
อยากถือศีล8 แต่เป้นโรคปวดหลัง ทำไงดี
#1
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 03:17 AM
#2
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 07:10 AM
รู้สึกว่าตามกฎจะบอกว่าหนาไม่เกิน 1 คืบนะครับ ถ้าจำไม่ผิด
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#4
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 11:43 AM
เมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ตัวเองเคยเกิดอุบัติเหตุ ทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อน ต้องทำการรักษาตัวอยู่พักนึงน่ะค่ะ ก็จะยกของหนักไม่ได้จะปวด เดินมากก็ไม่ได้ จะปวดหลังอยู่เป็นระยะๆ นั่งรถนานๆยิ่งปวดใหญ่เลย พอมาเดือน ธันวาคม ปี 48 เริ่มปวดมาก ปวดทุกวัน เดือน มกราคม ไปหาหมอ หมอให้ยามากิน ยาหมดก็ปวดอีกค่ะ เดือนกุมภาก็ไปหาหมอ ก็ไม่หายปวด ค่อนข้างกลัว เพราะ ตรงที่เคยเคลื่อนมีอาการบวมด้วยค่ะ ก็กินยามาเรื่อยๆ เดือน เมษา ก่อนวันที่ 22 ก็ยังไม่หาย ตั้งใจมากค่ะ ว่ายังไงก็ต้องไปวัดให้ได้ เป็นครั้งแรกด้วยค่ะ ต้องเดินทาง 1 คืน เพื่อไปวัด อีก 1 คืนขากลับ นั่งรถทัวร์ที่เค้าจัดไปน่ะค่ะ ตอนขึ้นรถ เห็นที่นั่งแล้วคิดในใจเลยว่า กลับมาต้องได้เข้าโรงพยาบาลแน่เลย เพราะที่นั่งแคบมากค่ะ ต้องปวดหลังมากแน่เลย แต่ยังไงก็จะไป อธิษฐานในใจค่ะ ว่า ให้หายปวดหลังที่เถอะ เพราะถ้าต้องนั่งรถอย่างนี้ทุกครั้งที่มาวัด แล้วต้องปวดหลังทุกครั้ง คงไม่ไหวแน่เลย พอถึงวัดตอนเช้ามืด ลงจากรถ เอ๊ะ ไม่ปวดแฮะ วันนั้น ได้สร้างองค์พระประจำตัว 1 องค์(แสนองค์แสนปลื้มน่ะค่ะ) แล้วก็สังฆมาน 10,000 วัด ด้วยค่ะ ก็อธิษฐานขออย่าให้ปวดหลัง จะได้มาวัดทุกครั้งที่เค้าจัดมา เพราะถ้ากลับไปแล้วเป็นหนักกว่าเดิมเนี่ย ที่บ้านต้องห้ามแน่ๆเลย ตอนบ่าย เดินเข้าไปร่วมพิธีหล่อองค์พระ วันนั้น รวมๆแล้วเดินเป็นระยะทางไกลมากนะคะ แบกเป้ด้วย เพื่อนเอาหนังสือของวัดมาให้ด้วย น้ำหนักเป้ เกือบ 10 กิโลได้ เฉพาะหนังสือ ก็เกือบ 5-6 กิโลแล้วค่ะ ออกมาจากวัด กว่าจะเดินไปขึ้นรถก็ไกลอีก เป้ก็แบกอยู่ตลอดตอนบ่าย ขึ้นรถได้หลับเลยค่ะ คิดอยู่แต่ว่า อย่าปวดหลังน๊า อยากจะมาอีก อยากจะมาอีก อยากจะมาทุกเดือน อยากจะมาทุกครั้งที่เค้าจัดมา (วันนั้นที่ไป 22 เมษา ขาดสอบด้วยนะคะ 2 วิชา ยอมแลกค่ะ)
ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่ปวดหลังอีกเลยค่ะ ทั้งที่ไม่ได้กินยาเลย และก็ไปวัดทุกอาทิตย์ต้นเดือน และงานบุญพิเศษ ค่ะ ไปทุกครั้งที่เค้าจัดรถไปค่ะ
สำหรับของครูอุ๋ย koonpatt ก็ไม่ทราบจะบอกอะไรนะคะ แต่อยากให้ลองอธิษฐานเหมือนกันน่ะค่ะ ว่า การปวดหลังเนี่ย เป็นอุปสรรคของการถือศีล 8 อยากหาย ขอให้หายเพื่อเราจะได้ทำได้อย่างเต็มที่น่ะค่ะ ให้อุปสรรคใดๆในการสร้างบุญ บารมี จงหมดไปได้โดยง่าย เป็นอัศจรรย์ (เหมือนที่หลวงพ่อ ทัตตะให้พรน่ะค่ะ) แล้วก็ปล่อยสัตว์ปล่อยปลานะคะ เพราะเพื่อนก็บอกให้ koonpatt ปล่อยเหมือนกันค่ะ เพื่อนบอกว่า ถ้าเราปวดหลังเนี่ย น่าจะเกิดจากวิบาก ทำร้ายสัตว์ หรือผู้อื่นน่ะค่ะ
ขอให้ครูอุ๋ย หายปวดหลัง เร็วๆ ด้วยนะคะ เพราะทราบค่ะ ว่าทรมานมากแค่ไหน อย่างไร
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#5
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 12:40 PM
ส่วนตัวอธิฐานขอหลวงปู่สดอยู่เสมอเรื่องกีดกันคนพาลมาเข้าใกล้ ก็สมหวังนะ
#6
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 12:50 PM
#7
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 12:57 PM
น่าปลื้มจังเลยนะคะ สำหรับความตั้งใจที่จะเอาบุญอย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ขนาดปวดหลัง ต้องเดินทางไกลเพื่อมาวัด อีกทั้งต้องขาดสอบตั้ง 2 วิชา ก็ยังยอมแลกกับบุญใหญ่ โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ บุญครั้งนั้นยิ่งใหญ่มหาศาล พอที่จะทำให้หลังหายได้ ตามที่ใจอธิษฐาน ขออนุโมทนาด้วยนะคะ สาธุ
ส่วนอาการปวดหลังของครูอุ๋ย ก็คงเป้นโรคกรรมนั่นล่ะค่ะ เคยปวดมากๆอยู่ระยะหนึ่ง ก็ตั้งใจไปปล่อยปลาเยอะๆ เพราะปกติจะทำบุญรวมกับที่วัด แต่วันนั้น ไปซื้อปลาที่ตลาดไท แล้วก็ไปปล่อยด้วยตัวเอง อุทิศส่วนกุศลให้กับ คู่เวร คู่กรรม หลังจากนั้น ก็หายปวดซะเฉยๆ เหมือนไม่เคยปวดมาก่อน ซึ่งปกติจะปวดร้าวทั้งหลัง
แต่ต้องกลับมาเป็นอีก ก็เมื่อสัก 2เดืออนก่อน ตอนที่คุณแม่ไม่สบาย ต้องลงไปนอนเฝ้า ซึ่งไปนอนกับพื้นกระดาน พอถึงตอนดึกๆ เริ่มรู้สึกปวดหลัง แต่ด้วยความเพลียที่ดูคุณแม่ ไม่ค่อยได้นอน ก็ไม่มีแรงจะลุกขึ้น จนถึงเช้า ก็เลยปวดหลังมาตลอด และจะปวดมากตอนนอน แต่ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วขึ้นมาก ได้ไปปล่อยปลาอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่หาย สงสัยคู่เวร คู่กรรม จะเยอะ (อิอิ) อยากเป็นเจ้าภาพให้ชีวิตโคท้อง ทราบมั๊ยค่ะว่าตัวละเท่าไหร่ มีความรู้สึกว่าชาติก่อนคงเบียดเบียนสัตว์ใหญ่มาแน่ๆเลย ตามที่ได้เรียนในอนุบาลฝันในฝัน นะคะ
ตอนนี้อยากถือศีล 8 มาก แต่ก็กลัวๆจะปวดหลังมากๆๆ อีก แต่พอได้ฟังเรื่องของ koonpatt ก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ และถ้านอนฟูก ได้ไม่เกิน 1 คืบ อย่างที่คุณมองอย่างแมวว่า ก็น่าจะพอได้นะ คงได้มีโอกาสถือ ศีล8 อีกแน่ๆเลยค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 01:47 PM
อยากจะบอกว่านั่นแหล่ะค่ะ คือปัญหา เพราะไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร บางคนก็ฝากเค้าเลี้ยงต่อไป บางคนก็เอามาเลี้ยงเอง (ซึ่งข้อนี้เราทำไม่ได้) บางคนก็ไปจ้างเค้าเลี้ยง ก็เลยคิดว่า ฝากร่วมบุญไปกับพระอาจารย์คงจะดีที่สุดน่ะค่ะ เพราะ พระอาจารย์คงมีที่เลี้ยงดูที่ดีกว่าที่เราจะหาเองได้น่ะค่ะ
ส่วนเรื่องที่นอน กับศีล 8 ข้ออื่นๆ ครูอุ๋ยลองอ่านใน link นี้นะคะ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2737
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#9
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 03:22 PM
" ที่นอนอันสูงใหญ่ คือ ที่นอนอันภายในยัดด้วยนุ่นหรือสำลีซึ่งมีขนาดสูงเกินกว่า ๑ ศอกขึ้นไปเมื่อนับจากพื้นครับ "
อย่างนี้นอนได้สบาย ไม่ปวดหลังกว่าเดิมแน่ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
ส่วนโคท้อง ก็คงจะต้องไปปรึกษาหลวงพี่ฉัคร หลวงพี่นพดล อยากไถ่ชีวิต ตัวนึงอ่ะคะ ถ้าทำแล้วจะเอาบุญมาฝากนะคะ
คุณ Nida49 เคยไปบ้างมั๊ยคะ ตอนเช้าหลังถวายภัตตาหาร เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ไม่ทราบรายละเอียด อยู่แค่คลอง 2 เส้นรังสิต - นครนายก ใกล้ๆเอง อยากไปร่วมบุญด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ไหนค่ะ วัน เวลา สถานที่ปล่อย การร่วมบุญ ขอบคุณมากนะคะ
#10
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 04:31 PM
หาหมอด้วยนะคะ ถ้าเป็นโรคกระดูกสันหลัง ถ้ายังไม่หายขาด อย่าเพิ่งยกของหนัก
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ทำบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลา และบุญอื่นๆ ก็อธิษฐานจิตกำกับทุกครั้งนะคะ
ขอให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ไข้ ได้สร้างบารมีสะดวกสบาย สร้างบารมีไปได้นานๆ
ขออนุโมทนาบุญกับครูอุ๋ยด้วยนะคะ
#11
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 04:50 PM
ที่เขาไม่ให้นอนฟูก คือพวกฟูกนิ่มๆ นอนแล้วเคลิบเคลิ้มคิดถึงเรื่องกามได้ง่ายครับ
#12
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 09:55 PM
#13
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 10:53 PM
#14
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 11:10 PM
แต่ที่เป็นอุปสรรค มากๆ ก็ตรงปวดขาขวาค่ะ นั่งสมาธิ นานๆ ไม่ค่อยได้
มีอยู่วันหนึ่ง นั่งกำลังสบายๆๆ ได้นานมากๆ พอออกจากสมาธิ ลุกไม่ขึ้นเลย T_T
ทุกวันนี้จะปล่อยปลา ทุกอาทิตย์ต้นเดือน รู้สึก อาการจะดีขึ้น ค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 09:55 AM
sleep an a hard bed, doctor's order
It's way better for u
You "need" to change your sleeping habbit, you can't get back-ache from that but it's from how you lay down
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#16
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 11:35 AM
ขอบคุณที่แนะนำให้ไปหาหมอกระดูกนะคะ ก็คิดอยู่หลายครั้งเลยค่ะ แต่ยังไม่ได้ไป เคยไปหาแต่หมอจีน ซึ่งก็ดีมากๆๆๆๆ ไม่ต้องกินยา เหมือนเค้าจัดกระดูกให้เข้าที่ได้อย่างง่ายๆ คือตอนนั้นที่ไปหาหมอคนนี้ครั้งแรก เพราะปวดข้อมือ เนื่องจากตีแบดฯ แล้วล้ม หยุดตีไป 2-3 เดือน พอกลับมาตีอีกก็เจ็บอีกเหมือนมีเข็มแทง เบื่อ ไม่อยากไปหาหมอ เพราะเคยปวดเข่า ปวดหัวไหล่ ส่วนมากพอไปหาหมอที่ ร.พ. ก็จะให้ยามาลองทานก่อน แล้วก็ให้หยุดตีแบดฯ ไป 1-2 เดือน แต่พอกลับไปตีอีก ก็เป็นอีก เป็นอยู่อย่างนี้ตลอด หลายๆปี จนเข็ดไม่ค่อยอยากไปหาหมออีก ต่อมามีเพื่อนแนะนำให้ลองไปหาหมอจีนคนนี้ อยู่แถวกล้วยน้ำไท ปรากฏว่า ข้อมือ ก็หาย แถม หัวไหล่ หัวเข่า ที่เจ็บอยู่เดิมก็หายอีกด้วย เพราะเค้าเช็คให้เราด้วย บอกว่ากระดูกเราเคลื่อนอยู่ ตอนนั้นดีใจมาก รู้สึกว่าไม่ต้องกลัวแล้ว อีกหน่อยถ้าเป็นอีก ก็จะไปให้หมอจีนจัดกระดูกให้อีก ก็เลยหมดปัญหาปวด เข่า และ หัวไหล่ มาจนบัดนี้
ตอนปวดหลังแรกๆ เป็นจนอยากอาเจียน ปวดเหมือนจะนั่งไม่ได้ ก็ไปหาหมอคนนี้ หมอก็จัดกระดูกหลังให้ ก็รู้สึกโล่ง เบา ไม่ปวดมาก แล้วไม่นานก็หายจนเหมือนปกติ ตอนนี้ย้ายมาอยู่รังสิต ไกลหมอมาก อีกอย่าง ตอนนี้ปวดหลังเฉพาะตอนนอน ตอนตื่นไม่ปวด นั่งสมาธิไม่ปวด เลยคิดว่าเพราะกรรมเก่ามั๊งคะ ตอนนั้นปล่อยปลา ก็หายไปพักนึง ตอนนี้เป็นอีก ทั้งที่ก็ปล่อยปลาด้วย คงต้องปล่อยสัตว์ใหญ่อีก ขอบคุณมากๆที่แนะนำนะคะ ตอนไปตรวจสุขภาพประจำปี จะลองขอคำแนะนำจากหมอกระดูกดู ถ้ายังไม่หาย
#17
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 12:08 PM
ต้องขอบคุณที่แนะนำมานะคะ เรื่องที่นอนพี่ก็ลงทุนไปซื้อที่นอนใหม่ ที่นุ่ม แต่เวลานอนไม่ยุบตัว หมดไป 3 หมื่นกว่าแน่ะค่ะ
