
ทำงัยดีให้เขาเลิกตบยุง
#1
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 10:57 PM
มีวิธีการอย่างไรกันบ้างครับ
คน ๆ นั้นค่อนข้างดื้อด้วยครับ
#2
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 12:34 AM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#3
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 03:32 AM
....ใครคิดว่าจะรักษาศีล ๕ ไม่ได้บ้าง ? มีไหม ยกมือซิ ?
หลวงพ่อ : หนูทำไม่ได้หรอ เป็นเพราะอะไรล่ะ ?
ตอบ : หนูเลิกตบยุงไม่ได้ค่ะ
หลวงพ่อ : ขอถามคุณหนูหน่อยนะ คุณหนูตบยุงมาหลายปีแล้ว ยุงมันลดลงบ้างไหม ?
ตอบ : ไม่ลดค่ะ
หลวงพ่อ : หนูคิดว่าถ้าตบยุงต่อไป ยุงจะหมดไปไหม?
ตอบ : ไม่หมดค่ะ
หลวงพ่อ : แล้วตบไปทำไมล่ะ?
ตอบ : มันกัดค่ะ
หลวงพ่อ : ฟังให้ดีนะลูก หลวงพ่อขอเล่าประสบการณ์การไปต่างประเทศของหลวงพ่อให้ฟังสักหน่อย หลวงพ่อได้ไปมาแล้วหลายประเทศ ครั้งสุดท้ายไปอเมริกามา บางรัฐในประเทศอเมริกาไม่มียุง แต่เดิมที่นั่น ยุงของเขาชุมกว่าเมืองไทยอีก แต่ปัจจุบันนี้เขาไม่มียุง เขาทำอย่างไร? เขาทำได้เพราะว่า เขาไปแก้ที่ต้นเหตุ อะไรคือต้นเหตุที่ทำให้ยุงชุม ?
ตอบ : น้ำเน่าค่ะ
หลวงพ่อ : เก่งมาก น้ำเน่าที่ขังอยู่หลังบ้าน เป็นต้นเหตุที่ทำให้ยุงชุม เพราะยุงจะอาศัยเป็นที่เพราะพันธุ์ คนของเขามีปัญา แล้วก็เป็นคนทำอะไรทำจริง ๆ จัง ๆ ไม่เหยาะแหยะ เขาไม่ดื้อรั้น เขาถมบ่อน้ำกันน้ำเน่า รอบ ๆ บ้าน รอบ ๆ เมืองของเขา ทำให้ยุงไม่มีที่เพราะไข่ยุง ยุงก็เลยสูญพันธุ์ไปโดยไม่ต้องตบ เพราะฉะนั้นถ้าหนูอยากให้เมืองนี้ยุงไม่ชุม คุณหนูก็ต้องช่วยกันหาทางถมน้ำเน่าน้ำครำข้างหลังบ้านเสีย ถ้ามันใหญ่นักก็บอกคุณพ่อคุณแม่ช่วยกัน ถ้ามันเป็นรอยต่อระหว่างบ้าน ก็บอกให้หลาย ๆ บ้านมาช่วยกันถมบ่อน้ำครำนั้นเสีย แล้วหนูก็ไม่ต้องตบยุงอีก หนูว่าดีไหม?....
ขอเสริมอีกนิดคับ...
เราตบยุงไปอีกกี่ล้านตัวก็ไม่ทำให้ยุงหมดไปได้แล้วมันก็จะมีตัวใหม่มากัดเราอีกอยู่ดี แล้วเราจะตบมันเอาบาปเข้าตัวเองทำไม แค่ปัด ๆ มันออกก็พอแล้ว อาจจะต้องปัดบ่อยสักหน่อยแต่ก็ดีกว่าที่จะต้องบาปแล้วต้องไปรับกรรมไม่ดีนะคับ ^^
#4
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 09:34 AM
#5
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 01:15 PM
ชั่วโมงนั่นกริชเรียนภาษาอังกฤษค่ะ คุณครูท่านก็ตั้งใจสอนมาก
มือนึงถือไม้เรียว มือนึงถือสือการสอน ในระหว่างที่ครูพูดนั้นเจ้ายุ่งตัวน้อยที่ไหนก็ไม่ทราบ
ก็มาดูดเลือดคุณครูเข้าให้ มือทั้งสองก็ไม่ว่างที่จะตบเจ้ายุ่งตัวแสบ คุณครูก็เลยยื่นแขน
ให้เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกันกับกริช และใช้สายตาชี้ให้ดูว่า ยุ่งมันกัดครูตบให้หน่อย
เท่านั้นแหละสัญชาตญาณของเพชรฆาตเพื่อนของกริชก็เงื่อมือขึ้น กะ จะตบให้เต็มแรง
กริชก็เลยสวมวิญญาณผู้ผดุงคุณธรรมจับมือเพื่อนไปได้ เรียกว่ารั้งมือเอาไป
แล้วกริชก็ปัดๆยุ่งตัวนั้นไป ทันใดนั้นสือการเรียนที่ครูถือก็ตบมาที่กริชแทน
หือ หือ ทำคุณบูชาโทษมั้ยเนี้ยเรา.....................
แต่ก็มานึกดีใจที่เราช่วยชีวิตยุ่ง และไม่ทำให้เพื่อนและครูมีวิบากกรรมอายุสั้น......จบ
#6
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 02:39 PM
ทำอย่างนี้ไม่ได้จ้า..... อย่างนี้ จะเป็นชนวนชวนทะเลาะวิวาทแบบลงไม้ลงมือกันแน่
เตือนแบบตรงให้ได้ผลทันทีไม่ได้ ก็ค่อยๆ ชวนดูเรื่องกฎแห่งกรรม หรือเคสฯ บ่อยๆ ครับ
#7
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 04:19 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#8
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 05:06 PM

พอเห็นใครตบก็ลืมตัวร้องห้ามซะดังเลย บางคนก็ไม่เข้าให้หาว่าเรานี่บ้า

#9
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 09:28 PM
ที่ต้นเหตุ แต่ถ้เจอปัญหาปลายเหตูก็ควรใช้ตะไคร้หอมเพราะไม่เป็นพิษ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#10
โพสต์เมื่อ 20 September 2006 - 09:37 PM
B: อันที่จริงพระพุทธศาสนาสอนเราให้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตทั้งหลาย ไม่เฉพาะแต่ยุงเท่านั้น
A: ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นครับ
B: ถ้ามีคนมากวนใจคุณ คุณจะฆ่าเขามั้ยคะ
A: ไม่หรอกครับ ผมไม่อยากถูกจับขังคุก
B: งั้นถ้ามีกฏหมายคุ้มครองยุง คุณจะยังฆ่ายุงอีกหรือเปล่าคะ...
เอ้อ...นั่นเป็นแค่เรื่องสมมุติ ขอให้มองอย่างนี้นะคะ...ตามหลักพระพุทธศาสนา การฆ่ายุงหรือสัตว์อื่นมีโทษอย่างน้อย 2 ประการ
A: มีอะไรบ้างครับ
B: ก่อนที่คุณจะฆ่ายุงนั้น คุณปล่อยให้ใจของคุณเพาะความโกรธแค้นยุงมามากจนฆ่ามันได้...หลังจากฆ่ายุงแล้ว แม้คุณจะรู้สึกหายโกรธ ใจคุณก็ยังถูกครอบงำด้วยความโกรธอยู่อีก...และเมื่อคุณยิ่งฆ่ามากเท่าใด โทสะก็ยิ่งครอบงำจิตใจคุณมากขึ้นเท่านั้น...ตอนนี้คุณเห็นด้วยรึยังคะว่า ในทันทีที่คุณทำร้ายผู้อื่น คุณก็ทำร้ายตัวเองด้วย
A: อืม..เป็นเรื่องที่เข้าใจยากนะครับ แต่ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร แล้วโทษประการที่สองคืออะไรครับ
B: คือความอาฆาตพยาบาทค่ะ ตามธรรมดาผู้ที่ถูกทำร้ายจะพยายามแก้แค้นผู้ที่ทำให้เขาเจ็บช้ำ
A: ยุงตัวเล็กจะแก้แค้นได้อย่างไร
B: โปรดระลึกไว้เสมอว่า สัตว์มีชีวิตทั้งหลายไม่ว่าจะเล็กขนาดไหนล้วนมีจิตใจทั้งสิ้น ทันทีที่ชีวิตจบลง จิตก็จะออกจากร่างที่ตายแล้วนั้นไปเกิดใหม่อีก...นี่คือเหตุผลว่าทำไมสังสารวัฏไม่มีวันจบสิ้น...คุณจะยอมเชื่อในโทษภัยประการที่สองได้ ถ้าคุณยอมรับว่าทั้งสัตว์ใหญ่และเล็กล้วนรักชีวิตทั้งสิ้น
A: แต่ยุงทำร้ายผมนะ ผมไม่มีสิทธิ์ป้องกันตัวเลยหรือครับ
B: คุณมีสิทธิ์ค่ะ ด้วยการปัดมันออกไป ไม่ใช่ฆ่ามัน เพราะว่ายุงมันไม่ได้ตั้งใจจะเบียดเบียนคุณเลย...ยุงเพียงแต่ขอเลือดคุณสักหยดเพื่อประทังชีวิต คุณจะแบ่งให้ด้วยความเมตตาบ้างไม่ได้เชียวหรือคะ
A: มันอาจจะเป็นพาหะของโรคติดต่อก็ได้
B: ถ้าเช่นนั้นก็ปัดมันออกไป อย่าฆ่ามัน อย่างไรก็ตาม ดิฉันคิดว่าโทษประการแรกสำคัญกว่าประการที่สอง ทั้งนี้เพราะพระพุทธศาสนาบอกว่า...ความหมดจดจากกิเลสทั้งปวง เป็นทางดับทุกข์ทั้งหลาย
(จาก จดหมายถึงน้องเล็ก โดย สุวณีย์ ศรีโสภา)
#11
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 12:02 PM
จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยตบยุ่ง...แต่ว่าพอตบไม่ตาย จะสงสาร ตั้งแต่นั่นก็ไม่ตบยุ่งอีกเลยคะ......แค่ปัด ๆ ก็ไปแล้วคะ
#12
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 09:06 PM
การกระทำทุกชนิด มีผลทั้งนั้น ยุงก็คืออดีตมนุษย์ ที่เวียนว่ายตายเกิดกันนับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว ฯลฯ
#13
โพสต์เมื่อ 23 September 2006 - 09:32 AM

#14
โพสต์เมื่อ 23 September 2006 - 11:22 AM
แต่จริงตรงที่ว่าถ้าเราไม่รู้ตัว แต่รู้สึกเจ็บคัน แล้วยังไม่ทันคิดอะไร มือไปเกาโดนเค้าตาย
เพราะว่าอิ่ม แล้วตัวหนัก ยังไม่ทันถอนเข็ม บินไปไม่ทัน ก็ถือว่าเรามีบาปน้อยมากค่ะ
เพราะกรรมปาณาติบาต ที่จะทำให้ตกนรก มีองค์ประกอบอยู่
แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ แล้วกรรมรวมตัวกันส่งผล ก็จะทำให้เป็นโรคปวดเมื่อย
อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#15
โพสต์เมื่อ 23 September 2006 - 04:57 PM
วิธีนี้ผมก็ใช้ครับ โอ๊...ปีกหลุดเลย อิอิ
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#16
โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 02:18 AM