ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

หลวงปุ่ท่านเคยไปเรียนกรรมฐานที่วัดมหาธาตุ??


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 devainthefuture

devainthefuture
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 12:14 PM

กระทู้ในพันทิป มีเเต่ไม่ดีเกี่ยวกับวัดทั้งนั้นเลย
ที่ดีๆก็คนในวัดไปโพสท์ ดูเหมือนกับว่า
นอกจากคนในวัด เเทบไม่มีใคร อยากเห็นด้วยเห็นดี
กับวัดเราเลยค่ะ

ตามหัวข้อค่ะ อยากทราบว่าจริงหรือเปล่า
ถ้าจริงท่านไปทำไมอะคะ

จริงๆเเล้วไม่ค่อยเชื่อเท่าไรค่ะ รู้สึกว่าเค้ามีอคติกับวัดเราเยอะ
เลยมาถามที่นี่ดีกว่า

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 02:51 PM

คำคมประจำวัน
สิ่งที่ถูก มันก็คือ สิ่งที่ถูก แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิด มันก็คือ สิ่งที่ผิด แม้คนทั้งโลกทำสิ่งนั้น

เรื่องหลวงปู่ ไปเรียนธรรมะที่วัดมหาธาตุนั้นก็จริงครับ แต่หลังจากไปเรียนแล้ว ก็เซ็นรับรองว่า แนวทางนี้ก็ถูกต้องตามหลักของพระพุทธศาสนาน่ะครับ เนื่องจากเดิมนั้น แนวทางการสอนของวัดมหาธาตุ ที่เรียกว่า ยุบหนอพองหนอนั้น ไม่ใช่แนวทางเดิมที่มีมาในประเทศไทย แต่รับมาจากประเทศพม่า ดังนั้น ในตอนแรกคนไทยก็ยังเกรงๆ ว่า จะถูกต้องร่องรอยหรือเปล่า ต่อมาหลวงปู่ท่านก็ไปเรียน และก็ให้การรับรองว่า แนวปฏิบัติแนวนี้ ก็เป็นแนวปฏิบัติอีกแนวหนึ่ง ที่ถูกต้องตามพระพุทธศาสนาน่ะครับ

ซึ่งถ้อยคำการเซ็นรับรอง การฝึกสมาธิแนวนี้ว่าถูกต้องด้วยนี่เอง จึงกลายเป็นข้อครหา ให้คนบางส่วนตู่ไปว่า หลวงปู่เปลี่ยนแนวการปฏิบัติของท่าน เพราะไปเซ็นว่า แบบอื่นถูก ดังนั้น ย่อมแสดงว่า แนวเดิมที่หลวงปู่ปฏิบัตินั้นผิด

ซึ่งดูเผินๆ เหมือนมีเหตุผล แต่ความจริงไม่ได้เกี่ยวกันเลยน่ะครับ ยกตัวอย่าง เหมือนเด็กนักเรียนใหม่ มาเข้าเรียนในโรงเรียนเรา ตัวน้องและเพื่อนๆ ไม่รู้ว่า เด็กคนนี้นิสัยดีหรือไม่ เพื่อนๆ จึงยังเกรงๆ ไม่กล้าคบด้วย ต่อมาตัวน้องเจ้าของกระทู้จึงลองเข้าไปคบหาเด็กใหม่ดู พอคบหาแล้ว ตัวน้องก็ให้การรับรองกับเพื่อนๆ ว่า เด็กใหม่คนนี้ ก็นิสัยดีนะ

น้องเจ้าของกระทู้คิดว่า จะมีใครไปตีความหรือไม่ครับว่า การที่น้องไปรับรองเด็กใหม่ว่านิสัยดี ดังนั้น ย่อมแสดงว่า ตัวน้องนิสัยไม่ดี มันย่อมไร้เหตุผลใช่ไหมครับ เรื่อง หลวงปู่รับรอง แนวปฏิบัติแบบยุบหนอพองหนอ ก็เช่นกัน ไม่ได้หมายความว่า เมื่อบอกว่า แบบนี้ก็ดี แสดงว่า แบบของตัวเองไม่ดี แล้วเลิกฝึกแบบของตัวเอง ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 v.chiap

v.chiap
  • Members
  • 109 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 04:58 PM

ช่วงนี้ทางวัดเน้นการปฏิบัติธรรม มุ่งทำใจให้หยุดนิ่งเป็นหลัก การไปอ่านถ้อยคำกล่าวหาทั้งหลายเหล่านั้น ไม่อำนวยประโยชน์สุขใดๆให้ กับเราเลย ข้อกล่าวหาทั้งหลายย่อมมีอยู่คู่โลกเสมอ ขอเพียงเรามีความสุขอยู่ในกลางของกลางภายใน คำกล่าวหาทั้งปวงก็ไร้ความหมาย
ขอติดตามสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ไปจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรม

#4 นายดีใจ

นายดีใจ
  • Members
  • 68 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 05:03 PM

หลวงปู่ท่านไปเรียน เนื่องจากสมัยนั้น วัดปากน้ำขึ้นอยู่กับวัดเชตุพนที่เป็นเหมือนเจ้านายตามสายปกครองนั่นเอง
ท่านเรียนวิชายุบหนอพองหนอ จากวัดมหาธาตุ ร่วมกับหลวงพ่อจรัล (สิงห์บุรี)
โดยวิชาดังกล่าวมาจาก มหาสี สยาดอร์ พระอริยสงฆ์ชาวพม่า โดยหลักการก็คือหลักของ มหาสติปัฏฐาน 4 นั่นเอง

ตามความเห็นผม ตัวหลวงปู่ท่านบอกเสมอว่าท่านเรียนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นท่านจึงไม่มีปัญหาที่จะต้องไปเรียน ทั้งนี้ คนที่ได้วิชชาสาม หรืออภิญญา สูงสุดการเรียนหรือเดินวิชากลับไปมา ตามกรรมฐานทั้ง 40 กองนั้นไม่ใช่ปัญหา

นอกจากนั้น ผู้ต่อต้านจะบอกว่าหลวงพ่อสดท่านยอมรับว่าวิชายุบหนอพองหนอ เป็นวิชาที่ถูกต้องตามหลักสติปัฏฐาน ซึ่งการได้รับการรับรองจากท่านนั้น ย่อมมีผลดีต่อวัดมหาธาตุแน่นอน เมื่อนึกถึงว่ายุดนั้น ความโด่งดังของท่านและวัดปากน้ำดังขนาดไหน

#5 somch

somch
  • Members
  • 249 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 06:24 PM

อนุโมทนาและขอบคุณ คุณพี่หัดฝัน ครับ
มาตอบทีไรข้อมูลแน่นปึ๊กทุกที

เมื่อก่อนผมก้อเคยแคลงใจประเด็นนี้ครับ แต่ด้วยความเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ ก้อไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแนวไปทางอื่น
พอศึกษามากๆเข้า ก้อได้พบความจริงดังคุณพี่หัดฝันอธิบาย นั่นแหละครับ

#6 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 07:42 PM

ขอแก้นิดนึงครับ เท่าที่ผมทราบ พระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านไม่ได้ไปเรียนที่วัดมหาธาตุครับ เนื่องจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านเคยตั้งสัจจะไว้ว่า จะไม่รอนแรมไปที่อื่น จึงได้เชิญท่านเจ้าคุณโชดก(โชดก ญาณสิทฺธิ) มาสอนที่วัดปากน้ำครับ

ถามว่า "ทำไมต้องเรียน"
ตอบว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านโดนสั่งให้เรียนครับ เรื่องมีอยู่ว่า พระพิมลธรรม(อาจ อาสภมหาเถร) ท่านเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุในสมัยนั้น ซึ่งเป็นสายปกครองของวัดปากน้ำโดยตรง ได้ส่งท่านเจ้าคุณโชดก ไปเรียนกรรมฐานแบบยุบหนอพองหนอ จากประเทศพม่าครับ เมื่อกลับมาก็ได้ตั้งสำนักวิป้สนาขึ้นที่วัดมหาธาตุ แล้วก็ได้มีคำสั่ง ให้พระในสายปกครองของพระพิมลธรรม ไปเรียนกรรมฐานที่วัดมหาธาตุ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำของเรา ท่านก็ได้รับคำสั่งนั้นด้วยครับ แต่เนื่องจากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น พระเดชพระคุณหลวงปู่ของเราท่านจะไม่รอนแรมไปที่อื่น จึงได้เชิญท่านเจ้าคุณโชดกมาสอนที่วัดปากน้ำครับ เมื่อเรียนเสร็จ พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านก็ได้มอบรูปของท่านไว้เป็นที่ระลึก พร้อมกับข้อความข้างหลังรูปว่า "ให้ไว้เป็นที่ระลึก ในโอกาสที่ได้มาศึกษาวิปัสนากรรมฐาน ตามแบบของวัดมหาธาตุฯ ขอรับรองว่า การปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานตามแบบวัดมหาธาตุฯนี้ ถูกต้องร่องรอย ตามหลักมหาสติปัฏฐานสูตรทุกประการ" ซึ่งเป็นการช่วยรับรองวิธีการฝึกสมาธิแบบยุบหนอพองหนอของวัดมหาธาตุ ที่ไปเอามาจากพม่าว่าถูกต้อง ในฐานะที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำของเรา ท่านเป็นพระภิกษุที่มีชื่อเสียงในด้านวิปัสนากรรมฐานเป็นอย่างมากในสมัยนั้น
น่าเสียดายที่หลังจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเราท่านได้ละสังขาร ได้มีคนเอารูปและข้อความที่ท่านได้ให้ไว้ เพื่อช่วยรับรองการปฏิบัติแบบวัดมหาธาตุว่าถูกต้อง มาโจมตีพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำและวิชชาธรรมกาย ว่าวิชชาธรรมกายผิดและพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านเลิกฝึกวิชชาธรรมกาย ซึ่งไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านไม่เคยเลิกทำวิชชาธรรมกายเลย แม้แต่วันเดียวจนกระทั่งมรณภาพ เรื่องนี้ถ้าไปถามบุคคลที่ท่านอยู่ทันสมัยพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ก็จะได้ทราบคำตอบเป็นอย่างดี ว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา ไม่เคยหยุดทำวิชชาธรรมกายจนกระทั่งมรณภาพ

เอาล่ะครับ คงขอตอบแค่นี้ หวังว่าคุณdevainthefuture จะพอเข้าใจอะไรได้มากขึ้น ไม่อยากตอบลงรายละเอียดลึกกว่านี้ เพราะจะกระทบหลายฝ่าย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร ความเป็นจริงจะยังคงเป็นความจริงและพร้อมให้พิสูจน์อยู่เสมอ เชิญมาพิสูจน์เถิด สุดท้ายนี้ ขอปิดท้ายด้วยคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำที่ว่า "ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป" และ "ช่างเถิด เขาติเตียนเรา ดีกว่าเราติเตียนเขา การที่เราถูกติเตียนนั้น เพราะทำงานก้าวหน้าไป"

อนุโมทนาบุญครับ...สาธุ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#7 บ้านดวงแก้ว

บ้านดวงแก้ว
  • Members
  • 121 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 08:00 PM


คุณพ่อของผมท่านเป็นสายบุญ/เป็นลูกศิษย์ของพระเทพมุนี(ถ้าจำไม่ผิด/ ถ้าผิดต้องกราบขอขมาต่อท่านด้วยเพราะนานแล้ว)

ท่านเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาเป็นเจ้าคณะ ๕ วัดมหาธาตุฯ คุณพ่อผมพอท่านทราบว่าผมไปปฏิบัติธรรมที่วัดปากน้ำ

ก็นำรูปภาพที่หลวงพ่อวัดปากน้ำไปขอเรียนวิปัสสนากับท่าน (ใต้รูปมีข้อความของหลวงพ่อด้วย)มาให้ผมดู พ่อผมพูดกับผม

ทำนองว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำยังไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับพระอาจารย์ของพ่อเลย เหมือนต้องการให้ผมไปปฎิบัติธรรมที่วัด

มหาธาตุฯ กับพระอาจารย์ของพ่อดีกว่า แต่ผมก็ไม่ได้ไป ผมยืนยันว่าจริงครับเพราะเคยเห็นภาพและเห็นข้อความ ปัจจุบันนี้

ผมเข้าใจว่าภาพนี้ยังมีปรากฎอยู่ในหนังสือที่พระเทพมุนีแต่งหรือบรรดาศิษย์ของท่านแต่งหาดูได้ครับ แต่ผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลก

อะไรหลวงวัดปากน้ำท่านคงต้องการศึกษาธรรมะให้ลึกซึ้ง ท่านก็ไปเรียนไปฝึกกับครูอาจารย์ไม่จึงใช่เรื่องแปลกอะไร และใน

ที่สุดหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็รู้ท่านก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่า ไม่ว่าจะปฎิบัติสายไหน/ทางใดในที่สุดจะเข้าถึงธรรมได้ก็ต้อง "หยุด

ที่ศูนย์กลางกาย" วิธีเดียวเท่านั้น.......สาธุ

*****บ้านดวงแก้ว*****



#8 devainthefuture

devainthefuture
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 09:11 PM

โอ้ สาธุกับทุกความเห็นค่ะ

ขอโทษทุกท่านจริงๆที่ไม่ค้นเอง เเละไม่อ่านกระทู้นั้นหมดก่อน

เพราะ อ่านห้องศาสนาในพันทิป เหนื่อยจริงๆค่ะ ไม่ไหว หมดเเรงก่อน

ขนาด เป็นเรื่องไม่เกี่ยวกับวัดยัง เหนื่อยเลยค่ะ
เรื่องคนต่างศาสนามาด่ากัน เห้อ

#9 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2007 - 10:43 PM

^
^
หุๆ สำหรับพันทิปนี่ ถ้าหัวใจไม่แข็งแรง อย่าเข้าไปอ่านดีกว่าครับ ใจหมองเปล่าๆ เข้าไปอ่านมากๆ ใจหมอง เดี๋ยวจะไม่ได้เป็นเทวาในอนาคตนะครับ หุๆ happy.gif
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#10 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 13 April 2007 - 08:04 AM

สาธุ

#11 พรฤทธิ์

พรฤทธิ์
  • Members
  • 85 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อ.เมือง จ.ขอนแก่น

โพสต์เมื่อ 13 April 2007 - 09:26 AM

ดีจังเลยค่ะ ได้ข้อมูลดีๆ ที่ไม่เคยรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย
กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

#12 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 April 2007 - 11:10 PM

พระเทพกิตติปัญญาคุณ(กิตติวุฑโฒ) ซึ่งสมัยนั้นท่านดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณพระอุดรคณาภิรักษ์เคยเล่าเรื่องนี้ เมื่อคราวแสดงพระธรรมเทศนาในการบำเพ็ญกุศลถวายพระครูประกาศสมาธิคุณ ณ วัดมหาธาตุ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๗ เวลา ๑๙.๓๐น.

การเผยแผ่ธรรมะของหลวงพ่อสมัยนั้น โดยมากหลวงพ่อจะปักหลักสอนอยู่ที่วัดปากน้ำฯ แต่พระที่มาส่วนมากถ้ามาจากภาคอีสานก็ไปโฆษณาภาคอีสาน มาจากภาคเหนือก็ไปโฆษณาทางภาคเหนือ พระที่วัดปากน้ำฯจึงมาจากทุกภาค บอกต่อๆกันไป นี้ก็สัมฤทธิ์ผลสมดังที่หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านได้อธิษฐานไว้ว่า “บรรพชิตที่ยังไม่มาก็ขอให้มา ที่มาแล้วขอให้อยู่เป็นสุข”

หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านคิดว่าจะสร้างบารมีอย่างเดียว อย่างมหาจุฬาฯ ตอนนั้นก่อตั้งใหม่ๆ ยังไม่เป็นรูปร่าง หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็มาช่วยหาทุน ในการก่อสร้างมหาจุฬาฯ สมัยนั้นท่านเจ้าคุณพระพิมลธรรม(ช้อย ฐานทัตโต ป.ธ.๙)เป็นปฐมนายก

