“แต่งงานไปทำไม” เรียบเรียงจากคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2547
มีคน 750,000 คนมาเดินขบวนให้ออกกฎหมายทำแท้งในอเมริกา ทำไมเขาไม่อายกันนะ ออกมาเดินขบวนขอให้ฆ่าลูกให้ถูกต้องตามกฎหมาย ฆ่ามนุษย์ก็แย่แล้ว แต่นี่ฆ่าลูกของตัว โดยอ้างว่าไม่พร้อม ถ้าไม่พร้อมก็อย่าเพิ่งอยู่ร่วมกัน บ้างก็อ้างว่าลูกพิการจำเป็นต้องเอาออก เดี๋ยวออกมาต้องมาดูแลคนพิการ ขึ้นชื่อว่าลูกเราอยู่ในท้อง ก็ต้องดูแล เราต้องมีความรับผิดชอบทันทีที่เราคิดจะอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา จะถูกกฎหมายหรือไม่ถูกกฎหมายก็แล้วแต่ ถือว่ามีสัญญาใจซึ่งกันและกันแล้ว ระหว่างหญิงกับชายที่มีความพร้อมที่จะอยู่ร่วมกัน และพร้อมที่จะรับผิดชอบในทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราจะบอกเราไม่พร้อมไม่ได้ โจรเวลาปล้นก็ต้องพร้อมเสมอให้ตำรวจจับ หรือถูกยิงตาย หรือถูกฆ่าตาย ไม่ใช่ว่าไปปล้นแล้วถูกตำรวจจับ แล้วจะขอตำรวจว่า ผมยังไม่พร้อม ขออนุญาตกลับบ้านก่อนได้ไหม ก็ไม่ได้ อะไรทุกอย่างทำแล้วต้องรับผิดชอบ
เพราะฉะนั้น จะเริ่มเห็นได้ว่า จิตใจของคน 750,000 คนนี้ เริ่มเสื่อมคุณภาพจากความเป็นพ่อเป็นแม่ ใกล้เคียงกับนกกับกาแล้ว นกกายังไม่ทำแท้งเลย พอมันทำท้อง มันก็เลี้ยง แมวก็ยังเลี้ยง หมู ม้า ก็ยังไม่ทำแท้ง มีแต่คนไปทำให้มัน เพราะมันไม่มีอารมณ์คิด กายมันเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่ในภูมิของอบายก็จริง แต่ใจสูง ส่วนคน 750,000 คนนี้ ทำไมเป็นอย่างนั้น อ้างว่าไม่พร้อม ถ้าไม่พร้อมให้คบกันเป็นเพื่อน ยิ้มแย้ม แจ่มใส คุยกันไป จนกว่าเราจะมีความพร้อม โดยต้องศึกษาว่าเราจะอยู่ร่วมกันไปเพื่ออะไร ถ้ายังไม่รู้ตรงนี้อย่าเพิ่งอยู่ร่วมกัน และต้องรู้ว่า จะอยู่กันอย่างไรที่จะผาสุก เพราะแต่ละคนก็มีปัญหา หนึ่งคนก็หนึ่งปัญหา สองคนก็สองปัญหา เอามารวมกันก็มีปัญหา มีหลักธรรม วิธีการ หรือข้อปฏิบัติในการดำเนินชีวิตในฐานะคู่ครอง สามีภรรยากันแล้วหรือยัง ยังไม่มีก็ไปศึกษาเสียก่อน อย่างน้อยต้องรู้ตรงนี้
คำว่า “แต่งงาน” คือ การทำ “งาน คือ การสร้างบารมี” ให้ดีขึ้น เพื่อเป็นกัลยาณมิตรให้ซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้งานสมบูรณ์ขึ้น โดยต้องมีรสแห่งธรรมเสมอกัน และเราต้องเป็นทางผ่านให้มนุษย์เกิดมาสร้างบารมีในโลก กายของเราหญิงและชายจะเป็นชุมทางที่สัตว์โลกต่าง ๆ มาจากภพภูมิต่าง ๆ อาศัยเป็นทางผ่านมาเกิด ถ้าใครมีวิบากกรรม ก็มีลูกพิการ ก็ต้องเลี้ยงดูไป เพราะเราได้ชื่อว่าเป็นพ่อเป็นแม่แล้ว ทันทีที่ปฏิสนธิวิญญาณเกิดขึ้น คำว่าพ่อกับแม่ก็เกิดแล้ว สามีภรรยายังหย่ากันขาด ลืมกันไป แต่พ่อแม่ลูกไม่ขาดกัน ตายไป 10 ปี 20 ปี ถ้าถามว่าเป็นลูกใคร พ่อชื่ออะไร แม่ชื่ออะไร ก็ยังเหมือนเดิม นั่นแปลว่า สายโลหิตนี้ตัดไม่ขาด มันเชื่อมโยงกันได้ เพราะฉะนั้นต้องคิดตรองตรงนี้กันให้ดี ๆ อย่าไปคิดแต่สนุกสนานเพลิดเพลินอย่างเดียว เพราะมีหน้าที่ความรับผิดชอบอยู่ด้วย และที่สำคัญคือ มันมีวิบากอยู่ด้วยตรงนี้ ทำให้เราพลัดไปอบายได้ การกระทำใด ๆ ทั้งความคิด คำพูด ทางกาย วาจา ใจ ล้วนมีผลทั้งสิ้น และหลีกเลี่ยงผลนั้นไม่ได้ด้วย ผลของการทำความชั่ว ก็ทำให้ความทุกข์ทรมานมาก เรายังขาดความรู้ตรงนี้ถึงเป็นอย่างนี้ ให้รีบไปขยายจานดาวธรรม จะได้ช่วยกันถ่ายทอดความรู้ในอเมริกา ให้รีบขยายให้ทั่วถึง มีกี่บ้านให้รีบขยายไป การออกมาเดินขบวนถึง 750,000 คน แสดงว่า คนที่ไม่ได้ออกมาคงมีเป็นล้านคน แปลกที่ไม่ออกมาหรือกล้าจะแสดงตัวออกมา จะมาคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเราไม่ถูก เราต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ต่อเพื่อนมนุษย์ ในกรณีที่เพื่อนมนุษย์แสดงออกในที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเรารู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องเป็นอย่างไรต้องกล้าแสดงออก ไปยืนหยัดต่อสู้กัน เพื่อให้สิ่งดีงามนี้เกิดขึ้นในโลก นี่เป็นสิ่งที่เราต้องทำ
“แต่งงานไปทำไม”
เริ่มโดย extra, Oct 19 2007 06:29 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 19 October 2007 - 06:29 PM
#2
โพสต์เมื่อ 19 October 2007 - 07:40 PM
แหม.. เหมาะเจาะกับเทศกาลแต่งงานช่วงนี้พอดีเลยนะคะ มีแต่ข่าว "แต่งงาน" ของดาราคนดัง 

เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#3
โพสต์เมื่อ 19 October 2007 - 08:01 PM
บทความดีมากครับ
#4
โพสต์เมื่อ 19 October 2007 - 09:17 PM
QUOTE
พรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด
ก่อนนั้นอยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ
ฉัน จึงได้มาใกล้กับเธอ...
ก่อนนั้นอยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ
ฉัน จึงได้มาใกล้กับเธอ...

เอาไงดี....

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 09:14 AM
ดีมากเลยครับ ทำผิดโดยไม่รู้ตัวว่ามันผิดนี่ต้องรับผลอันยาวนานเลยนะครับ ต้องไปใช้กรรมที่ตนเองกระทำใว้ แต่พวกที่ไปเดินขบวนประท้วงนั้นเป็นต่างชาติเขาไม่ได้พบพระพุทธศาสนา ไม่รู้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยไม่รู้เรื่องราวการไปเกิดมาเกิด หรือภพนี้แล้วมีภพหน้า น่าสงสารจริงๆนะครับ เพราะฉนั้นนะครับ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วก็ควรตรึกตรองให้ดีก่อนที่จะมีคู่ครองและมีบุตรกันนะครับว่าตัวเรานั้นพร้อมหรือยังตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอนใว้น่ะครับ ขอกราบอนุโมทนาบุญคับ สาธุ
ใจหยุดคือ ที่สุดแห่งบุญ
#6
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 01:03 PM
แต่งกับงาน งานที่แท้จริง..