
เตี่ยของเจ้าของเคสมาจากเมืองจีน มาเป็นลูกจ้างขุดดิน ซื้อข้าว ต่อมามีคนรวยใจบุญ ชวนให้มาปลูกบ้านอยู่ในเนื้อที่ของท่านที่ ต.บ้านเทพมงคล อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ขายยาไทยสมุนไพรแผนโบราณ ขายเสื้อผ้า เตี่ยเป็นคนใจดีมีเมตตา ไม่ดื่มเหล้า สูบยาเส้นมวนใบตองวันละไม่กี่มวน ท่านไม่ฆ่าไก่ไหว้เจ้าเพราะท่านเกิดปีไก่ เมื่อท่านอายุ 50 ปี มีอาการป่วยอยู่ 12 วันแล้วก็เสียชีวิตอย่างง่าย ๆ และมีสติ คนโบราณเขาไม่รู้ว่าตายเพราะว่าอะไร ตอนนั้นเจ้าของเคสอายุได้ 8 ขวบ
แม่เป็นคนจีน ค้าขายอยู่กับเตี่ย ทำบุญวันพระใหญ่ปีละ 4-6 ครั้ง ใส่บาตรหน้าบ้านทุกวัน หลังจากเตี่ยละโลก แม่รับภาระหนัก ต้องเลี้ยงลูก 4 คน ไม่ได้ทำบุญตักบาตรเหมือนเก่า ท่านทำปาณาติบาต คือจับปลาที่หนองน้ำให้ลูกๆ กิน ถ้าหัวน้ำขึ้นเดือน 10 ก็ยกยอหน้าบ้านได้ เอาปลาไส้ตันใส่โอ่งทำน้ำปลากินได้ทั้งปีไม่ต้องซื้อ แม่ทำเพราะความขยันและความไม่รู้ แม่ถูกโจรปล้นที่ตลาดและถูกยิงเสียชีวิตเมื่ออายุ 48 ปี
สามีของเจ้าของเคสเกิดที่ อ.ซัวเถา มณฑลกวางเจา ประเทศจีน เข้าเมืองไทยปี 2496 ตอนนั้นเขาอายุ 19 ปี มาเป็นลูกจ้างโรงสีข้าวที่ อ.สีกุ จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาย้ายตามเถ้าแก่มาทำโรงสีที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม เขาหัดเรียนภาษาไทยจนอ่านออกเขียนได้พอสมควร ได้เลื่อนขึ้นเป็นเสมียนโรงสี จนกระทั่งเป็นผู้จัดการโรงสีเล็ก ๆ มีคนงาน 10 กว่าคน ปี 2499 เขาก็แต่งงานกับเจ้าของเคส เธอขอร้องให้เขาออกจากลูกจ้างโรงสีมาค้าขายส่วนตัวอยู่ที่ตลาดญี่ปุ่น อ.บางเลน จ.นครปฐม ขายยาแผนปัจจุบัน เสื้อผ้าสำเร็จรูป ขายปุ๋ยโรงนา ขายท่อน้ำ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย อะไหล่เครื่องวิดน้ำ ทำการค้าต่างจังหวัดหลายอย่าง สามีดื่มเหล้าประมาณปีละครั้ง ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ แต่ถือศีลข้อ 1 ไม่ได้ เพราะสั่งฆ่าไก่เอามาไหว้วันครบรอบวันตายพ่อแม่ ตรุษจีน สาร์ทจีน และถือศีลข้อ 4 ไม่ได้เพราะค้าขายแล้วโกหกแบบพ่อค้าทั่วไป (ครูไม่ใหญ่ไม่เห็นด้วย ไม่ต้องโกหกก็ได้ แต่เราบอกเท่าที่เป็นประโยชน์ ส่วนมากมักจะติดปากว่า ขายไม่ได้หรอก ขาดทุน แต่จริง ๆ แล้วได้กำไร ดังนั้นเราจะบอกไปเพื่ออะไร เพราะค้าขายก็รู้ว่า ถ้าไม่มีกำไรจะอยู่ได้อย่างไร เราไม่ขายก็ไม่ขาย ขายก็ขาย ไม่ต้องไปโกหก แต่ก็ไม่ใช่ว่าบอกไปหมดเรื่อยเปื่อย