
การทำบุญกับวัดที่ใจเรามีอคติกับพระที่วัดนั้น
#1
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 09:14 PM
1. ถ้าเราทำบุญให้คนอื่นเช่นแม่กับน้อง (ยังไม่เสียชีวิต) โดยใส่ชื่อทั้งสองคนไป (เพราะรู้ว่าทั้งสองคนไม่ค่อยได้ทำบุญ) ทั้งสองคนจะได้รับผลบุญนี้เต็มที่มั๊ยคะ
2. ถ้าเราอยากทำบุญตักบาตรตอนเช้า แต่เราได้ยินว่าพระวัดนี้ทำเรื่องพวกยาเสนห์ เลยไม่ชอบพระที่วัดนี้ เลยไม่ได้ทำบุญ คิดอย่างนี้เป็นบาปหรือเปล่าคะ
3. หลายคน ๆ บอกว่าทำบุญอย่าคิดมาก เราทำไปแล้วพระหรือเค้าจะไปทำอย่างไรก้อเรื่องของเค้า อย่างนี้เราจะได้บุญหรือบาปกันแน่ ความคิดอย่างนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ
#2
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 09:59 PM
จะได้รับผลบุญนี้ ก็ต่อเมื่ออนุโมทนา (เพราะไม่ได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง) และจะได้อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อลงมือทำด้วยตนเอง ชักชวนผู้อื่นให้มากระทำ ตามอนุโมทนาและตรึกระลึกนึกถึงบุญที่ตนเองได้กระทำไปครับ
ขอแนะนำว่า ให้วางใจเป็นกลางๆ เถอะครับ อย่าไปคิดเช่นนั้นเลยนะครับ เพราะนอกจากจะทำให้หมองใจแล้ว บาปยังเกิดขึ้นแก่ใจของเราด้วย (แม้ว่าท่านจะกระทำผิดจริงก็ตาม แต่คุณจะต้องไม่ลืมว่า ท่านยังอยู่ในเพศภาวะแห่งความเป็นสมณะอยู่นะครับ)
กรณีนี้ บุญนั้นก่อเกิดและสำเร็จที่ใจของคุณแล้วนะครับ แต่หลังจากนั้น หากท่านนำเอาปัจจัยของเราไปใช้ในทางไม่เหมาะแล้วล่ะก็ บาปนั้นย่อมเกิดขึ้นแก่ท่านครับ หาเกิดแก่คุณไม่ เรียกว่า "เป็นกรรมของท่าน เป็นบุญของคุณครับ" เพราะฉะนั้น ขอให้ทำใจสบาย ทำใจใสๆ ไม่ต้องเป็นกังวลใดๆ นะครับ
#3
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 10:05 PM
#4
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 10:14 PM
Someday I'm gonna be free.
#5
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 10:45 PM
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#6
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 11:00 PM
สาธุ... สาธุ... สาธุ...
#7
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 04:46 PM
[attachmentid=2836]
ขอมอบให้เป็นธรรมทานแด่... คุณ Supat สมาชิกเว็บบอร์ด และแขกผู้เยี่ยมชมทุกท่านนะครับ
ไฟล์แนบ
#8
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 05:43 PM
เพราะเป็นเหมือนกันเลย
#9
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 07:56 PM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ

#10
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 08:42 PM
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#11
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 09:08 PM
#12
โพสต์เมื่อ 26 February 2006 - 04:17 PM
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#13
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 27 February 2006 - 10:50 AM
เราจะได้คิดว่าเราไม่ได้ใส่บาตรแค่พระสงฆ์รูปนี้ เราได้ใส่บาตรพระพุทธและพระธรรมด้วย
จะได้ยิ่งปีติ...ลดอาการความชอบไม่ชอบพระรูปนั้นได้
#14
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 27 February 2006 - 02:53 PM
#15
โพสต์เมื่อ 28 February 2006 - 12:26 PM
#16
โพสต์เมื่อ 28 February 2006 - 12:44 PM
หากเป็นกรณีของคุณแก้วประเสริฐล่ะก็ ผมขอแนะนำอีกทางเลือกหนึ่งให้ก็คือ ให้เลือกปฏิบัติบำรุงแต่พระภิกษุ-สามเณรที่ท่านประพฤติดี ปฏิบัติชอบสิครับ เพราะการเลือกปฏิบัติและบำรุงเช่นนี้ ย่อมจะเป็นการไม่โปรยธุลี หรือหยากเยื่อลงในพระศาสนา นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้พระภิกษุ-สามเณรที่มีความประพฤติไม่เหมาะแก่สมณสารูป ได้หันมาขัดเกลาและฝึกฝนอบรมตนเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีกด้วยครับ
#17
โพสต์เมื่อ 28 February 2006 - 10:19 PM
#18
โพสต์เมื่อ 27 June 2007 - 06:16 PM
เรามีใจในการทำบุญ ถ้าบุคคลที่ เราทำบุญด้วยต่ำด้วยศีล เรียกว่า เราได้ทานบารมี
สิ่งเหล่านี้เป็นสัจจะของธรรม
#19
โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 11:32 AM
#20
โพสต์เมื่อ 22 January 2008 - 09:37 PM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์