ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

กรรมใดที่ทำให้มีแฟนสวย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 36 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 03:07 PM

กรรมใดที่ทำให้มีแฟนที่งามพร้อม ทั้งกายวาจาใจ เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ และเป็นคู่สร้างคู่สม เป็นคู่บุญบารมีอย่างแท้จริง

#2 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 03:18 PM

แนะนำ อสุภกรรมฐาน เอาเลยนะพี่ชาย หนักๆเลยอสุภกรรมฐาน
ตาบอดแล้วมั้งป่านนี้555+
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#3 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 03:30 PM

พี่บูมนิสุดยอดเลยนะ อันเน่สงสัยพี่เอ็กจะได้แฟนสวยแน่เลย 5555
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#4 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 03:33 PM

นายบูม ฉันถามเฉยๆ ฉันยังไม่ได้รักใครนะครับ อย่ามั่วนิ่ม




#5 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 03:42 PM

เฮอๆเพ่เอ็กซ์มอบตัวและหัวใจเพื่อรับใช้ชาติ เอ้ย ศาสนาเลยค่ะ ไม่ต้องทำอะไรมากแค่เตรียมตัวและเตรียมใจ ^^
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#6 sage_072

sage_072
  • Members
  • 271 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:นครราชสีมา
  • Interests:ต้องการเรียนรู้กฏแห่งกรรม และสนทนาธรรมกับเพื่อนกัลยาณมิตร

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 03:58 PM

ทาน ศีล ภาวนาเราก็มีเหมือนกัน
บวกกับคำอธิษฐานเข้าไปด้วย
มั้งค่ะ
thamma_072.p

#7 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 04:02 PM

QUOTE
กรรมใดที่ทำให้มีแฟนที่งามพร้อม ทั้งกายวาจาใจ เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ และเป็นคู่สร้างคู่สม เป็นคู่บุญบารมีอย่างแท้จริง

กรรมเจอไม้งามเมื่อยามขวานบิ่นมาส่งผลครับ 5555+

หญิงงาม ยิ่งสวยยิ่งอันตราย เป็นที่หมายปองของชายจำนวนมาก กาเมหรือบาปอกุศลเข้าแทรกได้ง่าย
เป็นเหตุที่ตั้งแห่งความกำหนัดยินดีในเบญจกามคุณในหญิงนั้น เป็นโทษมากกว่าคุณครับ

การจะหาหญิงงามมาเคียงกายนั้นไม่ยากครับ ขอเพียงคุณ X รวย เอาใจ ตามใจ หญิงเจ้าก็จะมาเองแหละครับ

แต่การสละหญิงงามนี่สิยากยิ่งกว่า ถ้าใครสละสุขน้อยทุกข์มากได้ ก็จะได้เอกันตบรมสุขครับ

หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#8 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 04:04 PM

เอ่อ ลงมาจากพณาวัฒน์ปุ๊บ ก็ตั้งคำถามนี้เลยนะคะ *-)

แต่ถ้าตามหลักสันนิษฐานวิทยานะคะ ก็คงเคยทำบุญด้วยของสวยๆ งามๆ มา ให้ผ้า ให้เครื่องนุ่งห่มที่ละเอียดปราณีต สมส่วนของผู้รับ ไม่หลวมไป ไม่คับไป ให้ของหอม ของใหม่ตลอด (เพราะมีบางเคสที่ถามว่าทำไมได้ภรรยาแก่ ก็เพราะว่าชอบถวายของเก่า ก็เลยเดาๆ เอา ที่เขาได้ภรรยา/แฟนเด็ก หน้าใสๆ ก็คงเพราะชอบถวายของใหม่ๆ หุหุหุ) หรือไม่ก็เห็นใครมีแฟนสวย ก็อนุโมทนาสาธุ พลอยยินดีไปกับผู้ชายผู้มีแฟนสวยคนนั้น แทนที่จะอิจฉาริษยาน่ะเอง แต่ก็ลงท้ายด้วยการอธิษฐาน หรืออยากได้แฟนสวยๆแบบนั้นบ้าง (ในชาติหน้า) ก็อาจจะสมปรารถนาได้เลย แต่ถ้าอยากได้แฟนสวยภายในชาตินี้ ก็ต้องรีบสั่งสมบุญแล้วอธิษฐานสมทบล่ะค่า