เหมือนทุเรียนก็ต้องมีหนามบ้าง เรียกว่าเกิดมาก็มีผลทุเรียนห้อยออกมาเลย และไม่ใช่โกหกจนเขาทะเลาะกัน เราไม่โกหกก็หมดเรื่อง การไม่ได้บอกไม่ได้แปลว่าโกหก) สามีเป็นคนขยัน ประหยัด รักครอบครัว นับถือศาสนาพุทธ เป็นพ่อบ้านที่ดี เป็นที่รักของบุตรและภรรยา เป็นคนใจดีมีเมตตา มีแต่คนรักนับถือ เป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน ใครทะเลาะกันก็เชิญสามีให้ไปช่วยไกล่เกลี่ย ชี้แนะให้ครอบครัวพี่น้องเลิกทะเลาะกัน ให้เข้าใจกัน ตลาดมีงานงิ้วก็เรียกไปเป็นประธาน อีกทั้งเป็นประธานโรงเรียนและตลาดบ้านนอก 40 ห้อง สามีไม่เชื่อว่าชาติหน้ามีจริง เชื่อว่าตายแล้วสูญ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีนรก ไม่มีสวรรค์ เวลาเจ้าของเคสทำบุญก็อนุโมทนา ที่อนุโมทนาเพราะห้ามเธอก็ไม่ฟัง เวลาเธอทำบุญ ก็เอาปัจจัยใส่ซองให้สามีอธิษฐาน เขาก็ทำ บางครั้งก็เปิดซองดู บางครั้งก็ไม่เปิดดู เธอบอกเขาว่า คุณอย่าห้ามฉันนะเพราะห้ามก็ไม่เชื่อ มีสิทธิในการเงินเท่ากัน คุณส่งเงินไปให้ญาติที่เมืองจีนฉันยังไม่ห้ามเลย ถ้าฉันทำบุญก็ให้คุณอนุโมทนา คุณก็จะได้บุญด้วย ไหน ๆ ก็ห้ามไม่ได้ ภรรยาทำบุญก็เลยไม่ขัด แล้วก็อนุโมทนาด้วย สามีชอบสนับสนุนการเรียนการศึกษา ทางโรงเรียนขาดแคลนก็ช่วยเหลือ ทำความเจริญให้ชุมชนท้องถิ่นตลอดชีวิต ปี 2540 ลูกชายให้เลิกกิจการค้าที่ต่างจังหวัด ขอให้มาอยู่ที่กรุงเทพฯ เลี้ยงดูอย่างดี ด้วยความขยันบางครั้งไปซ่อมปั๊มน้ำที่ใช้สำหรับปั๊มน้ำขึ้นมา รดต้นไม้โดยที่บุตรภรรยาไม่รู้ สามีว่ายน้ำเป็น แต่วันที่ 28 มี.ค. 2544 เวลา 17.00น. ได้จมน้ำเสียชีวิตที่คลองข้างบ้าน โดยไม่ทราบสาเหตุรวมอายุได้ 75 ปี ตอนเช้าวันที่เสียชีวิต เขาได้ใส่บาตรพระ 4 รูปที่หน้าบ้านด้วย
พี่ชายของเจ้าของเคสมีอาชีพขายยา ของชำ และถ่ายรูปนอกสถานที่ สูบบุหรี่วันละ 10 กว่ามวน ตั้งแต่อายุ 16-17 ปี จนถึงวันตาย เคยพยายามเลิกสูบแต่เลิกไม่ได้ เขาไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ปล่อยเต่าปีละหลายสิบตัว เพราะเชื่อว่าปล่อยแล้วจะอายุยืน ไม่เคยโกรธใคร ไม่เคยว่าร้ายใคร ไม่เคยเจ็บป่วย เขาไปวัดเจ้าเจ็ดใน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไป 1 กม. เดินไปเกือบทุกวัน ลูกชายซื้อจักรยานให้ขี่ก็ไม่ชอบ ชอบเดิน ไปช่วยทำงานทุก ๆ อย่างที่ทางวัดให้ช่วย ทำบุญทอดกฐินกับวัดทุกปีและทุกบุญที่วัดเจ้าเจ็ดในบอกกันไว้มาก ใช้แรงมากกว่า พระในวัดทุกรูปจะรักพี่ชายมาก ตักบาตรหน้าบ้านทุกวัน เช้าวันที่ 10 พ.ค. 2546 เขาก็ตักบาตรตามปกติ เขาซ้อนรถจักรยานยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุรถล้มคว่ำศีรษะฟาดพื้นจนกะโหลกร้าว เข้าห้องไอซียู ผ่าตัดเอาเลือดคั่งในสมองออกแต่ไม่ฟื้น
เจ้าของเคสมีบุตร 4 คน 3 คนแรกเป็นชาย ปัจจุบันเธออายุ 64 ปี เข้าวัดพระธรรมกายตั้งแต่ เดือน ม.ค. 2529 โดยการชวนของพระสถาพร เธอปลื้มใจมาก คิดว่าไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นลูกพระราชฯ ทำบุญทุกครั้งจะใส่ชื่อสามีด้วย ใบอนุโมทนาบัตรทุกใบ เธอใส่ชื่อสามีนำหน้าจนกระทั่งเขาละโลกเพราะอยากให้สามีได้บุญ (ครูไม่ใหญ่บอกว่า น่าอนุโมทนาจริง ๆ ) ส่วนลูก 4 คน ไม่ยอมมาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย ทั้ง ๆ ที่หลังจากทำวัตรเย็น เธอจะสวดอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ 3 จบ และหลังทำวัตรเช้า ก็สวดอานุภาพคุณยาย 3 จบ ไปวัดก็ขออานุภาพรูปคุณยายที่เรือนทอง ขอให้ดลจิตดลใจให้ลูก 4 คน มาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
คำถาม กรรมอะไร ทำให้เตี่ยเสียชีวิตตอนอายุเพียง 50 ปี และตายด้วยโรคอะไร แม่มีกรรมอะไรถึงได้ถูกยิงเมื่ออายุเพียง 48 ปี สามีมีกรรมอะไรจึงต้องมาจมน้ำตายที่คลองข้างบ้าน พี่ชายทำกรรมอะไรจึงประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เวลานี้เตี่ย แม่ พี่ชายและสามีอยู่ที่ไหน บุญองค์พระและบุญอื่น ๆ ที่เจ้าของเคสอุทิศให้ทั้งสามคนได้รับหรือไม่ ทำไมลูก 4 คน จึงไม่มาวัดพระธรรมกาย
คำตอบ เตี่ยหมดอายุขัยพอดี และเพราะกรรมในอดีตเคยฆ่าคน จึงทำให้อายุสั้น เรื่องมีอยู่ว่า ท่านเคยเกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ทำนาทำไร่ทำสวน ค้าขาย มีเงินทองเก็บพอสมควร ต่อมามีคนมาขโมยของ ท่านถือมีดดาบไปพยายามไล่ตามจับ ขโมยขัดขืนและต่อสู้ จึงแทงและฟันจนขโมยตาย ต่อมาเกิดสลดใจว่า จริง ๆ แล้วเราไม่มีเจตนาฆ่า ต้องการจะจับเป็นและป้องกันตัวเท่านั้น วิบากกรรมนี้ติดตามตัวมา ทำให้อายุสั้น ที่ไม่ทรมานตอนเสียชีวิตเพราะบุญปัจจุบันที่ใจดี มีเมตตา มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ตายแล้วไปเกิดเป็นอากาศเทวา มีวิมานทอง ได้รับบุญทุกบุญที่อุทิศไปให้ ทำให้มีสภาพที่ดีขึ้น
