

พ่อเป็นประธานกดพิมพ์ จตุคามฯ
เริ่มโดย กลุ่มตะวันแก้ว, Jul 17 2007 02:02 AM
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 17 July 2007 - 02:02 AM
พ่อผมเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัด จึงได้มีโอกาสเป็นประธานกดพิมพ์จตุคามเป็นประจำ เป็นสิบๆ รุ่น แล้วยังงี้ก็คงจะเป็นวิบากแน่เรย แล้วจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรดี คือไม่ไปก็ไม่ได้อ่ะ เพราะตำแหน่งก็เรยจำเป็น แต่พ่อก็ไม่ได้ห้อยจตุคามนะ (ขนาดสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์แห่งวัดปากน้ำยังเคยไปเป็นประธานจุดเทียนชัยในพิธีปลุกเสกจตุคามเรย คิดว่าท่านก็คงไม่อยากไปอ่ะ แต่แต่เค้าเชิญมา ไม่ไปก็คงไม่ได้) แล้วจะทำไงดีไม่ให้มีวิบาก

#2
โพสต์เมื่อ 17 July 2007 - 08:37 AM
ความนับถือองค์จตุคามของคนไทย ถ้าจะว่ากันจริงๆอาจแบ่งได้เป็นประเภทๆดังนี้นะครับ
1 นับถือเพราะเห็นคนอื่นมี ก็อยากมีบ้างเพราะ องค์ใหญ่ เท่ห์ เด่น สวย ตามแฟชั่น ของปลอมของแท้ มั่วไปหมด แม้กระทั่ง โอริโอก็เอามาห้อยคอพวกนี้ไม่น่าเป็นห่วงครับอีกไม่เกิน1ปี ก็จะเลิกฮิตไปเอง( ประเภทนี้มีมากมายครับ90%)
2 นับถือเพราะเข้าใจผิดคิดว่า เป็นเทพองค์หนึ่งที่เป็นที่พึ่งดลบันดาลให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ ซึ่งข้อนี้อันตรายมากคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจผิดแบบนี้ โดยมากเขาจะไม่ทราบอยู่แล้วว่าสรณะที่พึ่งที่แท้จริงคืออะไร ถึงไม่มีองค์จตุคาม แต่เขาก็ไม่ทราบซึ้งในคุณของพระรัตนะตรัยอยู่ดี จริตคล้ายกับพวกชอบบูชา สัตว์พิการ ต้นไม้ประหลาด เจลลดไข้...
3 นับถือเพราะคิดว่าเป็นเทพองค์หนึ่ง เคารพเพราะท่านมีบุญ (แต่เป็นบุญแค่ภุมเทวา)เคารพว่าเป็นเทพเทวา เหมือนกับที่เราเคารพพระอินทร์ พรหม อะไรเทือกนี้ครับ แต่คนประเภทนี้ก็ยังรู้ว่า ที่พึ่งอันสูงสุดที่แท้จริงคือพระรัตนะตรัยโดยแท้ การที่คนประเภทนี้มีองค์จะตุคามไว้ก็เหมือนกับมี ฮกลกซิ่ว กวนอู ตี๋จูเอี๊ยะ มีไว้ก็ไมสำคัญ แต่เคาระกันตามประเพณี
4 พวกเซียนพระ เก็งกำไรซื้อมาขายไปขาดความเคารพหวังเอาบารมีผู้มีคุณมาหาประโยชน์ใส่ตัวทั้งทำปลอมทำเก๊ ทำเพี้ยนมากมายสารพัด เพื่อหาประโยชน์จากกระแสจตุคาม (ไม่ทราบว่าทุกครั้งที่มีการสร้างจตุคามแต่ละรุ่นแต่ละครั้ง วัดต่างๆได้มีการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้องค์จตุคามบ้างหรือไม่)
