะเป็นสมาธิที่ต่ำกว่าและยังยึดติดในพวกวิชาคุณไสย ไสยศาสตร์อะไรประมาณนี้ด้วยครับ



เท่าที่ทราบวิทยาธรพวกนี้สามารถแสดงฤทธิ์ได้ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวิทยาคมของ
มนุษย์ด้วย ดังนั้นการที่สามารถแสดงฤทธิ์ได้นั้น น่าจะได้ฌาณ ด้วย

นอกจากนี้วิทยาธรเหล่านี้จะฝึกกสิณ ต่าง ๆ เช่น กสิณสีเขียว กสิณสีแดง เมื่อละโลกไปแล้วก็ฝึกสมาธิ
ต่อตามถ้ำ ตามภูเขาต่าง ๆ ดังนั้นสมาธิของวิทยาธรน่าจะพัฒนาได้ถึงขั้นฌาณแล้ว หรือว่าสมาธิของวิทยาธร
จะจำกัดแค่สมาธิขั้นต้นไม่สามารถพัฒนาให้สูงขึ้นกว่านี้ได้


หยุดคือตัวสำเร็จ

#4 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 08:36 PM

วิทยาธรเป็นเทวดาจำพวกหนึ่งในชั้นจตุมหาราชิกา ซึ่งตามปกติแล้ว เทวดาก็สามารถมีฤทธิ์ มีอำนาจได้ ด้วยอนุภาพแห่งบุญที่ตนเคยทำไว้ ไม่จำเป็นต้องได้ฌาน เพราะถ้าได้ฌาน ต้องไปเกิดเป็นพรหมอย่างที่เข้าใจกันนั่นแหละครับ ส่วนสมาธิของวิทยาธร ก็เป็นสมาธิเบื้องต้นครับ ยังไม่ถึงฌาน แต่พวกนี้จะมีวิชาของเขา ซึ่งประกอบขึ้นมาด้วยวิธีการของเขา โดยอาศัยสมาธิเบื้องต้นกับฤทธิ์ที่ตนมีอยู่ คอยส่งวิชาให้กับศิษย์ที่เป็นมนุษย์ ผ่านมนต์คาถาต่างๆบ้าง ผ่านอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆบ้าง จาก Case Study จะเห็นได้ว่า ผู้ที่แสดงฤทธิ์ได้ส่วนใหญ่เป็นวิชาวิทยาธรแทบทั้งนั้น มีน้อยมากที่พระเดชพระคุณ คุณครูไม่ใหญ่ท่านบอกว่าเป็นฌาน สังเกตุง่ายๆเลยครับ ถ้าใครที่แสดงฤทธิ์ได้ แต่ต้องอาศัยมนต์คาถา อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการที่จะทำให้ฤทธิ์นั้นเกิดขึ้น อย่างนี้เป็นวิชาวิทยาธรทั้งสิ้น ซึ่งเบื้องหลังก็จะมีวิทยาธร คอยส่งฤทธิ์ส่งเดชส่งอำนาจให้ แต่ผู้ที่ได้ฌาน เวลาแสดงฤทธิ์ ไม่ต้องอาศัยมนต์คาถาหรืออุปกรณ์เครื่องมือใดๆครับ สามารถแสดงฤทธิ์ได้เลย โดยอาศัยฌานที่ตนได้นั่นเอง

ปล. "ฌาน" สะกดด้วย "น" ครับ ไม่ใช่ "ณ"
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#5 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 11:20 PM

ขอบคุณคุณหนึ่ง มากครับ อืม ฌาน ไม่ใช้ ฌาณ เข้าใจผิดมาตั้งนาน สาธุครับ


การฝึกสมาธิของพระหรืออาจาร์ยไสยเวทย์นั้น ไม่มีทางก้าวถึงขั้นฌานเลยหรือ
เพราะว่าอะไร เช่น การฝึกกสิณน่าจะถึงขั้นฌานได้ หรือเพราะว่าสมาธิ
นั้นไม่ได้เป็นไปเพราะการหลุดพ้น ( สัมมาสมาธิ )แต่เพื่อประโยชน์อื่น เช่น การใบ้หวย
ปลุกเสก เลขยันต์ หรือสามารถถึงฌานได้ถ้าพยายามจริง ๆ แล้วสามารถไปเกิดเป็นพรหมได้