แม่ที่ถูกยิงเสียชีวิตและอายุสั้นเพียง 48 ปี เพราะกรรมในอดีตแม่เคยเกิดเป็นผู้ชายและได้ทำกรรมคล้ายกับที่พ่อทำ เรื่องมีอยู่ว่า ท่านเกิดในสังคมเกษตรกรรม เป็นคนขยันทำมาหากิน มีเงินทองเก็บ มีขโมยขึ้นบ้านจะมาขโมยของ ท่านจับโจรได้ภายหลังการต่อสู้และได้ตั้งใจฆ่าโจรตายด้วยความโกรธแค้น มารวมกับกรรมปาณาติบาตในปัจจุบันผสมกัน ทำให้มาพบกับวิบากถูกยิงเสียชีวิต สภาพการตายจึงไม่สวยงาม ตายแล้วไปเกิดเป็นภุมเทวาสายยักษ์อยู่บนพื้นมนุษย์ที่บ้านเดิมในสมัยนั้น เพราะห่วงข้าวของสมบัติและลูก ตอนนี้ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว มีวิมานคล้ายเรือนไทยขนาดใหญ่ในหมู่บ้านยักษ์ อยู่ในทุ่งแห่งหนึ่งในอยุธยา
สามีไม่ได้จมน้ำตาย เขาหัวใจวายตายก่อนแล้วตกลงไปในน้ำ เนื่องจากหมดบุญและหมดอายุขัยด้วย ไม่ได้มีกรรมหนัก มีเพียงฆ่าสัตว์ทำอาหารเท่านั้น ตายแล้ววนเวียนอยู่ 7 วัน ตรงนี้น่าสนใจ เพราะท่านไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ เชื่อว่าตายแล้วสูญ แต่ท่านก็ทำความดี สงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ เมื่อครบ 7 วันเจ้าหน้าที่มารับตัวไป เมื่อพิจารณาบุญบาปแล้ว พญายมราชพิพากษาให้ไปเป็นกุมภัณฑ์ โดยเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ติดตามเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่กว่า ทำหน้าที่ไปรับตัวผู้ตายที่จะไปยมโลก ที่ต้องทำหน้าที่นี้เพราะตอนเป็นมนุษย์ เชื่อว่าตายแล้วสูญ ไม่เชื่อว่ามีนรก สวรรค์ แต่ก็ทำความดีในระดับที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณกุศล ดังนั้นจึงต้องถูกมาทำหน้าที่นี้ จะได้เชื่อว่าทำดีได้ไปสวรรค์ ทำชั่วต้องไปนรก ใครที่ไม่เชื่อ ให้เตรียมใจไว้ให้ดี จะต้องไปทำหน้าที่ตรงนี้ ท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็มีสภาพดีขึ้น คืออายุการทำงานในยมโลกก็น้อยลง จากทำงานปีละ 6 เดือนสวรรค์ ก็ลดหย่อนลงเหลือ 4 เดือนสวรรค์ ยังทำงานได้ไม่นานนัก เพราะเสียชีวิตเมื่อตอนปี 2544
พี่ชายที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเพราะกรรมฆ่าสัตว์เป็นอาหารเป็นอาจิณกรรม ตายแล้วก็ไปเป็นอากาศเทวา เพราะบุญก็ทำ กรรมก็สร้าง มีวิมานทอง ได้รับทุกบุญที่อุทิศไปให้ จึงมีสภาพดีขึ้น
ลูกทั้ง 4 คน จิตใจยังไม่ละเอียด เพราะต้องทำมาหากินและติดกระแสโลก ประกอบกับเชื่อตามที่สื่อเสนอข่าว จึงยังไม่มีอารมณ์เข้าวัดเพื่อศึกษาความจริงแท้ของชีวิต เจ้าของเคสต้องใจเย็น ๆ พูดเพราะ ๆ ด้วยเหตุ ด้วยผล ด้วยความรักและปรารถนาดีต่อลูกทุก ๆ คน อย่างแท้จริง ดูจังหวะอารมณ์ดี ๆ สักวันหนึ่งก็จะชนะใจลูกได้ และลูกทุกคนก็จะมีอารมณ์เข้าวัดฟังธรรม ศึกษาธรรมะ