เมื่อดูรายการพุทธประวัติ ก็เลยทราบว่าผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้นั้น นอกจากต้องมีบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว ยังต้องได้รับพุทธพยากรณ์จากปากพระโอษฐ์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนเท่านั้น จึงเกิดความอยากรู้ว่าในยุคของเรานี้ใครเป็นผู้ที่ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เพื่อที่จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของกัลป์นี้

ใครคือผู้ที่ได้รับพุทธพยากรณ์?
เริ่มโดย peepensiri, Oct 20 2007 07:45 AM
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 07:45 AM
#2
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 08:15 AM
เจ้าชายอชิตะ ที่จะมาเป็นพระศรีอารย์ เมตไตรย
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#3
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 09:40 AM
ตอนได้รับพุทธพยากรณ์นั้น ท่านบวชเป็นพระ ชื่อว่า พระอชิตะ ครับ
เรื่องราวตอนที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์นั้น เกิดจากหลังท่านบวชไปได้สักพัก พระนางปชาบดีโคตมี (แม่นมของพระพุทธเจ้า) อยากถวายผ้าจีวรพระพุทธเจ้ามาก จึงได้หาผ้าเนื้อดีมากๆ มาทำจีวรถวาย
แต่พอตอนถวายพระพุทธเจ้าไม่รับ กลับตรัสบอกให้พระนางถวายเป็นสังฆทาน พระนางก็เสียใจ จนพระพุทธเจ้าต้องแสดงอานิสงส์ของสังฆทานให้ทราบว่ายิ่งใหญ่กว่า การถวายเฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ทำให้พระนางเข้าใจ จึงน้อมถวายเป็นสังฆทาน ถวายพระสารีบุตรแทน พระสารีบุตรก็ไม่รับ พระโมคคัลนานะก็ไม่รับ ถวายรูปไหน ก็ไม่มีใครรับเลย จนไปถึงพระบวชใหม่ คือ พระอชิตะ ท่านรับไว้
พระนางปชาบดีก็เสียใจอีก พระพุทธเจ้าท่านต้องการให้พระนางเห็นอานุภาพของพระอชิตะ จึงอธิษฐานให้บาตรของพระองค์ลอยหนีขึ้นไปกลางอากาศ พระอรหันต์ทุกรูป ต่างอาสาเหาะไปเอาคืนมา แล้วก็พากันเหาะไป แต่ไม่มีรูปใดสามารถหาบาตรของพระพุทธองค์พบ
พระพุทธองค์ก็ตรัสให้พระอชิตะช่วยหา พระอชิตะไม่มีฤทธิ์ใดๆ เลย จึงตั้งสัจอธิษฐานว่า ท่านบวชในพระพุทธศาสนามานั้น ไม่ได้หวังลาภสักการะใดๆ มีเจตนาเพียงมุ่งปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ขอให้บาตรของพระพุทธเจ้าลอยมาที่มือด้วยเถิด แล้วบาตรของพระพุทธเจ้า ก็ลอยมาที่มือท่านจริงๆ
พระนางปชาบดี เห็นแล้วก็เกิดปีติ แล้วพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสพุทธพยากรณ์ พระอชิตะ ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต นามว่า พระศรีอาริยเมตไตย
เรื่องราวตอนที่ท่านได้รับพุทธพยากรณ์นั้น เกิดจากหลังท่านบวชไปได้สักพัก พระนางปชาบดีโคตมี (แม่นมของพระพุทธเจ้า) อยากถวายผ้าจีวรพระพุทธเจ้ามาก จึงได้หาผ้าเนื้อดีมากๆ มาทำจีวรถวาย
แต่พอตอนถวายพระพุทธเจ้าไม่รับ กลับตรัสบอกให้พระนางถวายเป็นสังฆทาน พระนางก็เสียใจ จนพระพุทธเจ้าต้องแสดงอานิสงส์ของสังฆทานให้ทราบว่ายิ่งใหญ่กว่า การถวายเฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ทำให้พระนางเข้าใจ จึงน้อมถวายเป็นสังฆทาน ถวายพระสารีบุตรแทน พระสารีบุตรก็ไม่รับ พระโมคคัลนานะก็ไม่รับ ถวายรูปไหน ก็ไม่มีใครรับเลย จนไปถึงพระบวชใหม่ คือ พระอชิตะ ท่านรับไว้
พระนางปชาบดีก็เสียใจอีก พระพุทธเจ้าท่านต้องการให้พระนางเห็นอานุภาพของพระอชิตะ จึงอธิษฐานให้บาตรของพระองค์ลอยหนีขึ้นไปกลางอากาศ พระอรหันต์ทุกรูป ต่างอาสาเหาะไปเอาคืนมา แล้วก็พากันเหาะไป แต่ไม่มีรูปใดสามารถหาบาตรของพระพุทธองค์พบ
พระพุทธองค์ก็ตรัสให้พระอชิตะช่วยหา พระอชิตะไม่มีฤทธิ์ใดๆ เลย จึงตั้งสัจอธิษฐานว่า ท่านบวชในพระพุทธศาสนามานั้น ไม่ได้หวังลาภสักการะใดๆ มีเจตนาเพียงมุ่งปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ขอให้บาตรของพระพุทธเจ้าลอยมาที่มือด้วยเถิด แล้วบาตรของพระพุทธเจ้า ก็ลอยมาที่มือท่านจริงๆ
พระนางปชาบดี เห็นแล้วก็เกิดปีติ แล้วพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสพุทธพยากรณ์ พระอชิตะ ก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต นามว่า พระศรีอาริยเมตไตย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 09:45 AM
สาธุๆ..

แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 11:00 AM
สาธุ สาธุ สาธุ
100กะรัต
#6
โพสต์เมื่อ 20 October 2007 - 12:54 PM
สาธุ สาธุ สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 21 October 2007 - 06:04 PM
Sa Thu Krub
#8
โพสต์เมื่อ 21 October 2007 - 10:03 PM
สาธุ
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก
#9
โพสต์เมื่อ 22 October 2007 - 12:51 PM
^^~*
สาธุ ... ครับ ...
.................
สาธุ ... ครับ ...
.................
เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*
ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*
#10
โพสต์เมื่อ 24 October 2007 - 09:10 AM
สาธุครับ
#11
โพสต์เมื่อ 24 October 2007 - 09:46 AM
อนุโมทนา สาธุ