ขอกำลังใจด่วนค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 04:23 PM
มีแต่ติดลบ หวังว่าวันพรุ่งนี้ คงดีขี้น แต่ก็........ เหมือนกับว่ารางวัลปลอบใจสักนิดก็ไม่มี ดิฉันท้อ แต่ก็ไม่ทอย แต่ก็ต้องการเพื่อนและกำลังใจ
สักนิดก็ยังดี ที่เล่าให้ฟังนี้ดิฉันไม่ได้เสียดายเงินที่ทำบุญนะค่ะ ดิฉันดีใจเสียอีกที่ได้เสียสละทรัพย์ที่มีอยู่ในตอนนั้นได้ทำบุญครั้งใหญ่ในชีวิต
ทั้งครอบครัว ก็อย่างให้กิจการ ฐานะความเป็นอยู่ ให้ดียิ่ง ยิ่งขึ้นไป ช่วงปีก่อนหน้าที่กล่าวมา ทำค้าขายดีมาก และลืมตาอ้าปากได้
พอค้าขายไม่ดี เศรษฐกิจไม่ดี ก็หวังผลให้บุญช่วยหนุน จะให้นึกแต่ว่ากรรม กรรม กรรม ไม่หมดเสียที ทำดี ถือศีลปฎิบัติธรรม ไหว้พระสวดมนต์
เจริฐภาวนา อธิฐานจิตแผ่เมตตา ก็ไม่มีหวัง แสดงว่าดิฉัน เป็นคนมี กรรม มาก บาปมาก ใช่ไหมค่ะ
มีแต่บาปชิ่งช่วง ใช่ไหมค่ะ ได้แต่หวังว่าสักวัน คงจะดีขึ้น แต่เทวดา ท่านก็พิสูทนานมาก ไม่มีรางวัลหรือกำลังใจให้เลยค่ะ
ดิฉันไม่สบายใจ ก็ได้แต่นึกถึงวัดพระธรรมกายเป็นที่พึ่งนี่แหละค่ะ พอสบายใจก็ทำงานต่อไป ครอบครัวดิฉันชอบทำบุญ ไม่คอยทำให้ใครเดือนร้อน
แต่ก็ทำบุญคนไม่ขี้น อาศัยใครไม่ได้เลย คนอื่นเขามาขอความช่วยเหลือจากครอบครัว ดิฉันได้ แต่เราต้องพึ่งตัวเอง
**** หลวงพ่อค่ะ ลูกท้อ และใจเศร้าหมองจังเลยค่ะ อยากได้กำลังใจ และคำสั่งสอน ดี ดี แก้ กรรม ให้ลูกออกจากทะเลทุกข์ นั่งสมาธิก็หายทุกข์ได้ชั่วขณะ เดี่ยว ก็ ใจหม่นหมอกอีก หาทางแก้ให้ลูกด้วยค่ะ ( ร้องไห้ไปด้วย)
#2
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 04:57 PM
อดทน สร้าง ขันติธรรม
เด๋วทุกข์ ก็ผ่านไป
คุณต้องเชื่อมั่นในบุญน่ะค่ะ
มีบุญมากพอที่จะลองรับ
เมื่อไหร่ เด่วก็ส่งผลเอง
#3
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 06:33 PM
เศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งต้องคิดบวกห้ามคิดลบ นั่งสมาธิมากแล้วก็ให้คิดเรื่องค้าขายอย่างไรให้เป็นที่ต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เช่น
ผลิตภัณฑ์ ทำให้ดีกว่านี้ได้ใหม
สถานที่เป็นอย่างไร ปรับปรุงอะไรได้ สะอาดดีใหม (เทวดาจะลงรักษา)
ด้านราคาเป็นอย่างไร ปรับปรุงอะไรได้
ทำการส่งเสริมการขายได้หรือไม่
สร้างความแปลกได้ใหม??? คิดเรื่อยๆหาช่องทางเรื่อยไป ใจอยู่ในบุญผลบุญก็จะส่งผลสักวัน ไม่แน่นะครับวิกฤตเป็นโอกาสได้
#4
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 06:44 PM
ให้หมั่นทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ ทุกวันนะครับ ใช้บุญช่วยอย่างที่ "คุณคณนันท์ ค่ะ" บอกก็ถูกต้องแล้ว
นั่งธรรมะเสร็จแล้ว ก็ค่อยๆคิดหาวิธีแก้ครับ ลองพิจารณาดูว่าธุรกิจของเรามีรูรั่วอยู๋ที่ตรงไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร
ค่อยๆหาทางแก้ไปทีละข้อๆ ครับ แล้วก็ให้อธิษฐานจิต ขอให้หลวงปู่ช่วยครับ ท่านจะได้ส่งผังสำเร็จมาให้เราครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
#5
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 07:19 PM
สู้มรสุมชีวิิตที่กำลังเผชิญอยู่นะครับ
จากข้อมูลเบื้องต้นที่บอกมา
ผมคิดว่า
เจ้าของกระทู้ โชคดี มีบุญมาก ๆ แล้วนะครับ
