ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เรื่องผีๆ ที่คนอยากรู้


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 นักรบกองทัพธรรม

นักรบกองทัพธรรม
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 October 2007 - 03:37 PM

ผมได้ฟังเรื่องเล่าเรื่องผีมามากมายจากสื่อต่าง ๆ เคยได้ยินว่าคนตายเเล้วจามีวิญญาณวนเวียนอยู่ระยะหนึ่งประมาณ3-7วัน
แล้วไปเกิดภพอื่น และมักจะมาที่บ้านหาญาติของตน มาเก็บรอยเท้าอะไรประมาณนี้ ส่วนบางเรื่องคนโดนฆ่า หรือตาย วิญญาณ
ยังวนเวียนอยู่ในห้องหรือที่ๆ ตาย เช่น บ้าน โรงเเรม หอพัก โรงพยาบาล ทำไมไม่ไปเกิด ทำไมผีชอบหลอกกัน เค้าว่ามาขอส่วนบุญ แล้วทำไมไม่มาดีๆ มาหลอกกันทำไม มาแลบลิ้นปริ้นตา แล้วเรื่องผีอำจริงไหม ทำยังไงหาย
บางทีไปนอนขวางประตูผีออกไม่ได้จริงไหม นอนใต้คานแล้วเจอผียังไง นอนขว้างทางเดินผีแล้วเจอ ทำไมไม่เดินทางอื่น เเล้วเรื่องตัวตายตัวแทนมีจริงไหม ผีมักทำคนให้ตายเพื่อให้ไปอยู่ด้วยกันหรือมาแทนแล้วตนไปเกิด งงมากๆ


ปล. รายงานตัวอีกครั้ง

#2 นักรบกองทัพธรรม

นักรบกองทัพธรรม
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 October 2007 - 04:31 PM

แล้ววิธีเห็นผีต่างๆ ทำเเล้ว เห็นจริงไหม เล่นผีถ้วยแก้วแล้วมีผีมามาเข้าจริงไหม ผีมีหลายชนิดเพราะกรรมใช่ไหม
ถ้าตอบทุกคำตอบได้ยิ่งดี

#3 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 22 October 2007 - 04:34 PM

ได้ฟังเคสมาหลายๆเคส ครูท่านเล่ามา คนเราพอตายไป เค้าจะให้โอกาสนึกถึงบุญ 3-7วัน พอครบกำหนดไม่ว่าวิญญาณจะเดินทางไปที่ไหน ก็ต้องกลับมาที่ๆตัวเองตาย จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับ บางรายก็มีราชรถ มีบริวาร และแต่ตามกำลังบุญ บางรายก็ไปเลยก็มีไม่ต้องรอ3วัน7วัน โบราณเค้าจึงว่า ครบ3-7วัน คนตายจะกลับบ้านมานับรอยเท้า อะไรทำนองนี้

-ถ้าเป็นวิญญาณที่ตายโหงในที่ต่างๆ วิญญาณจะออกไปกระทันหันไม่รูเนื้อรู้ตัว บางรายก็มีสติรู้ตัวว่าตัวเองตาย บางรายก็ยืนงงอยู่ตรงนั้น บางราย เดินงงแถวนั้นเป็นปีๆ สิบปีก็มี บางรายจิตผูกพันธ์กับกายหยาบ กายละเอียดก็พลอยมีเลือด มีสภาพสยดสยองเหมือนศพตัวเอง มนุษย์ที่ผ่านมา บังเอิญไปเห็นเข้าก็ว่าผีหลอก ก็ขับรถหักหลบเสียหลักพลิกแหกโค้งลงข้างทาง ก็เหมาเอาว่าผีตายโหงมาเอาตัวไปอยู่ด้วย

-นอนผีอำ อาจจะเป็นเพราะนอนไม่ถูกท่าทับเส้นตัวเองหรือทับหัวใจ หรือผีมาอำจริงๆก็มี แล้วแต่โชคของเรา
-ห้ามนอนใต้คานก็เพราะสมัยก่อนบ้านเป็นเรือนเป็นไม้ มีพายุลมแรงถ้ามันถล่มลองคิดดูว่าคานล้มลงมาทับเราจะเป็นไง โบราณท่านก็เลยห้ามจัดให้เตียงนอนอยู่ใต้คาน
-การนอนขวางทางเดินถึงจะเจอผีหรือไม่เจอ ก็ไม่ควรไปนอนขวาง ไม่ใช่ที่นอนสักหน่อย สิ่งที่นอนขวางทางเดิน มีอยู่3อย่างคือ สุนัข แมว และพรมเช็ดเท้า แต่บางกรณีบางสถานที่ ภพหยาบกับละเอียดซ้อนกัน ทางเดินต่างๆถนนต่างๆ กายละเอียดกับมนุษย์ ก็ใช้ซ้อนร่วมกันก็มี

-ที่ว่าผีมาหลอกแบบโหดน่ากลัวก็อาจเป็นเพราะวิญญาณเหล่านั้นไม่มีบาปพอที่จะลงนรก ไม่มีบุญพอไปเกิด สภาพเขาก็เศร้าหมองน่ากลัว บางทีมาปรากฏกายขอส่วนบุญมนุษย์ แทนที่จะได้บุญ มนุษย์ก็โกยแนบ เหมาเอาว่าผีหลอก ส่วนใหญ่ก็จะเจอตามวัด โรงพยาบาล ที่ๆคนตายบ่อยๆ ฯลฯ

เรื่องผีสนุกดีครับ ชอบฟังแต่ก็กลัวเหมือนกัน ใครมีประสพการเรื่องผีเอามาเล่าให้ฟังบ้างครับ สนุกดี
รู้เท่าทันผี แต่ก็กลัวผีครับ




#4 Trai072

Trai072
  • Members
  • 225 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 October 2007 - 04:34 PM

^^~*

อ่านจาก คำถามก็งง เหมือน กันนะครับ ....

แต่ที่พออ่านแล้ว จับใจความได้ ก็ จะสรุปตามความเข้าใจ ที่ได้จากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานะครับ ว่า ...

ที่เราเห็นสภาพที่ แลบลิ้นปลิ้นตา ในสภาพที่น่ากลัว นั้น ก็เกิดจากสภาพที่เพิ่งตายใหม่ ๆ ของคนตายแต่ละคน ที่ตายกระทันหันนะครับ หรือเรียกว่าตายโหง ... (แต่ถ้า ได้รับส่วนบุญไป ก็จะมีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม)

ก็สรุปว่า ตายแบบไหน ก็มีสภาพแบบนั้น ถ้ายังไม่ได้ส่วนรับส่วนบุญนะครับ

จิตที่ยังผูกกับ ภพชาติเดิม คือ ยังคิดว่าตัวเองยังไม่ตาย ก็จะไปยังสถานที่ที่ตัวเอง คุ้นอยู่ เช่น บ้าน ที่ทำงาน และ จิตยังผูกพัน กับ บุคคลต่างๆ ก็จะไปหา ในสภาพที่ เพิ่งตายใหม่ๆ ได้

การที่จะเห็นผู้ที่ละโลกไปแล้วนั้น ต้องมีจิต ที่ตรงกับ ผู้ตาย หรือผู้ตาย ดลจิตให้เห็น ด้วยอำนาจและฤทธิ์ของผู้ตาย ... ถึงจะเห็นได้

หรือ อีกกรณีหนึ่ง ก็คือ ต้องมีกรรมผูกพันกันมา จะเรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร ก็ได้ครับ ก็จะอธิบาย ว่า ตัวตายตัวแทน ก็คือ ต้องมีกรรมผูก กันมาถึงจะไปรับกรรม ตรงนั้น...แทน... ได้ อย่างเช่น ต้องไปเป็นผีเฝ้าสระน้ำ เฝ้าอะไรต่างๆ แทน ผีตัวเดิม ประมาณนี้นะครับ

ทางแก้ ก็คือ อุทิศบุญกุศล ไปให้บ่อย ๆ นะครับ กรรม จะได้เบาบางลง

ถ้าจะให้ดี ยิ่งบุญใหญ่ ก็จะดีนะครับ อย่างเช่น บุญหลังคารัตนวิหารคต อะครับ จะดีมาก ... บุญใหญ่สุด ๆ ครับ

กราบอนุโมทนาบุญ ด้วยนะครับ สาธุ ...

คุ ณ ทำ ได้ ........ ชิ ตั ง เ ม ครับ

.............


เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*

ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*





#5 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 23 October 2007 - 08:04 PM

เคยโพสไว้แล้วแต่ยังไม่ได้คำตอบ ขอโพสซ้ำละกันนะครับ


ได้ยินเรื่องผีตายโหงที่ต้องหาคนมาอยู่แทนที่ตนมาหลายเรื่องแล้ว
(เรื่อง "มือใต้น้ำ" , "ผีฉุดที่ทางรถไฟ" )

น่าสงสัยจริงๆว่ามันมีเงื่อนไขอันใดที่ทำให้เกิดการตามหาตัวแทนแบบนี้ขึ้น?
เพราะการตายด้วยอุบัติเหตุหลายๆเคสไม่ก่อให้เกิดสถานการณ์แบบนี้

ท่านใดพอทราบคำตอบมั้ยครับ?

-----------------------------------------------

เรื่องผีถ้วยแก้วนั้น หลวงพ่อเคยตอบไว้แล้วครับว่ามีจริง
ส่วนใหญ่เป็นภุมมเทวาที่อยู่แถวๆนั้น แกล้งมาดันแก้วเล่น
เพื่อตอบคำถามต่างๆ
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#6 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 October 2007 - 08:56 PM

กราบอนุโมทนาบุญ ด้วยนะครับ สาธุ ...

คุ ณ ทำ ได้ ........ ชิ ตั ง เ ม ครับ

พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#7 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 24 October 2007 - 11:28 AM

ก่อนอื่นผมขอถามเจ้าของกระทู้ก่อนนะครับว่า เคยเห็นหรือครับว่าผีมาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอก ส่วนมากที่ผมเคยเจอ จะมีแค่ทำเสียงดังให้รู้ว่ามีเขาอยู่เท่านั้น และในความคิดของผม ที่เขามาเล่ากันว่าผีมาแลบลิ้นปลิ้นตาหลอก เขาใส่นําจิ้มเข้าไปมากกว่าน่ะครับ เหมือนอย่างหนังภาพยนต์ คือต้องเสริมเรื่องราวให้มันดูน่ากลัวเข้าไว้ คนดูจะได้รู้สึกตามไปกับหนังมากกว่าครับ

เรื่องที่ว่าเขามาขอส่วนบุญแล้วมาหลอกกันทำไม อันนี้ที่ผมคิดนะ เขาไม่ได้คิดจะมาหลอกหรอกครับ ให้ลองนึกดูนะครับ เรากับเขาอยู่กันคนละภพอย่างที่รู้ๆ เราเองก็มองไม่เห็นเขา(ยกเว้นว่าจิตเราอ่อน หรือเรามีฌานดี) เราย่อมไม่รู้ใช่ไหมครับว่ามีเขาอยู่ แล้วทีนี้เขาจะทำยังไงให้เรารู้ล่ะ เพื่อที่เราจะได้แบ่งบุญที่เราได้ทำมาให้กับเขาบ้าง เราก็มองไม่เห็นเขาซะด้วย อย่ากระนั้นเลย ทำเสียงดังๆให้เขาได้ยินก็แล้วกัน ว่าแล้วก็เดินยําไปยำมาในบ้าน ไม่ก็ลากสิ่งของหรือวัตถุเพื่อให้เรารู้ นี่ ที่ผมคิดนะครับผมคิดอย่างนี้ เขาคงไม่มีเจตนามาหลอกเราหรอกครับ แต่เพื่อให้เรารู้ว่ามีเขาอยู่ด้วยเท่านั้น

ส่วนเรื่องผีอำนั้น เกิดได้หลายสาเหตุครับ หากคุณเจ้าของกระทู้เป็นบ่อย ก่อนจะไปโทษผี อยากให้ลองสำรวจดูที่พักอาศัยให้ดีก่อนครับ ว่ามีอะไรที่สงผลต่อสุขภาพร่างกายเราบ้าง เช่น ห้องอับเกินไป อากาศภายในบ้านระบายไม่ดีพอ ห้องสกปรกเกินไป ที่นอนไม่ดี บางทีนอนแล้วไม่สบาย อยากให้ลองสังเกตุพวกนี้ดูก่อนครับ เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลทำให้เราเกิดอาการคล้ายผีอำได้ทั้งนั้น เมื่อก่อนตอนผมเป็น ผมไม่เคยโทษผีเลยนะครับ ผมจะสำรวจอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ก่อน ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง และก็ได้ทำการแก้ไขข้อบกพร่องของที่พักของผม จนทุกวันนี้ผมนอนสบายไม่มีอาการผีอำอีกแต่อย่างใด

ผมว่านะครับ ถ้าร่างกายและสภาพแวดล้อมของที่พักของเราไม่ดีเอง ทำให้เกิดอาการผีอำ แล้วไม่แก้ไข แล้วไปโทษผี เดี๋ยวผีจะโกรธมาอำเราจริงๆได้เหมือนกันนะครับ เหอๆๆ ^ ^"
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#8 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 24 October 2007 - 05:00 PM

ตอบน้องมองอย่างแมว

เงื่อนไขนั้นจะมีได้กี่อย่าง พี่เองก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่หนึ่งในหลายๆ เงื่อนไขที่พี่ทราบ คือ เขาผูกเวรกันมาน่ะครับ

ยกตัวอย่างในสมัยพุทธกาล ก็คือ พระพาหิยะ พระอรหันต์ผู้เลิศในทางบรรลุธรรมเร็วพลัน แต่ยังไม่ทันได้บวช กำลังแสวงหาผ้ามาทำจีวร แต่ยังไม่ทันหาพบ ก็ถูกวัวแม่ลูกอ่อน ที่มีนางยักษิณี(ผี)เข้าสิง ขวิดถึงแก่ความตาย

นางยักษิณีนั้น ในอดีตคือ หญิงโสเภณีที่ ท่านพาหิยะ(ชาติอดีต) เคยไปใช้บริการแล้วเบี้ยวค่าตัว นางจึงผูกเวร มาชาตินี้ จึงจัดการ พระพาหิยะ น่ะครับ

การตายด้วยอุบัติเหตุหลายๆ เคส ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องผี เพราะ(เช่นเดียวกันคือ) เขาไม่ได้ผูกเวรกับผี(นะที่นั้น)มา แต่ผูกเวรกับคนหรือสัตว์นั้นๆ มา จึงต้องมาตายเพราะคนหรือสัตว์นั้นๆ โดยไม่เกี่ยวกับผีน่ะครับ (นี่เป็นแค่หนึ่งในหลายๆ เงื่อนไขครับ)

เช่น แม่ถูกลูกชาย ถอยรถมาทับตาย เพราะมองไม่เห็น ในอดีต ลูกเกิดเป็นวัว แม่เกิดเป็นหญิงฆ่าวัว วัวผูกใจเจ็บ ชาตินี้มาเกิดเป็นแม่ลูกกัน แต่เวรที่ผูกมา บันดาลให้ลูกฆ่าแม่โดยอุบัติเหตุ เป็นต้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#9 phetnithi

phetnithi
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2007 - 01:28 AM

laugh.gif ตามความรู้ที่ได้จากdmcนะครับ กรณี..คนเสียชีวิตบุญก็ไม่ได้ทำ..กรรม(ชํ่ว)ก็ไม่มาก..พอตายแล้วกายละเอียดออกจากกายหยาบ..ครบ7วัน..จิตใจเศร้าหมองนึกได้แต่อกุศลเช่น โกหกบิดามารดา เจ้าชู้ ด่าผู้ทรงศีล เป็นต้น ทำให้กายละเอียดเกิดเป็นเปรตมีปากเท่ารูเข็มผิวหนังมีน้ำเหลือง ยังเดินเร่ร่อนในเมืองมนุษย์ ปะปนอยู่กับมนุษย์เพียงแต่ว่าคนที่จะบังเอัญเห็นเขาได้ จิตของคนนั้นสงบ อายตนะตรงกัน(ถูกรึเปล่าครับ)ก็จะสมารถเห็นได้ แต่ก็ตกใจนึกว่าเขามาหลอก แต่ความจริงเขามาขอส่วนบุญเพราะไม่ได้ทำไว้ขณะเป็นมนุษย์ (ฟังมาจากพระอาจารย์ครับ)...สาธุ..