หยุดคือตัวสำเร็จ

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 01:15 AM

QUOTE
ขอบคุณคุณหนึ่ง มากครับ อืม ฌาน ไม่ใช้ ฌาณ เข้าใจผิดมาตั้งนาน

nerd_smile.gif ที่สะกดด้วย "ณ" นั้นคือคำว่า "ญาณ" ครับ

QUOTE
การฝึกสมาธิของพระหรืออาจาร์ยไสยเวทย์นั้น ไม่มีทางก้าวถึงขั้นฌานเลยหรือ
เพราะว่าอะไร เช่น การฝึกกสิณน่าจะถึงขั้นฌานได้ หรือเพราะว่าสมาธิ
นั้นไม่ได้เป็นไปเพราะการหลุดพ้น ( สัมมาสมาธิ )แต่เพื่อประโยชน์อื่น เช่น การใบ้หวย
ปลุกเสก เลขยันต์ หรือสามารถถึงฌานได้ถ้าพยายามจริง ๆ แล้วสามารถไปเกิดเป็นพรหมได้

nerd_smile.gif ไม่มีทางครับ เนื่องจากสมาธิดังกล่าวเป็น "มิจฉาสมาธิ" และเป็นสมาธินอกตัวน่ะครับ จึงทำให้ปฏิบัติไปไม่ถึงขั้นที่เรียกว่า "ได้ฌาน" เพราะการได้ฌานหรือจะอาศัยกำลังแห่งองค์ฌานได้ ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่เข้าถึงดวงปฐมมรรค (อันเป็นปฏิเวธในปฐมฌาน) เป็นอย่างน้อยนะครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#7 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 10:35 AM

มิน่าเล่า ผู้สำเร็จจึงมีจำนวนน้อย เพราะการฝึกปัจจุบันเป็นสมาธินอกตัวเกือบทั้งสิ้น
ต่อให้ฝึกเกือบตายก็ได้แค่สมาธิขั้นต้น

หยุดคือตัวสำเร็จ

#8 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 12:38 PM

เพราะมัวไปติดกับสิ่งที่ไม่ใช่พระรัตนตรัย จึงไปได้แค่นั้นไม่ก้าวหน้า เราควรห่างไว้

มิฉะนั้นจะไปแค่จาตุมหาราชิกา ไปดุสิตบุรีไม่ได้นะครับ

#9 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 01:07 PM

ใช่เลยครับ สมาธินอกตัว จะไม่มีทางได้ฌานเด็ดขาด ผู้ที่ได้ฌานจะต้องเกิดจากสมาธิภายในตัวเท่านั้น จะเป็นที่ไหนในตัวก็ได้ แต่ต้องอยู่ภายในตัว ก็จะสามารถทำฌานให้เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่า หากเอาใจไปตั้งที่อื่นในตัว ไม่ใช่ที่ศูนย์กลางกาย ก็จะได้แค่องค์ฌาน แต่จะไม่เห็นกายต่างๆ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#10 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 01:23 PM

ปัจจุบัน มีผู้สับสนหลักพุทธศาสนา กับ หลักนอกพุทธศาสนา
เลยเหมารวมกันว่า เป็นพุทธศาสนา นะครับ

เราเหล่าลูกพระธัม ฯ จำเป็นต้องรักษาพระศาสนา โดย หมั่นทำทาน รักษาศีล
ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงธรรมกาย เพื่อเป็นทนายแก้ต่างให้พุทธศาสนา

#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 02:02 PM

คุณทศพล ลองไปฟังเคส Study เรื่องราวของลัทธิเต๋า เซียน นักพรต ที่คุณครุไม่ใหญ่เคยฝันในฝันไว้ นาน 2 ปีกว่ามาแล้วน่ะครับ ในเรื่องราวนั้นจะบอกว่า ลัทธิเต๋านั้น เป็นลัทธิที่ใกล้เคียงกับพระพุทธศาสนาทีเดียว ผู้ที่ฝึกตามลัทธินี้สมัยแรกๆ จะมีอำนาจสมาธิจิตสูงระดับได้ฌาน (จิตไม่วอกแวก ออกนอกตัว แต่ก็ไม่อยู่ที่ศูนย์กลาง) ฝึกจนสำเร็จเป็น เซียน แสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง หรือที่ทางอินเดีย เรียกว่า พวกฤษี ดาบส แล้วเมื่อละโลกแล้ว ก็ไปบังเกิดเป็นพรหม

แต่นักพรตที่เกิดรุ่นหลังๆ มา ก็ได้รับลาภสักการะเพิ่มขึ้น (จากการที่อาจารย์มีฤทธิ์มาก) พวกนี้จะเริ่มหลงในลาภ และชื่อเสียงยกย่องสรรเสริญ (ใจเริ่มส่งออกนอกตัว คือ ติดในลาภ ยศ) ทำให้สมาธิจิตไม่อาจขึ้นถึงระดับสูง จนได้ฌานได้ เมื่อละโลกแล้ว จะไปเกิดเป็นวิทยาธรน่ะครับ