ที่ถามว่าทำไมถึงสร้างบารมีร่วมกันแบบลูกคู่ พี่สร้างเสาแก้ว น้องสร้างบันไดขาขึ้น เป็นคู่บุญ ร่วมสร้างบารมี ก็เพราะว่าเคยทำบุญร่วมกันมาในอดีต และก็อธิษฐานจิตร่วมกันมาให้มาเป็นคู่บุญกันอีก ในทุกๆชาติ น่ะเอง อ่ะสิเจ้าคะ

ว่าแต่ว่า การมีแฟนสวยๆ มันก็ไม่ใช่ความสุขเหมือนอย่างที่คิดเสมอไปหรอกนะคะเจ้าคะ เพราะบางทีต้องมาคอยเฝ้าระแวดระวัง กลัวว่าจะมีใครมาชอบแฟนตัวเองมากมาย ก็แฟนสวย ใครๆ ก็ชอบมอง เป็นทุกข์เปล่าๆ ค่ะ

และถ้าไปถามคุณครูไม่ใหญ่นะคะ ท่านก็จะบอกว่า ถือเพศพรหมจรรย์ ดีที่ซู้ดดดด

#9 sage_072

sage_072
  • Members
  • 271 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:นครราชสีมา
  • Interests:ต้องการเรียนรู้กฏแห่งกรรม และสนทนาธรรมกับเพื่อนกัลยาณมิตร

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 04:29 PM

QUOTE
การจะหาหญิงงามมาเคียงกายนั้นไม่ยากครับ ขอเพียงคุณ X รวย เอาใจ ตามใจ หญิงเจ้าก็จะมาเองแหละครับ


ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งนะคะ เพราะผู้หญิงผู้รักในการสร้างบารมีไม่ได้ปารถนา
เช่นนี้หรอกค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสตรีเหล่านี้ยังนิยมรักษาศีลแปด ประพฤติพรมจรรย์
และอธิษฐานให้ได้เกิดมาเป็นผู้ชาย แหม !ได้ฟังแค่นี้ก็ถึงต้องเหน็บหนาวกันแล้ว
แต่ถ้าจะดีเรามาร่วมอนุโมทนาสักสามครั้งให้พวกเธอกันดีกว่าค่ะ......สาธุ
thamma_072.p

#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 04:55 PM

ก็มีเรื่องราวปรากฏในสมัยอดีตกาลน่ะครับ

เรื่องราวก็มีว่า ชูชก เป็นคนแก่ งกๆ เงินๆ หน้าตาดูไม่จืด แต่กลับได้นางอมิตตา ซึ่งสวยมากมาเป็นภรรยา สาเหตุในปัจจุบันเพราะพ่อนางติดหนี้ชูชกไม่มีปัญญาใช้ เลยยกลูกสาวให้แทน แต่สาเหตุในอดีตนี่สิครับ เป็นเพราะชูชก เวลาถวายดอกไม้บูชาเจดีย์ มักจะถวายดอกไม้ใหม่ที่สวยงามน่ะครับ ส่วนนางอมิตตา เวลาถวายดอกไม้บูชาเจดีย์ มักจะถวายด้วยของเก่า ครับ จึงมาเป็นเช่นนี้แล ดังนั้นที่น้องฟ้าร้างสันนิษฐานมา ก็ถูกต้องครับ

หรือมีอีกกรณีหนึ่ง หลานของท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี ชาตินี้เกิดมาหล่อมาก สาวๆ เห็น สาวหลงเลย เลยมีชู้กับเขาไปหลายคู่ เป็นเพราะในอดีต เป็นนักมวย ได้เคยยกธง ขึ้นไปบูชาเจดีย์ แล้วอธิษฐาน ขอให้สาวรักสาวหลง แต่ไม่ได้ล้อมคอบไว้ว่า เพื่อเอาไปทำความดี เช่น ชวนเธอสร้างความดี ดังนั้น ชาติสุดท้ายบุญส่งผล สาวหลงจริง เลยเป็นชู้กัน ดีว่า เกิดในสมัยพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเทศน์โปรดจนเป็นพระโสดาบัน เลิกผิดศีลโดยเด็ดขาด รอดตัวไป