เมื่อก่อนพี่ชอบนอนตะแคง ตอนปวดหลัง ก็เปลี่ยนมานอนหงาย ดีขึ้นแต่ก็ยังปวดอยู่ เคยหายอยู่ช่วงนึง เมื่อ 2 เดือนก่อน ดีใจมาก จู่ๆ ก็เป็นอีก สงสัยจะเป็นโรคกรรมจริงๆด้วยล่ะ ตอนเล่นเน็ตนี่ก็ไม่ปวด นั่งสมาธิเมื่อเช้า ชั่วโมงกว่าๆ ก็ไม่ปวด ตีแบดฯก็ไม่ปวด จะปวดตอนหลับไปสักพักล่ะค่ะ คือนอนหลับตลอดจนตื่นไม่ได้ ต้องรู้สึกตัวเพราะปวดหลัง เหมือนหลับๆตื่นๆ แต่คิดว่าคงหายไม่ช้านี้ล่ะคะ เพราะกำลังจะติดต่อไปไถ่ชีวิตโค ต้องหายแน่ๆค่ะ อิอิ
ตอนนี้ น้อง Omena ได้เริ่มทำหน้าที่ผู้นำบุญ อย่างไรบ้างแล้วคะ อนุโมทนาบุญ ล่วงหน้าเลยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
#18
โพสต์เมื่อ 04 August 2006 - 05:43 PM
#19
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 02:17 PM
แต่นอนตะแคงขวา หรือ ซ้าย ก็จะยิ่งปวดมาก นอนไม่ได้เลยค่ะ เคยลองแล้วค่ะ แต่อย่างไรก็ต้องขอบคุณมาที่แนะนำมานะคะ เผื่อจะหายซักวิธีนึง สาธุ ค่ะ
ขอขอบคุณ คุณNida 49 ด้วยนะคะ ที่แนะนำมาค่ะ สาธู
คงจะต้องลองติดต่อผู้ประสานงานดูบ้างนะคะ
และขออนุโมทนาบุญ กับคุณ Nida 49 ที่ได้เคยเป็นเจ้าภาพปล่อยโค กับครอบครัวมาแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ
#20
โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 12:38 AM
ขอเพิ่มเรื่องน่ารู้ที่แนะนำ การปรับที่กิจวัตรประจำวัน มาฝากครับ
ปวดหลัง...แก้ไขกิจกรรมที่ทำประจำช่วยได้
ผู้ป่วยโรคปวดหลังทั้งหลายถ้าสามารถรู้ขอบเขตจำกัดในการเคลื่อนไหวของตน และรักษาท่าทางให้อยู่ในสมดุลของขอบเขตนั้นไว้ก็จะปลอดภัย สามารถทำกิจกรรมได้อย่างเป็นปกติ เคลื่อนไหวได้อย่างถูกต้องเป็นธรรมชาติ เราจึงควรมีความรู้เพื่อจัดท่าทางให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจวัตรประจำวันที่เราต้องทำอยู่เสมอ
ตอนนึ้จึงขอเสนอเรื่องท่าทางการเคลื่อนไหวที่ใช้กิจกรรมต่างๆ ดังนี้
การลุกจากเตียง
เริ่มต้นด้วยการตะแคงตัวไปด้านข้างที่อยู่ชิดริมเตียงหาท่าทางที่สมดุลของคุณ และแขม่วกล้ามเนื้อหน้าท้องให้เกร็งไว้ ค่อยๆ หย่อนขาของคุณลงจากขอบเตียงและใช้มือทั้งสองดันตัวขึ้นในท่านั่ง เลื่อนตัวมาข้างหน้าเพื่อให้คุณนั่งอยู่ขอบเตียง นั่งตัวตรง หลังของคุณอยู่ในท่าที่สมดุล กล้ามเนื้อหน้าท้องตึงตัวดีและสะโพกและขาพร้อมที่จะทำงาน ก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าและดันตัวโดยใช้มือทั้งสองข้างจะลุกยืนได้อย่างง่ายๆ
การยืนที่อ่างล้างหน้า
ในขณะที่โกนหนวดหรือแปรงฟัน วางแขนข้างหนึ่งไว้ที่อ่างน้ำเพื่อพยุงน้ำหนักตัว หรือมิฉะนั้นก็วางเท้าข้างหนึ่งไว้บนม้าเตี้ยๆ เพื่อช่วยผ่านแรงกดดันที่หลังของคุณ เมื่อคุณต้องเอนตัวไปข้างหน้าต้องระวังหลังของคุณให้อยู่ในท่าที่สมดุลเสมอ ใช้การงอตัวที่ระดับสะโพกและเข่าเพื่อลดตัวของคุณลงให้อยู่ในระดับอ่างน้ำ อย่าก้มหลังหรือโน้มตัวไปข้างหน้าไกลๆ
การอาบน้ำ
ขณะยืนอาบน้ำฝักบัว ต้องรักษาท่าทางให้ถูกต้องและใช้ฟองน้ำถูตัวที่มีด้านยาวในการอาบน้ำส่วนที่ต่ำกว่าหัวเข่า ขณะอยู่ในอ่างน้ำหลีกเลี่ยงการนั่งเหยียดขาตรง
แต่ควรงอเข่าข้างหนึ่งเพื่อพยุงหลังก่อนจะนั่งลงในอ่างน้ำหรือออกจากอ่างน้ำ ควรอยู่ในท่าคุกเข่าและระวังหลังของคุณให้อยู่ในท่าที่สมดุลเสมอ
การโกนขนที่ขา
ไขว้ขาข้างหนึ่งไว้บนอีกข้างหนึ่งในขณะนั่งอยู่ที่ขอบอ่างน้ำ
ถ้าเป็นฝักบัว ควรนั่งพิงหลังกับข้างฝาและงอเข่าขึ้นมาที่หน้าอก
ถ้ามีเก้าอี้พลาสติกจะช่วยให้ทำได้ง่ายขึ้น
การใส่ถุงเท้าและรองเท้า
นั่งลงและยกเท้าขึ้นมาหาคุณจะได้ทำหลังให้อยู่ในท่าทีสมดุล
หรือคุณอาจวางเท้าไว้บนม้านั่งหรือเก้าอี้ก็ได้
ถ้าคุณแน่ใจว่าหลังอยู่ในท่าที่สมดุลเมื่อคุณงอที่ระดับสะโพกและเข่า อย่างอตัวที่ระดับเอว
การใส่กางเกงใน
การใส่กางเกงในขณะที่คุณอยู่ในท่าปลอดภัยที่สุดหรือใส่ในขณะที่คุณยืนพิงผนังห้องเพื่อช่วยพยุงตัวไว้
การขับรถ
ควรนั่งตัวตรง เข่าของคุณไม่ควรสูงกว่าสะโพกมากนัก ใช้หมอนเล็กๆ
หรือผ้าขนหนูม้วนหนุนไว้ด้านหลังส่วนล่างจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายขึ้น ดูแลให้ศีรษะพิงไปข้างหลัง
และไหล่พิงไปข้างหลังและผ่อนคลาย
ปรับที่นั่งเพื่อที่คุณจะไม่เอนตัวไปด้านหน้า ถ้าคุณไม่สามารถอยู่ในท่าที่ดีได้
คุณอาจต้องการซื้อที่พยุงหลังใส่บนที่นั่งช่วยอีกแรงหนึ่ง
ถ้าคุณอยู่ในรถนานกว่า 15 นาที ควรยืดกล้ามเนื้อในที่นั่งของคุณสัก 2-3 ครั้ง ด้วยการแอ่นหลังของคุณและขมิบก้นแล้วจึงทำให้หลังแบนราบลง
ถ้าเป็นไปได้ ควรยกแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะ
การนั่งลงและลุกขึ้น
เมื่อคุณเคลื่อนไหวจากท่ายืนเป็นท่านั่ง เลื่อนเท้าของคุณให้เท้าข้างหนึ่งเหลื่อมมาข้างหน้า
ย่อเข่าลงให้หลังอยู่ในท่าที่สมดุลและค่อยลดตัวลง ใช้มือจับด้านหน้าของเก้าอี้
นั่งลงบนขอบหน้าของเก้าอี้แล้วจึงเลื่อนตัวไปข้างใน
เมื่อจะลุกขึ้นให้ถัดตัวมาข้างหน้าริมขอบที่นั่ง
เลื่อนเท้าให้เหลื่อมกันและใช้กล้ามเนื้อขาและสะโพกในการยืนขึ้น
ดูแลให้หลังของคุณอยู่ในท่าที่สมดุลตลอดเวลา
การนั่งที่โต๊ะทำงาน
ให้หลังของคุณในท่าสมดุลที่สบาย อย่าเลื่อนตัวไถลไปข้างหน้าหรือให้ศีรษะและไหล่ยื่นไปข้างหน้า
หรือก้มต่ำลงในขณะทำงาน ใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังตอนล่าง หรือใช้หมอนรองเอวถ้าจำเป็น
* หากคุณมีเก้าอี้ชนิดปรับความสูงได้
ควรปรับเก้าอี้ให้เข่าของคุณอยู่ในระดับเดียวกันหรืออยู่ต่ำกว่าสะโพกเล็กน้อย
และเท้าวางราบอยู่บนพื้นหรือวางอยู่บนที่วางเท้า ถ้าขาของคุณสั้นหรือเก้าอี้ของคุณปรับไม่ได้
คุณอาจต้องใช้กล่องเล็กๆ วางไว้ใต้เท้า ถ้าต้นขาของคุณไม่ยาวพอที่จะนั่งไปถึงด้านหลังของเก้าอี้ จงใช้หมอนหรืออะไรอื่นรองด้านหลังของคุณไว้
สำหรับผู้ที่สูงมากๆ ควรจะดูว่าเก้าอี้นั้นมีที่นั่งลึกพอที่จะรองรับต้นขาได้หรือไม่
* ถ้าหากคุณทำงานกับคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ดและจอภาพควรจะอยู่ตรงหน้าคุณ
ส่วนบนของจอภาพควรอยู่ประมาณระดับสายตา ข้อมือควรจะอยู่ในท่าที่สมดุล (ไม่งอขึ้นหรือลง)
และแขนท่อนล่างควรขนานกับพื้น
* ถ้าคุณใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ลำตัวของคุณควรอยู่ในท่าเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้ว
อย่างไรก็ตามคุณยังจำเป็นที่จะต้องมองลงล่างเพื่อดูจอ จงทำเช่นนี้ด้วยการลดสายตาลงไม่ใช่ก้มคอลง
++++
สำหรับวิธีการป้องกันการปวดหลัง
สามารถป้องกันได้โดยวิธีง่ายๆ เช่น
นั่ง นอน ยืน เดินให้ถูกท่า หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ให้แข็งแรง อยู่เสมอ
เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
ช่วยลดแรงที่จะกระทำต่อข้อกระดูกสันหลังเพื่อชะลอความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามอายุ
ส่วนการรักษาอาการปวดหลัง
การรักษาขึ้นกับสาเหตุ ถ้าอาการปวดหลังเกิดจากท่วงท่าที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องพยายามปรับปรุงแก้ไข เช่น
ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง เวลานั่งต้องนั่งให้หลังชิดพนัก มีที่เท้าแขนขา สามารถวางราบบนพื้นได้ เป็นต้น ถ้าอาการปวดหลังเกิดจากข้อกระดูกสันหลังเสื่อมโดยยังไม่มีอาการขาอ่อนแรงชัดเจน
การรักษาส่วนใหญ่ใช้วิธีการทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เช่น
การดึงหลัง การอบความร้อน การกระตุ้นไฟฟ้าลวดปวด เป็นต้น
*** สรุปคือ แก้ด้วยวิธีพุทธศาสตร์ ควบคู่ วิทยาศาสตร์ จะได้ แข็งแรง หายป่วย รวยเรื้อรัง
ไฟล์แนบ
#21
โพสต์เมื่อ 09 August 2006 - 12:01 PM
ขออนุโมทนาบุญ ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