พอพวกนี้มาเกิดเป็นวิทยาธร ก็ต้องการให้มีลูกศิษย์มนุษย์มานับถือมากๆ และมีการแข่งกันในหมู่วิทยาธรด้วย จึงต้องมาช่วยศิษย์มนุษย์แสดงฤทธิ์เพื่อรักษาวิชา เช่น สมมุติการเหาะได้
ถ้าเป็นเหาะแบบสมาธิจิตจากฌาน จะเป็นการเหาะได้ด้วยตัวเอง
ถ้าเป็นเหาะแบบวิทยาธร จะท่องมนต์จนเป็นสมาธิเบื้องต้น แล้วอาจารย์วิทยาธรก็จะรับกระแสจิตได้ จากนั้นก็จะมาช่วย โดยยกตัวศิษย์มนุษย์ขึ้นเหาะไป ซึ่งถ้าเหาะอยู่แล้วอาจารย์วิทยาธรปล่อยตัว ก็จะร่วงทันที
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 01:28 AM

อ่อย dry.gif คือว่าชักงงค่ะ ขอความกรุณาช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมค่ะ ว่า ญาณ กับ ณาน เนี้ย ต่างกันอย่างไร
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#13 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 01:52 AM

QUOTE(นิ่งๆ นุ่มๆ)
อ่อย คือว่าชักงงค่ะ ขอความกรุณาช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมค่ะ ว่า ญาณ กับ ณาน เนี้ย ต่างกันอย่างไร


ฌาน การเพ่งอารมณ์จนใจแน่วแน่ เป็นอัปปนาสมาธิ, ภาวะจิตสงบประณีต ซึ่งมีสมาธิเป็นองค์ธรรมหลัก
ญาณ ความรู้, ปรีชาหยั่งรู้, ปรีชากำหนดรู้


ฌาน ได้แก่ รูปฌานและอรูปฌาน รวมเรียกว่า สมาบัติ ๘ ผู้ที่ได้ฌาน และขณะละโลก ยังทรงฌานอยู่ จะไปบังเกิดในพรหมโลก

ญาณ คือ ความรู้ต่างๆครับ เช่น ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ความรู้ที่ระลึกชาติได้, จุตูปปาตญาณ ความรู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย, อาสวักขยญาณ ความรู้ที่ทำอาสวะให้สิ้น เป็นต้น
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#14 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 07:51 AM

ได้ความรุ้ใหม่ว่า ฌาน คือ ระดับของสมาธิตั้งแต่อัปนาสมาธิเป็นต้นไป
ญาณ คือ ความรู้ต่าง ๆ อันเกิดจาก ฌาน





QUOTE
แต่นักพรตที่เกิดรุ่นหลังๆ มา ก็ได้รับลาภสักการะเพิ่มขึ้น (จากการที่อาจารย์มีฤทธิ์มาก) พวกนี้จะเริ่มหลงในลาภ
และชื่อเสียงยกย่องสรรเสริญ (ใจเริ่มส่งออกนอกตัว คือ ติดในลาภ ยศ) ทำให้สมาธิจิตไม่อาจขึ้นถึงระดับสูง
จนได้ฌานได้ เมื่อละโลกแล้ว จะไปเกิดเป็นวิทยาธรน่ะครับ


สมาธิที่ส่งใจออกนอกตัวนี่ คือ ใจติดในลาภ ยศ สรรญเสริญ นี่เอง ผมเข้าใจว่าสมาธิที่เอา
ใจออกนอกตัวคือการเพ่งกสิณ เอาใจส่งไปตามกสิณ เช่น กสิณดิน ก็เพ่งแต่ดิน ใจก็อยู่ที่ดิน
กสิณไฟ ใจก็อยู่ที่ไฟ





หยุดคือตัวสำเร็จ

#15 poupee

poupee
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 09:13 AM

ขอบคุณ คุณ neung มากเลยค่ะ ได้ความรู้ดีจัง

#16 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 11:35 AM

QUOTE(ทศพล)
สมาธิที่ส่งใจออกนอกตัวนี่ คือ ใจติดในลาภ ยศ สรรญเสริญ นี่เอง ผมเข้าใจว่าสมาธิที่เอา
ใจออกนอกตัวคือการเพ่งกสิณ เอาใจส่งไปตามกสิณ เช่น กสิณดิน ก็เพ่งแต่ดิน ใจก็อยู่ที่ดิน
กสิณไฟ ใจก็อยู่ที่ไฟ


การส่งใจออกไปนอกตัว ไม่ว่าจะไปติดกับ คน สัตว์ สิ่งของ หรือ ติดในลาภ ยศ สรรญเสริญ ก็ตาม ใจไม่อยู่กับตัวครับ ล้วนเป็นสมาธินอกตัวทั้งสิ้น ฌานจะไม่เกิดขึ้นครับ ผู้ที่เพ่งกสิณแล้วสามารถทำใหฌานเกิดขึ้นได้ แสดงว่า ทำถูกต้องตามหลักวิชชาครับ กล่าวคือ ไม่ได้เอาใจไปติดกับสิ่งต่างๆ นอกตัวเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ดิน ไฟ น้ำ ฯลฯ แต่เพ่งจนสิ่งต่างๆเหล่านั้นติดตาติดใจ แล้วน้อมเอาสิ่งต่างๆเหล่านั้น เข้ามาเป็นนิมิตอยู่ภายในกาย เป็นที่ยึดเกาะของใจจนเกิดเป็นสมาธิตั้งมั่นเป็นอัปปนาสมาธิ ฌานจึงเกิดขึ้น นี่เป็นเหตุว่า ทำไมผู้ที่ได้ฌาน จึงสามารถกดกิเลสต่างๆ ไม่ให้ฟุ้งได้ เพราะนำใจมาไว้กับตัว ไม่ส่งใจไปตามสิ่งต่างๆ กิเลสต่างๆ นั่นเอง จนมีหลายๆคน เข้าใจผิดคิดว่าหมดกิเลสถึงนิพพานแล้ว ดังเช่น อาฬารดาบสและอุททกดาบส เป็นต้น แต่เมื่อใดก็ตามที่ผู้ได้ฌาน ส่งใจออกนอกตัวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นฌานจะเสื่อมทันที กิเลสต่างๆก็จะกลับมา นี่เอง เป็นสิ่งที่พระบรมศาสดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านพิจารณาเห็นว่า ฌานต่างๆ ยังไม่เที่ยง ยังไม่เป็นที่สุดแห่งกองทุกข์ จึงได้บำเพ็ญเพียรต่อ จนกระทั่ง ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#17 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 02:44 PM

ขอบคุณคุณหนึ่งมากค่ะ สาธุ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#18 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 09:31 PM

ขอบคุณคุณหนึ่งมาก ที่แท้การฝึกกสิณนี้ก็ต้องน้อมนำภาพกสิณเข้ามาไว้ในกายด้วยไม่ว่า
เอาไว้ที่ไหน แต่ปัจจุบันตำรามักจะ ไม่บอกว่าให้เอารูปกสิณนั้นไปวางไว้ที่ไหน เพียงแต่ให้จำ
ให้ติดตา ลืมตาก็เห็นหลับตาก็เห็นได้เท่ากัน ให้สามารถหดขยายได้ ให้ภาพที่เห็นนั้นค่อย ๆ ใส ขึ้น
เรื่อย ๆ ดังนั้นตำแหน่งที่เห็นภาพนั้นคือ ตำแหน่งใดก็ได้ในกายนี้ อาจจะเลื่อนไปเรื่อยหรือเปลี่ยน
ไปเรื่อย หรือว่าบางคนบางคนอาจจะไปนึกถึงอย่างเดียว ก็นับว่าทำให้การปฏิบัตินั้นยากขึ้น เพราะ
ตะก่อนก็เคยลองพยายามเรื่องกสิณมาก ๆ ก็ไม่มีความก้าวหน้าเลย ตำราในปัจจุบันน่าจะมีส่วน
ที่ไม่สมบูรณ์ คนถึงฝึกกันไม่ได้สักที คิดว่านะ
หยุดคือตัวสำเร็จ

#19 JK564

JK564
  • Members
  • 121 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 11:29 AM

มิจฉาสมาธิ


#20 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 06:19 PM

QUOTE
ฌาน การเพ่งอารมณ์จนใจแน่วแน่ เป็นอัปปนาสมาธิ, ภาวะจิตสงบประณีต ซึ่งมีสมาธิเป็นองค์ธรรมหลัก

ญาณ ความรู้, ปรีชาหยั่งรู้, ปรีชากำหนดรู้


คำว่า ญาณ ทำให้นึกถึงคำอธิษฐานประจำวัน ในช่วงท้ายที่ว่า
" ถ้าหากพระพุทธเจ้า ยังไม่บังเกิดขึ้น แต่กุศลกรรมของข้าพเจ้า เต็มเปี่ยมแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้
ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ญาณ เป็นเครื่องรู้ เฉพาะตน อันสูงสุด เทอญฯ "



#21 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 12:56 PM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