ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

แค่อยากถาม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 33 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 02:51 AM

1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้
ได้เลยหรือ???

2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???

3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกที
ควรแก้ไขอย่างไร???

4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก
เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???

5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้งรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริง
จนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ
ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น

6.ผมเป็นคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อย
แต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???


#2 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 07:27 AM

ขอร่วมส่งแรงใจและร่วมแสดงความคิดเห็นส่วนตัว นิดหน่อยนะครับ

QUOTE
1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้
ได้เลยหรือ???


ส่งผลได้ครับ เพียงแต่ยังไม่เต็มที่ ส่วนใหญ่ได้แค่เศษเสี้ยว
เพราะการส่งผลของกรรม มันมีลำดับ มีคิว เยอะครับ
กรรมที่ทำไว้ในอดีตชาติก่อน ๆ ยังส่งผลไม่หมดเลยนี่ครับ
ศึกษาเรื่อง การส่งผลของกรรมดูนะครับ

ยกเว้น สร้างคุรุกรรมฝ่ายกุศล , มหาทานกุศล ทำทานกุศลกับเนื้อนาบุญอันเลิศ เช่น
ผู้มีวิสุทธิคุณแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ,พระปัจเจกพุทธะ , อรหันตเถระ-เถรี
โดยเฉพาะในวาระที่ท่านเพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ
และฌานลาภีบุคคล

อย่าว่าแต่ ทำดีกับผู้สิ้นกิเลส อาสวะหรือผู้มีกิเลสน้อยเลยครับ
บางทีการทำความดีกับ VIP เช่น สมมุติเทพ , เศรษฐี ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ทันตาเห็น นะครับ

โดยเฉพาะในทางธรรม การได้เจอกัลยาณมิตร สักคน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชวิตในสังสารวัฏได้
ดูอย่าง อุปปติสสะมานพ ได้เจอ พระอัสสชิ ที่บวชได้ไม่นาน
หรือ โชติป่าลมานพ ที่มีสหายชวนไปฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ใกล้ตัวเราหน่อย คือ พระเดชพระคุณหลวง ธมฺมชโย เจอคุณยาย ฯ

การส่งผลของกรรม ๑๒
http://www.zone-it.com/86274#msg578597

กรรม ๑๒ และการให้ผล

QUOTE
2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???

ใช่ สำหรับคนส่วนมาก
เกินใช่ สำหรับบางคน

QUOTE
3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกที
ควรแก้ไขอย่างไร???

อาจมีหลายสาเหตุ โดยหลักคือ วิบากเก่ายังแรง , ทำไม่ถูกหลักวิชชา ,
ทำแล้วดือดร้อนตนเอง , ทัศนคติของคุณในปัจจุบัน ฯล
ศึกษาและประพฤติ เรื่อง อุ อา กะ สะ ดูนะครับ

QUOTE
4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก
เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???

อุปสรรคที่เจอในปัจจุบัน , วิบากเก่ายังตามส่งผลตัดรอน และ ทัศนคติ ความปรุงแต่ง ในปัจจุบัน ฯล

QUOTE
5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้งรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริง
จนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ
ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น

ใครจริงใจหรือไม่ ช่างเขาเถิดครับ ควรแก้ไขที่ความคิดตนเอง เราอย่าปรุงแต่ง ฟุ้งซ่านไปเอง

QUOTE
6.ผมเป็นคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อย
แต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???

ก็แค่ใครคาดหวัง เท่านั้น
ทำไมคุณต้อง ทำทุกอย่างทุกอย่างเพื่อใคร ที่คาดหวังด้วยล่ะครับ

ถ้าคุณทำเพื่อตัวคุณเอง(ก่อน) คือ
ทำความดีเพื่อมุ่งกำจัด อวิชชา พยาบาท มิจฉาทิฏฐิ , โลภะ โทสะ โมหะ ,อาสวะกิเลส

ผลพลอยได้ที่มีต่อคนรอบตัว คนที่คาดหวัง ก็ตามมาเอง ได้แค่ไหน ก็แค่นั้น

จะมีใครสักกี่คนครับ
ที่สามารถเติมเต็มความหวังให้คนอื่นได้ ๑๐๐ %

พระเจ้ายังทำไม่ได้เล๊ย
ว่าแต่พระเจ้ามีจริงหรือไม่ ในนิยามไหน ผมก็ไม่ทราบนะครับ happy.gif
แค่ใช้สำนวน laugh.gif

รำพึง
http://dmc.tv/forum/...showtopic=23316

คนอื่นอีกมากมาย ทั้งจน ทั้งเจอมรสุมชีวิตเยอะ ทั้งจากตนเองและคนรอบตัว
แล้วยังไม่ได้มาทางธรรม ยังไม่ได้ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
และแต่งกลอนที่รังสรรค์ศรัทธาในพระรัตนตรัย และการทำความดี ได้แบบเจ้าของกระทู้
ฉะนั้น อย่าทำร้ายตนเองด้วยความคิดเชิงลบ อีกเลย
เพราะ
ไม่มีอะไร เลวร้าย เท่าใจเราคิดไปเอง
ปรับทัศนคติ attitude เกี่ยวกับตนเอง
บ้าง ก็ดีนะครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#3 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:03 AM

ถ้าการอธิษฐานเป็นแค่การเติมกำลังใจ
งั้นไม่ต้องอธิษฐานดีกว่าไหม
บางครั้งทั้งอธิฐานเองด้วย โทรไปขอบุญคนอื่น
ให้ช่วยอธิฐานด้วยทั้งพระทั้งโยม
ก็ไม่สำเร็จ แถมมีเรื่องเดือดร้อนเพิ่มอีก

ทำบุญแล้วไม่ให้เดือดร้อนก็คือไม่ต้องทำใช่เปล่า
เพราะทุกวันนี้ก็ทำได้น้อยมากๆและทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าหยุดทำบุญแล้วชีวิตดีขึ้นผมคงไม่หยุดหรอก
เพราะไม่ได้ทำเพื่อสิ่งนั้น

7.เคยไหมที่เราเป็นเพียงคนเดียวที่จะทำงานพระศาสนาให้สำเร็จ
แต่เราออกไปช่วยเขาไม่ได้ ทำให้หมู่คณะต้องลำบากมากหลายๆครั้ง



#4 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:17 AM

เรื่องการอธิษฐาน ผมมมองว่า
ใช่ สำหรับคนส่วนมาก
เกินใช่ สำหรับบางคน

คุณเข้าใจอย่างไรครับ

ไม่งั้นจะมีบารมีว่าด้วย อธิษฐานบารมี ไปทำไม ???