ที่คู่ครอง คู่ชีวิต มีทิฎฐิ ศรัทธา บริจาคะ เสมอกัน
ได้สั่งสมบุญ กุศลกรรมบท มาด้วยกัน
ซึ่งจะเป็นเหตุ ที่จะส่งผลให้ ความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลก ทางธรรม
ต่อไปในอนาคตอันใกล้ และอนาคตอันยาวไกล
ส่วนปัญหาที่กำลังเจออยู่นั้น
ถ้าทำความเข้าใจ เข้าถึงความเป็นจริงของชีวิตของมนุษย์
ที่ว่า
เรายังต้องเผชิญโลกธรรม ๘
มีลาภ มีเสื่อมลาภ มียศ ก็มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญ ก็มีนินทา มีสุขและมีทุกข์
ยังต้องเจอทุกข์ประจำ เช่น ความหิว ร้อน หนาว เจ็บไข้ ได้ป่วย แก่ ตาย
ยังต้องเจอทุกข์จร ไอ้ที่ไม่อยากได้ ก็ได้ ไอ้ที่อยากได้ก็ยังไม่ได้
พลัดพรากจากคนรัก ของรัก ได้สิ่งที่พอใจ และไม่พอใจ
ได้ของที่ไม่อยากได้ เจอของ เจอคน เจอเหตุการณ์ ที่ไม่ปรารถนา
มนุษย์ที่เกิดมา ก็เจอแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้นครับ
เรื่องดี เรื่องร้าย จะมาก น้อย หนัก เบา
ก็ตามแต่การสร้าง สั่งสม กรรมของแต่ละชีวิตครับ
มีมนุษย์จำนวนมาก เจอสถานการณ์โหดร้าย ทารุณ หนักหน่วงกว่าเราอีกนะครับ
ความจริงอีกอย่างคือ
หลายๆเรื่องในชีวิต เราสามารถควบคุม ได้
บางเรื่องใช้เวลาน้อย ไม่เกินวัน
หลายเรื่องใช้เวลามาก หลายเดือน หลายปี
แต่ หลายๆเรื่อง เราไม่สามารถควบคุม
แม้เป็นเรื่องของเราโดยตรง
ทั้งนี้เพราะ วิบากแห่งการกระทำในอดีตมาบีบคั้น + ปัจจุบันยังฝึกฝนตนเองได้ไม่ดีพอ
และใจยังไม่อยู่ในบุญ ตลอดวัน มากพอ
ที่สำคัญ
ปัญหาทุกอย่างของมนุษย์ มีทางแก้ไข ครับ
แต่
ปัญหาก็คล้ายกับโรคภัยไข้เจ็บ คือ
หลายๆโรค ( ปัญหา ) ไม่รักษาไม่แก้ ก็หาย ถ้ารักษาก็ยิ่งหายไว
หลายๆโรค ถ้ารักษาก็หาย ถ้าไม่รักษา ก็ไม่หาย
หลายๆโรค รักษาอย่างไรก็ไม่หาย แต่บรรเทาจากหนักเป็นเบาได้
หลา่ยโรคหายไว หลายโรคก็หายช้า ต้องใช้เวลานาน
ฉะนั้น
หน้าที่หลัก คือ
สั่งสมกุศลกรรมบท ๑๐ ทุกวัน
ทำการบ้าน ๑๐ ข้อ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทั้งวัน
เพราะสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง ความสุข ความทุกข์ คือ บุญและปาป
หลักการ คือ ละชั่ว ทำความดี กลั่นใจให้ใส
อารมณ์ดีที่สบาย ต้องมีทุกวัน
รักษาศูนย์กลางกาย รักษาใจให้อยู่ในศูนย์กลางกาย ในกุศลธรรม อยู่ในบุญเสมอๆ
และทางลัด ที่น่าสนใจ คือ
อธิษฐานบารมี ระลึกถึง คุณงามความดี บารมี ๑๐ ทัส ที่ คุณและสามี ครอบครัว
ได้สั่งสมมาดีแล้ว
มาคุ้มครองรักษา ให้พ้นทุกข์ภัย มีความสุข ความสำเร็จ ความเจริญ
เข้าทำนอง
หาบุญได้ ต้องใช้บุญให้เป็น
แม้แต่พระบรมโพธิสัตว์ ยามเผชิญทุกข์ ภัย
โดยเฉพาะก่อนตรัสรู้ อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
มีหมู่มาร มาผจญ ก็ทรงรำลึกถึง บารมี ๑๐ ทัส เป็นที่พึ่ง
พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ก็เคยให้โอวาทเกี่ยวกับ
การระลึกถึงบุญ ในยามเผชิญทุกข์ ภัย
ไว้เช่นกันครับ
สรุป ว่า
ตอนนี้ก็ขยันนั่งธรรมะ อธิษฐานธรรม ฟังธรรมบ่อย ๆ
รักษาวิถีการสั่งสมกุศลกรรมบท ที่เคยทำมา
ทำต่อเนื่อง เนือง ๆ
มรสุมชีวิตก็จะบรรเทา เบาบางลง ครับ
ยิ่งมืด แสดงว่า ยิ่งดึก
ยิ่งดึก แสดงว่า ยิ่งใกล้ สว่าง
ขอใหบุญรักษา พระคุ้มครองเจ้าของกระทู้ คู่ชีวิต และทุกคนในครอบครัว นะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 07:20 PM
ขอให้บุญส่งผลโดยเร็วพลันค่ะ....เข้มแข็งนะ...
ท้อได้แต่อย่าถอย
#7
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 07:58 PM
แค่ทุกวันนี้มีเสื้อใส่ มีบ้านอยู่ มีข้าวกิน ก็ถือว่ารวยแล้ว
บางคนไม่มีบ้านอยู่ อยู่ใต้ทางด่วน นอนข้างถนน ข้าวกินไม่ครบทุกมื้อ
บางวันก็ไม่ได้กิน บางคนหาอาหารกินตามถังขยะ
บางคนไม่มีแขน ไม่มีขา พิการซ้ำซ้อน พวกเค้าเหล่านี้ยังสู้ได้
ทำไมคุณซึ่งยังมีอะไรมากกว่าพวกเค้ามาก ถึงมานั่งถดท้อใจเยี่ยงนี้
มนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสิรฐเพราะมีสติปัญญาเอาไว้แก้ปัญหาต่างๆ
หลวงพ่อทัตตะ เคยสอนเกี่ยวกับคาถาเศรษฐีเอาไว้ว่า หาเป็น เก็บเป็น ใช้เป็น
สร้างเครือข่ายคนดีเป็น ควรนำมาไตร่ตรองให้ดี
คุณยายเคยสอน ใจยิ่งหม่นหมองมารยิ่งแทรกผังสำเร็จให้แย่ลงไปอีก
ถ้านั่งสมาธิแล้วฟุ้งมาก ก็ให้สวดมนต์ก่อนนั่งสมาธิ สวดนานๆ ไปเลย จะทำให้มีสมาธิมากขึ้น
สวดบทเจ็ดตำนาน สิบสองตำนานยิ่งดี (เพราะยาวมากจะทำให้มีสมาธิดี)
สวดมนต์จนเกิดสมาธิแล้วค่อยนั่งสมาธิให้ใจนิ่งๆ
หลวงปู่เคยสอนว่า เวลามีปัญหาทุกข์ใจมากๆ ให้นึงถึงองค์พระในตัว ให้ท่านช่วย
สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย สู้ดีกว่า
สู้มีผล 2 ประการคือ แพ้ กับ ชนะ ไม่สู้มีผลประการเดียวคือ แพ้
ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไขกันไป รักษาใจและชีวิตเอาไว้ ท้อมากเดี่ยวผังฆ่าตัวตายจะได้ช่อง อันตรายนะครับ
เวลาและประสบการณ์จะเป็นเครื่องเยี่ยวยาทุกอย่างเอง
#8
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 08:06 PM
#9
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 08:28 PM
#10
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 08:32 PM
ความจริงเราอาจมารู้ทีหลังจากที่เรามีแล้ว ถึงจะไม่อยากมีก็ไม่ทันการแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือใจ ทำใจให้สงบ อดทน และค่อยๆคิดแก้ไขปัญหาไปทีละนิด ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ลด ละ เลิกในสิ่งที่ไม่จำเป็นยอมอดบ้าง จน บ้าง เจ็บบ้างเพื่อสิ่งที่ดีในอนาคตและพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการการสร้างบารมี(ขันติ วิริยะ อุสาหะ ไปในตัว)ไม่มีทุกข์หรือสุขที่จะอยู่กับเราตลอดชีวิต เมื่อทุกข์จึงเห็นธรรม ที่พึ่งที่แท้จริงคือพระรัตนตรัยขอให้มีศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์อย่างแน่วแน่มั่นคงและเชื่อมั่นรับรองบุญต้องช่วยเหลือคุณได้แน่นอน หรือถ้าไม่รู้จะคิดอะไรก็ลองนึกถึงชีวิตคนในเอธิโอเปีย หรือแถบแอฟริกาดู เขาลำบากกว่าเรามากขัดสนทุกอย่างทั้งอาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค แถมไม่มีแม้ที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เหมือนเรา เคยเห็นไหมที่ชีวิตพวกเขามีเพื่อนคือฝูงเหยี่ยวที่คอยบินอยู่ใกล้ๆรอกินเนื้อเขาอยู่หากวันใดที่เขาเหล่านั้นเดินไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางของแหล่งแจกอาหารเมื่อนั้นเขาก็จะกลายเป็นอาหารของเหยี่ยวแร้งในทันทีที่เขาล้มลงและสิ้นใจ อยากให้กำลังใจและขอให้อดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำความดีและเชื่อมั่นในบุญไว้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นให้นึกถึงพระพุทธองค์ พระธรรมคำสอน พระเดชพระคุณหลวงปู่ หลวงพ่อทั้งสองและคุณยายทั้งสอง คุณพ่อ คุณแม่ และบุญที่เราทำไว้ให้นึกด้วยจิตที่ผ่องใสให้เชื่อมั่นคุณจะผ่านวิกฤตินั้นได้เองในที่สุด ขอให้กำลังใจเราลำบากแค่นี้ก็ยังน้อยกว่าพระพุทธองค์มากมายนักพระองค์ที่ทรงเพรียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างยังต้องทิ้งต้องสละพระราชวัง พระชายา พระโอรส ความเอร็ดอร่อยของอาหาร ความสะดวกสบาย และเดินด้วยพระบาทเปล่า ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีสมบัติอะไรต่างๆมากมายให้เป็นทุกข์ แถมยังทรงอดทนสู้
ทำทุกขกิริยาเพื่อแสวงหาหนทางดับทุกข์ จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แล้วมองในมุมกลับของชีวิตเราว่าที่เราทุกข์อยู่ทุกวันนี้เพราะเรามีสิ่งใดอยู่ ศึกษาพุทธประวัติของพระพุทธองค์ผู้ประเสริฐที่สุดในโลกและลองคิดนอกกรอบทำตามดูบ้างจากสังคมที่เป็นอยู่ บางทีชีวิตอาจดีขึ้นในเร็วๆนี้
#11
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 08:53 PM
#12
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 08:53 PM
ที่คุณทำมาก็หมั่นตรึกถึงถึงบ่อยๆ ด้วยค่ะ อย่าทำใจตกเด็จขาด ขอให้คุณยิ้มสู้นะค่ะ พร้อมทั้งคิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงบุญค่ะ แล้วก็พร้อมด้วยนั่งสมาธิ ทำ
ใจให้ใสๆๆๆ ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างก็ จะสมหวังดังที่คุณ อยากได้ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ เราลูกพระธรรมด้วยกัน เรารักกัน ห่วงใยกันอยู่เสมอ ถึงแม้น
จะอยู่ไกลขนาดไหน ก็คอยห่วงใย หมู่คณะของเราเสมอ ค่ะ สู้นะค่ะ คุณ.คณนันท์ เข้มแข็ง นะค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 09:09 PM
ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดสิงคาลกมาณพ
เกี่ยวกับวิกฤตปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคนนั้น
ทั้งเรื่องธุรกิจการงาน หรือเรื่องใดๆก็ตาม แท้จริงเกิดจากเหตุ 2 ประการ
1. พาลภายใน เกิดจากการประพฤติไม่ดีของตัวเราเอง
1.1 การทำกรรมกิเลส 4 ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม กล่าวคำเท็จ
1.2 การเบียดเบียนผู้อื่นด้วย อคติ 4 ได้แก่ ลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะชัง ลำเอียงเพราะหลง ลำเอียงเพราะกลัว
1.3 การผลาญสมบัติด้วยอบายมุข 6 ได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการละเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านทำงาน
1.4 การละทิ้งหน้าที่ประจำทิศ 6 ได้แก่ หน้าที่ต่อพ่อแม่ ต่อครูอาจารย์ ต่อคู่ครอง ต่อมิตรสหาย ต่อบริวารลูกน้อง และหน้าที่ต่อพระสงฆ์
2. พาลภายนอก เกิดจากการคบมิตรชั่ว
2.1 ไม่สร้างมิตรแท้4 ได้แก่ มิตรมีอุปการะ มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข มิตรแนะนำประโยชน์ มิตรมีใจรักใคร่
2.2 คบหามิตรเทียม4 ได้แก่ คนปอกลอก คนดีแต่พูด คนหัวประจบ คนชักชวนในทางฉิบหาย
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ผมก้อขอให้ดูเอาเองนะครับ ว่าปัญหาชีวิตเรามันเกิดจากตรงไหน
ข้อความทั้งหมดนี้ผมไม่ได้คิดเองพูดเอง แต่อ้างอิงมาจากคำสอนของพระพุทธองค์จริงๆ ครับ
เอามาบอกต่อกันเพราะไม่ได้หวังประโยชน์ต่อตัวเอง แต่อยากให้ทุกคนที่เจอปัญหาชีวิต
เมื่อได้อ่านบทความนี้จะพบปัญหาของตัวท่านเองครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
วันนี้คุณทำบุญแล้วหรือยัง !!!
#14
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 09:20 PM
จริง ๆ แล้วปัญหาคนอื่น ทุกข์ มากกว่า ดิฉันอีกเขายังต้องสู้
แต่ทุกท่านอยาทิ้งดิฉันนะค่ะ ช่วยชีแนะแนวทางที่ดี ดี จนถึงฝั่งด้วยนะค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านมาก ๆ นะค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 09:34 PM
ตัวเราเองเวลามีเรื่องไม่สบายใจ จะนั่งสมาธินึกถึงหลวงปู่ คุณยาย ไว้ที่ศูนย์กลางกาย จะระลึกนึกถึงท่านไว้ตลอดเวลา
เพื่อเป็นกำลังใจ ถึงแม้ว่าจะยังมืดตื้อมืดมิด เห็นแสงสว่างบ้าง บางครั้ง แต่ก็มีความสุข สบายใจ เราจะต้องคิดแต่สิ่งที่ดีดี
เดี๋ยวปํญหาทุกอย่างก็จะค่อยคลี่คลายอย่างอัศจรรย์
#16
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 10:30 PM
นั่งสมาธิให้ได้ทุกวันนะครับ ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ต้องให้ครบครับ
ฝากเพลงฟังเวลาท้อนะครับผม
http://www.youtube.c...re=channel_page
#17
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 10:56 PM
มีสติ และ นั่งสมาธิให้ เป็นประจำ ครับ
เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน
แบบเอาให้ใจสว่างใส ไปเลย จ้า
#18
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 11:06 PM
อย่าท้อใจนะครับ คิดซะว่าบุญยังมีเยอะครับ ที่ยังมีทั้งลมหายใจและศูนย์กลางกายครับ
ความทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ มันมีมากอย่างนี้แหละครับ พระพุทธเจ้าถึงตรัสเป็นปัจฉิมโอวาทว่า จงมีมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท คือ การไม่สั่งสมบุญ
คนบางคน ดูเขาสุขสบายดีในชาตินี้ มีเงิน มีทรัพย์มากมาย แต่มีความตระหนี่ไม่สั่งสมบุญ นั่นก็น่าสงสารเหมือนกันนะครับ เหมือนที่คุณยายบอกว่า ยายสงสารทั้งคนรวยคนจน คนรวยไม่ทำบุญก็คือคนจนในอนาคตครับ
อย่าคิดมากเลยครับ คนจนขนาดไม่มีเสื้อผ้้าใส่ ในสมัยพุทธกาลมีเยอะแยะครับ ค่ำคืนยิ่งมิดสนิทเท่าใด นั่นแสดงว่า เช้าวันใหม่ ใกล้จะมาถึงแล้วครับ
อดทนนะครับ
#19
โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 11:44 PM
ล่าสุดไม่กี่วันมานี้จากที่ผมไม่เคยเป็นหนี้เลย ผมก็พึ่งมาเป็นครั้งแรกในชีวิต 200,000 บาท เต็มๆ
ไม่มีทางออกเหมือนกันครับแต่ก็ไม่เศร้าครับ อันนี้เรื่องจริงนะครับ ผมไม่ได้เศร้าหมอง ไม่ด้คิดมากเลยแม้แต่น้อย
ยังเฉยๆอยู่ (เพราะเจ้าหนี้ยังไม่ได้ตั้งเรต) อิอิ เจ้าหนี้ตั้งเรตเสร็จ เจาเคลียดหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่ตอนนี้ก็ใจใสๆอยู่ครับ อิอิ
แล้ว...
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตจะอยู่กับเราเสมอ
#20
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 02:06 AM
โดนโจมตีจากสื่อต่าง ๆ ตำรวจเรียกสอบสวน จนมีคนแนะนำให้หนีไปต่างประเทศก่อน
แต่ที่ผ่านมาได้เพราะ
หลับตา ทำเฉย ๆ นั่ง นั่ง และนั่ง ทิ้งมันไปให้หมด ทุกอย่างว่างเปล่าเป็นแค่ภาพลวงตา
จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเราก็ไม่สน
ทิ้งไปให้หมดครับ ความคิดความเครียด
ลองนั่งจนเช้าไปเลย ดูซิจะเป็นอะไรมั้ย

ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html
หนังสือเรียนธรรมะ DOU http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html
GL 101 จักรวาลวิทยา http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ http://book.dou.us/gl305.html
#21
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 08:34 AM
"อุปสรรคแค่ไหน อยู่ที่ใจเราคิดเอง"
#22
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 10:42 AM
#23
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 11:03 AM
นึกถึงบุญ...จรดใจไว้กลางดวงบุญนั้น ...หาบุญได้ใช้บุญเป็น...จิตเกษมผ่องใสเมื่อใด...เงินไหลเข้าเมื่อนั้น...หมั่นรักษาใจให้เป็นแดนเกษมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง...นี้คือหลักวิชาที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯท่านให้ไว้
#24
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 12:21 PM
#25
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 12:21 PM
แนะนำให้ขึ้นปฏิบัติธรรม 7 วัน เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ให้ได้มีเวลา
สร้างชั่วโมง เสริมชั่วโมงนิ่ง ดิ่งชั่วโมงกลาง ได้เต็มที่ครับ
#26
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 01:21 PM
นั่งสมาธิตามลำพังที่บ้าน เหมือนกินยาประทัง
แต่มานั่งรวมกันเป็นหมู่ค่ณะจะได้พลังทวี
ยิ่งช่วงบ่ายวันอาทิตย์หลวงพ่อจะนั่งคุมบุญให้
หลวงพ่อถึงบอกมาวัดทุกวันอาทิตย์นะลูก
มาไม่ได้ทุกอาทิตย์ มาวันอาทิตย์ต้นเดือนยิ่งสำคัญมาก
ปีที่แล้วเรามาแค่ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน
ก็รู้สึกเหมือนคนมาวัดทั่วไป รู้สึกได้พลังช่วง 4-5 วันแรก
หลังจากนั้นจะแรงตก แม้จะนั่งสมาธิทุกวัน
แต่จะเจอดูดพลังจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างไปเร็วมาก
แต่ตั้งแต่ต้นปีนี้ทุ่มเทเต็มที่มาทุกวันอาทิตย์ อยู่จนถึง
บูชาธรรมกายเจดีย์ รู้สึกแตกต่างจริง ๆ
จะทุกข์ จะสุข ก็มาวัดทุกวันอาทิตย์นะคะ
มารถวัดก็ได้ หาจุดออกรถที่ใกล้คุณที่สุด (ถ้าอยู่ในกรุงเทพนะ)
แต่ถ้าอยู่ต่างจังหวัด จำเป็นจริง ๆ ก็ดูถ่ายทอดสดทาง internet
ให้ได้ทุกวันอาทิตย์ เปิดทิ้งไว้เลย งดดูสื่ออื่นไปเลย 1 วัน
คิดว่านี่คือวิธีที่ง่ายที่สุด และแก้ได้ตรงจุดที่สุดแล้วค่ะ
ขอให้โชคดีนะคะ
#27
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 04:21 PM
การร้องไห้ดูเหมือนว่าเราจะทำได้แค่ให้น้าตาที่อั้นมันหายไป แต่ความเป็นจริงไม่ใช่
ถ้าหากเราตอกย้ำชีวิตตนเอง เดี๋ยวผังนี้จะติดตัวข้ามภพไปเชียวนะครับ
ผมเองก็เป็นเช่นนี้มาก่อนครับ
แต่เมื่อลองคิดดู เรามีหนทางที่หลวงพ่อเมตตาชี้แนะไว้อย่างถูกต้องเเล้ว
ผมว่าหากเราลองปฎิบัติตาม เราจะไม่พบกับความทุกข์นั่นอีก
เป็นกำลังใจให้นะครับ เมื่อก่อนผมเคยทุกข์ ผมก็เข้ามาในdmc ผมก็ได้กำลังใจที่ดีและถูกต้อง
หลายคนบอกให้ผมนั่งสมาธิ สั่งสมบุญ อธิษฐานจิต ผมว่าวิธีเหล่านี้หากคุณผู้มีความทุกขทั้งหลายลองนำไปปฎิบัติดู
ทุกคนก็จะมีแต่ความสุข




เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง
#28
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 06:39 PM
#29
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 08:14 PM
สู้นะคะ ...
ตอนนี้ขอให้ตั้งหลักก่อน สู้กับความกังวลอย่างเดียว ...ตัวต่อตัว เดี่ยวๆ อย่างนี้
ใจที่ใสสู้ชนะแน่ค่ะ
... จากคนที่ผ่านอุปสรรคมาได้ด้วยวิธีเดียวกัน
#30
โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 10:17 PM
ชีวิตมีสองด้านเสมอค่ะ เพราะดิฉันเองก็พิสูจน์ให้โลกและทุก ๆ คนที่เป็นทั้งคุณพ่อคุณแม่
พี่น้อง ญาติมิตร และเพื่อน เห็นแล้วว่า
ตัวเราเองก็เป็นหนึ่งเหมือนกัน ด้วยการทำใจหยุดใจนิ่งเวลาที่มีปัญหาอะไรก็แล้วแต่
บางปัญหาสามารถแก้ไขได้เลย บางปัญหาต้องใช้เวลาในการแก้ไข ซึ่งเราจะต้องมีความอดทนสูง
อดทนต่อคำเย้ยหยัน อดทนต่อสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม
อดทนต่อคำพูดและความไม่ปรารถนาดีของคนอื่น ๆ
ขอให้คิดเสมอว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
เวลามีปัญหาให้สวดมนตร์มาก ๆ และนั่งสมาธิมาก ๆ อย่าเปิดทวารทั้ง 5 ของเราหาความเศร้าหมองใส่ตัวเอง
ดิฉันเคยหมดตัวและชีวิตล้มเหลวมาแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 14 คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน
บ้านแตกสาแหรกขาด ต้องทำงานหาเลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 และหาเงินเรียนหนังสือไปด้วย
อีกครั้ง ตอนอายุ 30 ปีที่แยกทางกับสามีและต้องหมดสิ้นเนื้อประดาตัว มองไม่เห็นอนาคตของตัวเองเลย ไหนจะต้องเลี้ยงลูกและคุณแม่อีก
ไม่มีเงินเลย
แต่วันนี้ดิฉันสามารถยืนหยัดได้อีกครั้ง เพราะดิฉันจำีสุภาษิตไทยที่สอนตัวเองอยู่เสมอว่า คนล้มอย่าข้าม
คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่มีความทุกข์ที่สุดในโลก แต่มันไม่จริง
เพราะคนที่มีความทุกข์ที่สุดในโลกนั้น มีจำนวนมากกว่าคุณอีกหลายล้านเท่า
อย่าลืมว่า การให้ที่บริสุทธิ์นั้นต้องเป็นการให้ที่ออกมาจากใจของคุณเอง โดยที่ไม่มีการหวังผลตอบแทน
แม้แต่การให้ของคุณยังไม่บริสุทธิ์ แล้วคุณจะหวังอะไรเล่า คงมีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นเอง
ด้วยความบริสุทธิ์ใจค่ะ และดิฉันขอเป็นกำลังใจให้คุณยืนหยัดสู้อีกครั้งค่ะ