
ทุกข์ใจคับ
#31
โพสต์เมื่อ 28 November 2007 - 10:03 PM
ไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆ นอกจากขอเป็นกำลังใจในนะค่ะ
สู้ๆ ค่ะ
#32
โพสต์เมื่อ 28 November 2007 - 10:15 PM
#33
โพสต์เมื่อ 28 November 2007 - 10:24 PM
วัด จึงได้เกิดปัญหาขึ้นภายหลังจากที่ผมทำบุญไปซึ่งที่บ้านไปพบไปอนุโมทนาน่ะครับ ก็ขอขอบคุณทุกคนสำหรับ
ทุกๆความเห็นมากๆนะครับ ที่จริงผมก็ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีนะครับ เพียงแต่ทางบ้านกับผมเข้าใจคนละอย่าง ถึงยังไงผม
ก็จะปฎิบัติธรรมต่อไปครับ ขอบคุณทุกๆคนทางวัดมาก ผมมีความสุขใจมากนะครับแม้จะไม่เคยได้เห็นหลวงพ่อเลย
เคยเห็นแต่ในอินเตอร์เน็ตฟังจากบ้าน ถึงแม้วันนี้บ้านผมจะบังคับไม่ให้ผมฟังธรรมจากทางวัดแล้วแต่สิ่งดีดีที่ทางวัดสอนไว้
ผมก็จะจดจำไปปฎิบัติต่อไปนะครับ
#34
โพสต์เมื่อ 28 November 2007 - 10:38 PM

ผมคิดว่า ตอนนี้น่าจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดก่อน หน้าที่เราตอนนี้คือเรียน ถ้าการเรียนเราไม่เสีย ก็ไม่มีใครว่าเราได้ และทำหน้าที่ของลูกให้สมบูรณ์ ทุกๆเรื่อง ผู้ใหญ่เขาเห็นว่าเราทำจริง ไม่ก็ไม่รู้จะติเราตรงไหน และเราก็ค่อยๆหาจังหวะดีๆ ขอมาทำบุญวันอาทิตย์ เริ่มจากอาทิตย์ต้นเดือนละครั้งก่อนก็ได้ และถ้าอยากมาเพิ่มอาทิตย์อื่นๆ ก็ค่อยๆ เช็คฟอร์มคุณแม่ดู ถ้าเขาจะโกรธก็ลดลงเหลืออาทิตย์ต้นเดือนก่อน ส่วนสื่อหนังสือตอนนี้งดไปให้เขาเห็นก่อน และต้องสวดมนต์ นั่งสมาธิ นึกคุณแม่ กะน้าไว้ที่กลางท้องใส่ชุดอุบาสิกาด้วย และอธิษฐานขอให้บุญที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นลูกที่ดีของพ่อ แม่ และอยากมาสร้างบารมีกับหมู่คณะ ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัย บารมีของครูบาอาจารย์จงดลบันดาลให้คุณแม่ น้า ได้เป็นสัมมาทิฐฐิ มีความเห็นถูก และอยากมาทำบุญสร้างบารมีกับหมู่คณะอย่างเป็นอัศจรรย์
ไม่ช่าไม่นาน ก็จะสำเร็จดังใจครับ สู้ สู้ครับ
จาก อดีตประธานชมรมพุทธฯ
#35
โพสต์เมื่อ 28 November 2007 - 11:10 PM
สู้ด้วยความดี ยังไงก็ชนะค่ะ
--อ๋อ แล้วก็ยินดีต้อนรับ คุณ "วัชระ วชิรญาโณ" ด้วยนะคะ ...แล้วขอเพิ่มเติมนิดนึงในส่วนของการให้ทานนะคะ
การทำทานให้ถูกหลักนั้น จะต้องประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบ คือ
1. เจตนาบริสุทธิ์ - ให้ด้วยความปรารถนาดี
2. วัตถุทานบริสุทธิ์ - ไม่ได้ไปลักขโมย คดโกงใครมา
3. ผู้ให้บริสุทธิ์ - มีศีล 5 เป็นปกติ (รึมากกว่า)
4. ผู้รับบริสุทธิ์ - มีศีล 5 เป็นปกติ (รึมากกว่า)
(การให้ที่นอกเหนือจากนี้ ก็ได้บุญค่ะ แต่จะได้มากน้อยลดหลั่นลงมาตามความบริสุทธิ์ค่ะ)
โดยส่วนตัวคิดว่าการให้ทานแก่ผู้ด้อยโอกาส ก็ควรทำค่ะ (เหมือนที่ทางวัดพระธรรมกายได้ให้การช่วยเหลือพุทธบุตรและผู้ที่เดือดร้อนทางภาคใต้มาตลอด 3 ปี, ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ , ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และอื่น ๆ) แต่การทำบุญกับพระพุทธศาสนาก็ควรทำด้วยเช่นกันค่ะ เราควรจะทำทั้ง 2 อย่างนี้ควบคู่กันไป ไม่ควรเลือกทำอย่างใดอย่างนึง
เพราะการจะช่วยเหลือใครนั้น ควรจะช่วยเหลือทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
- ทางร่างกาย ก็โดยการให้สิ่งของเพื่อบรรเทาความทุกข์
- ด้านจิตใจนั้นก้อควรจะให้ธรรมะเพื่อพัฒนาจิตใจของเค้าให้ดีขึ้น ซึ่งการสอนธรรมะ ผู้ที่จะสอนได้ดีที่สุด ก็คือพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ซึ่งเราก็ต้องให้การสนับสนุนท่านในด้านต่าง ๆ เพื่อที่ท่านจะได้มีเวลาไปสั่งสอนญาติโยมได้มากขึ้นค่ะ
ป.ล. ทางวัดไม่ได้เรียกร้องว่าคุณจะต้องทำบุญเท่าไหร่ค่ะ คุณจะสะดวกแค่มาถือศีล และทำสมาธิที่วัดเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทางวัดมีอาหารเลี้ยง มีรถรับ-ส่งให้
- ขอแค่คุณอยากทำความดี ทางวัดและทุก ๆ ท่านยินดีต้อนรับค่ะ ^o^ -
ป.ล.2 ถ้าทำบุญแล้วมีความสุข ก็ควรทำใช่มั๊ยคะ?
**ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับทางวัดค่ะ
#36
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 07:58 AM
#37
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 07:59 AM
เป็นกำลังใจ ให้นะครับ
#38
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 08:07 AM
#39
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 08:27 AM
หนทางแก้นั้นมีอยู่ทางเดียว คือ อย่างที่พี่สิริปโปกล่าวไว้ คือน้องต้องทำตัวดีให้ทางบ้านเห็น ขยันเรียนให้มากขึ้น ทำตัวให้เรียบร้อย อยู่ในโอวาสของผู้ใหญ่ให้มากขึ้น เพื่อเป็นใบเบิกทางให้เขาถามว่าอะไรทำไมน้องถึงได้เปลี่ยนแปลงไปแบบนี้ ถึงตอนนั้นน้องค่อยปล่อยหมัดเด็ดโป้งไปเลยครับ ว่าเพราะได้รับคำสั่งสอนจากวัดทางอินเตอร์เน็ตทำให้รู้คุณค่าของชีวิตมากขึ้น หรือไม่ก็บอกเขาเป็นนัย ถ้าอยากรู้น้องขอติดจานดาวทำที่บ้านจะได้ไหม แล้วทุกคนในบ้านจะได้รู้ว่าเพราะอะไรน้องถึงได้เปลี่ยนแปลงไปขนาดนั้น
อย่าลืมนะน้อง หนทางแก้ไขมันอยู่ที่ตัวน้องเอง ที่สำคัญมันต้องใช้ระยะเวลาอาจจะนานเสียหน่อยที่จะพิสูจน์ตัวเอง และเพื่อให้ทางบ้านเข้าใจ แต่ขอให้น้องอดทนทำ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของน้อง เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของครอบครัว และเพื่อทดแทนพระคุณบุพการี หากน้องชักชวนให้พ่อแม่ของน้องเป็นสัมมาทิฐิได้ จนได้มาประพฤติปฏิบัติธรรมรักษาศีลเจริญภาวนาได้ เท่ากับว่าชาตินี้น้องทดแทนพระคุณของคุณพ่อคุณแม่น้องได้หมดเลยละครับ พี่น้อง!
Fighto ไฟท์โตะ สู้ต่อไป ทาเคชิ! ( ทาเคชิมาอีกแล้น - -" )
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#40
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 03:40 PM
ปลูกถั่วได้ถั่ว ปลูกงาได้งา ปลูกงาได้ถั่ว ก็คงมีแต่คนตาถั่ว

#41
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 04:50 PM
ชาวDMC Webboard นี่ น่ารักมากๆ มีน้ำใจยอดเยียมจริงๆ
ปลื้ม................แทน
อนุโมทนาบุญกับทุกคนค่ะ
#42
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 06:16 PM
#43
โพสต์เมื่อ 29 November 2007 - 10:43 PM
- อาจเข้าใจวัดคลาดเคลื่อนจากสื่อต่างๆ
- เชื่อในหนึ่งสมองสองมือ
- อย่าไปตัดพ้อว่าเป็นการ"ทำคุณบูชาโทษ"หรือ"ทำดีไม่ได้ดี"
- ท่านอาจเห็นว่าเราควรเก็บสะสมเงินไว้ในภายภาคหน้า อาจโกรธเคืองเรา(ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ)ใช้เงินโดยไม่ปรึกษาท่าน
- เชื่อว่าเวลาอารมณ์ท่านเย็นลง ลึกๆท่านคงเสียใจเพียงแต่ไม่แสดงออก ไม่มีแม่คนใดเลิกรักลูกได้หรอกนะ
- ทำงานทางโลกให้ท่านภูมิใจ
- เมื่อท่านดีใจ ท่านก็จะเปิดใจ
- คบหากัลยาณมิตรในสถาบัน
- ปรับอารมณ์ให้เย็นลง อภัยทานให้ท่านทุกวัน ตั้งปณิธานว่าสักวันเราจะให้แสงสว่างกับท่าน
- ทำการบ้านคุณครูไม่ใหญ่อย่างอุกฤษณ์
- ฝึกใจเราให้แกร่ง ก้าวหน้า ฝึกใจให้หยุด นิ่งเฉย ไม่โต้ตอบ ทับทวีความดีเรื่อยไป จนถึงจุดที่เกิดบารมีและกำลัง อันมีอิทธิพลต่อใจของท่านเหล่านั้น
ไฟล์แนบ
#44
โพสต์เมื่อ 30 November 2007 - 07:54 AM
#45
*anchalee072*
โพสต์เมื่อ 30 November 2007 - 11:34 PM
และก็เคยประชดด้วยการหนีออกจากบ้านจริงๆ ซึ่งก็ทำให้เสียใจว่า ไม่น่าเลย
เพราะหลายสิบปีผ่านไป ถึงได้รู้ว่า แม่รักเรามาก แต่ตอนนั้น ทิฏฐิ ไม่เสมอกัน
แล้วเราก็พลาด ไปทำบาป ด้วยการรักบุญ
จริงๆแล้ว มันมีทางออก มีวิธีที่ดี
คือ อดทน รักษาใจ
ทาน ศีล ภาวนา ถ้าหย่อนเมื่อไหร่ โดนเมื่อนั้นค่ะ
ต้อง รักษาให้ได้ทุกวัน ทุกเวลา และจะรักษาตัวให้รอดได้เองค่ะ
ขอเอาใจช่วยนะคะ กตัญญู
#46
โพสต์เมื่อ 01 December 2007 - 10:24 AM
และก็เคยประชดด้วยการหนีออกจากบ้านจริงๆ ซึ่งก็ทำให้เสียใจว่า ไม่น่าเลย
เพราะหลายสิบปีผ่านไป ถึงได้รู้ว่า แม่รักเรามาก แต่ตอนนั้น ทิฏฐิ ไม่เสมอกัน
แล้วเราก็พลาด ไปทำบาป ด้วยการรักบุญ
จริงๆแล้ว มันมีทางออก มีวิธีที่ดี
คือ อดทน รักษาใจ
ทาน ศีล ภาวนา ถ้าหย่อนเมื่อไหร่ โดนเมื่อนั้นค่ะ
ต้อง รักษาให้ได้ทุกวัน ทุกเวลา และจะรักษาตัวให้รอดได้เองค่ะ
ขอเอาใจช่วยนะคะ กตัญญู
หนีออกจากบ้านแล้วไปอยู่ไหนอ่ะครับ ถ้ารักบุญก็ต้องกลัวบาป

#47
โพสต์เมื่อ 06 December 2007 - 09:31 AM
อ่านแล้วอึ้งเหมือนกันครับ แต่ก็ต้องอดทนครับ สู้ทำความดีไม่ท้อถอย สักวันหนึ่งบุญได้ช่องส่งผล คุณพ่อคุณแม่ของคุณ ท่านก็จะได้คิดครับ ตอนนี้เป็นกัลยาณมิตรให้ทั้งตัวเองไปก่อนนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