QUOTE
ทำบุญแล้วไม่ให้เดือดร้อนก็คือไม่ต้องทำใช่เปล่า


คำว่า ทำบุญ
คืออะไร ?? หรือครับ
แค่ทานกุศลเท่านั้นหรือ

ลองศึกษาและประพฤติ เรื่อง กุศลกรรมบท ๑๐ , บุญกิริยา ๑๐ ให้ครบถ้วน

โดยเฉพาะเรื่อง สัมมาทิฏฐิ ๑๐
เพราะ สัมมาทิฏฐิ มีหลายระดับ
ทั้งในพาลชน ปุถุชน กัลยาณชน จนถึงพระอริยบุคคล

หลักการให้ทาน พระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ทตฺตชีโว เทศนาไว้
ลองค้นคว้า ศึกษา และทำให้ถูกหลักวิชชา นะครับ

ป.ล. ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ไม่ถือเป็นคำตอบที่ถูกต้อง สมบูรณ์
แค่แวะมาแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเท่านั้น ใครเห็นด้วย หรือไม่ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลอยู่แล้ว

อีกอย่าง เพราะเป็นกระทู้คุณ ตำรวจ(รักบุญ) ที่ใฝ่ดี ทำดี ( แต่อาจยัง ไม่ถูกดี ถึงดี ไม่พอดี)
จึงมาตอบ
อ้อ
อย่าเอาคำตอบผมเป็นบรรทัดฐาน ล่ะครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#5 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:20 AM

ขอบคุณสำหรับคำตอบ
ผมไม่ได้คิดเชิงลบนะ แต่ที่ถามเพื่อหาวิธีการ/หนทาง
ที่จะสร้างบารมีให้สะดวกขึ้น จะได้ทำได้มากกว่านี้
เมื่อทำไปจนสุดมือเกินกำลังแล้ว จึงอธิฐานขอบุญช่วย
เท่านั้นแหละสารพัดปัญหาก็เกิดขึ้นมันก็เลยคาใจน่ะ
เรื่องหลักวิชชาน่ะรู้ หลวงพี่ก็ย้ำอยู่ทุกวัน
ก็พยายามทำอยู่ทุกคนนั่นแหละ

รู้ไหม ทำไมผมถึงชอบเขียนกลอน
เพราะเป็นวิธีสร้างบุญที่พอทำได้บ้าง


#6 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:27 AM

แนบไฟล์  sadhu.gif   22.04K   4 ดาวน์โหลด

QUOTE
๗ งานพระศาสนา จะสำเร็จได้


งานของพระนิพพาน เป็นเรื่องของธาตุธรรม
ไม่มีใครต้องทำเพียงคนเดียว
ฉากหลังมีเยอะ
ใครสักกี่คน ที่รู้จักฉากหลัง เห็นฉากหลัง
ใครที่แก้ไขฉากหลัง เป็น

กายมนุษย์ แค่หุ่นเชิด
อย่ารู้สึกโดดเดี่ยว เลยครับ

ป.ล. ถ้าตอบแรงไป ขออภัยทาน ด้วยนะครับ
แล้วคุณตำรวจ อย่ามาตามจับผม ล่ะครับ laugh.gif
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#7 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:45 AM



แม้นทำบุญได้ยาก แต่ทำได้และได้ทำ อันนี้บุญส่งผลแรงนะครับ... แม้นไม่มีปัจจัยมากๆ แต่ศีลบริสุทธฺ์ สมาธิแน่วแน่ตั้งมั่นในบุญที่ทำ อานิสงส์ไม่น้อยแน่ๆ

เป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกันนะครับ

#8 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:49 AM

งานพระศาสนาที่ว่า คืองานที่ต้องใช้ความรู้
ความสามารถเฉพาะทาง หลายๆด้านประกอบกัน
จึงบอกว่ามีผมคนเดียวในหมู่คณะที่ทำได้(ดี)น่ะครับ
ขอร้องอย่าเพิ่งไปไกล

อยากถ่ายทอดให้คนอื่นเหมือนกัน
แต่งานทางโลกที่ต้องรับผิดชอบนี่สิ

8.การทิ้งหน้าที่รับผิดชอบทางโลก
มาทำหน้าทางธรรมควรไหม ถ้าไม่ไปหมู่คณะลำบากแน่
ถ้าไปก็จะกลายเป็นคนไม่รับผิดชอบ/ราชการเสียหาย

#9 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:58 AM

ใจผมนะ
1.อยากถวายปัจจัย/สิ่งของกับหลวงพ่อให้มากที่สุด
2.อยากใช้ความรู้ความสามารถที่มีทำประโยชน์ให้มากกว่านี้
3.อยากนั่งหลับตายาวๆ(เคยนานสุด7ชม.ไม่ลุก)สักอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง


#10 เดือนฉายงามแสง

เดือนฉายงามแสง
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:20 AM

เท่าที่อ่านมา เข้าใจคุณตำรวจรักบุญนะคะ
แต่อยากให้ยึดทางสายกลางบ้าง
ถ้ายึดทางสายกลางแล้วยังไม่สำเร็จ
ก็ "หยุด" เป็นตัวสำเร็จค่ะ
แล้วมาบวชดีกว่า สัก ๑ พรรษา
ที่สำคัญอย่าไปยึดติดใคร
เราหายใจด้วยตัวเราเอง
เราก็ต้องวิเคราะห์ตัวเองด้วยว่า
เราคือใคร เราทำอะไรแล้วมีความสุข ใจใส เราก็ทำ
เราทำได้ในระดับไหนก็ทำ อย่าฝืนเกินกำลัง
การอธิษฐานด้วยความสบายใจ ใจใส ๆ
บุญจะส่งผลเร็วกว่า และตรึกธรรมะนอกรอบการนั่งสมาธิ
นึก สัมมา อะระหัง อย่างสบาย ๆ อารมณ์สบาย
จะเป็นการดีกับตัวเราเอง หลวงพ่อย้ำกับลูก ๆ อุบาสิกา รุ่นหญิงใหญ่
หรือที่หมู่้บ้านปฏิบัติธรรมเสมอ ว่าการตรึกธรรมะนอกรอบสำคัญที่สุด
การบ้าน 10 ข้อของครูไม่ใหญ่ ลองตั้งใจทำดูนะคะ จากวันละ 1 ข้อ
เพิ่มเป็น 2 ข้อ เพิ่มวันละข้อไปจนครบ 10 ข้อ แล้วทำซ้ำ ๆ รับรอง
ดีชัวร์ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

#11 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:54 AM

อยากบวชครับ แต่ลาไม่ได้
ตอนนี้อยากได้บุญอยากมีบุญเยอะๆ

เพื่อจะได้มีเวลา มีกำลังสร้างบารมีมากกว่านี้
กำลังคิดเรื่องลาออก เพราะรู้สึกว่ากำลังจะหมดบุญ
รอขายที่ดินอยู่ขายแปลงนี้ได้ก็หมดกังวลแล้ว

ขอบอกบุญหน่อยนะ
ผมซื้อกล้อง(EOS500)ถวายแผนกไป1ตัวแบบเงินผ่อน
ขาดส่งอยู่อีก 4งวด(ประมาณ8,000)มีใครจะร่วมบุญมั้ยครับ

#12 N22

N22
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 10:11 AM

...โอ้เพื่อนเอ๋ย ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์
แถมเป็นปราชญ์ นักกวี ใจมีศีล
รักธรรมะ ช่วยศาสนา เป็นอาจิน
มุ่งถวิล ปราถนา ที่สุดธรรม

...ยามที่ท้อ เพราะทุ่มเท อย่างท่วมท้น
ก็เหมือนคน ที่เหน็ดเหนี่อยเพราะเมื่อยล้า
พักซักนิด หายใจลึก แล้วหลับตา
ให้องค์พระ ชุบชีวา ค่อยว่ากัน...

....เพราะชีวิตมนุษย์นั้นแสนสั้น
สรรพสิ่ง เกิดขึ้นตั้ง พลันสลาย
สิ่งที่หวัง สิ่งที่ฝัน คงมากมาย
แต่คงทำ ไม่หมดได้ ทั้งชีวี...

...เลือกลำดับสิ่งศำคัญ อันไหนก่อน
อย่าใจร้อน จิบน้ำชา ก่อนค่อยคิด
บุญก็รัก งานก็ล้น ใช่ใครผิด
..หากหยุดคิด ก็คิดได้ ทางสายกลาง...


"ส่วนตัวผมคิดว่า คำตอบที่ดีที่สุด คือคำตอบจากใจ ของคุณตำรวจเองครับ"







ลืมไป แล้วอยู่จะให้ร่วมบุญกันยังไง ก็บอกได้ ลงเบอร์บัญชีพระอาจารย์มา หรือส่งมาที่ [email protected] ก็ได้

#13 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 10:19 AM

QUOTE
เพื่อจะได้มีเวลา มีกำลังสร้างบารมีมากกว่านี้
กำลังคิดเรื่องลาออก เพราะรู้สึกว่ากำลังจะหมดบุญ
รอขายที่ดินอยู่ขายแปลงนี้ได้ก็หมดกังวลแล้ว


ผมว่าคิดคล้ายๆ กัน กับหลายๆ ท่าน ขอแนะนำว่าวางแผนเตรียมการให้ดี ทำอย่างไรเมื่อมาแล้วไม่ต้องกังวล

QUOTE
...เลือกลำดับสิ่งศำคัญ อันไหนก่อน
อย่าใจร้อน จิบน้ำชา ก่อนค่อยคิด
บุญก็รัก งานก็ล้น ใช่ใครผิด
..หากหยุดคิด ก็คิดได้ ทางสายกลาง...

คุณ N22 แต่งได้โดนใจครับ


อยากบวชก็บวชเลยครับ ลาไม่ได้ก็บวชช่วงสั้นเติมบุญให้ตัวเองก่อน(หนึ่งอั้ว สองลื้อ) ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

#14 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 10:19 AM

เอาไปให้น้องเอ๋หรือน้องดาหรือน้องถวิล
ที่เสาE7แผนกธรรมปัญญาในวันอาทิตย์ก็ได้ครับ

#15 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 12:03 PM

ยามใดที่ท้อแท้ ขอแค่คิดถึงเด็กคนนี้

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  ATT00175.jpg   38.72K   10 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  ATT00172.jpg   46.12K   8 ดาวน์โหลด

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#16 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 03:17 PM

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับสู้ๆสักวันหนึ่งคงจะดีขึ้นยิ่งๆขึ้นไปนะครับสาธุ

#17 จีวร

จีวร
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 05:52 PM

สาธุ มาสาธุคับ

#18 tong_tong_tong

tong_tong_tong
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 06:38 PM

1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้
ได้เลยหรือ???
----------------------------------------------
วันอาทิตย์ต้นเดือน หลังนั่งสมาธิช่วงบ่ายเสร็จ ผมก็อธิฐานขอให้ได้ทรัพย์มาเร็วๆไวๆ เป็นเศรษฐีค้ำจุนพระศาสนา
วันนั้นผมกำเงินในมือ 10,000 กำลังต่อคิวปิดองค์พระที่ป้อมบริจาค เปิดโทรศัพท์ปุ๊ป
จู่้ๆมีโทรศัพท์ ติดต่องาน เขาบอกต้องการคนทำด่วน ผมคุยเรื่องงานทั้งๆที่ยังอยู่ในแถวบริจาค ผมนัดไปเจอทั้งที่ยังใส่ชุดขาว วันนั้นได้ทรัพย์มา 35000 แบบงงๆ

และทุกครั้งที่ทำบุญมากๆ จะมีเหตุการณ์ประเภทนี้ เกิดจากนั้นประมาณ 7 วัน หลายหนมาก จนหนี้ เกือบ2 ล้านหมดใน 1 ปี

ผมว่าบุญที่เราทำในชาตินี้ ตอบแทนเลยนะครับ แต่ว่าไม่มาก และ ถ้าเขาไม่กันไว้ ยิ่งอธิฐานยิ่งเอามาใช้ได้ แต่บางท่านเขากันสุดๆเพราะรู้ว่าได้มาตอนนี้เอามาทำบุญหมดแน่ เลยพยายามกันสุดชีวิต

-----------------------------------------------

2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???
-----------------------------------------------------------------------
ผมว่าส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งได้มาเพราะหลวงปู่และคุณยายช่วย มากมายหลายท่าน
ผมเองก็ขอนะ ก็ได้บ้าง

และอย่าได้อธิฐานอย่างเดียว ต้องออกแรงด้วยกายหยาบด้วย เพราะเราไม่มีเวทมนต์เสกอะไรไม่ได้ ดูข้อถัดไป
-----------------------------------------------------------------------
3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกที
ควรแก้ไขอย่างไร???
------------------------------------------------------------------------
อันนี้ต้องยกตัวอย่าง เห็นชัดๆๆๆ

ถ้าผมได้เงินมา 3000 ผมนำเงินตรงนี้ไปทำบุญหมดเลย 3000 ก็จะทำได้ครั้งเดียวหนเดียว
แต่ตอนนี้ (เรื่องจริงๆเลย)ผมนำเงินตรงนี้มา ซื้อพันธุ์ไม้น้ำ เลี้ยงมา 2 เดือน ตัดขายได้เดือนละ 3000 บาท เงินตรงนี้ผมเอาไว้ทำบุญอย่างเดียว
จนเวลานี้ผมทำบุญโดยให้เงินตรงนี้มางอกเงยเอง

ดูเลยครับ ขนาดตะไคร่น้ำผมก็ยังขายได้ 2week ตัดขายที ไฟก็เปิด auto ปิด auto ไม่ต้องดูแลใดๆ
http://aqua.c1ub.net...p?topic=98261.0

แถมยังมีแอบชวนคนทำบุญ จากลายเซ็นด้านล่างด้วย ได้ทั้งทรัพย์และบุญ มีไม้น้ำเขียวๆ ในห้องนอน ห้องทำงานสบายตา


หากจะยกตัวอย่าง
ตัวผมแต่งหนังสือ electronic 1 เล่มผมจะได้เงินเพิ่ม 3000 ต่อเดือน ตอนนี้มี 9 ปกแล้ว(เสียเวลาแต่งครั้งเดียวแต่ขายได้เป็น 10ปียังไม่ล้าสมัย)
ผมเปิดสอนพิเศษ electronic วันเสาร์ได้ 20000 ต่อเดือน
ผมมีสินค้าอุปกรณ์ที่คิดเองทำขายเอง โดยไปฝากขายตามที่ต่างๆ ได้ 5000 ต่อเดือน(เสียเวลาคิดเพียงครั้งเดียวแต่ขายได้เป็น 10ปียังไม่ล้าสมัย)
งานอาชีพหลักอีก

มาถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านคิดออกแล้วนะครับ ว่าต้องทำยังไงให้เงินงอกเงย อย่าได้อธิฐานอย่างเดียว ต้องออกแรงด้วยกายหยาบด้วย
ลองดูว่าเราถนัดอะไร ทำอะไรที่เราถนัด หรือ ศึกษามาดีแล้ว

ง่ายๆ นะครับ ลองไปเดินดูคลองถม ลองดูว่า สินค้าไหนติดตลาด เอาไปขายที่ตลาดนัดยังได้เลยท่าน
-----------------------------------------------------------------------
4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก
เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???
-------------------------------------------------------------------------
เราต้องทำตัวเราให้เป็นอย่างที่จะยกตัวอย่างได้ก่อน นั่นคือเราต้องรวยให้ได้ พร้อมกับไม่พร่องบุญเลย
ผมเปิดตารางงานหลังจากเข้าวัด และ ก่อนเข้าวัด ต่างกันฟ้ากับเหวเลย ตอนนี้คนที่ผมพูดให้ฟังเชื่อผมหมดเพราะผมมีหลักฐานอ้างอิงได้

ยกตัวอย่าง
วันก่อนผมเล่าให้เพื่อนคนนึงที่ไม่เชื่อเรื่องบุญบาป
ผมบอกว่าตัวผมชอบ เอาเสื้อผ้าให้ชาวบ้านไม่รู้ทำไมถึงชอบ รู้แต่ว่าเริ่มบริจาคตั้งแต่เล็กๆแล้ว ไม่รู้หรอกว่าให้เขาแล้วได้อะไร รู้แต่ว่าชอบดีใจที่ให้คนอื่นเขามีเสื้อสวยๆใส่ ไม่ต้องไปซื้อเพราะบางคนไม่มีเงิน จนกระทั่งมาบวชถึงจะรู้อานิสงว่า การที่บริจาคเสื้อผ้าจะทำให้สวยหล่อ ผิวขาวเนียน
มามองตัว เออ อาจจะเป็นนิสัยนี้มั้งที่ติดมาจากชาติที่แล้ว ทำให้ชาตินี้ตัวขาวจั๊วหน้าตาก็น่ารัก อายุปาไป 35 หน้ายังกับเด็ก(มีคนบอก)

ทั้งๆที่พี่น้องที่โตกันมา ผิวคล้ำดำ ทั้งๆที่เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน และพี่คนอื่นๆ นิสัยไม่เคยบริจาคเสื้อผ้า รองเท้า พวกนี้เลย

แล้วผมก็เล่าให้ฟังต่อว่า แม่ผมตอนผมเด็กๆ เวลาไปตลาดเลือกองุ่นเพื่อไปถวายพระ ท่านจะเลือกแต่ลูกงามๆ สวยที่สุดในร้าน เลือกนานมาก ตัวผมเองก็สงสัยตั้งนาน แม่บอกว่าเวลาจะให้พระต้องให้แต่ของดี เราจะไม่ให้ของที่เรากินแล้ว หรือของไม่สวย

ตลอดเวลา 30 กว่าปี แม่จะได้ของฝากจากคนอื่นเป็นของดีๆทั้งนั้น เช่น ส้มโอที่ผิวสวยสุด หวานสุดๆไปซื้อร้านลูกละ 200 ยังหวานไม่เท่าที่เขาเอามาฝากแม่ และไม่ได้ถูกฝากแค่หนเดียว นับตั้งแต่ผมยังเด็กตอนนี้ 30 ปี ยังมีมาฝากอยู่อีก คนฝากก็แก่เต็มทีแล้ว ฝากทีละ 4-5 ลูก ไม่ใช่ลูกเดียว

ยังไม่พอนะครับ ลำใยจากลำพูนมาเป็นเข่ง ลิ้นจี่จักรพรรติในสมัยโน้นลูกเท่าเทนนิสมาเป็นเข่งเช่นกัน(โลละ 500 ในสมัยนั้น)
พุทธาแอ๊ปเปิลที่สมัยก่อนหากินยากมาก ก็มีมาเป็นเข่ง ,มะม่วงเป็นเข่ง,ฝรั่งเป็นเข่ง(ตอนนี้คนฝากทยอยตายไปบ้างแล้ว)

ผมเองยังงง เออ บ้านเราไม่ต้องซื้อเลยผลไม้ มาฟรีตลอด เลยได้อานิสง ไปด้วย

เพื่อนผมคนนี้มาบ้านผมประจำ เห็นของฝากตลอด สุดท้ายเชื่อผมและเริ่มทำบุญมากขึ้น จากที่ไม่เคยได้ทำเลย
-------------------------------------------------------------------------
5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้งรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริง
จนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ
ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น
----------------------------------------------------------------------
ช่างเขา ใครทำใครได้ เฉยๆ
----------------------------------------------------------------------
6.ผมเป็นคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อย
แต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???
-----------------------------------------------
ลองหาทางทำให้ได้ ลองดูข้อที่ 3

ลูกพี่ลูกน้องผม เป็นทหารยศนายสิบ ตกเย็นไปขายลูกชิ้นได้มา กำไรวันละเกือบพัน
----------------------------------------------

#19 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 07:43 PM

เป็นกำลังใจให้คุณตำรวจรักบูญนะครับ..

อยากถามกลับว่าช่วงนี้ได้นั่งธรรมะทุกวันหรือเปล่าครับ วันละประมาณเท่าไหร.. :-)
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#20 Jeabka

Jeabka
  • Members
  • 248 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:01 PM

อ่านแล้วรู้สึกว่า ท่านเจ้าของกระทู้ สร้างความอยากเกินไปเหรอเปล่าค่ะ พอทำมากๆ แล้วมันเหมือนเกินกำลัง ก็เกิดการท้อ เป็นกำลังใจให้นะคะ และสำคัญอย่าหลงทางนะคะ ลูกพระธัมฯทุกท่าน คงคิดเหมือนๆ กัน อยากจะช่วยงานถวายปัจจัยหลวงพ่อสุดกำลังสุดความสามารถ แต่ละท่านก็มีกำลังต่างกันไป
แต่ต้องดูว่าท่านจขกท.มีปัญหาตรงไหนบ้าง แก้ตรงไขให้ตรงประเด็นก่อน
หากอยากมีเงินเพิ่มก็ต้องขยันมากขึ้น อดทน อดออม

QUOTE
มาถึงตรงนี้ หลายๆ ท่านคิดออกแล้วนะครับ ว่าต้องทำยังไงให้เงินงอกเงย อย่าได้อธิฐานอย่างเดียว ต้องออกแรงด้วยกายหยาบด้วย ลองดูว่าเราถนัดอะไร ทำอะไรที่เราถนัด หรือ ศึกษามาดีแล้ว


#21 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 08:12 PM

QUOTE
2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???
-----------------------------------------------------------------------
ผมว่าส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งได้มาเพราะหลวงปู่และคุณยายช่วย มากมายหลายท่าน
ผมเองก็ขอนะ ก็ได้บ้าง


-ขึ้นอยู่กับว่าเราจริงแค่ไหน ท่านช่วยเราเต็มที่อยู่แล้วครับ
เราอาจไม่รู้
เนื่องจากขึ้นอยู่กับบุญของเราด้วยครับ

อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#22 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:14 PM

สาธุครับ

การแสวงบุญ สร้างบารมี ด้วยกำลัง กาย สติปัญญา ความสามารถ และกำลังทรัพย์ ไปจนถึงอวัยวะ และชีวิต

เราสร้างบุญบารมีเพราะ

1.ลด ละ กิเลศ

ถ้าเข้าใจแบบนี้ได้ เราจะสบายใจทันที เพราะบุญ บารมี เป็นสิ่งที่เราต้องกระทำเพื่อขจัดขัดเกลากิเลศ และฝึกฝนกาย วาจา ใจ ตนเอง ไปสู่ความเป็นอริยะ ตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ เราได้ทันทีคือความสบายใจ และกิเลศที่ลดลง

หากไปคิดเพื่ออยากแบบนั้นแบบนี้ เมื่อไม่ได้ก็ผิดหวังท้อแท้ เมื่อได้ก็หลง และเป็นการสั่งสมกิเลศไปโดยไม่รู้ตัว

เช่น ขอให้รวย ขอให้ได้นั่น ได้นี่ ขอให้เป็นนั่นเป็นนี่ โอ้ ตัณหา กิเลศทั้งนั้นครับ


บางคนรักการสั่งสมบุญ ชอบทำบุญ ยิ่งเรื่องทานเท่าไรเท่ากันทุ่มสุดตัว แต่มีคนที่สมควรมาขอเงินไปเพื่อสิ่งสำคัญ เช่น เดือดร้อน เจ็บป่วย ค่าเทอม ทุนการศึกษา ต้นทุนอาชีพ กลับไม่ให้ ไม่พอใจอีกด้วยที่เจอคนเหล่านี้

บางคนรักการภาวนา สวดมนต์ นั่งธรรมะ แต่พบคนเดือดร้อน ด้อยโอกาศ พิการ ฯลฯ ไม่คิดจะช่วยเหลือ ไม่คิดจะสังคมสงเคราะห์ ทั้งๆที่ตนเองมีกำลังที่จะทำได้

ให้ดูตัวอย่างพระเวสันดร ท่านทำทานแต่ทานละเอียดไหม ทานหยาบๆท่านก็ต้องทำ แล้วท่านก็ได้ปรมัตถ์บารมีด้วย แต่คนเราบางคน งกบุญ จะบุญแต่กับพระ แก่พระศาสนา แต่เพื่อนและสัตว์ร่วมโลกผู้ยาก ไม่เคยเหลียวแล

แบบนี้หรือคือผู้ปฏิบัติธรรม น่าเศร้าใจจังนะครับ

โปรดโยนิโสมนสิการเสมอ

2.อานิสงส์ และ วิบากกรรม ที่พึงได้รับ

แน่นอนครับสิ่งนี้คือสิ่งที่เราพึงได้รับ อย่างประเสริฐสูงสุดคือบรรลุอรหันต์ รองลงมาคือโลกิยะคุณธรรมต่างๆ เช่นมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และสิ่งที่สำคัญคือ ความร่ำรวยนั่นเอง

แต่สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถกำหนดการส่งผลได้อย่างแน่นอนนะครับ หากเราจะอธิษฐานก็ให้เป็นไปเพื่อการสร้างบารมีโดยสะดวก แล้วรอวันส่งผล ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า แต่อย่าโน้มไปในตัณหาก็แล้วกัน จะทำให้เกิดบาปอกุศลไปเรื่ยๆโดยเราไม่รู้ตัว

หากจะสำเร็จเร็วๆ ต้องทำให้ถูกเนื้อนาบุญอย่างพระอริยะเจ้า ผู้เข้านิโรธสมาบัติ และพระพุทธเจ้า แบบนี้อานิสงส์ฝ่ายรับ รวดเร็วมากครับ เพราะท่านสามารถหลั่งอำนาจสิทธิทางสมบัติให้เราได้ทันที เพราะจิตท่านแรงมากปราศจากอาสวะแล้ว

แม้ทำบุญกับผู้ที่ถึงธรรมกาย ทำวิชชาได้ โดยเฉพาะผู้ที่สามารถคำนวนบุญสิทธิเฉียบขาดให้แก่เราได้ทันตาเห็นก็ยิ่งดีครับ

อีกอย่างเรามองเป็นเหตุเป็นผล การทำเหตุดี ย่อมได้ผลดี อย่างน้อยที่สุด ชีวิตคุณดีขึ้นกว่าแต่ก่อนไหมเล่า นั่นแหละคือผลของกุศล (ที่ไม่ได้จำกันเฉพาะแต่เรื่อง เงินๆๆ) อย่างน้อยๆคุณภาพชีวิต และจิตใจ เราดีกว่าแต่ก่อนที่ไม่ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมมากเลยนะครับ จริงไหม ทันตาเห็นเลยครับ

การอธิษฐาน ทางพุทธ ไม่ใช่การอ้อนวอน แต่เป็นการตั้งใจ บวกกับแรงของความดีความชั่วที่ทำจะเป็นแรงหนุนส่งผลให้ความตั้งใจนั้นสำเร็จโดยอัศจรรย์ ตามเหตุตามผลครับ

การขอพร ทางพุทธ เป็นการขอโอกาศ ขอโอกาศให้ตนเอง และขอโอกาศจากผู้อื่นที่มีบุญบารมี มีเหตุดีกว่า สูงกว่า แล้วแบ่ง หรือหลั่งไหลบุญบารมีนั้นเป็นส่วนบุญส่วนบารมีหนึ่งแก่เราครับ ดังตัวอย่างเช่น ทสพร ของพระนางผุสสดี ที่ทูลขอแก่พระอินทร์

ทำดี ดีกว่าขอพร

ทำดีด้วย อธิษฐานด้วย ขอพรด้วยก็ยิ่งดี แต่ไม่ใช่การอ้อนวอน การขอ

ความร่ำรวยก็ดี ความปราถนาต่างๆก็ดี โดยไร้เหตุปัจจัย หากขอกันได้ โลกนี้จะไม่มีความทุกข์ จะไม่มีร้องให้ ไม่มีเสียใจ เลยครับ

บางคนที่นับถือศาสนาเทวนิยม พอขอร้องอ้อนวอนอะไรสำเร็จหน่อยก็เชื่อเป็นตุเป็นตะว่าพระเจ้าประทานพรให้แล้ว โดยไม่แลดูถึงเหตุปัจจัยเลยครับ

เราเป็นชาวพุทธ ก็ให้เรียนรู้และเข้าใจหลักการทำบุญ การขอพร การอธิษฐาน ที่เป็นสัมมาทิฏฐินะครับ ให้กำลังใจทุกท่านครับ

สาธุครับ


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#23 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:30 PM

QUOTE
2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???


ดังที่ผมกล่าวไว้ในโพสต์ก่อน ว่าเป็นการแบ่งส่วนบุญส่วนบารมี ที่ผู้ทีบุญบารมีมีเหตุ และมีวิชชาดีกว่าเรา เขาสามารถหลั่งไหลส่วนแห่งบุญบารมีนั้นให้แก่เราได้

ดังเช่น ทสพร ของพระนางผุสสดี ที่ทูลขอแด่พระอินทร์

ต้องเข้าใจการอธิษฐาน และการขอพร แบบวิถีพุทธด้วยนะครับ ว่าเป็นเช่นไร

นอกจากจะเป็นกำลังใจแล้ว ท่านก็ยังทำวิชชาหลั่งไหลอำนาจสิทธิแห่งบุญบารมีให้แก่เราได้ด้วยครับ ตามหลักวิชชา ตามเหตุปัจจัย ตามหลักธรรม


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#24 ดุสิตาเทวบุตร

ดุสิตาเทวบุตร
  • Members
  • 213 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:46 PM

1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้
ได้เลยหรือ???
เรื่องการส่งผลของบุญนั้น ถ้าในชาตินี้ก็ต้องลำดับบุญมาจากอดีตชาติก่อนตามนี้
1บุญในอดีต ที่เป็นบุญใหญ่ (ฝ่ายดำคืออนันตริยกรรม5ประการ ฝ่ายขาวคือการบรรลุโสดาบัน(ภาวนา) การบวช(ศีล) อภิมหาทานบารมี(ทาน))
2บุญในอดีต ที่สร้างก่อนตาย
3บุญในอดีต ที่กระทำเป็นประจำ
4บุญในอดีต ที่ทำโดยไม่ตั้งใจ
โดยส่วนใหญ่บุญที่กระทำเป็นประจำในอดีตจะมีส่วนมากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าในชีวิตนี้อะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ตามก็ขอให้คิดว่าเราทำมาก็ต้องใช้ เราไม่ได้ทำมาก็ไม่ต้องใช้ แต่อย่างไรก็ดีชาตินี้เราก็สะสมไว้และตระหนักดีว่าชาติต่อๆไปจะไม่ลำบาก ส่วนคำถามที่ว่าบุญจะส่งผลในชาตินี้ไหมนั้น ก็ขออธิบายโดยละเอียดเลยว่า ธรรมชาติของระบบกรรมวิบาก กรรมกุศลจะมีผลเหนือกรรมอกุศล นั้นหมายความว่ากรรมกุศลในปัจจุบันหากมีกำลังเพียงพอก็จะสามารถชิงการส่งผลก่อนกรรมในอดีตได้ หรือหากเฉือนกันไม่ขาดก็จะไม่รุนแรงมากนัก นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางคนทำบุญปุ๊ปผลบุญส่งปั๊ป ผมเองก็ต้องยอมรับเลยว่าเคยถามคำถามนี้กับตัวเองเหมือนกัน แต่ผมก็ต้องยอมรับธรรมของพระพุทธเจ้าเพราะผมสัมผัสอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือได้มาแล้ว ผมได้สร้างกรรมใหม่ชนะกรรมเก่าที่กำลังส่งผลให้ผมอยู่ท่ามกลางกองทุกข์ (ถ้ายังไม่ค่อยพอใจกับคำตอบ ก็PMมาครับ ผมมีวิธี วิธีที่ผมใช้ มันดูแปลกๆเลยไม่กล้าเขียนเดี๋ยวคนอื่นอาจจะว่าเราบ้า เราต้องหาคำตอบให้ได้กับคำถามที่ว่า "บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้" และหาวิธีทำให้บุญ ถูกหลักวิชชาที่สามารถชนะกรรมเก่าได้)

2.การอธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือไม่???
ไม่ใช่ การขอพึ่งบารมีมหาปูชนียาจารย์ตามที่ครูไม่ใหญ่สอนเป็นการใช้ธรรมบารมีของมหาปูชนียาจารย์ นำล่องบุญเราอีกที แต่บางครั้งกรรมในอดีตอาจไม่หนัก แต่เป็นกรรมที่เราหนีไม่ได้จริงๆ เป็นกรรมที่เราต้องรับจริงๆ มหาปูชนียาจารย์ท่านคงพิจารณาแล้วว่ากรรมตรงนี้เราควรรับดีกว่า จะได้สบายในอนาคต มีแต่บุญส่งผล ไม่มีกรรมตามมาเลย
3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกที
ควรแก้ไขอย่างไร???
ดูท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีครับ ที่เราคิดแบบนั้นเพราะเราหวังผลแห่งบุญที่เราทำไป เราหวังว่าเพราะบุญนี้จะทำให้เราได้มีปัจจัยมาสร้างต่อ ต้องบริหารการเงินให้ดีครับ
4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก
เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???
ที่คุณรู้สึกเหมือนกำลังพูดโกหกเพราะคุณยังไม่เคยได้รับอานิสงค์ที่คุณพูดเลยใช่ไหมครับ กรณีนี้แก้ลำบาก ยังไงก็ต้องพูดอย่างนั้นต่อไป ส่วนความรู้สึกให้ใช้วิธีนึกถึงพระพุทธเจ้าครับ บุคลิกภาพเราต้ององอาจ อาจหาญ นิ่ง พูดด้วยความศรัทธา มีตถาคตโพธิศรัทธาเวลาบอกบุญครับ
5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้งรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริง
จนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ
ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น
เพราะเราหวังไงครับ ว่าเราต้องเหนือกว่านี้มาก แล้วมันซ้ำๆๆๆว่าเราทำไม่ถึงเป้า อย่าหวังครับ ได้สุดที่ไหนก็ที่นั่นครับ คนอื่นเราก็ฟังที่เขาชมแล้วก็ชมเขากลับมากๆครับ
6.ผมเป็นคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อย
แต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???
อันนี้เจอทุกคนเป็นพื้นฐาน มีน้อยคนที่จะบอกบุญได้มากๆ อันนี้ก็ต้องใช้วิธีแปลกๆของผม ผมมีวิธีตามหลักวิชชาที่เพี้ยนๆครับ







ยังไงก็สู้ๆครับ

#25 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:49 PM

เวลาผมสร้างบารมีผมจะทำเต็มที่เสมอไม่เคยท้อ
ปกติผมจะอธิฐานขอหลวงปู่ช่วยก็ต่อเมื่อมันเกินกำลัง
ที่ผมจะทำให้สำเร็จได้
อะไรที่ผมทำได้ผมจะไม่รบกวนท่าน
จะขอบารมีท่านเฉพาะที่สำคัญและผมทำไม่ได้เท่านั้น
แต่ก็ไม่เคยได้ตามขอเลยก็ต้องปล่อยไว้อย่างนั้น

หลายท่านคงกำลังคิดว่าผมกำลังท้อจึงมาถามคำถาม
ก็ต้องขออภัย ผมแค่อยากหาวิธีการที่จะเพิ่มพลังใน
การสร้างบารมี อยากทำให้มากกว่านี้
ผมยังบุญน้อยอยู่จึงทำบุญได้ทีละน้อยและน้อยลงทุกที
ส่วนตัวไม่อยากได้อะไรหรอก
อยากมีบุญมากๆจะได้ตามหลวงพ่อไปได้
เพียงแต่รู้สึกว่าความรู้สามารถเราก็มีมาก
แต่ในยามที่หมู่คณะต้องการเราก็ไปไม่ได้
ถ้าเราสามารถลาออกได้ก็คงจะทำได้มากและดีกว่านี้
แต่ปัญหาทางบ้านยังมีอยู่ถึงต้องทนอยู่อย่างนี้



#26 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:52 PM

ก่อนอื่นขอแสดงความเห็นใจ เหนื่อยนักก็พักบ้าง ถอยหลังไปตั้งหลัก

อย่างที่พระพ่อบอกว่า "คิดอะไรไม่ออก ให้ออกจากความคิด"

ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนสมาชิกเวปด้วยกัน อยากจะบอกว่าถ้าคิดว่าหนักมาก มันก็หนักมาก

มันขึ้นอยู่กับลักษณะความคิดที่คุณฝึกให้กับตัวคุณเอง ภาษาพระบอกว่า "จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้"

และถ้าคนรุ่น IT ก็มักจะพูดว่า " positive/negative thinking " แต่ในกรณีนี้เขาถือว่า( + ดูด + )

และ(-ดูด -) ถ้าคนวัดก็จะบอกว่าทำบุญต้องตรึกระลึกถึงบุญ ดวงบุญก็จะโตและมีโอกาศส่งผล แต่ถ้า

ใจยิ่งออกนอกศูนย์กลางกาย ไม่อยู่ในบุญก็ได้เหมือนกันคือได้ดวงบาปโตขึ้น ๆปิดดวงบุญไปเลย แล้วบุญ
จะส่งผลมากน้อยอย่างไรนี่มีหลายสาเหตุประกอบกันทั้งอดีตและปัจจุบันมารวมกัน

พูดถึงบุญทำได้เสมอเพราะบุญคือการทำดีทุกอย่าง มิใช่เฉพาะมาวัดและมีปัจจัยเท่านั้น การทำดีมากได้ผล

มากที่สุดคือการปฏิบัติบูชา ทำใจให้ใส บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ซึ่งเป็นหัวใจหลักหนึ่งในสามของพระพุทธศาสนา
ที่สำคัญที่สุด ทำได้ไม่ต้องมีเงินเลยก็ทำได้ ส่วนอีก สองข้อคือ ให้ละชั่ว และทำดี และใครทำใครได้ ตัว

ใครตัวมันเหมือนหายใจใครจะมาทำแทนกันไม่ได้ หรือรับประทานอาหารใครทานใครอิ่ม จะอิ่มแทนกันไม่ได้

แล้วจะไปกังวลทำไมว่าใครคาดหวังอะไร ไปยืนหน้ากระจกคนเดียวแล้วทำความรู้จักคนคนนั้นแหละให้ดีที่สุด
..............

บุคคลิก ส่วนหนึ่งมาจากข้างในด้วยพระท่านสอนว่า

บุคคลใดรักษาศีลไว้ดีแล้ว นอกจากศีลจะรักษาเขาแล้ว เขาจะเป็นคนที่ร่าเริง อาจหาญในธรรม จะแจ่มใส

น่าเข้าใกล้ ปลอดภัย แม้แต่สัตว์เลี้ยงมันยังรู้สึกสัมผัสได้ในสิ่งนี้ เข้าใกล้แล้วอบอุ่นไม่อบอ้าวจ้ะ

................................ส่วนบุญส่งผลและการอฐิษฐานจิต

คุณครูไม่เล็กตอบปัญหาไว้อย่างนี้ค่ะ ดูจากlink :

http://www.kalyanami...o...46&Itemid=1

......ขออภัยด้วยหากหนักนิดเบาหน่อยนะจ้ะ





#27 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 09:53 PM

เวลาผมสร้างบารมีผมจะทำเต็มที่เสมอไม่เคยท้อ
ปกติผมจะอธิฐานขอหลวงปู่ช่วยก็ต่อเมื่อมันเกินกำลัง
ที่ผมจะทำให้สำเร็จได้
อะไรที่ผมทำได้ผมจะไม่รบกวนท่าน
จะขอบารมีท่านเฉพาะที่สำคัญและผมทำไม่ได้เท่านั้น
แต่ก็ไม่เคยได้ตามขอเลยก็ต้องปล่อยไว้อย่างนั้น

หลายท่านคงกำลังคิดว่าผมกำลังท้อจึงมาถามคำถาม
ก็ต้องขออภัย ผมแค่อยากหาวิธีการที่จะเพิ่มพลังใน
การสร้างบารมี อยากทำให้มากกว่านี้
ผมยังบุญน้อยอยู่จึงทำบุญได้ทีละน้อยและน้อยลงทุกที
ส่วนตัวไม่อยากได้อะไรหรอก
อยากมีบุญมากๆจะได้ตามหลวงพ่อไปได้
เพียงแต่รู้สึกว่าความรู้สามารถเราก็มีมาก
แต่ในยามที่หมู่คณะต้องการเราก็ไปไม่ได้
ถ้าเราสามารถลาออกได้ก็คงจะทำได้มากและดีกว่านี้
แต่ปัญหาทางบ้านยังมีอยู่ถึงต้องทนอยู่อย่างนี้



#28 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 July 2010 - 10:03 PM

ถ้าจะให้บุญส่งผลเร็วแรง ก็ต้องทำให้ถูกเนื้อนาบุญ หรือเป็นบุญที่แรงๆด้วย

หลวงปู่สด กล่าวว่า หาบุญได้ ใช้บุญให้เป็น

เวลาจะใช้บุญให้จรด 072 แล้วอธิษฐานจิตนำบุญมาใช้บ่อยๆ จะถูกทะเลบุญครับ ก็จะทำให้บุญส่งผลเร็วแรง

หรือไม่ก็นั่งสมาธิให้เข้าถึงวิชชาธรรมกายแล้วทำวิชชาเบื้องสูงได้ เพื่อไปคำนวนเอาอำนาจสิทธิเฉียบขาดให้บุญบารมีส่งผลเป็นอัศจรรย์ และต้องตั้งผังสำเร็จตามปราถนาตามหลักวิชชา

ทุกๆวันนี้ ที่เราทำสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญก็คือบุญบารมีของครูบาอาจารย์ของเรานั้นเองด้วย

การทำบุญต้องอธิษฐานผ่านพระรัตนะตรัยที่สุดละเอียด และมหาปูชนียาจารย์เสมอ ไม่ถือเป็นการรบกวน เพราะสายบุญต้องเชื่อมถึงกันอยู่เสมอ จึงจะเร็วและแรงครับ


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#29 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 10 July 2010 - 12:10 AM

กระทู้นี้สุดยอดเลยครับ ขอบคุณหลายๆท่านที่เป็นกำลังใจให้กันกับเพื่อนสมาชิก อ่านคอมเม้นต์บางท่านแล้วได้ข้อคิดหลายๆอย่าง

ขออนุโมทนาบุญครับ

#30 qazwsx123

qazwsx123
  • Members
  • 49 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 July 2010 - 12:19 AM

1.บุญที่เราทำทั้งหมดในชาตินี้จะไม่อาจส่งผลในชาตินี้
ได้เลยหรือ???

บุญที่ทำไปทั้งหมด ส่งชาตินี้ ประมาณ 30% บุญคือการลงทุนระยะยาวน่ะครับ มีผลทันทีที่ใจของเรา
แต่จะมีผลกับร่างกายของเราไหม ขึ้นกับว่า ใจของเรา รักษาสภาพอยู่ในบุญ ได้มั่นคงขนาดไหน
ผมใส่บาตรตอนเช้า happy ได้ 30 นาที ก็ลืมแล้ว
แต่ถ้าเราทำบุญบ่อยๆ เราจะรักษาสภาพใจอยู่ในบุญได้นานขึ้น อันนี้แหละสำคัญ บุญทั้งหลายก็จะส่งผลไว
(ตรรกะว่า หากจิตใจดี ความคิด คำพูด การกระทำ ก็ย่อมดีไปด้วย)


2.การ อธิษฐานขอบุญบารมีมหาปูชนียาจารย์ ให้ช่วย
เป็นแค่การเติมกำลังใจใช่หรือ ไม่???

ครับ เป็นการเติมกำลังใจ ท่านได้ช่วยอย่างที่เราอธิษฐานไว้หรือไม่ เราก็ไม่อาจจะทราบได้ แต่จะสำเร็จหรือเปล่า ขึ้นกับเราอย่างแน่นอน เพราะเงื่อนไขของความสำเร็จ 100%เลย คือเราต้องลงมือทำ จะเอาแต่อ้อนวอน มันไม่ถูกตรรกะน่ะครับ

การอธิษฐาน เป็นการตั้งเป้าหมายชีวิตด้วยน่ะ คนเรามักโลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา อยากจะใช้เบนซ์ ไปๆมาๆ ถอยมอไซ *0* แล้วก็บอกว่าบุญไม่ช่วย จริงๆแล้ว ทุกคนช่วยอยู่ เราเปลี่ยนใจเอง เงินเก็บมันไปไม่ถึงเอง


3.ทำไมยิ่งทำบุญมาก ยิ่งทำบุญได้ยากและน้อยลงทุกที
ควร แก้ไขอย่างไร???

ผมไม่คิดว่า คุณค่าของการทำบุญ อยู่ที่ทำได้มาก ผมคิดว่าอยู่ที่ใจของเราน่ะ ว่าเราทำความดี เพื่อความดีหรือเปล่า อีกอย่าง การสละทรัพย์ ก็เป็นการเพิ่มทานบารมี ทรัพย์น้อย แต่มีใจอยากจะทำ แล้วทำ เราก็ได้บารมีมาก ถ้าชวนคนอื่นทำ ก็ได้มากขึ้นไปอีก แล้วเราได้อะไรมากกว่านี้ไหม นอกจากได้เสียเงิน

ได้สิ ถ้าคุณทำบุญเองไม่ได้ชวนใคร และอยากทำให้ได้มากขึ้น ผมเชื่อว่าคุณอยู่ไม่ไหวหรอก ต้องหารายได้เพิ่ม เอาแล้ว อาชีพเสริม สร้างรายได้ และหากชวนคนอื่นทำบุญ ก็ได้เครือข่าย ได้เพื่อนอีก *0* ทุกอย่างเป็นปัจจัยต่อการทำธุรกิจทั้งนั้น ซึ่งนิสัยพื่นฐานของเศรษฐี กำลังก่อตัวน่ะ แต่ผมอยากเสริมอีกนิด เศรษฐีนั้น จะต้องแยกให้ได้ระหว่าง need และ want

อันไหนจำเป็น อันไหนต้องการ จ่ายในเรื่องควรจ่าย และงกในเรื่องควรงก เศรษฐีไม่ได้ใจกว้างเป็นแม่น้ำกับทุกคน ทุกสิ่งน่ะ

ความรวยมันเกิดจากนิสัย และนิสัยมันเกิดจากการทำอะไรซ้ำๆ หรือพูดเข้าหลักธรรม คือ เกิดจากบารมีน่ะเอง


4.ทำไมเวลาเล่าอานิสงค์แห่งบุญให้ใครฟังรู้สึก
เหมือนกำลังพูดโกหก??จะแก้ไขอย่างไร???

ก็เพราะศรัทธาเรายังไม่พอ ถ้าไม่คิดแบบนั้น ก็ไม่ต้องเล่าแบบนั้น ไม่ต้องพูดแบบนั้นไงครับ จนกว่าเราจะเจออานิสงแห่งบุญจริงๆ แต่อานิสงแรกที่ควรเจอคือ เราเป็นคนดีขึ้นหรือเปล่า มีความสุขขึ้นหรือเปล่า อันนี้น่ะ ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน เหอๆ

5.เวลามีคนชื่มเราบางครั้ง รู้สึกว่าเขากำลังพูดเกินจริง
จนดูเหมือนไม่จริงใจ หรือเป็นความดีที่เราไม่ได้ทำ
ทั้งที่เราก็ทำความดีนั้น

ก็เป็นธรรมดาของมารยาทน่ะครับ มีคนเคยพูดว่า ด่าไม่โกรธ ไม่เท่ากับชมแล้วไม่ลอย ที่ถูกกว่าคือ จะชมหรือด่า ก็ควรจะเฉยๆ เราจะได้ไม่ติดในคำชม แล้วทำดีเพื่อความดี ต่อไปน่ะครับ ดีที่สุดเลย ทำดีเพื่อให้โลกนี้น่าอยู่ ใครไม่ทำช่างเขา เราจะทำต่อไป

6.ผมเป็น คนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย บอกบุญได้แค่หลักร้อย
แต่หมู่คณะก็ตาม คนอื่นก็ตาม มักจะคาดหวังกับผม
ในสิ่งที่ผมไม่มีทางหามาได้เสมอๆ จะทำอย่างไรดี???

ก็ไม่เป็นไร ทรัพย์มี 2 อย่าง คือ ทรัพย์สมบัติ และ โภคทรัพย์, ทรัพย์สมบัติ มีแล้วรู้สึกดี แต่กินไม่ได้, โภคทรัพย์น่ะของแท้ ทำให้เรามีกิน ความสุขอยู่ที่ใจ บรรลุตรงนี้ได้ เด๋วจะเจอทางประหยัด ทางสบายเอง

หมู่คณะก็ย่อมเชียร์เราเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เป็นธรรมชาติของหมู่คณะ ส่วนเราก็ ใช้ความพยายามกับทุกสิ่งละกันครับ ปรับปรุงและพัฒนา จะสำเร็จแน่นอน ที่คุณกล้ามาปรึกษา ก็แสดงว่าคุณต้องการ การพัฒนา ดีใจด้วย เป็นก้าวแรกที่ดีครับ