ทำไมใน case study ถึงชอบถามว่าลงมาเกิดกี่รอบครับแล้วการเกิดแต่ละครั้งมีการต่างกันอย่างไรครับ และแต่ละครั้งเราทำอะไรบ้างครับ หรือทำบุญแบบนี้ทุกชาติครับ

ทำไมใน case study ถึงชอบถามว่าลงมาเกิดกี่รอบครับ
เริ่มโดย ลูกพระราช, Aug 06 2007 11:30 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 11:30 PM
#2
โพสต์เมื่อ 07 August 2007 - 12:51 AM
คำตอบอยู่ในคำถามนะ ใครๆก็คงคิดเหมือนๆกัน ถ้าอยู่ในหมู่คณะเดียวกัน ที่ปรารถนาการทำบุญสร้างบารมีทุกภพทุกชาติครับ









#3
โพสต์เมื่อ 07 August 2007 - 07:52 AM
ในหมู่คณะของเราไม่ว่าจะลงมากี่รอบก็เพื่อเพิ่มพูนบารมีทุกรอบค่ะ และที่อยากรู้ก็เพราะว่าจะได้ปลื้มถ้าลงมาทุกรอบ แต่ถ้าหลุดออกไป พบชาตินี้เมื่อมาเจอหมู่คณะแล้วก็ให้หมั่นสั่งสมบารมี และอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตพระบรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลย ตามที่หลวงพ่อให้พรไงคะ
#4
โพสต์เมื่อ 07 August 2007 - 01:39 PM
เพราะความไม่รู้ครับ เพราะความไม่รู้จึงอยากรู้เพราะอยากรู้จึงถาม และเพราะถามจึงได้รู้ เมื่อรู้จึงเอาไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ผู้ที่เป็นบัณฑิตพึ่งปฏิบัติ ดีกว่าไม่รู้แล้วไม่ถาม พอไม่ถามก็ไม่รู้พอไม่รู้ก็เข้าใจในสิ่งผิดๆ พอเข้าใจในสิ่งผิดๆก็ทำในสิ่งที่ผิดๆ เช่น รู้ว่าชาติก่อนเราไปทำอะไรมาชาตินี้เราถึงได้เป็นแบบนี้ เมื่อรู้เราก็แก้ไขไม่ทำเหมือนชาติก่อนๆอีกยังไงล่ะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#5
โพสต์เมื่อ 07 August 2007 - 09:07 PM
คำถามใน Case study ที่ว่า "ลงมาสร้างบารมีกี่รอบนั้น" เป็นเหตุผลส่วนบุคคลของเจ้าของ Case
แต่การลงมากี่รอบจะมีความหมายอย่างไรนั้น ลองมาดูวาทะธรรมนี้กันอีกรอบ
สิ่งที่ต้องสั่งสม คือ บุญกุศล
สิ่งที่ต้องแสวงหา คือ พระรัตนตรัยภายใน
เป้าหมายชีวิต คือ ที่สุดแห่งธรรม
ที่พักระหว่างทาง คือ ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์
เรากล่าวคำวาทะธรรมนี้กันเกือบทุกวัน นั่นคือเหตุผลในการเกิดมาของพวกเราทุกคน
การลงมาเกิดของพวกเราแต่ละครั้ง คือการมาทำหน้าที่
ถ้าเปรียบกับทางโลก ก็เหมือนกับการมาทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
ซึ่งก็ต้องมีการวางแผนการทำงานใช่ไหมคะ
แผนงานก็ต้องมีเรื่องของงาน เวลาในการทำงาน และสถานที่ทำงาน อีกทั้งคนที่ทำงานนั้น
ซึ่งก็อยู่ที่ปัจจัยหลายๆอย่าง พอดีว่างานของพวกเราคือ การสร้างบารมีเพื่อที่สุดแห่งธรรม
ใครที่ได้มาลงเกิดกับหมู่คณะทุกรอบ ก็มีโอกาสได้สั่งสมบุญมากยิ่งๆขึ้น
สิ่งที่หลวงพ่อท่านบอกให้พวกเราทำ นั่นคือหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ของการเกิดมา
ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ ตามติดและติดตามหลวงพ่อและหมู่คณะทุกภพทุกชาตินะคะ
พวกเรามาทำหน้าที่กัน มาทำให้สำเร็จ
กฐินปีนี้ โมดูล โมดูล โมดูล สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ เย้ เย้ ชิตังเม
แต่การลงมากี่รอบจะมีความหมายอย่างไรนั้น ลองมาดูวาทะธรรมนี้กันอีกรอบ
สิ่งที่ต้องสั่งสม คือ บุญกุศล
สิ่งที่ต้องแสวงหา คือ พระรัตนตรัยภายใน
เป้าหมายชีวิต คือ ที่สุดแห่งธรรม
ที่พักระหว่างทาง คือ ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์
เรากล่าวคำวาทะธรรมนี้กันเกือบทุกวัน นั่นคือเหตุผลในการเกิดมาของพวกเราทุกคน
การลงมาเกิดของพวกเราแต่ละครั้ง คือการมาทำหน้าที่
ถ้าเปรียบกับทางโลก ก็เหมือนกับการมาทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
ซึ่งก็ต้องมีการวางแผนการทำงานใช่ไหมคะ
แผนงานก็ต้องมีเรื่องของงาน เวลาในการทำงาน และสถานที่ทำงาน อีกทั้งคนที่ทำงานนั้น
ซึ่งก็อยู่ที่ปัจจัยหลายๆอย่าง พอดีว่างานของพวกเราคือ การสร้างบารมีเพื่อที่สุดแห่งธรรม
ใครที่ได้มาลงเกิดกับหมู่คณะทุกรอบ ก็มีโอกาสได้สั่งสมบุญมากยิ่งๆขึ้น
สิ่งที่หลวงพ่อท่านบอกให้พวกเราทำ นั่นคือหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ของการเกิดมา
ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ ตามติดและติดตามหลวงพ่อและหมู่คณะทุกภพทุกชาตินะคะ
พวกเรามาทำหน้าที่กัน มาทำให้สำเร็จ
กฐินปีนี้ โมดูล โมดูล โมดูล สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ เย้ เย้ ชิตังเม
#6
โพสต์เมื่อ 18 August 2007 - 03:02 PM
เรื่องนี้สำหรับคนพึ่งเข้าวัดได้ไม่กี่ปีจะไม่เข้าใจ ถ้าเป็นคนในจะเข้าใจแล้วเอาเรื่องนี้ไปถ่ายทอดให้คนมาใหม่แนบ
ไปถามคุณครูไม่ใหญ่ คนมาเก่าเอามาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องการสร้างบารมีของครูบาอาจารย์เราในพุทธธันดรที่แ้ล้วในวง
แคบแล้วเรื่องกระจายไปในวงกว้าง จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมาทำนองอยากรู้ว่าตัวเองน่ะเป็นคนมีโอกาสมากไหมจะได้ลง
มาพร้อมครูบาอาจารย์ เพราะบางคนมีกำลังใจน้อย สร้างบารมีน้อยก็ไม่ได้ลง
ความสงสัยมันเป็นเรื่องเ่่่่ก่า เหมือนที่คุณครูไม่ใหญ่เคยบอกว่าคำถามคุณอนันต์ อัศวโภคิณ ทึ่ถามนั้นไม่ได้ถามเป็น
ชาติแรก ถามซ้ำมาทุกชาติ เพราะเขาลบความจำเราไปมาถามใหม่อยู่นั่นแหละ ตอบแล้วก็ลืม ชาติต่อไปก็ถามอีก ดังนั้น
เราต้องอาศัยคำตอบคนอื่นมารู้ในส่วนที่เป็นกำลังใจที่จะหาคำตอบในตัวเอง ยังไงก็ต้องเกิดอีกหลายรอบ ในทุกรอบเรา
จะทำตัวเองให้อยู่ในวงบุญนี้ตลอดรอดฝั่งได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยากมาก มีโอกาสแล้วเก็บความสงสัยนั้นไปก่อน
เมื่อเป็นคนนอกอยู่นานๆอาจได้เป็นคนอยู่วงในคือเข้าไปในวงกลมของใจก็จะไม่สงสัยอะไรอีก
เรื่องนี้สำหรับคนพึ่งเข้าวัดได้ไม่กี่ปีจะไม่เข้าใจ ถ้าเป็นคนในจะเข้าใจแล้วเอาเรื่องนี้ไปถ่ายทอดให้คนมาใหม่แนบ
ไปถามคุณครูไม่ใหญ่ คนมาเก่าเอามาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องการสร้างบารมีของครูบาอาจารย์เราในพุทธธันดรที่แ้ล้วในวง
แคบแล้วเรื่องกระจายไปในวงกว้าง จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมาทำนองอยากรู้ว่าตัวเองน่ะเป็นคนมีโอกาสมากไหมจะได้ลง
มาพร้อมครูบาอาจารย์ เพราะบางคนมีกำลังใจน้อย สร้างบารมีน้อยก็ไม่ได้ลง
ความสงสัยมันเป็นเรื่องเ่่่่ก่า เหมือนที่คุณครูไม่ใหญ่เคยบอกว่าคำถามคุณอนันต์ อัศวโภคิณ ทึ่ถามนั้นไม่ได้ถามเป็น
ชาติแรก ถามซ้ำมาทุกชาติ เพราะเขาลบความจำเราไปมาถามใหม่อยู่นั่นแหละ ตอบแล้วก็ลืม ชาติต่อไปก็ถามอีก ดังนั้น
เราต้องอาศัยคำตอบคนอื่นมารู้ในส่วนที่เป็นกำลังใจที่จะหาคำตอบในตัวเอง ยังไงก็ต้องเกิดอีกหลายรอบ ในทุกรอบเรา
จะทำตัวเองให้อยู่ในวงบุญนี้ตลอดรอดฝั่งได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยากมาก มีโอกาสแล้วเก็บความสงสัยนั้นไปก่อน
เมื่อเป็นคนนอกอยู่นานๆอาจได้เป็นคนอยู่วงในคือเข้าไปในวงกลมของใจก็จะไม่สงสัยอะไรอีก
ไปถามคุณครูไม่ใหญ่ คนมาเก่าเอามาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องการสร้างบารมีของครูบาอาจารย์เราในพุทธธันดรที่แ้ล้วในวง
แคบแล้วเรื่องกระจายไปในวงกว้าง จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมาทำนองอยากรู้ว่าตัวเองน่ะเป็นคนมีโอกาสมากไหมจะได้ลง
มาพร้อมครูบาอาจารย์ เพราะบางคนมีกำลังใจน้อย สร้างบารมีน้อยก็ไม่ได้ลง
ความสงสัยมันเป็นเรื่องเ่่่่ก่า เหมือนที่คุณครูไม่ใหญ่เคยบอกว่าคำถามคุณอนันต์ อัศวโภคิณ ทึ่ถามนั้นไม่ได้ถามเป็น
ชาติแรก ถามซ้ำมาทุกชาติ เพราะเขาลบความจำเราไปมาถามใหม่อยู่นั่นแหละ ตอบแล้วก็ลืม ชาติต่อไปก็ถามอีก ดังนั้น
เราต้องอาศัยคำตอบคนอื่นมารู้ในส่วนที่เป็นกำลังใจที่จะหาคำตอบในตัวเอง ยังไงก็ต้องเกิดอีกหลายรอบ ในทุกรอบเรา
จะทำตัวเองให้อยู่ในวงบุญนี้ตลอดรอดฝั่งได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยากมาก มีโอกาสแล้วเก็บความสงสัยนั้นไปก่อน
เมื่อเป็นคนนอกอยู่นานๆอาจได้เป็นคนอยู่วงในคือเข้าไปในวงกลมของใจก็จะไม่สงสัยอะไรอีก
เรื่องนี้สำหรับคนพึ่งเข้าวัดได้ไม่กี่ปีจะไม่เข้าใจ ถ้าเป็นคนในจะเข้าใจแล้วเอาเรื่องนี้ไปถ่ายทอดให้คนมาใหม่แนบ
ไปถามคุณครูไม่ใหญ่ คนมาเก่าเอามาเล่าสู่กันฟังถึงเรื่องการสร้างบารมีของครูบาอาจารย์เราในพุทธธันดรที่แ้ล้วในวง
แคบแล้วเรื่องกระจายไปในวงกว้าง จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมาทำนองอยากรู้ว่าตัวเองน่ะเป็นคนมีโอกาสมากไหมจะได้ลง
มาพร้อมครูบาอาจารย์ เพราะบางคนมีกำลังใจน้อย สร้างบารมีน้อยก็ไม่ได้ลง
ความสงสัยมันเป็นเรื่องเ่่่่ก่า เหมือนที่คุณครูไม่ใหญ่เคยบอกว่าคำถามคุณอนันต์ อัศวโภคิณ ทึ่ถามนั้นไม่ได้ถามเป็น
ชาติแรก ถามซ้ำมาทุกชาติ เพราะเขาลบความจำเราไปมาถามใหม่อยู่นั่นแหละ ตอบแล้วก็ลืม ชาติต่อไปก็ถามอีก ดังนั้น
เราต้องอาศัยคำตอบคนอื่นมารู้ในส่วนที่เป็นกำลังใจที่จะหาคำตอบในตัวเอง ยังไงก็ต้องเกิดอีกหลายรอบ ในทุกรอบเรา
จะทำตัวเองให้อยู่ในวงบุญนี้ตลอดรอดฝั่งได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยากมาก มีโอกาสแล้วเก็บความสงสัยนั้นไปก่อน
เมื่อเป็นคนนอกอยู่นานๆอาจได้เป็นคนอยู่วงในคือเข้าไปในวงกลมของใจก็จะไม่สงสัยอะไรอีก
#7
โพสต์เมื่อ 23 September 2007 - 12:00 PM
Sa Dhu