
สอบถามพี่ๆค่ะ...
#1
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 01:46 PM
และการสมาทานศีลควรทำทุกครั้งหลั้งจากสวดมนต์ใช่หรือไม่คะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าคำถามนี้เคยมีผู้ถามแล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล. คำอธิษฐานประจำวันควรทำตอนไหนคะ
#2
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 02:09 PM
การสมาทานศีลจะทำตอนไหนก็ได้จ๊ะ แต่จะให้ดีต้องมีพระพุทธรูปเป็นตัวแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และต้องถูกกาละเทศะและสถานที่ด้วย เช่นกำลังทานข้าวอยู่ กินเสร็จจะมาสมาทานศีลที่โต๊ะกินข้าวเลยมันก็ดูไม่เหมาะไม่ควรจริงไหม
คำอธิฐานจิตส่วนใหญ่จะอธิฐานกันหลังจากสวดมนต์นั่งสมาธิเรียบร้อยแล้วจะเข้านอน นั่นก็คือหลังจากเสร็จกิจกรรมในวันนั้นๆแล้ว ด้วยเหตุที่ว่า เราจะได้สามารถตรึกระลึกถึงบุญที่เราได้ทำในวันนั้นได้ทั้งหมด พอสวดมนต์นั่งสามาธิเสร็จใจเราจะได้ใส จะได้อธิฐานจิตได้ดีขึ้น เหมือนกับเรามีกระดาษขาว(ใจเรานั่นแหละครับ)เปล่าๆสะอาดแผ่นหนึ่ง พร้อมที่จะจดสิ่งที่ต้องการจำได้เท่าที่ต้องการ หากเราสวดมนต์นั่งสมาธิเสร็จแล้วมานั่งดูทีวีต่อแล้วค่อยไปอธิฐานอีกครั้ง มันก้เหมือนเราเขียนสิ่งที่ต้องการจำลงในกระดาษที่เราขีดเขียนแล้ว ไม่สามารถตามจดจำได้ระเอียดเท่าที่ควร ไม่เชื่อลองสังเกตุดูสิครับ ลองดูหนังหรือดูทีวีก่อนแล้วค่อยมาอธิฐาน เชื่อได้เลยครับ ตื่นเช้าขึ้นมาเราจำไม่ได้ล่ะว่าเมื่อคืนเราได้อธิฐานอะไรไว้บ้าง ดังนั้น การสวดมนต์นั่งสมาธิและอธิฐานจิต ทำหลังจากที่เราเสร็จกิจวัตรประจำวันแล้วค่อยเข้านอนจะดีที่สุดครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 02:16 PM
สมาทานศีล เป็นประจำทุกวัน ก็เป็นการตอกย้ำเป้าหมายให้ตัวเองรู้ตัวอยู่ทุกวันว่า เรามีศีลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวปฏิบัติ แต่เมื่อนานไปจนเรารักษาศีลจนเคยชินเป็นนิสัย ติดแน่นในจิตใต้สำนึก เวลาเรากำลังจะทำอะไรที่ขัดกับศีล เราจะรู้ตัวเองก่อนโดยอัตโนมัติ เพราะมันฝังอยู่ในสำนึกของเราแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นถึงแม้บางวันเราไม่ได้สมาทานศีล เราก็ยังรักษาศีลให้ได้บริสุทธิ์เท่าเทียมกัน
แบบนี้ผมคิดว่า ถ้าบังเอิญ ทีวีมันผ่านเข้ามาในจักษุทวารเรา โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจจะเสพเพื่อความเพลินเพลิน น่าจะไม่เป็นการผิดศีลแต่อย่างใด เพราะวันนั้น เรามีใจตั้งมั่นแล้วว่า เราจะไม่เสพการดูการละเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ถึงแม้อะไรๆที่มันผ่านเข้ามาทางหูทางตาเรา แต่เราก็ไม่ยึดมั่น หลงไหลไปกับมัน อาชีพการงานเราอาจจะหลบมิให้เห็นหรือได้ยินในสิ่งพวกนี้ไม่ได้ แต่เราก็ยังมีสติกำกับใจเราให้ละเว้นในกิเลสข้อนี้ได้ เท่ากับเราทำข้อสอบผ่านได้1ข้อครับ
#4
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 02:19 PM
#5
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 04:06 PM
แต่เวลาอื่นๆ จะอธิษฐานเพิ่มเมื่อนึกออกก็ได้
#6
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 05:49 PM
#7
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 06:40 PM

ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#8
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 09:28 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี