

อยากสร้างพระธรรมกายประจำตัว
#1
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:03 PM

#2
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:06 PM
พระธรรมกายประจำตัว 1 องค์ จารึกชื่อได้ 1 ชื่อครับ ต้องเป็นชื่อบุคคลเท่านั้น มีชีวิตหรือถึงแก่กรรมแล้วก็ได้
แต่เป็นชื่อสกุล บริษัท ห้างร้าน ไม่ได้นะครับ เพราะวัตถุประสงค์ของพระธรรมกายประจำตัว คือ พระประจำตัวของแต่ละบุคคลที่เป็นมนุษย์เท่านั้น
ถ้ามีกำลังพอ ก็ทำสามารถบริจาคครบ 15,000 บาทได้เลยครับ
หรือ ถ้าไม่มีก็ใช้วิธีสะสมบุญค่อยๆ ทยอยทำเอา จนกว่าจะครบ 15,000 ครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#3
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:18 PM
#4
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 04:55 PM
*บุญ
#6
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 05:21 PM
#7
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 05:27 PM
ถ้า มา วัด วัน ธรรม ดา
ไป ที่ สำ นัก งาน ใหญ่ ตรง ช้าง เอ รา วัณ นะ คะ
จะ มี ห้อง รับ บริจาค ชื่อ ห้อง ขัน ติ
ถ้า เป็น วัน อา ทิตย์ ที่ สภา ธรรม กาย ตู้ รับ บริจาค ค่ะ
ตรง เสา P 12 ช่อง 7-12 ค่ะ
หรือ เสา B 12 ของ สภาธรรมกายสากลค่ะ..
อ นุ โ ม ท น า บุญ ด้ ว ย น ะ ค ะ
ส า ธุ
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#8
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 05:49 PM
หรือ ถ้าไม่มีก็ใช้วิธีสะสมบุญค่อยๆ ทยอยทำเอา จนกว่าจะครบ 15,000 ครับ
ทยอยก็ได้ครับเดือนล่ะ1000 ครับ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#9
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 06:48 PM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#10
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 07:06 PM
#11
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 07:42 PM
ถ้าไปวัดวันอาทิตย์ ก็ไปที่ตู้คอนเทนเนอร์ (เป็นที่รับบริจาค) ข้างทิศตะวันตก กับตะวันออก ของสภาธรรมกายสากล
แล้วก็แจ้งเจ้าหน้าที่เหรัญญิก ว่า ประสงค์จะทำบุญสร้างองค์พระ แล้วก็ทำบุญได้เลย
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 08:13 PM
#13
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 08:19 PM
#14
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 08:29 PM
#15
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 08:53 PM
ไม่น่าจะเรียกว่า การผ่อน นะ น่าจะเรียกว่า สะสม ทะยอยบุญมากกว่า เหมือนเราเก็บสะสมเงินหยอดกระปุก นั่นหมายถึง หากเรามีปัจจัยก้อนแรก เราก็เอาไปทำบุญ
ค่อยๆ ทำไปทุกๆ เดือน แต่ถ้าไม่คุ้นวิธีนี้ ก็สะสมเก็บไว้ในธนาคารของเราเอง พอครบแล้วค่อยนำไปทำบุญทีเดียวเลยก็ได้ ( แต่ต้องแน่ใจตัวเองนะจ๊ะ ว่าจะไม่ไปเบิกเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่นซะก่อน ส่วนใหญ่จะลงเอยคือ ไม่ได้เอาไปทำบุญมากกว่า )
ป.ล. บางคนทั้งๆ ที่มีกำลังทำบุญมาก คือ สามารถทำได้สบายๆ โดยไม่เดือดร้อน แต่ชอบหยอดๆ ขยักการทำบุญ เวลาบุญส่งผล ก็จะได้อะไรมาแบบขยักๆ ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ยกเว้นว่าปัจจัยเรามีน้อย จำเป็นต้องทำแบบสะสม แต่ทว่าเรามีความศรัทธาเลื่อมใส ปีติในบุญเต็มที่ ใจอยู่ในบุญ ตั้งใจทำบุญอย่างเต็มกำลังของเรา อย่างนี้ก็ได้บุญเต็มที่ค่ะ
#16
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 09:04 PM
#17
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 09:29 PM
สาธุชนหลายๆคนไม่สะดวกที่จะรวบรวมปัจจัยเป็นเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวได้
จึงมาขอร้องว่าให้ค่อยๆนำมาบริจาคทีละน้อยได้หรือไม่ ถึงแม้จะใช้เวลามากหน่อย แต่ก็จะพยายามทำให้ครบ
ที่วัดจึงเห็นใจว่า หากต้องให้สาธุชนเหล่านี้นำเงินก้อนมาทำทีเดียว เขาอาจจะไม่มีโอกาสทำได้เลย
ดังนั้นจึงเปิดให้มีการทยอยทำบุญได้ (ก็ที่พวกสื่อเอาไปเล่นว่า ทำบุญแบบผ่อน เนี่ยแหละ)
แปลกตรงที่ว่าแทนที่จะมองว่าเป็นสิ่งที่ดี คือเป็นการเปิดกว้างให้สาธุชนมากขึ้น
(วิธีนี้ทำให้ นักเรียน นักศึกษา สามารถสร้างองค์พระประจำตัวเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น)
ไม่ต้องลำบากให้สาธุชนต้องนำเงินก้อนมาบริจาคภายในครั้งเดียว
สื่อกลับไปโจมตีว่ามีการบริจาคเงินผ่อนซะอย่างงั้น
ดังนั้น คุณ Meritorious Brother อ่านแล้วก็ทำความเข้าใจ
คิดใหม่ ทำใหม่นะครับผม
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#18
โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 11:24 PM
ผมว่าจะทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว ไปที่วัดก็ดีครับ ไปดูมหาธรรมกายเจดีย์ที่เขาจะนำองค์พระไปประดิษฐานด้วยครับ จะได้ปีติใจมากขึ้นครับ ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีคนดีมากมายมารวมตัวกันสร้างความดีครับ
#19
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 02:58 AM
ลูกหลวงพ่อ ไม่น่าพูดแบบนี้เลยคร้าบ เรื่องของการผ่อน หรือว่า ดอกบี้ย อะไรนั่นน่ะ เด่วบุญบกพร่อง เป็นบาปปากเปล่า สำหรับคนที่มีจิตศัทรา แต่อยากทยอยบุญ สั่งสมบุญ ทางวัดก็เปิดโอกาสให้ ทยอยบุญได้ เมื่อครบองค์พระแล้ว ก็จะมีพระของขวัญ มอบให้ ตอนนี้รู้สึกว่าจะเป็น องค์หลวงปู่ ใส่กรอบให้เป็นที่ระลึกบูชา แต่ขอแนะนำว่า ด้วยจิตที่เป็นกุศล หมั่นอธิฐาน หลายท่านสร้างองค์พระสำเร็จโดยเร็ววันมาหลายท่านแล้ว ยิ่งถ้าได้ประจักษ์ อัศจรรย์ตะวันแก้วด้วยแล้ว ยิ่งอยากรีบสร้างพระประจำตัวชื่อเราไว้ให้ พระภิกษุ สาธุชนกราบไว้บูชานับพันปี บุญยิ่งทับทวี กับพระของเราที่มีคนมากราบไหว้นานเท่านานเลยละคร้าบ
เลือกเอา ใจใสๆ
#20
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 08:49 AM
บริจาคเงินผ่อน แปลว่า อะไรครับ แล้วดอก 0% แปลว่า อะไรครับ ช่วยอธิบายขยายความด้วย
อยากให้คุณลองไปศึกษาพระไตรปิฎกดูนะครับว่า พระพุทธเจ้าเคยเทศน์เรื่องบุญระบบผ่อนหรือไม่ ผมยืนยันเลยว่าไม่มีแน่นอน มีแต่สอนว่า บุญเกิดทุกครั้งที่ทำ
ถ้าจะเทียบเคียงก็เช่น
1) กรณีที่วัดต่างๆ ให้ทำบุญจารึกชื่อ ตามถาวรวัตถุเช่น หน้าต่างพระอุโบสถ หรือ กำแพงวัด เป็นต้น แต่ละวัดก็มีกติกาว่า ต้องทำบุญเท่านั้น เท่านี้ จึงจะมึสิทธิจารึกชื่อ แต่ถ้าไม่ประสงค์จะจารึกชื่อ จะทำบุญเท่าไหร่ ทางวัดก็ไม่ขัดข้อง ดังนั้นสาธุชนที่ปรารถนาจะจารึกชื่อตามถาวรวัตถุก็ต้องทำตามกติกาที่ตกลงกัน ถูกต้องหรือไม่
2) หรือบางครั้งมีผู้ใจบุญบางคนต้องการสร้างถาวรวัตถุในวัด เช่น หอระฆัง หรือ ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ ต่างๆ เป็นต้น แล้วก็เรียกช่างรับเหมามาตีราคาค่าก่อสร้าง พอตีราคาแล้วก็มีการจ่ายค่ามัดจำ แล้วก็ค่อยจ่ายเงินในภายหลังที่สร้างเสร็จ หรือ จ่ายเงินเป็นงวดๆ คุณคิดว่า การที่ผู้ใจบุญจ่ายเงินให้ช่างรับเหมาแบบนั้น เป็นการผ่อนบุญหรือไม่
ผมคิดว่ากรณีเทียบเคียงที่ผมยกตัวอย่างมาข้างบน คุณคงเคยเห็นนะครับ
การสร้างพระธรรมกายประจำตัวก็เช่นเดียวกัน
ถ้าคนที่มีกำลังทรัพย์ไม่มาก แต่อยากทำ เขาก็ค่อยๆ สะสมทำเอา ซึ่งแน่นอน บุญย่อมเกิดทุกครั้งที่เขาทำ แม้จะเป็นเงิน 5, 10, 100, 500 หรือ 1,000 บาทก็ตาม แต่ถ้าทำจนครบ 15,000 เมื่อไหร่ ก็จะได้มีสิทธิจารึกชื่อที่ฐานองค์พระตามกติกาที่ได้ตกลงกันเอาไว้ แต่ไม่ว่าจะได้จารึกหรือไม่ก็ตาม บุญย่อมเกิดขึ้นทุกครั้งที่ทำ
ไม่ใช่ว่าต้องทำครบ 15,000 ก่อน บุญถึงจะเกิดนะครับ ลองไปทำความเรื่องการทำบุญที่พระพุทธองค์สอนให้เข้าใจดีๆ ด้วยนะครับ
ด้วยเหตุนี้ ถ้าคุณจะกล่าวหาว่า มีระบบเงินผ่อน ดอก 0% เท่ากับว่า คุณกำลังกล่าวหาวัดแทบจะทุกวัดในประเทศไทยนั่นแหละครับ
กรุณาลองพิจารณาด้วยปัญญาของท่านดูด้วยให้ลึกๆ
อย่าเอาอคตินำหน้า แล้วนำอคตินั้น พูดออกมาเป็นวาจาให้ตนเองต้องไปรับกรรมที่เผ็ดร้อนเพราะวิบากกรรมอันเกิดจากอคติ และ การพูดด้วยอารมณ์คะนองปากในภายหลังเลยครับ
ที่พูดตรงและแรงก็เพราะอยากจะให้คุณสำรวมวาจาและคำพูดมากกว่านี้ และ ปรารถนาดีที่จะให้คุณไม่ต้องสร้างวิบากกรรมด้วยวาจาเพิ่มนะครับ
ถ้าได้คิด แล้วคิดได้ จะมาร่วมเส้นทางเดียวกันก็ยินดีครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#21
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 09:27 AM
#22
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 12:53 PM
หลังจากที่เธอได้ขอใช้ชื่อ น้องชายของคุณ Merry Ma ซึ่งเห็นว่าไม่เหมาะค่ะ
ก่อนหน้านี้พี่แมรี่แนะนำให้ตั้งชื่อใหม่ (เคยใช้ นึกชื่อไม่ออก <-เห็นธรรมกายไหม <-อิอิ...)
