ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 36 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#31 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 04:44 PM

เห็นด้วยกับคุณ เถลิงเกียรติ ค่ะ ไม่อยากให้มองว่าความรักเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควร เราควรจะรักค่ะ...แต่...."ต้องรักให้เป็น"

เพราะความรักจะทำให้เรา give more and take less เราจะรู้จัก...ให้...มากขึ้นและคิดจะ...รับ...น้อยลง

เราจะ "ห่วง" แต่ถ้ารักเป็นเราจะไม่ "หวง" และไม่ยึดคนที่รักไว้กับตัว เพราะเราจะรักด้วยความเข้าใจในคำว่า ไม่มีอะไรจริง ไม่มีอะไรเป็นของเรา

เราจะเกิดความ เมตตา และความ หวังดี ในบุคคลที่เรารัก โดยอัตโนมัติ

เราจะรู้จักคำว่า เสียสละ และเราจะ เห็นแก่ตัว น้อยลง

เราจะรู้จักคำว่า "ปล่อย" และ "วาง" เพื่อความสุขของคนที่เรารัก (กลับไปอ่านบรรทัดที่ 3 นะคะ)

ที่กล้าบอกแบบนี้ เพราะตอนนี้คนซึ่งเป็นที่รักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บวชไปแล้วค่ะ และอาจจะไม่สึกออกมาอีกเลย ไม่ได้เจอกันเลยนะคะ ไม่ได้คุยกันเลยด้วย ไม่..แม้แต่เห็นกัน จะ 4 เดือนแล้วค่ะ เพราะเราเป็นผู้หญิง แต่ในเมื่อคนที่เรารักไปบวช ถือเพศบรรพชิต เราก็ไม่ควรจะทำให้ท่านวอกแวกใช่มั๊ยคะ แต่ไม่เศร้า ไม่เสียใจนะคะ คิดถึงบ้างแต่ด้วยความยินดีกับสิ่งที่เค้าเลือกและตัดสินใจทำ จะเอาไว้เจอกันที่ดุสิตบุรีค่ะ

ความรัก...ทำให้เรา "เข้มแข็ง"

ความรัก...ทำให้เราอยากเป็นคนดี ที่ดียิ่งๆขึ้นไปเพื่อคนที่เรารัก เค้าจะได้ภูมิใจในตัวเรา

ความรัก...ไม่ได้ทำให้เราตาบอดหรอกค่ะ แต่จะทำให้เรามองเห็นสิ่งที่สวยงาม อันเป็นความจริงอีกด้านหนึ่งของโลกใบนี้

ความรัก...สร้างได้ทุกอย่างนะคะ

และก็เพราะความรักไม่ใช่หรือคะ ที่ทำให้เราเข้าวัด

ไม่ใช่เพราะ...รัก...หรือคะ ที่ทำให้หลวงพ่อเสียสละอุทิศตนได้ขนาดนี้ เพื่อลูกๆที่ เอาไหน และยังไม่ค่อยเอาไหน อย่างพวกเรา

เพราะฉะนั้น... รัก... เถอะนะคะ แต่ต้อง... รัก ...ที่เป็น...รักจริงๆ...ไม่ใช่...หลง...ไม่ใช่เพราะ...กลัวว่าจะไม่มีใคร...ไม่ใช่เพราะ...เหงา

แล้วขอยืนยันเลยค่ะ ว่า คุณทุกคนจะมีความสุขกับ ความรัก ของคุณ
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#32 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 06:38 PM

ผมขอแสดงความนับถือในจิตใจที่เข้มแข็งของ

ท่าน.koonpatt ด้วยความนับถือมากครับ

และ ขอชมเชยในความคิดที่มองโลกได้อย่างฉลาด และแตกฉาน


ภายใต้สภาวะของโลกแห่งความเป็นจริง

อย่างนี้เขาเรียกว่าคนมีความสุข กับชีวิต

นั่งธรรมก็จะสามารถ หยุด นิ่งได้ง่าย

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ กับคนที่เคยเป็นที่รักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ของท่าน Koonpatt ท่านได้บวช ในบวรพระพุทธศาสนาครับ สาธุ



ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#33 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 11:53 PM

ขอบคุณมากค่ะ คุณเถลิงเกียรติ แต่ขอแก้นิดนึงงนะคะ ตรงคำว่าเคยค่ะ

QUOTE
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ กับคนที่เคยเป็นที่รักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ของท่าน Koonpatt ท่านได้บวช ในบวรพระพุทธศาสนาครับ สาธุ


เพราะ เคย แปลว่า ตอนนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ตอนนี้ความรักนั้นยังคงอยู่ และจะยังคงอยู่ตลอดไปนะคะ

แต่สำหรับความทุกข์ที่เกิดจากความรัก ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยรู้สึก เลยพูดอย่างนี้ได้นะคะ เลยเข้าใจค่ะ ว่าคนที่เคยผิดหวัง และเป็นทุกข์อันเกิดจากความรัก ก็จะรู้สึกอย่างที่หลายๆท่านได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

แต่เพราะเคยสูญเสียความรักมาตั้งแต่เด็ก สูญเสียความรักจากครอบครัว เลยเข้าใจคำว่า "ไม่มีอะไรเป็นของเรา" น่ะค่ะ

เพราะแม้แต่ บุพการีของเราแท้ๆ ซึ่งรักเราปานแก้วตา ดวงใจ เมื่อถึงวันนึงที่เค้าอยากจะเดินออกไปจากชีวิตเราและคู่ชีวิตที่เค้าเคยรักกันจนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน เค้าก็เดินออกจากชีวิตของกันและกันได้อย่างง่ายๆ ดังนั้นเวลาที่รักใครสักคน จะรักอย่างเต็มที่ พยายามทำความรักนั้นให้ดีที่สุดทุกครั้ง และพร้อมเสมอที่จะสูญเสียหากความรักนั้นต้องการที่จะจากเราไป เพราะไม่อยากจะ "ครอบ" และถูกใคร "ครอบ" ไว้ด้วยครัว เคยเสียใจค่ะ เคยเป็นทุกข์ค่ะ แต่จะคิดเสียว่า อย่างน้อยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราก็เคยมีความสุข และต้องขอบคุณคนที่ทำให้เรามีความสุขแม้จะเป็นเวลาไม่นานนักก็ตาม พอคิดอย่างนี้ เราก็จะไม่โกรธ ไม่เกลียดค่ะ เพราะเชื่อว่าคนทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง เพราะบางทีเหตุผลของเรา ก็แค่ "เบื่อ" ใช่มั๊ยคะ และไม่ใช่เราแค่นั้นที่เป็นทุกข์ บางครั้งเราก็อาจจะเป็นฝ่ายสร้างความทุกข๋ให้กับคนที่รักเราเสียด้วยซ้ำ เลยอยากจะให้มองและจดจำด้านที่สวยงามของความรักนะคะ

รู้สึกว่าจะพูดยาวมาก ต้องขออภัยนะคะ เพียงแค่ยังรู้สึก เชื่อและศรัทธาในความรักน่ะค่ะ พออ่านข้างบนเลยตกใจมากไปหน่อย กลัวว่าหลายๆท่านที่มาอ่านเลยจะกลัวและไม่ยอมรักใครเลยน่ะค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่กล่าวไป เป็นเพียงแค่ ความเห็นและความรู้สึกของคนๆนึงเท่านั้นนะคะ อาจจะจริง หรือ ไม่จริง อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับความคิดของใคร ก็ต้องขอขอบคุณและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#34 ideal

ideal
  • Members
  • 605 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:TRANG
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 02:59 PM

พระพุทธเจ้าทรงตรัส ว่า

QUOTE
ดูกรนางวิสาขา ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐๐ ผู้ใดมีสิ่ง
ที่รัก ๙๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗๐
ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๖๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕๐
ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓๐
ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒๐ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๑๐
ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑๐ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๙ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๙ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๘
ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๘ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๗ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๗ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๖ ผู้นั้นก็มี
ทุกข์ ๖ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๕ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๕ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๔ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๔
ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๓ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๓ ผู้ใดมีสิ่งที่รัก ๒ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๒ ผู้ใดมีสิ่ง
ที่รัก ๑ ผู้นั้นก็มีทุกข์ ๑ ผู้ใดไม่มีสิ่งที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีทุกข์ เรากล่าวว่า ผู้นั้น
ไม่มีความโศก ปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่มีอุปายาส ฯ


http://www.84000.org...5&A=4307&Z=4352

------------------------------------------------------------------------


มีโอกาศได้อ่าน วรรณคดี สี่แผ่นดิน ของ ศาสตราจารย์ พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

มีใจความโดยสรุป ว่า คนเราเมื่อรักมากย่อมเสียดายมาก ถ้าไม่เสียดายมากก็อย่าไปรักอะไรให้มันมากนัก ถ้าจะรักต้องให้รู้ว่า เป็นกรวดรึว่าเพชร ถ้ารู้ค่าของมันเสียแล้วว่าเป็นกรวดรึว่าเพชร เมื่อมันไปหาย ก็ไม่เสียดาย มากนัก

ลองฟังเพลงที่แนบ มาดูสิ - -

ไฟล์แนบ



DMC The only one

ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย


คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

#35 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 09:12 PM

เราต้องมีความรัก เป็นพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริงครับ คนที่มีความรัก คิดในแง่บวก
ได้นั้นต้องอาศัย ศรัทธา ครับ และมีเป้าหมาย ต้องฝึกบ่อยๆ เป็นสิ่งที่ดีครับ

หลายท่านคงเคยเรียนวิชา ตรรกวิทยา Logic Theory ที่ว่าด้วย

หมายถึง คำพูด การพูด การ เก็บรวบรวม การให้เหตุผล การให้รายละเอียด การศึกษาถึงความสัมพันธ์ของกระบวนการ

คิดกับ การใช้คำ ความสมเหตุสมผลของการอ้างเหตุผล ความกำกวมในการใช้ภาษา ระบบคณิตศาสตร์

กับกระบวนการคิด นะครับ จะมีกลุ่มคำ อยู่ 4 กลุ่ม
คือประโยค A,E,I,O ผมยกตัวอย่าง ง่ายๆ เช่น ประโยคแรก "สมชายไปดื่มน้ำและไปฉี่"

ถ้าท่านตัดคำว่า "และไป" ออกไป ก็ดูความหมายเถิดครับ เปลี่ยนไปเลยครับ

คำสอนของพระพุทธองค์ นั้นแม้ผ่านมากว่า 2500 ปีแล้ว ยังจริงแท้แน่นอน

แต่การนำ พระธรรม มาปฎิบัตินั้นต้อง มองให้ครบองค์ประกอบ ไม่ใช่หยิบมาเพียงประโยคใดประโยค หนึ่งแล้วบอกว่า

รักนั้นเป็นทุกข์ ซึ่งอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้ครับ
ในส่วนของความรัก เราเรียนรู้ความรัก โดยการสังเกตจากธรรมชาติได้เช่นกัน ครับ

การอิงอาศัยเกื้อกูลกันที่ต้นไม้ใหญ่และเล็กมีให้เห็นได้ในธรรมชาติ
การเกื้อกูลกันเป็นส่วนหนึ่งของความรัก
โลกธรรมชาติชี้ให้เห็นถึง ข้อเท็จจริงบางอย่างได้
เมื่อมนุษย์เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและ

โลกธรรมชาติ เมื่อนั้นความเคารพธรรมชาติ ก็จะเกิดขึ้น แน่นอนครับ เราก็จะมีความคิดที่ใกล้เคียงกับคนที่ไม่ใช่คนวัด

เราก็อาจจะเป็นกัลยาณมิตร ชักชวนคนเข้าวัดประพฤติปฎิบัติ ได้มากขึ้น สังคมโดยรวมก็จะดีขึ้น

ดีกว่ามาเร่งเพ่งจ้องแต่คำว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ครับผม





ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#36 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 03:52 PM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ

#37 บุญฤทธิ์

บุญฤทธิ์
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 February 2009 - 01:28 AM

มันเป็นความฝันของเราเองต่างหากว่าจะได้พบความสุข จริงๆแล้วพออยู่ด้วยกันไปนานมันก็เบื่อในความบกพร่องของกันและกัน ว่าแต่เราจะมีความอดทนต่อกันมากน้อยแค่ไหนนั่นแหล่ะ อยู่คนเดียวไปเถอะดีสุดแล้วค่ะ ปฏิบัติธรรมก็สะดวก

ฝากถึงคุณ นิ่งๆ นุ่มๆ ด้วยนะคะว่า เราชอบ รัก เคารพ น้าจี้มาก ฟังเทปบรรยายธรรมะของท่านทุกวันเลย ฟังแล้วได้ประโยชน์และเกิดกำลังใจในการปฏิบัติธรรม และ ปฏิบัติตัวมาก แถมความเบิกบานและอารมย์ดีอีกต่างหาก
อยากเห็นภาพ น้าจี้ มากเลยค่ะ จริงนะ อยากรู้ว่าตอนเป็นสาวน้อยกับสาวไม่น้อยมีความแตกต่างกันอย่างไรด้วย นับจากนี้จะตั้งใจนั่งสมาธิ เผื่อบุญจะส่งผลให้สมความปรารถนา ..อนุโมทนาบุญล่วงหน้าเลยนะคะ
ว่าอย่างไร ว่าตามกัน