
วันหนึ่ง ณ บ้านมหาเศรษฐีได้นิมนต์พระอรหันรูปหนึ่งไปฉันอาหารที่บ้าน
ณ ห้องที่นิมนต์พระอรหันท่านไปฉันนั้นมีเพชรเม็ดงามน้ำหนึ่งเปล่งประกายวางอยู่
ห่านที่ท่านเศรษฐีเลี้ยงไว้ได้เดินผ่านมาและได้จิกกลืนเพชรเม็ดงามนั้นลงท้องไป
เมื่อครอบครัวท่านเศรษฐีได้เห็นว่าเพชรหายไป
คิดกันได้ว่า "เอ๊ะ!บ้านเราก็ไม่มีใครที่น่าจะขโมย ข้าวของก็ไม่เคยหาย วันนี้ก็มีแต่พระอรหันที่นิมนต์มา
เพียงรูปเดียว...จะเป็นใครอื่นไปได้อย่างไร"
ท่านมหาเศรษฐีจึงได้ถามพระอรหันท่านได้ขโมยเพชรไปหรือปล่าว
พระอรหันท่านตอบว่าท่านไม่ได้ขโมยไป
เมื่อพระอรหันท่านไม่ยอมรับ ท่านมหาเศรษฐีโกรธมาก ได้สั่งให้คนซ้อมพระอรหัน
ช่วยกันเตะกลิ้งไปกลิ้งมา จนกระเด็นไปทับห่าน เจ้าห่านได้เสียงชีวิตลง
พระอรหันจึงกล่าวออกมาว่า "พอแล้ว พอแล้ว ตัวการที่เอาเพชรไปตายเสียแล้ว"
ท่านมหาเศรษฐีสั่งให้หยุดซ้อม แล้วถามว่า "ท่านพูดถึงอะไร"
พระอรหันท่านตอบว่า "ก็ห่านตัวที่ตายนั่นล่ะ ที่กลืนเพชรของท่านเข้าไป"
ท่านมหาเศรษฐีถามว่า "แล้วทำไมท่านไม่บอกข้าตั้งแต่แรก"
พระอรหันท่านตอบว่า "ถ้าเราตอบท่านไปว่าห่านกลืนลงไป ท่านก็ต้องไปฆ่าห่านเพื่อนำเพชรกลับคืนมา"
เมื่อท่านมหาเศรษฐีได้สั่งให้คนไปผ่าท้องห่านตัวที่ตายดูก็เจอเพชรเม็ดงามนั้นจริงๆ
ท่านมหาเศรษฐีสำนึกได้ว่าตนเองบาปมหันต์ จึงได้ก้มลงกราบอโหสิกรรมต่อพระอรหันต์
****************************
ถามค่ะ...
ถ้าเป็นท่าน จะเลือกปกป้องห่านอย่างที่พระอรหันทำหรือไม่?
การปกป้องผู้อื่นให้รอดพ้นแต่เราต้องมารับเคราะห์แทนนั้นเป็นการทำที่ถูกต้องหรือปล่าว ได้บุญหรือบาป?
ถ้าพระอรหันท่านอโหสิกรรมให้มหาเศรษฐีถือว่ากรรมของมาหาเศรษฐีนั้นหมดทันที หรือว่าจะต้องได้รับอีก