ดังที่กล่าวมาแล้ว จตุคามท่านก็เป็นเทวดาองหนึ่ง ถ้าคนมีไว้แบบในข้อที่3ก็ดีไป ถ้าข้อที่2-3อันตรายมากครับ ส่วนข้อที่1คงไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ ดังนั้น ถ้าเวลาเราได้รับจตุคามมา หรือจำเป็นต้องร่วมสร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้อทิษฐานว่าขอให้ อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และบุญกุศลในครั้งนี้ จงช่วยดลบันดาลให้คนไทย คลายความลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งอันไม่เป็นสาระ แล้วหันมาประกอบความเพียร ตั้งใจทำมาหากิน ตามหลักแห่งพุทธรรมคำสอน ด้วยเทอญ
1 นับถือเพราะเห็นคนอื่นมี ก็อยากมีบ้างเพราะ องค์ใหญ่ เท่ห์ เด่น สวย ตามแฟชั่น ของปลอมของแท้ มั่วไปหมด แม้กระทั่ง โอริโอก็เอามาห้อยคอพวกนี้ไม่น่าเป็นห่วงครับอีกไม่เกิน1ปี ก็จะเลิกฮิตไปเอง( ประเภทนี้มีมากมายครับ90%)
2 นับถือเพราะเข้าใจผิดคิดว่า เป็นเทพองค์หนึ่งที่เป็นที่พึ่งดลบันดาลให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ ซึ่งข้อนี้อันตรายมากคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจผิดแบบนี้ โดยมากเขาจะไม่ทราบอยู่แล้วว่าสรณะที่พึ่งที่แท้จริงคืออะไร ถึงไม่มีองค์จตุคาม แต่เขาก็ไม่ทราบซึ้งในคุณของพระรัตนะตรัยอยู่ดี จริตคล้ายกับพวกชอบบูชา สัตว์พิการ ต้นไม้ประหลาด เจลลดไข้...
3 นับถือเพราะคิดว่าเป็นเทพองค์หนึ่ง เคารพเพราะท่านมีบุญ (แต่เป็นบุญแค่ภุมเทวา)เคารพว่าเป็นเทพเทวา เหมือนกับที่เราเคารพพระอินทร์ พรหม อะไรเทือกนี้ครับ แต่คนประเภทนี้ก็ยังรู้ว่า ที่พึ่งอันสูงสุดที่แท้จริงคือพระรัตนะตรัยโดยแท้ การที่คนประเภทนี้มีองค์จะตุคามไว้ก็เหมือนกับมี ฮกลกซิ่ว กวนอู ตี๋จูเอี๊ยะ มีไว้ก็ไมสำคัญ แต่เคาระกันตามประเพณี
4 พวกเซียนพระ เก็งกำไรซื้อมาขายไปขาดความเคารพหวังเอาบารมีผู้มีคุณมาหาประโยชน์ใส่ตัวทั้งทำปลอมทำเก๊ ทำเพี้ยนมากมายสารพัด เพื่อหาประโยชน์จากกระแสจตุคาม (ไม่ทราบว่าทุกครั้งที่มีการสร้างจตุคามแต่ละรุ่นแต่ละครั้ง วัดต่างๆได้มีการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้องค์จตุคามบ้างหรือไม่)
ดังที่กล่าวมาแล้ว จตุคามท่านก็เป็นเทวดาองหนึ่ง ถ้าคนมีไว้แบบในข้อที่3ก็ดีไป ถ้าข้อที่2-3อันตรายมากครับ ส่วนข้อที่1คงไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ ดังนั้น ถ้าเวลาเราได้รับจตุคามมา หรือจำเป็นต้องร่วมสร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้อทิษฐานว่าขอให้ อานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และบุญกุศลในครั้งนี้ จงช่วยดลบันดาลให้คนไทย คลายความลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งอันไม่เป็นสาระ แล้วหันมาประกอบความเพียร ตั้งใจทำมาหากิน ตามหลักแห่งพุทธรรมคำสอน ด้วยเทอญ
#3
โพสต์เมื่อ 17 July 2007 - 11:31 AM
มองให้เห็นว่า
- เป็นการทำของที่ระลึก เช่นเดียวกับเหรียญที่ระลึกต่างๆตามเทศกาล
- ต้องไม่ไปประชาสัมพันธ์เรื่องที่อาจก่อให้เกิดความงมงาย
- ภูมิใจว่าตนได้รับเกียรติ ความไว้วางใจ ให้ทำหน้าที่เป็นประธานของงาน
- ใจใสใส วางอุเบกขา
ส่วนปุถุชนที่ศรัทธาเกินกว่าเหตุ ก็สุดแต่ความนึกคิดเขา
- เป็นการทำของที่ระลึก เช่นเดียวกับเหรียญที่ระลึกต่างๆตามเทศกาล
- ต้องไม่ไปประชาสัมพันธ์เรื่องที่อาจก่อให้เกิดความงมงาย
- ภูมิใจว่าตนได้รับเกียรติ ความไว้วางใจ ให้ทำหน้าที่เป็นประธานของงาน
- ใจใสใส วางอุเบกขา
ส่วนปุถุชนที่ศรัทธาเกินกว่าเหตุ ก็สุดแต่ความนึกคิดเขา
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#4
โพสต์เมื่อ 17 July 2007 - 03:24 PM
หนู Pungpa เห็นด้วยกับพี่ สิริปโภ อย่างมากๆๆๆเลยคะ
วันนี้ต้องมาช่วยพ่อทำโฆษณาจตุคามฯลงหนังสือพิมพ์ข่าวสดอีก และเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งจะออกแบบไวนิลและก็สติกเกอร์ไป (พ่อให้Pungpaหยุดเรียนเพื่อมาช่วยงาน)
+_+ แต่หลังจากที่ได้ตั้งกระทู้ไปเมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อน เกี่ยวกับPungpaออกแบบจตุคาม ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น เวลาพ่อถามอะไร ก็เออๆออๆตาม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดว่าเป็นที่พึ่งของเรา Pungpaแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น และถือว่าได้กตัญญูพ่อด้วย (เพราะพ่อนอนดึก ทำงานหนัก Pungpaก็สงสารพ่อ ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย) เลยทำให้คิดถึงบุญกิริยาวัตถุ 10 ข้อหนึ่ง คือ ช่วยเหลือในกิจที่ชอบ (ไม่ได้ชอบจตุคามนะคะ) ทำไปนึกถึงพระรัตนตรัยไป แล้วเราก็ได้บุญข้อนี้อย่างดีเลย
พี่ๆว่าหนูคิดถูกรึเปล่าค่ะ
วันนี้ต้องมาช่วยพ่อทำโฆษณาจตุคามฯลงหนังสือพิมพ์ข่าวสดอีก และเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งจะออกแบบไวนิลและก็สติกเกอร์ไป (พ่อให้Pungpaหยุดเรียนเพื่อมาช่วยงาน)
+_+ แต่หลังจากที่ได้ตั้งกระทู้ไปเมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อน เกี่ยวกับPungpaออกแบบจตุคาม ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น เวลาพ่อถามอะไร ก็เออๆออๆตาม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดว่าเป็นที่พึ่งของเรา Pungpaแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น และถือว่าได้กตัญญูพ่อด้วย (เพราะพ่อนอนดึก ทำงานหนัก Pungpaก็สงสารพ่อ ไม่อยากให้พ่อเหนื่อย) เลยทำให้คิดถึงบุญกิริยาวัตถุ 10 ข้อหนึ่ง คือ ช่วยเหลือในกิจที่ชอบ (ไม่ได้ชอบจตุคามนะคะ) ทำไปนึกถึงพระรัตนตรัยไป แล้วเราก็ได้บุญข้อนี้อย่างดีเลย
พี่ๆว่าหนูคิดถูกรึเปล่าค่ะ
หยุดนั่นแหละเป็นตัวสมถะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#5
โพสต์เมื่อ 17 July 2007 - 04:43 PM
น้องพุงปลา น่ารักดีครับ