ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คนที่นับถีอศาสนาอื่นคิดแบบนี้แล้วเราจะตอบยังไงคับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ลูกน้อย

ลูกน้อย
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 June 2007 - 03:46 PM

ก็คือว่าถ้าคนที่นับถือศาสนาคริส ถามเราว่าคนที่นับถือคริสก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่เห็นมีใครต้องไปนรกหรือไปสวรรค์ เลยในเมื่อเค้าก็เป็นคนเหมือนกัน และในหลักความเป็นจริงแล้วคนตายทุกคน(สมมุติว่าตายแล้วมีวิญญาณจริงๆ)ในโลกนี้ต้องไปในที่เดียวกันสิ แต่ทำไมปัจจุบันนี้ ต่างคนต่างนับถือศาสนาของตนเองแล้วก็อ้างว่า คนเราตายแล้วจะไปโน้นไปนี้ เช่นศาสนาพุทธตายแล้วได้ไปสวรรค์หรือไม่ก็ตกนรก ส่วนคริสก็บอกว่าตายแล้วพระเจ้าเยชูมารับช่วยไถ่บาป

#2 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 06 June 2007 - 05:06 PM

นั่นเป็นเรื่องของความเชื่อในแต่ละศาสนาครับ
แต่สำหรับศาสนาพุทธสอนว่า นรกสวรรค์เป็นของสากลของสรรพสัตว์ทุกชาติทุกภาษา ทั้งคนสัตว์ เทวดาพรหม เป็นสากลหมด เมื่อละจากโลกไปก็มีนรกมีสวรรค์ เป็นที่เดียวกัน ในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนไว้ชัดเจน และยังสอนวิธีการพิสูจน์ให้ไปรู้ไปเห็นของจริงใด้ด้วยตัวเองอีกด้วย




#3 องค์พระใสสว่าง มังกร v-act

องค์พระใสสว่าง มังกร v-act
  • Members
  • 355 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests: การปฎิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 06 June 2007 - 05:39 PM

ความเชื่อเอาใว้บนหิ้ง ความจริงเอาใว้พิสูจน์นะครับ
ใจหยุดคือ ที่สุดแห่งบุญ


#4 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 06 June 2007 - 06:04 PM

ความเชื่อก็คือความเชื่อ ส่วนความจริงก้คือความจริง
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเชื่อ
แต่ความเชื่อนั้นจะจริงหรือไม่
มันอีกเรื่องหนึ่ง
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#5 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 June 2007 - 10:16 PM

ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาแห่งเหตุและผล ต้องการทราบผล ขอให้ปฏิษัติตามหลักของศาสนา พิสูจน์ด้วยตัวขอเขาเองนะครับ
สาธุๆๆ

#6 Somsakul V.

Somsakul V.
  • Admin
  • 106 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:อารีย์
  • Interests:problem solving

โพสต์เมื่อ 07 June 2007 - 03:20 AM

ครับ เขาถูกสอนมาแบบนั้นตั้งแต่เด็ก ก็เหมือนเรา จะเปลี่ยนไปเชื่อแบบเขาซะงั้น ก็ยากครับ
เราก็เอาง่ายๆครับ คนเหมือนกัน ทำชั่วยังไปนอนคุกเลย พระเจ้าก็ไม่ได้มาไถ่บาปนี่
แต่ผมยินดีเชื่อว่าตายแล้วจะมีนรก เพราะผมจะไม่กล้าทำชั่วทั้งในที่ลับและที่แจ้ง
ผมเชื่อว่ากรรมมีจริง เพราะผมจะได้มีเมตตากับทุกคนทั่วโลก (ว้าว)
จะได้รักทุกคนเหมือนรักตัวเองไงล่ะ
ชีวิตคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง

#7 ลูกน้อย

ลูกน้อย
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2007 - 06:52 AM

สำหรับผมแล้ว ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมจะบอกว่าไม่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ไม่รู้จะโกรธผมหรือป่าว แต่ที่รู้ผมไม่อยากทำบาป และเวลาที่ผมได้ช่วยเหลือคนที่เค้าลำบากกว่าผม ผมจะรู้สึกดีเสมอ

#8 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 07 June 2007 - 08:03 AM

เสียดายมาก แม้เกิดมาในยุคหลังพุทธกาลแค่สองพันกว่าปี แต่ไม่รู้จักพระุพุทธศาสนา ไม่รู้จักกฎแห่งกรรม ทำไม?

#9 usr15907

usr15907
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2007 - 08:17 AM

พระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่สอนว่า นรก..สวรรค์..เป็นของกลางๆ เช่นเดียวกับ ดวงอาทิตย์..ดวงจันทร์..ที่มีดวงเดียว..ทำดีได้ดี..ทำชั่ว.ได้ชั่ว..ทุกชาติ..ทุกภาษา.ทุกศาสนา..ย่อมเหมือนกันหมด ไม่มียกเว้นในเรื่องของกฎแห่งกรรม...

#10 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 07 June 2007 - 09:07 AM

หุหุ ต่างศาสนาต่างความเชื่อกันแบบนี้จะอธิบายให้เขาฟัง ต้องมีสติ สมาธิ ไหวพริบและศึกษาอย่างดีเลิศถึงจะโต้ธรรมะกับบุคคลเหล่านั้นได้ และศึกษานี่ไม่ใช่แค่ของเราอย่างเดียวนะครับ เราต้องศึกษาเรื่องของเขาให้เข้าใจถึงแก่นแท้ของเขาด้วย พูดอย่างง่ายๆเลยต้องแน่จริงๆเท่านั้นครับ ไม่เช่นนั้นจนมุมหมดหนทาง ไม่แค่นั้นยังต้องอ้างอิงยกตัวอย่างอย่างง่ายๆที่สามารถให้เขาคิดตามได้ง่ายไม่ยากจนเกินไปด้วย อย่างหลวงพ่อทัตตะ ท่านศึกษาพระไตรปิฎกมาเป็นเวลานาน อ่านมาไม่ต่ำกว่า3รอบ และทุกรอบที่ท่านอ่านท่านจะพิจารณาด้วยสมาธิเจาะลึกเข้าไปหาแก่นแท้ของหัวข้อธรรมนั้นๆเก็บตัวอย่างจากสิ่งรอบตัวมายกเป็นตัวอย่างในหัวข้อธรรมนั้นๆ ลองสังเกตดูสิครับท่านที่เคยได้ฟังธรรมเทศนาของท่าน ทุกเรื่องทุกบทที่ท่านเทศน์สอน จะต้องมีตัวอย่างอย่างน้อย2ถึง3เรื่องในหัวข้อธรรมที่ท่านเทศน์ และตัวอย่างนั้นมิใช่อ้างอิงแต่ในพระไตรปิฎกอย่างเดียว ท่านยกเอาตัวอย่างนอกตำรามาด้วยนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านสามารถเทศนาสั่งสอนผู้อื่นให้เข้าใจได้อย่างง่ายดายครับ
อย่างคุณครูไม่ใหญ่ก็เช่นกัน เรื่องนรกสวรรค์ท่านก็ยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบนั่นคือเป็นของกลางเหมือนพระอาทิตย์กับพระจันทร์ที่เป็นของกลางที่ทุกชาติทุกศาสนาต้องใช้ร่วมกันไงครับ
ในกรณีของเจ้าของกระทู้ ผมจะใช้ตัวอย่างของคุณครูไม่ใหญ่มาพูดให้เขาเข้าใจโดยเกริ่นบอกถามเจ้าของคำถามไปก่อนเช่น ถามเขาว่าในศาสนาของเขาเรียกนรกสวรรค์เหมือนกันใช่ไหม เช่นนั้นนรกสวรรค์ทั้งของเขาและของเราก็คล้ายกันใช่ไหม คือสวรรค์เป็นที่สำหรับคนทำความดี และนรกเป็นที่สำหรับคนทำชั่ว เช่นนั้นแล้วก็แสดงว่านรกสรรค์เป็นของกลางใช่ไหม ไม่ว่าจะศาสนาไหน ทำดีก็ขึ้นสวรรค์ทำชั่วก็ลงนรกเหมือนกันทุกศาสนาทุกเชื้อชาติทุกเผ่าพันธุ์ แล้วผมก็จะยกตัวอย่าง พระอาทิตย์กับพระจันทร์ว่าเป็นของกลางทุกเชื้อชาติทุกศาสนาทุกความเชื่อทุกเผ่าพันธุ์ต้องใช้ร่วมกัน หากเขาไม่เข้าใจอีกผมก็จะยกตัวอย่างอย่างอื่นเพิ่มเข้าไปเช่น น้ำ เป็นของกลาง ทุกคนทุกเชื้อชาติทุกศาสนาทุกเผ่าพันธุ์ทุกความเชื่อต้องใช้ดื่มกินใช่ไหม พยายามยกตัวอย่างจากสิ่งรอบตัวที่เขาสังเกตเห็นและเข้าใจได้มาครับ ที่สำคัญผมจะจบทิ้งท้ายเอาไว้ ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงคือ “ถ้าคุณอยากรู้เหมือนผมมาพิสูจน์กับผมด้วยกัน” ครับ

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 08 June 2007 - 11:44 AM

ถาม ในหลักความเป็นจริง คนสมัยก่อนกับคนสมัยนี้เห็นพระอาทิตย์ดวงเดียวกัน ก็ต้องเชื่อเหมือนกันสิ แต่ทำไม คนสมัยก่อนเห็นดวงอาทิตย์กลับเชื่อว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก แต่คนสมัยนี้เห็นดวงอาทิตย์กลับเชื่อว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ล่ะ ความจริงมันต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น มิใช่หรือ

ตอบ ถูกต้องครับ ความจริงต้องเป็นอย่างเดียว คือ โลกโคจรรอบดวงอาิทิตย์ อ้าวแล้วทำไมคนสมัยก่อนเชื่ออย่างนั้นล่ะ อ๋อ เพราะความรู้ยังไม่ถึงน่ะครับ คนสมัยก่อนไม่มีวัสดุอุปกรณ์ที่จะส่องดูวงโคจรของดวงดาว อาศัยแต่มองด้วยสายตาอย่างเดียว จึงเชื่อไปเช่นนั้นน่ะครับ

นั่นคือ คนสมัยก่อน เห็นว่า แต่ละชั่วโมงที่เปลี่ยนไป ดวงอาทิตย์จะเลื่อนตำแหน่งจากขึ้นทิศตะวันออก แล้วไปตกทางทิศตะวันตก ดังนั้น คนสมัยก่อนจึงสรุปว่า ดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก แต่คนสมัยนี้ทราบ เห็นที่เป็นเช่นนี้ ไม่ได้เกิดจากดวงอาทิตย์หมุนรอบโลก แต่เกิดจากโลกหมุนรอบตัวเอง และเมื่อมีอุปกรณ์ในการตรวจสอบวิเคราะห์ จึงได้ทราบว่า โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์น่ะครับ

นรกสวรรค์ก็เช่นกัน ต้องใช้ใจที่ฝึกดีแล้ว จะเป็นอุปกรณ์พิสูจน์ธรรมชาติของโลกและจักรวาลได้ทั้งหมด เห็นตลอดทั้งจักรวาล ประดุจคนดูมะขามป้อมที่อยู่ในมือยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ






ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 บารมีธรรม

บารมีธรรม
  • Members
  • 212 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 June 2007 - 02:23 AM

เรื่องนี้พูดมากไปมีแต่จะแย้งไปได้เรื่อยๆ
เอาอย่างนี้ดูไหมครับ
ชวนเขามาพิสูจน์กันดีกว่าก่อนตาย
ไม่ต้องรอจนตายถึงไปพิสูจน์
ให้รู้ให้เห็นในชาตินี้แหละครับ

ขอยกข้อมูลจากกัณฑ์เทศน์ของหลวงปู่ บางส่วนของกัณฑ์ที่40
โดยผม Format ให้เป็น Files JPEG (รูปภาพ)
ซึ่งได้ยกมาทั้งแบบดั้งเดิม
และแบบจับสาระสำคัญ
ดังที่แนบมาครับ


ซึ่งถ้าอยากพิสูจน์กันก็ค่อยคุยต่อ
ถ้าไม่ก็เปล่าประโยชน์ที่จะพูดเรื่องนี้กันอีก

ไฟล์แนบ