
ข้อความประทับใจของ อปท.ที่ไปโพสในเวปแห่งหนึ่ง
#1
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 06:27 PM
♣ ถึงจะเป็นสมาชิกองค์กรส่วนท้องถิ่น อยู่ชนบทแต่ก็รักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ เมื่อมีโอกาสที่จะได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความจงรักภักดีจึงสมัครใจมากัน และอยากจะได้มีโอกาสพบปะคนในหน่วยงานส่วนท้องถิ่นซึ่งไม่เคยมีโอกาสพบปะกันจำนวนมากเช่นนี้มาก่อน ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกัน ความจริงอยากมากันมากกว่านี้แต่ทางกรมฯขอให้มาแค่ 10 คน หวังว่าปีหน้าคงจะมีการจัดงานเช่นนี้อีก และขอโอกาสให้ได้มากันมากกว่านี้
ดีใจที่ได้มาร่วมงาน ได้มาเห็นความจริง ทั้งเรื่องนายก และเรื่องวัดธรรมกาย ได้มาเห็นความจริงแล้วรู้เลยว่าที่ผ่านมาหลงเชื่อสื่อมากไป นายกพูดอย่างสื่อเอาไปลงอีกอย่างแม้แต่ข่าวของวันงานนี้ก็ยังมีสื่อที่เสนอข่าวไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง วัดธรรมกาย ก็เป็นวัดทึ่ดี สะอาด สะดวก คนที่ไปวัดก็สุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มต้อนรับเป็นอย่างดี
ภาพของการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพการสมานฉันท์ของคนต่างศาสนา ภาพการยิ้มแย้มทักทายกันของคนที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่อยู่ในหน่วยงานส่วนท้องถิ่นเหมือนกัน ภาพของชาววัดธรรมกายที่ยิ้มแย้มและให้ต้อนรับชาว อปท. อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ภาพและเรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏบนสื่อฉบับใดๆ แต่อยู่ในใจของชาว อปท.ที่ได้มีโอกาสมาร่วมงาน
ขอชื่นชมและขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมช่วยให้มีงานนี้เกิดขึ้น
บทความนี้มาจากข่าวออนไลน์ของเวปข่าวสดครับ
ผมไปอ่านพบว่า คนที่ไม่ได้มาส่วนใหญ่จะพูดว่าไม่ควรจัด แต่คนที่มาร่วมงานอยากให้จัดทุกปี แปลกดีนะครับ
ผมหวังว่าสักวันหนึ่งสื่อหนังสือพิมพ์บ้านเราจะมีคิดได้และปรับปรุงตัวได้ ผมเชื่อว่าต้องมีวันนั้น
อนุโมทนาบุญกับ อปท. และเจ้าของบ้านเจ้าของวัดทุกคนนะครับ
#2
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 06:39 PM
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#3
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 06:53 PM
#4
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 06:58 PM
#5
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 08:21 PM
เห็นด้วยค่ะ แปลกอย่างนี้มานานแล้ว
ขอให้คนไม่ได้มาวัด ให้ได้มาวัด
จะได้ไม่ต้องอธิบายว่าวัดจัดงานยังไงโดยที่เขาก็ไม่เปิดใจรับฟังอยู่ดี
จะได้เข้าใจกันสักทีเน้อ
เพื่อนๆ พี่น้องๆ ไปชวนคนมาวัดกันอีกนะคะ : )
#6
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 08:34 PM
ท่านเป็นผู้นำ ทำได้อยู่แล้ว
#7
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 08:59 PM
#8
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 10:12 PM
จาก ๒ เป็น ๔
ขยายสิ่งดีดี
ทำโลกนี้ให้สวยงาม
ด้ายเส้นเดียว .........ไม่เป็นผืนผ้า
อิฐก้อนเดียว .... ไม่เป็นบ้านเรือน
ทำบุญคนเดียว ...ไม่เป็นกัลยาณมิตร
#9
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 12:30 AM
#10
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 12:44 AM
#11
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 08:46 AM
#12
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 09:19 AM
#13
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 11:22 AM
#14
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 11:42 AM
#15
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 12:03 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#16
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 12:04 PM
ต้องพามาอีกๆ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#17
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 01:43 PM
อยากให้สื่อที่มีอคติ ได้อ่านจังเลยค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 03:46 PM
สาธุ
ชวนกันมาวัดอีกนะคะ
#19
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 06:15 PM
#20
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 09:41 PM
ผมหวังว่าสักวันหนึ่งสื่อหนังสือพิมพ์บ้านเราจะมีคิดได้และปรับปรุงตัวได้ ผมเชื่อว่าต้องมีวันนั้น
ถ้าเราเข้าใจสื่อนะครับ ต้องเห็นใจสื่อมวลชน นะครับ ถ้าเขียนข่าวแล้วไม่มีคนดู ไม่ตื่นเต้น ก็ต้องโดน บก. ไล่ออกแน่
ผมชอบวิเคราะห์ครับ จะลองวิเคราะห์ การมีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าว คอลัมนิสต์ นะครับ แต่ขอบอกก่อนนะครับผมไม่ได้มีอาชีพเป็นสื่อมวลชนนะครับ แค่เป็นผู้ชอบติดตามข่าวสาร และสังเกตการณ์เท่านั้นเอง
จะมีโจทย์อยู่ 1 โจทย์จาก บก. เนื่องจากมีนักข่าวทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก และพื้นที่ในหน้าหนังสือพิมพ์ ในการลงข่าวแต่ละประเภทค่อนข้างจำกัด ดังนั้นใครได้ลงข่าวที่ตนเองเขียนส่งไปต้นสังกัดก็จะถือว่าตนเองเจ็งสุดยอด ได้รับเกียรติยศชื่อเสียง แถมได้กล่องจากเจ้านายอีก (มีใครบ้างล่ะไม่อยากได้ อยากมี)
เอาล่ะนี่แหละเป็นโจทย์อันยิ่งใหญ่ของอาชีพนักข่าว แล้วจะมีวิธีใดบ้างล่ะที่เราจะได้ข่าวมา ได้มาแล้วต้องส่งไปให้ทีม บก. คัดเลือก ต้องแข่งกับเพื่อนนักข่าวด้วยกันอีกทั่วประเทศ บก.ก็จะคัดเลือกว่าข่าวไหนที่ลงไปแล้วมีผู้สนใจที่จะอ่าน ถ้าข่าวไหนมีเรื่องเขียนบรรยายแล้วเป็นข่าวต้องติดตามอีกหลายวัน ข่าวนี้ขายได้ เพราะลงต่อเนื่องได้หลายวันหนังสือตนเองก็จะมียอดจำหน่ายดี
ทีนี้ต้องทำอย่างไรล่ะถึงจะมีข่าวในลักษณะข้างต้นคือ ข่าวดัง ข่าวเด่น ข่าวที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนทุกระดับชั้น ข่าวที่มีความต่อเนื่องของเนื้อหาสามารถลงต่อเนื่องหลายๆวัน ที่นี้ผมจะลองสมมุติเนื้อหาของข่าวในเชิงบวกนะครับ จะมีอปท.ทุกศาสนาทั่วประเทศมารวมตัวกันเพื่อเทิดไท้องค์ราชัน ครองราชครบ 60ปี มารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติธรรม ถือศีลเจริญภาวนา ที่วัดพระธรรมกาย ซึ่งวัดนี้มีประวัติความเป็นมายิ่งใหญ่ เป็นวัดที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีความสงบลมเย็นเป็นระเบียบเรียบร้อย สถานที่ใหญ่โตรองรับคนได้จำนวนเป็นล้านคน ห้องน้ำที่นี่สะอาดมากๆ ใครที่มาร่วมงานในวันนี้จะเป็นต้นบุญต้นแบบของการปฏิบัติดีงามให้แก่สังคม
เอาแค่นี้ก็แล้วกันเขียนไม่ค่อยเก่ง ถ้าสมมุติว่าบก. นำข่าวนี้ไปลง เป็นงัยหรือครับ ก็จะมีคนอ่านแล้วก็จะผ่านพ้นไปเลย ถึงแม้คนวัดอย่างพวกเราพออ่านแล้วก็จะยิ้มเล็กๆ ที่มุมบอกปลื้มอยู่ในใจ ใช่มั๊ยครับ ถามว่าเป็นข่าวดังมั๊ยครับการที่มีคนมารวมตัวกันเป็นแสนคนทั่วประเทศแถมไม่ธรรมดาอีก ที่มาหลายศาสนามารวมตัวกันสร้างความดี แน่นอนเป็นข่าวดังแน่นอน จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ขาดหายไปของการนำบทความนี้ไปลงข่าวคือ ไม่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนทุกระดับชั้น เพราะเป็นข่าวที่ไม่เป็นลักษณะความขัดแย้ง แค่ชมเชยหรือแค่บอกข่าวว่ามีเหตุการณ์แบบนนี้ขึ้นเท่านั้น เมื่อไม่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนทุกระดับชั้น ก็จะไม่มีสิ่งนี้คือข่าวที่มีความต่อเนื่องของเนื้อหาสามารถลงต่อเนื่องหลายๆวัน
ก็คงจะพอสรุปได้นะครับ การเขียนข่าวที่ดี จะไม่ได้ความว่า ข่าวนั้นเป็นข่าวดี สำหรับนักข่าวใช่มั๊ยครับ นักข่าวมักจะตั้งประเด็นให้เกิดความสนใจต่อข่าวเสมอ ถึงแม้จะมีข่าวแต่ด้านลบนะครับ แต่พอถึงวันที่จัดงานผ่านไป จะมีภาพดีๆ ออกสู่สายตาจากการประชาสัมพันธ์ของสื่อ จากผู้ที่มาร่วมงาน 1 แสนคน x 10(ผู้ร่วมงานนำกลับไปบอกคนที่บ้าน) รวมแล้วหลายล้านคนครับ งานนี้คุ้มครับ
#21
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 09:35 AM
วันนี้ มาถึงช้าจัง
อยากให้คิดกันได้นานแล้ว
แต่ก็ยังไม่สายเกินไป
ขอให้ทุกท่านเข้าใจวัดด้วยดี
#22
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 10:09 AM
ดังนั้น พวกเราจะต้องมาช่วยกันเปลี่ยนเทรนใหม่ให้สังคม ด้วยการสนใจแต่เรื่องดีๆ ของชาวบ้าน หากทำได้เช่นนี้ จะเกิดกระแสใหม่ในสังคม และสื่อมวลชนก็จะตามกระแสใหม่นี่เองครับ
#23
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 01:02 PM
#24
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 04:53 PM
#25
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 11:42 PM
แต่ผมไม่เห็นด้วยครับ
ผมว่าคนไทยถูกยัดเยียดให้อ่านข่าวร้ายมากกว่า
ในเมืองไทยมีสื่อสีเทามากมาย ก้อเลยเหมาเอาว่าคนคงชอบข่าวแบบนั้น
คนอยากอ่านข่าวดีๆก้อมีมากครับ
พวกเราไม่เข้าใจคำว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม กับคำว่า หนึ่งถูกดีกว่าล้านผิด
เหมือนพวกเรา ถ้าพวกเราไม่ชวนคนทำบุญเราก้อจะไม่รู้ว่าคนที่สนใจทำบุญยังมีอีกมาก
แต่ถ้าเราคิดแทนว่าชวนเขาคงไม่ทำก้อเลยไม่ชวน แล้วเราก้อเลยไม่รู้ว่าคนอยากทำความดียังมีอีกมาก
ผมว่าสังคมไทยเราสอนให้คิด Negative thinking จนชิน
#26
โพสต์เมื่อ 22 July 2006 - 06:38 AM
ลุ้นระทึกอีกสักหน่อย
กับการเมืองที่เลื่อนลอยตอนนี้
สุดท้าย ผลสรุปคงดั่งสายตาที่หลวงพ่อท่านทอดไว้ ให้เราได้อุ่นใจเบื้องต้น
ช่วง นี้ก็มีข่าวใส่ร้ายใส่สี ในกลุ่มเดิม ๆ คงช่วยกันแก้ต่างในระยะยาวต่อไปน่ะล่ะ ให้เราได้วัดใจ ฝึกฝนพลังใจกันต่อไป ถ้าเราไม่ช่วยกัน ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราเนาะครับ อนุโมทนาบุญ ร่วมกันในงาน อปท.น่ะครับ
#27
โพสต์เมื่อ 22 July 2006 - 08:53 AM
ดีใจที่มีคนเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับวัดได้ถ่องแท้ขึ้น...
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น... ถ้าได้ลองมาพิสูจน์สักครั้งความจริงก็ย่อม
ปรากฏให้เห็นในใจของผู้มาสัมผัส
ขออนุโมทนาสาธุ กับผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ทุกท่านครับ

#28
โพสต์เมื่อ 10 August 2006 - 07:57 PM
ที่มาช่วยงานในวันนั้นกัน
สาธุค่ะ
#29
โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 03:02 PM