และตอบคำถาม + แนะนำให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับวัดให้ชัดเจนขึ้น ทาง pm
เป็นการดีนะคะ ที่น้องชายท่านนี้(พี่ก็ไม่เคยรู้จักค่ะ)ไม่เคยเข้าวัดเลย แต่ได้เข้ามาร่วมโพสต์กระทู้กับพวกเรา
ซึ่งพี่ขอให้อโหสิกับการโพสต์กระทู้แบบยังไม่เข้าใจเรื่องบุญ ทำให้พวกเรารู้สึกว่าใจแห้งแล้งไปหน่อย
ก็ขอฝากให้ช่วยๆกัน ค่อยๆแนะนำแบบอดทนอดทนหน่อย ให้เข้าใจมากยิ่งๆขึ้นนะคะ สาธุค่ะ
สำหรับน้องชาย Meritorious Brother ขอให้น้องเข้ามาอ่านและทำควาเข้าใจมากยิ่งขึ้นนะคะ
แล้วจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นในชีวิตของน้องเอง พวกเรายินดีต้อนรับน้องเสมอค่ะ
แต่เวลาโพสต์ก็ขอให้อ่านสิ่งที่ท่านอื่นๆได้ให้ความเห็นและทำความเข้าใจมากขึ้นซะก่อนนะคะ
มีโอกาสก็ลองมารู้จักเจอตัวเป็นๆ กันก็ได้ ขอเชิญที่วัดพระธรรมกายนะคะ
ถ้าเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับอานิสงส์การสร้างพระแล้ว ขอชวนน้องชาย Meritorious Brother
ทำบุญสร้างพระสักองค์ ลองดูค่ะ พี่ขออธิษฐานให้น้องชายคนนี้มีดวงปัญญาที่สว่างยิ่งขึ้นนะคะ
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#23
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 01:00 PM
#24
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 01:49 PM
ที่มีจริยาวัตรแห่งกัลยาณมิตร

เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#25
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 04:19 PM
รักบุญ เชื่อในบุญ
mata072 windowslive.com
#26
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 05:31 PM
รีบๆสร้างเลยค่ะ จะได้มาปลื้มบุญนี้ด้วยกัน โดยเฉพาะเวลามองมหาธรรมกายเจดีย์แล้วรู้สึกว่ามีพระมี่จารึกชื่อเราอยู่ด้วย
#27
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 06:48 PM
#28
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 09:54 PM
ไปดูที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5830
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เป็นอสาธารณะ และ เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลเท่านั้น เหมือนกับคำที่ว่า
ตาดี มีบุญ ถึงจะได้เห็น
ที่ผมกล่าวเช่นนี้เพราะ วันที่เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว เพื่อนผมที่ต้องการลองดีและไม่เชื่อ แต่อยากจะไปดูว่าจริงหรือไม่ ก็ไปร่วมงานด้วย ปรากฎว่ามีแต่เค้าคนเดียวนี่แหละที่มองไม่เห็นอัศจรรย์ตะวันแก้ว เห็นแต่แสงพระอาทิตย์เปรี้ยงๆ ทั้งๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ กับผม แล้วยังถามพวกผมด้วยซ้ำว่ามองไปได้ยังไง แสงอาทิตย์แรงแสบตาขนาดนั้น ต่อมาภายหลังก็มานั่งบ่นว่า "ทำไมไม่เห็นอยู่คนเดียว ทำไมไม่เห็นอยู่คนเดียว"
ดังนั้น ผมถึงบอกว่า สิ่งนี้เป็นอสาธารณะ เห็นเฉพาะผู้ที่มีบุญและเชื่อมั่นในอานุภาพบุญเท่านั้น คนที่คิดแต่จะลองดีก็ไม่มีวาสนาจะได้เห็น แม้จะยืนอยู่ในสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว แบบเพื่อนผมก็ตาม
ถ้าคุณได้อ่านลิงค์ที่ผมส่งให้แล้ว ขอฟังหูไว้หูนะครับ ซึ่งสิ่งนี้เป็นวิสัยของบัณฑิต คือ อย่าพึ่งเชื่อและอย่าพึ่งค้าน ค่อยๆ ศึกษาเวปนี้ไปนะครับ เพราะเวปนี้นอกจากจะมีเวปบอร์ดแล้ว ก็ยังมีบทความต่างๆ ผลการปฎิบัตธรรม มินิซีรีย์ พุทธประวัติ รวมไปถึง การชมรายการของช่อง DMC และ ช่วงถ่ายทอดสดโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย