วิโมกข์ ความหลุดพ้นจากกิเลส มี ๓ ประการ
#1
โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 12:17 PM
๑. สุญญตวิโมกข์ หลุดพ้นด้วยเห็นอนัตตาคือความว่าง
๒. อนิมิตตวิโมกข์ หลุดพ้นด้วยเห็นอนิจังแล้วถอนนิมิตได้
๓. อัปปณิหิตวิโมกข์ หลุดพ้นด้วยเห็นทุกข์แล้วถอนความปรารถนาได้
ดูก่อนนันทา เธอจงดูอัตภาพร่างกายอันเป็นเมืองแห่งกระดูกนี้ (อฏฺฐีนํนครํ) อัน
กระสับกระส่าย ไม่สะอาด อันบูดเน่านี้เถิด เธอจงอบรมจิตให้แน่วแน่มั่นคง มีอารมณ์เดียวใน
อสุภกรรมฐาน จงถอนมานะละทิฏฐิให้ได้แล้วจิตใจของเธอก็จะสงบ จงดูว่ารูปนี้เป็นฉันใด รูป
ของเธอก็เป็นฉันนั้น รูปของเธอเป็นฉันใดรูปนี้ก็เป็นฉันนั้น รูปอันมีกลิ่นเหม็นบูดเน่านี้ ย่อม
เป็นที่เพลิดเพลินอย่างยิ่งของผู้โง่เขลาทั้งหลาย
ดูก่อนนพหุปุตติกา ชีวิตความเป็นอยู่เพียงวันเดียวครู่เดียว ของผู้ที่เห็นธรรมอันสูงสุด
ที่เราได้แสดงแล้ว ดีกว่าประเสริฐกว่าชีวิตความเป็นอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี ของผู้ไม่เห็นธรรม
โลกอยู่ภายใต้การครอบงำของชรา ก้าวเข้าไปสู่ชรา ไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีผู้เป็นใหญ่
โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวง
โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา.
- สละโลกได้ ก็พ้นทุกข์ได้
#2
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 11:24 AM
๐๐๐๐๐๐๐๐๗๗๗๗๗๗๗๗๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
วิ โ ม ก ข์ แ ป ล ว่ า อ ะ ไ ร เ ห ร อ ค ะ??
ใช่ แปล ว่า ความ หลุด พ้น หรือ เปล่า
..
....
..
ม อ ง ค ว า ม ส ว ย ใ น ไ ม่ ส ว ย ด้ ว ย ส ติ
ม อ ง ซ า ก ผี ห ม า เ น่ า จ้ อ ง เ ข้ า ไ ว้
อ สุ ภ ก ร ร ม ฐ า น นำ ท า ง ไ ป
เ ป็ น นิ มิ ต ติ ด ที่ ใ จ ใ ห้ ใ ส เ ย็ น..
..
...
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๒๒๒๒๒๒๒๒๒
ก ร ร ม ฐ า น อ สุ ภ ะ มี อ ะ ไ ร บ้ า ง ค ะ??
เ ห็ น พี่ ๆ ที่ เ รี ย น DOU เ ปิ ด ตำ ร า ข มั ก เ ข ม้ น กั น ใ ห ญ่ ตี 1 ตี 2 ยั ง ไ ม่ ไ ด้ น อ น..
เ ล ยไ ม่ ก ล้ า ไ ป ร บ ก ว น
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#3
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 12:03 PM
เ ห็ น พี่ ๆ ที่ เ รี ย น DOU เ ปิ ด ตำ ร า ข มั ก เ ข ม้ น กั น ใ ห ญ่ ตี 1 ตี 2 ยั ง ไ ม่ ไ ด้ น อ น..
เ ล ยไ ม่ ก ล้ า ไ ป ร บ ก ว น
นี่เลยครับ กรุณาคลิ้กเรียงลำดับดังนี้นะครับ
๑. http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4350
๒. http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4349
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 05:49 PM
//// ขุน ศึก ผู้ พิ ชิต หง สา //
ส า ธุ..
มัน สยอง ดี นะ..
แค่ คิด..ยัง ไม่ อยาก คิด..แค่ นึก ยัง ไม่ อยาก จะ นึก เลย..มัน ติด ตา..ติด ใจ เกิน ไป
..
....
..
ไม่ เอา ล่ะ ค่ะ..
ขอ มอง ดวง แก้ว ใส ใส ดี กว่า..
..
....
..
ใคร ที่ ยัง หลง ใหล ใน รูป ขันธ์
ลอง หัน มอง ซาก อัน ไม่ น่า ใคร่
อาจ จะ คลาย ความ ผูก พัน มั่น ใน ใจ
มอง ตน ใหม่ ให้ ถูก ต้อง ..ต้ อ ง ม อ ง ก ล า ง..
..
....
..
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#5
โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 09:30 AM
*********************************************
เมื่อ คืน ดู Case StUdY สัญ ญา ปาก เปล่า..
มี อยู่ ช่วง เหตุ การณ์ ที่ เจ้า ของ เคส มัก จะ ฝัน บ่อย ๆ คือ
ฝัน เห็น การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย..
เป็น เพราะ อะ ไร ???
พอ ได้ ฟัง คำ เฉลย จาก คุณ ครู ไม่ ใหญ่ แล้ว
ให้ นึก ว่า ท่าน ก็ สุด ยอด เหมือน กัน
การ ฝัน เช่น นั้น
เพราะ ท่าน ได้ สั่ง สม การ ตรึก ระ ลึก ถึง การ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
เป็น อารมณ์ ใน การ ทำ ภาวนา..
ขึ้น อยู่ กับ จริต ของ แต่ ละ คน จริง ๆ ว่า ชอบ แบบ ไหน
คือ คุ้น เคย ข้าม ชาติ กัน ที เดียว
คน ที่ ได้ ยิน ได้ ฟัง เคส นี้ แล้ว
มี คุ้น เคย อะ ไร ข้าม ชาติ กัน หรือ ยัง นะ
****************************************************
พรรษา นี้ ก็ พรรษา เข้า ถึง ธรรม..
เรา ชอบ ภาวนา แบบ ไหน กัน
รีบ ท่อง เข้า ไว้
เอา ให้ ติด ข้าม ภพ ข้าม ชาติ กัน ไป เลย..ดี ไหม??
สำ หรับ เรา คน นี้ ..คง ไม่ ใช่ อสุภะ แน่..
********************************************************
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#6
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 02:46 PM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#7
โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 02:47 PM
#8
โพสต์เมื่อ 23 September 2006 - 04:14 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#9
โพสต์เมื่อ 27 March 2007 - 10:43 AM