
นับเงินที่รวบรวมจาการบอกบุญมา
#1
โพสต์เมื่อ 03 April 2007 - 10:13 PM
วันนี้ได้เริ่มต้นบอกบุญมหาสังฆทาน 20,000 กว่าวัด และสร้างองค์พระ ได้ปัจจัย 802 บาทสำหรับวันนี้ เอาบุญมาฝากนะค่ะ ขอให้ได้บุญเท่ากันเลย ^^
แต่ก็มีคนมาตัดกำลังใจเสียนี่ซิค่ะ เขาถามเราว่าทำไมต้องนับเงินด้วย ทำไมไม่เป็นคนสุดท้ายที่นับเงิน ทำเหมือนระบบเซลล์เลย เราก็ตอบไปว่าเราจะได้รู้ไงค่ะว่าเราบอกบุญไปแล้วตอนนี้ได้เท่าไหร่ เราก็จะได้อิ่มใจ แล้วก็ไปบอกคนอื่นให้เขาได้อนุโมทนากับเรา แต่เขาก็ไม่ยอมเข้าใจเสียที แล้วเค้าก็บอกว่าถ้างั้นเขาจะให้ปิดผนึกซองทำไมอย่างนี้คนอื่นเขาก็รู้ เราก็ตอบไปว่า ถึงปิดไว้แล้วยังไงเราก็ต้องเอามานับอยู่ดี แต่ปิดไว้ก็ดีแล้ว
ใครมีคำอธิบายดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอบ morethan หน่อยนะค่ะ
แต่ยังไงซ่ะพรุ่งนี้ก็จะทำหน้าที่ของนักสร้างบารมีให้เต็มที่ค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 03 April 2007 - 11:46 PM
1) เกิดประโยชน์ต่อตัวเรา ... คือปกติเนี่ย เวลาตั้งใจจะทำอะไร มันก็ต้องให้เข้าเป้า เช่น ตั้งใจจะทำบุญ 20,000 วัด วัดละ 1 บาท ก็แสดงว่าจะต้องทำทั้งหมด 20,000 บาท ถ้ายังไม่ถึง ก็ยังไม่เข้าเป้า
แล้วเข้าเป้า มันดีอย่างไร มันก็จะทำให้เกิดความปลื้มปีติ เป็นการทำบุญเต็มกำลัง แล้วความปลื้มนี้จะทำให้ใจใส ทั้งก่อนทำ กำลังทำ แ้ล้วก็หลังทำ ยิ่งปลื้มปีติมาก ใจก็จะยิ่งใสมาก แล้วก็จะทานที่ทำก็จะเกิดผลมากมายนับประมาณ เปรียบเสมือนกับการหว่านข้าว ลงในนาที่กำลังชุ่มน้ำ ...
2) เกิดประโยชน์ต่อตัวท่าน ... เมื่อเรานำใบอนุโมทนาบัตรไปให้คืนกับเจ้าของ เราก็จะสามารถบอกได้ว่า เนี่ยนะ เราทำบุญให้เธอเต็มๆ หน่วยเลย ไม่มีหักค่าเดินทาง อะไรสักบาทเดียว นี่ไง วันนั้นเธอให้เรามาเท่านี้ ใบอนุโมทนาบัตร ก็ตรงเลยนะ เราขออนุโมทนากับเธอด้วยนะ ถ้าไม่มีเธอ เราก็ไม่สามารถทำให้เข้าเป้าได้ ขาดไปสักบาทเดียวมันก็ไม่ประสบความสำเร็จแล้ว เธอนี่แหละ ที่ได้เป็นกำลังสำคัญในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เราขอบคุณเธอมากๆ เลยนะ เธอดูรูปสิ พระท่านมากัน 20,000 วัดเลยเห็นมั๊ย ท่านปีติใจมาก งานนี้เท่ากับเธอได้ทำบุญกับพระเกือบทั่วประเทศเลยนะ
3) เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ... เราสามารถบอกยอดทั้งหมด ให้ทั้งหมู่คณะปลื้มใจได้ ให้ทุกๆ คนอนุโมทนาพร้อมกัน และให้ได้บุญไปเท่าๆ กัน แต่ไม่ต้องไปแจกแจงนะครับ ว่าใครทำบุญไปเท่าไหร่ แล้วก็บอกความตั้งใจไปเลยครับ ว่าปวารณาไปแล้ว ว่าจะทำให้เต็ม 20,000 บาทให้ได้ งานนี้ยังขาดอยู่นิดหนึ่ง แต่รับรองว่าทุกๆ คนจะต้องได้บุญเท่ากันแน่ๆ เลย
พูดง่ายๆ เราอยากจะนับยอดให้เข้าเป้าเราน่ะครับ เช่น เราต้องการจะให้ได้ X ถ้าได้ไปแล้ว Y ก็ยังเหลืออีก X - Y แล้วก็การที่จะได้ตามยอด หรือได้มากกว่ายอดที่ตั้งไว้ มันก็ไม่ได้ไปทำให้เกิดผลเสียต่อใคร แต่ก็เกิดผลดีต่อพระศาสนาทั้งนั้น พระทั่วประเทศ ท่านก็จะเป็นผู้รับไทยธรรมตรงนี้ แล้วก็จะนำไปใช้ในกิจของสงฆ์ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบต่อๆ กันไป ให้สาธยายถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น สามวันก็คงไม่จบ ...
ผมเองว่าเรื่องนี้ คนที่ไม่เข้าใจ เค้าคงจะ
- ติดกับประเพณีแบบเดิมๆ ที่ทำบุญต้องใส่ซอง แล้วก็ปิดซอง ถวายพระ ...
- อาจจะอาย ไม่อยากให้ใครมารู้ว่าตัวทำน้อยเกินไป หรือมากเกินไป ...
คงไม่พ้น 2 ประเด็นนี้น่ะครับ

แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง
#3
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 07:23 AM
#4
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 08:30 AM
#5
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 08:46 AM
ก็บริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว หากเราอธิบายไปเขาไม่ยอมเปิดใจก็ไม่เป็นไรครับ การที่เรานับเงินก่อนเบื้องต้นเลย เราก็จะได้รู้ยอดของเรา เมื่อเรารู้ยอดแล้วเราก็จะปีติใจในแรงกายแรงใจที่เราได้ลงมือทำไปใช่ไหมครับ แม้ว่าจะมากหรือน้อยก็ตามที แต่เมื่อเริ่มคิด เริ่มทำแล้ว บุญก็เกิดกับตัวเราแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือไม่ประมาทครับ รู้ยอดเอาไว้ป้องกันเงินหายครับ ถึงจะซวยมากๆ ทำเงินหายไปเราก็จะได้หาเงินมาทดแทนได้ตรงตามยอด เราจะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจน่ะครับ
ส่วนถ้ามีคนถามเราจะบอกอย่างไร ก็บอกว่านับไว้กันเงินหายน่ะครับ เขาจะเข้าใจได้ง่ายที่สุดเลย
#6
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 08:59 AM
#7
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 03:43 PM
#8
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 07:10 PM
แต่คนที่เขาไม่อยากจะเข้าใจก็คงต้องปล่อยเขาไป ตามที่เคยได้ยินว่า ... ตามแต่บุญแต่กรรมของเขาและกัน
#9
โพสต์เมื่อ 04 April 2007 - 08:15 PM
อย่าให้เรื่องเล็กๆน้อยๆมาตัดทอนกำลังใจนักสร้างบารมีเลยนะ
เชื่อว่าทุกๆคนเป็นกำลังใจให้ เพราะคุณ morethan ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญอย่างถูกหลักวิชา...สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 11:29 AM
จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จคะ สาธุ..
#11
โพสต์เมื่อ 05 April 2007 - 10:25 PM
1. ชวนแล้วทำทันที
2. เฉยๆ
3. ปฏิเสธ
เจอ 2 กลุ่มแรก ยังไม่เท่าไหร่ แต่กลุ่มสุดท้ายนี่สิคะ ปฏิเสธไม่พอ ยังพูดจาไม่เข้าหู เราก็ได้แต่ยิ้มสู้ ทั้งที่ในใจอยากจะร้องไห้ บางคนก็ฉีกซองทิ้งลงถังขยะเลย (น่าสงสารคนกลุ่มนี้มากๆ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยพวกเขายังไงไม่ให้ทำบาปมากไปกว่านี้) ตอนนี้ ก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง เปิดดู DMC เจอครูไม่ใหญ่ ได้ฟังคำสอน ก็ได้กำลังใจขึ้นมาเยอะ บางทีก็รู้สึก.. เหมือนครูไม่ใหญ่รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง เพราะคำสอนของท่านมันช่างตรงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งไปเจอมา ตอนที่กำลังพิมพ์อยู่นี่ ก็ได้ยินเสียงครูไม่ใหญ่พูดว่า "คนที่ชวนทำบุญง่ายๆ เพราะมีสายบุญเก่า คนที่ชวนยาก เพราะไม่มีสายบุญเก่าร่วมกันมา" แหม.. ช่างตรงประเด็นจริงๆ
เอาบุญมาฝากทุกท่านนะคะ อาทิตย์ต้นเดือนร่วมบุญไปแล้ววัดละ 1฿ และสร้างองค์พระถวายครูไม่ใหญ่ 1 องค์ ขอแบ่งบุญให้ทุกท่านนะคะ อนุโมทนาบุญร่วมกัน
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)