พระพิมลธรรม(ช้อย ฐานทัตโต)ท่านนิมนต์หลวงพ่อวัดปากน้ำไปเทศน์ที่วัดมหาธาตุฯ อยู่เป็นประจำ เพราะท่านศรัทธาหลวงพ่อวัดปากน้ำ เวลาไปเทศน์หลวงพ่อท่านก็ลงเรือข้ามฟากไป ไปขึ้นที่ท่าเตียน ปากคลองตลาด พระพิมลธรรม(ช้อย)ท่านส่งเสริมหลวงพ่อวัดปากน้ำให้ไปสอนพระเณรในวัดนำนั่งภาวนาในโบสถ์ภาวนา“สัมมา อะระหัง”มากันหมดทั้งวัด ตอนนั้นรู้สึกว่าเจ้าคุณโชดกก็มาอยู่วัดมหาธาตุฯแล้ว แต่ว่าไปเรียนอยู่ที่พม่า ตอนนั้นคงยังเป็นพระเด็กๆพรรษาน้อย

ท่านพระครูประกาศสมาธิคุณ เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยนั้นท่านยังคะนอง ตอนหลวงพ่อมาสอน“สัมมา อะระหัง”ที่วัดมหาธาตุฯฟังแล้วก็ขำ จึงหัวเราะคิกคิกออกมาเบาๆ และตอนหลวงพ่อวัดปากน้ำสอน พระพิมลธรรม(ช้อย)จะมาฟังด้วย ใครหัวเราะท่านดุเลย ตวาดดุเลยให้ตั้งใจฟัง ท่านศรัทธาหลวงพ่อวัดปากน้ำมาก สมัยนั้นดีมาก

มาภายหลังสมัยพระพิมลธรรม(อาส อาสภมหาเถระ) ซึ่งเป็นผู้ที่ส่งให้เจ้าคุณโชดกไปเรียนที่พม่า
เพราะเป็นคนขอนแก่นด้วยกัน ไปเรียนวิปัสสนาแล้วกลับมาสอนที่นี่ ช่วงนั้นสมเด็จพระสังฆราชอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรฯ ซึ่งท่านก็สนับสนุนวิชชาธรรมกาย ยุคนั้นสำนักปฏิบัติธรรมที่เป็นที่รู้จักอีกที่ คือ วัดมหาธาตุฯ ปฏิบัติแบบยุบหนอพองหนอ ส่วนเรื่องเจ้าคุณโชดกนั้นก็ไม่มีอะไรหรอก คือ เจ้าคุณโชดกท่านมาทีหลังก็ต้องการให้หลวงพ่อวัดปากน้ำช่วยโฆษณาด้วย เพราะสมัยนั้นคนจะโจมตีว่าเป็นของพม่า หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็ส่งเสริม ให้ท่านไปปฏิบัติท่านก็ไป ไปทดลอง ไปปฏิบัติ แล้วท่านก็บอกว่าดี ท่านไม่โจมตีเพราะ ท่านไม่ทำร้ายใคร ส่วนทางนั้นจะไปโฆษณาอย่างก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ตอนนั้นพระพิมลธรรม(อาส)ท่านเป็นสังฆมนตรีปกครอง เป็นผู้ปกครองที่สั่งแล้วต้องปฏิบัติตาม ท่านอยากให้หลวงพ่อวัดปากน้ำไปปฏิบัติวิปัสสนาแบบยุบหนอพองหนอ หลวงพ่อท่านก็ไป ท่านถามว่าถูกหลักสติปัฏฐานหรือไม่ หลวงพ่อท่านก็ตอบว่าใช่ ถูกหลักสติปัฏฐาน๔ หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านส่งเสริม ท่านไม่โจมตีหรอก ใครชอบทางไหน ก็ไปทางนั้น สำนักปฏิบัติธรรมที่มาคู่กับหลวงพ่อวัดปากน้ำคือ หลวงพ่อลี วัดอโศการาม ซึ่งสอนแบบให้บริกรรม “พุทโธ”

อ้างอิงจาก หนังสือบุคคลยุคต้นวิชชา ๒ โดย สิงหล พิมพ์ครั้งที่๑ ๗ ก.ค.๒๕๔๕ บ.สุขุมวิทการพิมพ์ หน้า ๑๒๐-๑๒๒

ภาพซ้าย-พระพิมลธรรม(ช้อย)
ภาพขวา-พระธรรมธีรราชมหามุนี(โชดก ญานสิทธิเถร ป.ธ.๙)

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  1.jpg   4.18K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  chodok.jpg   14.59K   9 ดาวน์โหลด

ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC