ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ร่มแดง.. เมื่อตัวเปียกปอนด้วยสายฝน และใจชื่นฉ่ำบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 July 2007 - 09:38 AM

วันนั้นเป็นอีกวันที่ผมต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจว่ารักประชาชนมากกว่ารั้วอื่นๆ กว่าจะเรียนเสร็จก็มืดค่ำ บรรยากาศเย็นสบาย แล้วผมก็มุ่งหน้ากลับบ้านอย่างสบายตัว ผ่านอาคารน้อยใหญ่ ย่ำก้าวออกสู่ประตูอีกฟากของวิทยาเขต เดินไปตามทางเท้าริมถนนไร้ผู้คนและเงียบงัน สักพักฝนจึงเริ่มปรอยปรายมากขึ้น และมากขึ้น ผมคว้าร่มแดงคันเล็กกะทัดรัดออกจากกระเป๋าสะพาย ดึงคันร่มโลหะให้ยืดออก และรูดก้านร่มให้กางออกเต็มผืน อวดสีแดงแก่เข้ม มีลวดลายเส้นศิลปะร่วมสมัยแนวตะวันตก เป็นสีต่างๆตามสไตล์แบบเวอร์ซาชี่ ที่ดูคลาสสิคเล็กๆ หรูเริ่ดหน่อยๆ ร่มของแม่คันนี้แหละ ที่ทำให้ผมโดนแซวมาหลายรอบ แต่ก็ถือติดไม้ติดมือมาตลอด เพราะพับใส่กระเป๋าได้พอดิบพอดี

"ปั๊กๆๆๆๆ" เสียงเม็ดฝนเขื่องๆ กระหน่ำใส่ผืนร่มที่กางกั้นอยู่เหนือศรีษะผมเกรียน ผมเดินเร็วรี่สนุกไปกับจังหวะวสันตดุริยางค์และลมสบายของพายุกลางเมือง พลางคิดในใจว่า ในยามเช่นนี้ผมอยากจะทำบุญเป็นพิเศษ กับพระภิกษุที่สัญจรผ่านมา แต่ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว หลวงพ่อหลวงพี่คงกลับวัดกันหมดแล้วละน่า ผมคิด พอเดินใกล้ถึงท่าเรือที่หมาย ผมพบสามเณรสองรูปติดฝนอยู่หน้าร้านค้า มองเข้าไปในร้านเห็นพระภิกษุท่านกำลังซื้อของ ไทยธรรมคงไม่พอสำหรับสามองค์ ผมคำนึง แล้วจึงเดินต่อไปจนถึงอาคารท่าเรือมีหลังคามิดชิด ผมหุบร่ม และรีบก้าวต่อไป เพราะผู้คนที่เดินสวนมา บอกให้รู้ว่าเรือได้เทียบท่าแล้ว

ในขณะมุ่งอ้าวจะไปขึ้นเรือ ผมเผอิญเหลือบเห็นชายผ้าเหลืองสีกร่ำผ่านมาข้างกายพอดี ผมหยุดกึก สังเกตุดูพระภิกษุวัยผู้ใหญ่ผิวสีเข้มรูปร่างใหญ่ ท่านเดินผ่านมาด้วยก้าวที่สม่ำเสมอเป็นโมเมนตั้ม ความคิดแล่นวาบเข้ามาใจว่าโอกาสแห่งการทำบุญมาถึงแล้ว แต่ทว่า.. "อย่า.. อย่านะ! ถ้าทำอย่างนี้นายจะเปียก ฝนยังตกอยู่เลย" สมองข้างขวาของผมรีบกล่าวขึ้นห้ามอย่างละล่ำละลัก "ใช่! อย่าลืมว่าร่มนี้เป็นของแม่นะ" สมองข้างซ้ายของผมพูดสำทับอย่างขลาดกลัว "พระท่านน่ะ เดินแป๊บเดียวก็ถึงวัดแล้วล่ะ ไม่ต้องถวายหรอกนะ" เซลล์สมองร้องกันระงม "ชิชะ ไอ้สมองขี้เลื่อย พวกเอ็งจะไปรู้เรื่องอะไร วันๆเอาแต่คิดฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย หัดทำอะไรดีๆเพื่อพระพุทธศาสนาเสียบ้าง" หัวใจผมตอกกลับไปจังๆ พลางส่งซิกให้ปากขยับทำงาน "หลวงพี่มีร่มไหมครับ?" ผมโพล่งถามพระภิกษุ พลางสังเกตุเนื้อตัวท่าน ใบหน้ามีหยดน้ำประปราย จีวรมีรอยเปียกจากสายฝน พระท่านรั้งเท้าแล้วหันมามองหน้า ตอบเป็นรอยยิ้มปนความฉงน ผมพลิกร่มที่หุบไว้แล้วหันไปอีกด้าน พลางยื่นด้ามร่มไปข้างหน้าท่านด้วยมาดของพระเอก "แล้วโยมล่ะ?" ท่านถามอย่างเมตตา พร้อมรอยยิ้มที่กว้างขึ้น "เอ่อ.. ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมซื้อใหม่ได้ครับ" ท่านจึงยื่นมือออกมารับร่มแดง สีแกงเผ็ด แล้วถามต่อว่า เราเรียนอยู่ที่ไหน หลวงพี่จะบิณฑบาตรตอนเช้า จะเอาร่มมาคืนให้ ผมสนทนากับท่านอยู่ครู่หนึ่ง พลางหันรีหันขวางเป็นห่วงว่าเรือจะออกจากท่าไปเสียก่อน แต่ได้ข้อสรุปว่าท่านสะดวกตอนหกโมงเช้า แต่ผมสะดวกตอนหกโมงเย็น คงยากที่จะมาพบท่านได้อีก ผมจึงถวายรอยยิ้มอีกครั้งแถมไปพร้อมกับร่มแดงคันนั้นเป็นการอำลา ในใจสัมผัสได้ว่าเป็นการสนทนาที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ความเมตตา และความปรารถนาดีต่อกัน และคงไม่น่าให้อภัยอย่างยิ่ง ถ้าจะลืมไปเสียง่ายๆ

ผมวิ่งขึ้นโป๊ะและก้าวกระโดดขึ้นเรือข้ามฟาก มองไปเบื้องบนผืนน้ำเจ้าพระยา เห็นวงน้ำอันเกิดจากหยดฝนกระจายไปทั่ว ในใจพลางนึกว่าพระท่านคงกลับวัดได้โดยสะดวก ไม่ต้องเปียกฝนคราวนี้ เมื่อเรือออกจากท่า ผมสังเกตุว่าฝนเบาบางอย่างน่าอัศจรรย์ "เทวดาคงอนุโมทนา ไม่อยากให้เราเปียกกระมัง" ผมคิดเข้าข้างตนเองครั้งใหญ่ พอถึงฝั่งก็เดินไปขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เมื่อมอเตอร์ไซค์เริ่มออกตัว ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ แต่ละเม็ดเย็นฉ่ำและทำให้เปียกปอน "ถ้ามีร่ม เราก็คงไม่เปียกขนาดนี้ แต่ถ้าไม่มีร่ม พระท่านก็คงจะเปียก และอาจเป็นหวัดได้ เราทำถูกแล้ว" ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจึงทำให้ผมเย็นสบายและชื่นใจ ฝนกระหน่ำเข้าตาจนตาพร่า กระทั่งมาถึงบ้านในสภาพลูกหมาตกน้ำ

หลังจากนั้นมา พอฝนโปรย ผมก็คิดถึงเจ้าร่มแดงลายประหลาด เพราะใช้ติดมือมาหลายปี แม้ที่บ้านจะมีร่มหลายคัน แต่เอามาถือแล้วก็ไม่คุ้น "สงสัยต้องซื้อร่มใหม่" ผมคิด... "แต่คราวนี้ต้องซื้อสีสุภาพหน่อยหละ พอถวายพระแล้วท่านจะได้ไม่เขิน..."


#2 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 04 July 2007 - 01:13 PM

อนุโมทนาบุญกับ จขกท. ด้วยครับ อ่านแล้วมีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนในหน้าและในใจ ขอชื่นชมจากใจจริงคร้าบผม

#3 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2007 - 08:05 AM

อ่านแล้วปลื้ม...
ขออนุโมทนาบุญ ด้วยคะ

#4 sai_sai

sai_sai
  • Members
  • 135 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2007 - 11:06 AM

อ่านแล้วปลื้มจริงๆครับ ชุ่มชื่นใจเหมือนว่าได้อยู่ในเหตุการณืนั้นจริงๆเลย ถ้าเป็นผมคงปลื้มไม่หยุดเลยยทีเดียว
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

#5 noon

noon
  • Members
  • 29 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2007 - 06:36 PM

ดีจังเลยค่ะ พอนึกถึงสายฝน นึกถึงร่มแดง บุญก็เกิดขึ้นทุกครั้งเลยนะคะ

เล่าเรื่องได้เยี่ยมมากเลยค่ะ อ่านแล้วทั้งเพลิน ทั้งเย็นใจ ชื่นใจ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ ^^


#6 puay

puay
  • Members
  • 155 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 July 2007 - 11:14 AM

โมทนาบุญด้วยนะคะที่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยเลยค่ะ ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจไปด้วยเลยค่ะ

#7 กัลยาณมิตรสุดอารี

กัลยาณมิตรสุดอารี
  • Members
  • 9 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 July 2007 - 04:17 PM

คราวหน้าฝนตก จะลองดูบ้างครับ แต่ผมชอบร่มสีฟ้า

#8 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 July 2007 - 06:53 PM

ดีจังเลย ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ...สาธุ

#9 รับบุญ

รับบุญ
  • Members
  • 120 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 06 July 2007 - 09:02 PM

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

#10 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 06 July 2007 - 11:52 PM

สุดยอดเลยครับ
สาาาาาาาธุ
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#11 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 14 July 2007 - 12:18 PM

บรรยายได้ดี ถ่ายทอดให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณ City Ascetic ด้วยนะครับ สาธุ

#12 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 July 2007 - 08:23 PM

อนุโมทนาบุญด้วยครับ