ส่วนถ้าจะให้ภรรยาที่งามพร้อมทั้ง กาย วาจา ใจ ต้องหมั่นชักชวนคนอื่นทำความดี และชักชวนกันสร้างแต่คุณความดีกันไปเรื่อยๆ นะครับ แล้วก็จะได้สมปรารถนา จนเบื่อแล้วประพฤติพรหมจรรย์พร้อมกัน เช่น ปิปผลิมาณพ และ นางภัทตกาปิราณี (ชื่ออาจสะกดไม่ถูก) เป็นสามีภรรยากันมาแสนชาติไม่พรากจากกันเลย จนชาติสุดท้ายได้บวช
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 BOG-BOG

BOG-BOG
  • Members
  • 293 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 05:06 PM

QUOTE
เรื่องราวก็มีว่า ชูชก เป็นคนแก่ งกๆ เงินๆ หน้าตาดูไม่จืด แต่กลับได้นางอมิตตา ซึ่งสวยมากมาเป็นภรรยา


ใช่อมิตตา ทาทายัง อ่ะเปล่าจ๊ะอ่ะ.....แฮ่ม







คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำลาย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ !!!!

#12 CEO

CEO
  • Members
  • 577 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 05:29 PM

เกิดเป็นชายในดินแดนที่มีพระพุทธศาสนา
ต้องบวชเท่านั้น!!!
อย่าให้หญิงมาขัดขวางการสร้างบารมีของเรา

สร้างบารมีทุกวินาที
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้

#13 BOG-BOG

BOG-BOG
  • Members
  • 293 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 05:33 PM

QUOTE
เกิดเป็นชายในดินแดนที่มีพระพุทธศาสนา
ต้องบวชเท่านั้น!!!
อย่าให้หญิงมาขัดขวางการสร้างบารมีของเรา



ต้องรับใช้ชาติด้วย ด้วยการไปเกณฑ์ทหาร อ่ะ...แฮ่มไม่ใช่แค่บวชเท่านั้นนะจ๊ะ บวชแล้วก็ต้องรักษาศีลเป้นพระที่ดี





คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำลาย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ !!!!

#14 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 05:42 PM

ที่ตั้งคำถามก็เพราะ ได้เห็นสาวๆบางคน สวยน่ารักอย่างกับเทพธิดา แต่มีแฟนไม่หล่อแถมนิสัยแย่อีก และหนุ่มหล่อๆบางคนจิตใจอย่างกับพ่อพระ แต่มีแฟนไม่สวยเลยแถมยังนิยแย่ๆเอามากๆไม่เหมาะสมเลย (ตบปากตัวเองแล้ว)
จึงตั้งคำถามนี้ขึ้นมาครับ




#15 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 06:02 PM

มิน่าวันนี้เปลี่ยน icon ใน msn ซะสวยเชียว ตอนแรกเลยเชื่อว่าจริง คิดไปว่าน้องเปลี่ยนใจแล้วเหรอเนี่ย...แต่ก็ทำให้บอร์ดคึกคักขึ้นทันตาเห็น

ถ้าให้เดาก็คงเป็นเพราะบุญและการอฐิษบานจิตที่ทำร่วมกันมาในอดีตโน่นนั่นแหละ แต่ก็พิจารณากันให้ดีนะครับ สวยก็ดี แต่ท่าจะให้ดีกว่าต้องสวยทั้งภายนอก (รูปโฉม) และภายใน (จิตใจ)

แต่ความเป็นจริง ก็ไม่เคยเห็นใครที่เพียบพร้อมคือสวย รวย ฉลาด แล้วมีคู่แล้วก็ยังสุขแบบสุดๆ เลยนะ มันก็คงเป็นห่วงในการสร้างบารมีอย่างที่หลายๆ คนว่ามานั่นแหละ





#16 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 06:13 PM

กิเลสทั้งนั้นแหละ มันเป็นแค่ภาพลวงตาว่าสวยว่าหล่อ ที่แท้ก็เนื้อหุ้มกระดูกเท่านั้นเอง

#17 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 06:32 PM

QUOTE
ได้เห็นสาวๆบางคน สวยน่ารักอย่างกับเทพธิดา แต่มีแฟนไม่หล่อแถมนิสัยแย่อีก

ตอบ ความสวยของเธอเกิดขึ้นเพราะแรงกรรมบันดานครับ ทำให้ดวงตาหรือจักขุมืดบอดเห็นผิดเป็นชอบ
ถ้าไปเลือกคนรวยแต่ทรามจิตก็เป็นเพราะกิเลสมารและกรรมเก่าเข้าสิงจิตหญิงคนนั้นให้ต้องรับกรรมครับ
เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ ถ้าถามเธอคนสวยทั้งหลายว่าเหตุใดจึงเลือกแบบนั้นเธอจะตอบว่าก็ไม่รู้เหมือนกัน
ก็คนมันรัก คนมันชอบเองหนิ มันเป็นเซนส์ลึกๆ ที่บอกว่าฉันชอบเพราะฉันต้องใช้กรรมหนะครับ 555+

QUOTE
หนุ่มหล่อๆบางคนจิตใจอย่างกับพ่อพระ แต่มีแฟนไม่สวยเลยแถมยังนิยแย่ๆเอามากๆไม่เหมาะสมเลย

ตอบ เวงกำของโคหนุ่มที่ดันไปรัก วัวเขาอ่อนใจร้ายหนะครับ 555
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#18 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 06:43 PM

เห็นไม่มีกระทู้ติดดาวมาหลายวัน ก็เลยปั่นสักกระทู้นึงแก้เซ็ง




#19 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 06:54 PM

การพิจารณาให้รู้ เห็น ไปตามความเป็นจริง ถึงความไม่เที่ยงของรูปนาม


ขั้นที่ ๑. หากเรายังมีความรู้สึกกำหนัดยินดีในรูปนั้นอยู่ ก็ขอให้มองรูปนั้นต่อไปจนกระทั่งครบวงจรแห่งวัฏจักรของชีวิต โดยมองตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย อย่ามองรูปแค่เพียงที่เห็นแต่ในปัจจุบัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว เราจะเกิดความกำหนัดยินดี แล้วพึงพิจารณาว่า "รูปนามสังขารธรรมทั้งหลายไม่ว่าดีหรือร้าย เมื่อถึงจุดสิ้นสุด ล้วนต้องมีสภาพเข้าสู่ความเสื่อมสลาย ไม่สามารถคงทนหรือตั้งอยู่ยั่งยืนได้เลย"

ขั้นที่ ๒. หากยังไม่หายกำหนัดยินดี ก็ให้พิจารณาโดยระลึกว่า กายนี้ โดยปกติแล้ว มีแผลประจำที่อยู่ถึง ๙ แห่ง คือ ทวารทั้ง ๙ อันได้แก่ ตา ๒ หู ๒ จมูก ๒ ปาก ๑ ทวารเบา ๑ และทวารหนัก ๑ ซึ่งทวารทั้งปวงนี้ เป็นที่ไหลถั่งของของอสุจิโสโครกต่างๆ ให้ผู้เป็นเจ้าเรือนต้องคอยเช็ดคอยล้างอยู่เป็นนิจ จากนั้น จึงพลิกเอาอวัยวะที่อยู่ภายในออกมาภายนอก พลิกส่วนที่อยู่ข้างนอกเข้าไปไว้ภายใน แล้วจึงพิจารณาต่อไปว่า "ความงามนั้น ปรากฏอยู่ได้แค่เพียงผิวหนัง ลึกกว่านั้นลงไปล้วนแล้วแต่ปฏิกูลทั้งสิ้น"

ขั้นที่ ๓. พิจารณาให้แยบคายลงไปอีก โดยในขั้นนี้ ให้จับเอาอวัยวะน้อยใหญ่ทั้งหลายแยกออกจากกันเป็นส่วนๆ แล้วพิจารณาถึงความปฏิกูลเป็นอย่างๆ ไปโดยละเอียด อาทิ ลำไส้ใหญ่ มีภายในที่เต็มไปด้วยกรีส (อุจจาระ) ที่มีกลิ่นเหม็นอย่างร้ายกาจ กระเพาะอาหาร เป็นประหนึ่งดังสุสาน ซึ่งเป็นที่ทับถมของบรรดาซากสัตว์ทั้งหลาย ที่เราได้บริโภคเข้าไป เปรียบเสมือนส้วมที่หมักหมมด้วยมูตรคูถ ที่ไม่เคยล้างถ่ายทำความสะอาดเท่าอายุของผู้เป็นเจ้าของ และกายนี้ที่ตั้งขึ้น/อยู่ได้ เพราะประกอบขึ้นจากกระดูก ๒o๖ ท่อน มีเลือดเนื้อเป็นเครื่องฉาบทา มีเส้นเอ็นเป็นเครื่องพันธนาการรัดรึงไว้ เป็นต้น มาถึงขั้นนี้ ท่านจะเห็นไปตามความเป็นจริงว่า "แท้ที่จริง ตัวเรานั้นไม่มี แต่ที่เราถือว่ามี นั่นเป็นเพราะความยึดมั่นถือมั่น มืดบอดด้วยตัณหาและอุปาทาน" ดังที่ท่านพุทธทาสท่านได้กล่าวไว้ว่า

"อันความจริง "ตัวกู" นั้นไม่มี
แต่พอโง่มันก็มี "ตัวกู" ได้
พอหายโง่ "ตัวกู" ก็หายไป
หมด "ตัวกู" เสียได้เป็นเรื่องดี"

ขั้นที่ ๔. หากมาถึงขั้นนี้แล้วยังไม่หายกำหนัดยินดีอีก ก็ขอให้เรานึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ของเรานะครับว่า ท่านก็เป็นมนุษย์มีอาการครบ ๓๒ เช่นเดียวกับเรา แต่ทำไม? ท่านจึงสามารถเอาชนะกามที่เกิดจากความดำริได้ เราก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกับท่าน เป็นลูก เป็นหลาน ในสายธาตุสายธรรมท่าน จะทำให้ได้เช่นเดียวกับท่าน ไม่ได้เชียวหรือ?

ขั้นที่ ๕. สุดท้ายให้พิจารณาให้ลึกลงไปถึงโทษภัยในวัฏฏะอันน่ากลัว (โทษข้ามภพ ข้ามชาติ) ในทำนองว่า หากเราประกอบเหตุเช่นนี้ ตัวเราเองจะต้องไปเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ และอย่างนี้ โดยขั้นนี้ หากยังจำภาพของวงจรแห่งวิบากกรรม วิบากกาม ในโรงเรียนอนุบาลฯ ได้ ก็ให้นึกไปเป็นลำดับขั้นเลยนะครับ โดยมองให้เห็นตั้งแต่โทษในมนุษย์ กระทั่งถึงโทษในอบายภูมิ แล้วเราจะเห็นอะไรที่น่าสมเพทเวทนา กระทั่งเกิดความสลดสังเวชในกาม ทั้งจะเกิดปัญญาสอนตัวเอง ที่จะงดเว้นจากบาปธรรมทั้งหลายและมีความสำรวมในกาม


หมายเหตุ; ข้อแนะนำเวลาปฏิบัติสมาธินะครับ อยากให้ท่านที่สนใจลองพิจารณาบทพิจารณาทั้ง ๕ ข้อ แบบอนุโลม (ขั้นที่ ๑, ๒, ๓, ๔, ๕) และปฏิโลม (ขั้นที่ ๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ดูนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวลาที่จิตฟุ้งคิดตกไปในเรื่องของกาม ให้พิจารณาทบไปทวนมาจนกระทั่งจิตหายฟุ้ง เมื่อหายฟุ้งแล้วก็ให้ทำหยุดในหยุด นิ่งในนิ่งต่อไปอย่าถอย

อนิจจาร่างกายของชายหญิง มีแต่สิ่งปฏิกูลอาดูรหลาย เต็มไปด้วยมูตรคูถไม่เว้นวาย น่าเบื่อหน่ายรำคาญทุกกาลไป ร่างกายนี้มีหนังหุ้มบังทั่ว โดยรอบตัวมีช่องดังปล่องไข่ สิ่งโสโครกมากมายจากภายใน ให้หลั่งไหลซึมออกมานอกกาย กายนี้เป็นแผลใหญ่จำไว้เถิด เป็นที่เกิดทุกข์ยากลำบากหลาย แต่คนเขลาเฝ้าชมหลงงมงาย ว่าเฉิดฉายโสภาเที่ยงถาวร อะยังโขกาโยโอ้กายนี้ เป็นถิ่นที่เกิดอยู่แห่งหมู่หนอน มีโรคาสารพัดคอยตัดรอน ให้เดือดร้อนเป็นประจำทุกข์ย่ำยี ร่างกายนี้ไม่นานนักจักผันแปร ถึงความแก่คร่ำคร่าสิ้นราศี จักสิ้นลมล้มตายวายชีวี กลายเป็นผีเน่าผุพังเหม็นจังเลย

(พระใบฎีกาตรีคูณ จิตฺตปญฺโญ : ประพันธ์)

ปล. ขออนุญาตกระตุ้นเตือนความทรงจำกันสักหน่อยนะครับ (สงสัยลืมกันไปหมดแล้ว)


#20 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 07:04 PM

อ่านที่น้องก้องโพสแล้วตัวเบาเลย เบาจริงๆเหมือนตอนที่นั่งสมาธิอ่ะครับ




#21 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 09:06 PM

อ้อ! อีกนิ้ดดดด... นึงนะครับ คำว่า "รูป" นั้น มีรากศัพท์มาจากคำว่า "รุปปะ" แปลว่า เสื่อมสลาย ทำไมจึงมีความหมายเช่นนี้ผมคงไม่ต้องบรรยายให้มากความนะครับ ไม่ต้องเอาอะไรมากลองไปดูรูปกายของคนชราสิครับ มีส่วนไหนบ้างครับที่มันเจริญขึ้น (งามขึ้น) เมื่อกาลผ่านไป

ปล. พี่เอ็กซ์ครับ รบกวนช่วยหาภาพมาประกอบในแต่ละขั้นตอนด้วยจะเป็นการดียิ่ง ขอบคุณครับ


#22 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 10:13 PM

เรื่องชูชกและนางอมิตดา เกิดขึ้นในพระชาติที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดรครับ โดย
ชูชก ได้มาเกิดเป็น พระเทวทัต
นางอมิตดา ได้มาเกิดเป็น นางจิญจมาณวิกา
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#23 bongboo

bongboo
  • Members
  • 26 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 07:40 AM

ที่ใดมีรัก ที่นั้นย่อมมีความผูกพันธ์ โดยเฉพาะรักแบบหนุ่มสาว มักเจอด้วยความหลง แล้ว ก้อ ความ หึงหวง ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำใจหยุดใจนิ่ง แล้วยิ่งมีแฟนสวย ที่มีแนวคิด ไม่เหมือนเรา ยิ่งลำบากใจ ยิ่ง ยากในการสร้างบารมีไปอีก ดังนั้น สร้างบารมีดีกว่า หากมีคู่ก้อขอให้เป็นคู่ที่ ส่งเสริมเราสร้างบารมีไปด้วยกันดีกว่า ไหม

#24 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 07:44 AM

ขออภัยด้วยครับ ที่ผมพิมพ์ชื่อผิด เป็นนางอมิตตา แต่ชื่อจริงๆ นางชื่อ นางอมิตตดา ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#25 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 08:08 AM

ไม่ควรคิดเช่นนั้นครับ ถ้าหากปฏิบัติธรรมควรคิดจะห่างเรื่องพวกนี้อย่างเดียว
เพราะขนาดไม่คิดคุณอาจจะติดบ่วงมารเข้าโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากยิ่งคิดโอกาศพลาดพลั้งมีมาก
ครับ เพราะอาจจะสร้างภาพหลอกตัวเองได้ว่า คนนั้นใช่ คนนี้ใช่ ทำให้พลาดโอกาศบำเพ็ญ
บารมีเพราะมีห่วงติด ห่วงเดียวไม่พอ จะกลายเป็น สองสามห่วง จะหมดเวลาเอา
หยุดคือตัวสำเร็จ

#26 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 09:35 AM

ท่านที่ตอบกรุณาอ่านคำถามให้เข้าใจด้วย ถ้าไม่เข้าใจ เรียกเด็กข้างๆมาอธิบายนะครับ






#27 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 10:04 AM

อืม.. ขอโทษนะครับ ที่ตอบแบบนี้เพราะว่าการคิดว่าได้แฟนสวยและงามเพียบพร้อม
คุณสมบัติและรูปสมบัติมาเป็นคู่บุญบารมี

เลยกลัวว่าคุณจะคิดมีกิเลสเวลาไปเห็นหญิงสวย ๆ เลยตั้งความหวังไว้เช่นนั้น ผมเอง
ก็มีประสบการณ์หลงความสวยนี่ละ ทำให้ห่างวัดไปหลาย ๆ ปี ปัจจุบันงานก็ยุ่งเพราะห่างวัด
เลยไม่ได้สร้างบารมีต่อ กลับไปหลงทางโลกเสียนานมาก ๆ

ตอบตามคำถามของคุณก็ได้ ยกเรื่องพระโพธิสัตว์สร้างบารมีมาให้ ผมจำไม่ได้ว่าเป็นชาติ
ไหนพระโพธิสัตว์สร้างบารมีทำบุญในพระพุทธศาสนาและอธิษฐานพุทธภูมิ จนมีหญิงคนหนึ่ง
เห็นเข้า เลยทำบุญและอธิษฐาน ขอเป็นสหชาติ ตามติดเป็นคู่บารมีสร้างบารมีต่อจนถึง ชาติ
สุดท้าย ใครจำได้ช่วยขยายให้ที สรุปคือ ควรหาคนที่จะเป็นสหชาติกับเราและให้ทำบุญร่วม
กันไปภพชาติต่อไปมาเจอกันก็คงสมหวังโดยการเป็นผู้นำบุญชี้ทางให้คนอื่นทำบุญมาก ๆ
เข้าแล้วอธิษฐานจิต ก็คงสมหวัง เนอะ
หยุดคือตัวสำเร็จ

#28 glouy

glouy
  • Members
  • 162 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 10:21 AM

เกิดมา ทั้งที ต้องสร้างบารมีอย่างเต็มที เต็มกำลัง สาธุ

#29 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 01:19 PM

เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกว่า..ตลกดี..ขำที่เจ้าของกระทู้ทำเหมือนรำพึงรำพัน แล้วมีคน

มาตอบมาแซวเยอะแยะ

พออ่านมาเรื่อยๆ ก็ค้นพบสาระที่หลายๆท่านค้นมาให้อ่าน และแสดงความคิดเห็น

เปลี่ยนบรรยากาศดีค่ะ




ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#30 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 02:11 PM

ตอบคุณทศพลครับ

เรื่องที่คุณถาม คือ พระชาติที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น สุเมธดาบส (ชาติที่ได้รับพุทธพยากรณ์จาก พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นชาติแรกแหละครับ)

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสพยากรณ์สุเมธดาบสแล้ว มีหญิงชาวบ้านนางนึง เกิดจิตเลื่อมใสในสุเมธดาบส จึงหยิบดอกบัวมา 8 ดอก 4ดอก ถวายแก่สุเมธดาบส อีก 4 ดอกตนเก็บเอาไว้ แล้วอธิษฐานว่า ขอให้ตนได้สร้างบารมีไปเคียงคู่กับสุเมธดาบส

ครั้นสุเมธดาบสทราบถึงคำอธิษฐานนั้น ก็ได้บอกห้าม ว่าอย่าอธิษฐานเช่นนั้นเลย แต่พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกว่า การสร้างบารมีเพื่อบรรลุพระโพธิญาณนั้น เป็นสิ่งที่ยาก และสตรีก็จะมีส่วนให้สามารถบรรลุพระโพธิญาณนั้น ซึ่งก็คือ ต้องมีการ บริจาคบุตรและภรรยา ไงครับ มิฉะนั้น การสร้างบารมีเพื่อที่จะบรรลุพระโพธิญาณจะไม่สมบูรณ์

ซึ่งหญิงนางนั้น หลังจากภพชาตินั้นมาก็ได้สร้างบารมีเคียงคู่ไปกับพระโพธิสัตว์ตลอดมา ซึ่งต่อมาก็คือ พระนางมัทรี ในชาติที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระเวสสันดร และ เป็นพระนางพิมพา ในภพชาติสุดท้ายไงครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย