ไปที่เนื้อหา


Defilement Destroyer

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 07 Oct 2006
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด Jul 02 2009 04:36 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: น้ำปัสสาวะรักษาโรคจริงไหม

01 July 2009 - 08:39 PM

โรคนั้นเกิดจากหลายสาเหตุครับ อกุศลกรรก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งน่าจะมีผลมากที่สุด แต่ก็มีปัจจัย อื่นๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้คือ การบริหารร่างกายไม่สม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงของอากาศ เป็นต้นนะครับ ่สวนเรื่องน้ำปัสสวะ ก็คล้ายกับที่คุณ yebo บอกหนะครับ เหมือนกับการที่ร่างกายเราสร้างเซรุ่ม ขึ้นมาจากการกินปัสสาวะ แต่ปัสสาวะ ที่กินต้องมาหลังจากกินน้ำเข้าไปนะครับ ส่วนมากตอนเช้าจะดี ไอ้ที่เหลืองๆนั้น ไม่ควรกินนะครับ เพราะมีสารปนมามากไป ควรกินชุดที่ 2 ที่ใสๆ ถ้ารู้สึกไม่สบาย กิน 2- 3 ครั้ง จะดีขึ้นนะครับ ที่กินได้ 2-3 ครั้งเพราะกินไปไม่เกิน 5 นาทีมันก็ออกมา ไอ้ที่กินเข้าไปกับที่ออกมามันคนละตัวกันแล้วนะครับ มันจะสร้างตัวต้านทานด้วยวิธีนี้ อันนี้จะได้ผลในกรณีที่เป็นไข้ เพราะเชื้อไวรัสไม่มียาที่สามารถ ฆ่าได้นะครับ มีแต่ยาที่กระตุ้นร่างกายทางอ้อม จนสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเอง อันนี้ได้ฟังประสบการณ์ตรงจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ น้ำมูตรเน่าก็คือปัสสาวะ นะแหละครับ สมัยพุทธกาล หายายากยิ่งพระธุดงค์ด้วยแล้ว พระพุทธองค์เลยให้ยาพิเศษที่ได้จากร่างกายเราแหละครับ ส่วนเรื่องการวิจัยทางการแพทย์นั้น ก็มีทฤษฏีมาเรื่อยละครับ เช่นการกินนมมีประโยชน์ แต่มีบางประเทศห้ามกินนมเพราะมันมีผลเมื่อแก่ตัวมา โครงสร้างกระดูกจะผิดปรกติ ตอนนี้สิงคโปร์มีกฎหมายห้ามกินนมโค ไปแล้วนะครับ การอ่านหนังสือในที่แสงไม่พอจะทำให้สายตาเสีย อันนี้ก็เข้าใจผิด เพราะมีผลแค่ทำให้ตาพร่าชั่วขณะ แต่ไม่เกี่ยวกับสายตาเสียครับ ทฤษฎี ก็มีมาเรื่อย ส่วนตัวผมเชื่อพระพุทธเจ้าครับ ท่านไม่ตรัสสิ่งที่ไม่เป็นจริงและไม่มีประโยชน์แน่นอนครับ

ในกระทู้: ขอความรู้หน่อยครับ

30 June 2009 - 10:23 AM

ขอบคุณมากมายครับ คุณyebo ความรู้ดีจริงๆ

ในกระทู้: ขอความรู้หน่อยครับ

30 June 2009 - 09:59 AM

อีกนิดนะครับ เรื่องของกัปป์ วินาศ ดูที่พระสูตรไหนครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

ในกระทู้: ขอความรู้หน่อยครับ

30 June 2009 - 09:50 AM

ขอบคุณทุกท่านะครับ ที่ช่วยอย่างเต็มที่ ช่วยได้มากเลยครับ ถ้ายังไงใครที่เข้ามา อยากเสนอ อันอื่นที่เหมือนหรือไกล้เคียง กับคำถามก็ทำได้เลยนะครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับคุณอินทรีย์ และคุณ yebo สุดยอดมากครับ

ในกระทู้: โภชนานัง กับ โภชนัง ขอความช่วยเหลือด้วยครับ

29 May 2009 - 09:04 PM

ศัพท์นามของบาลีประกอบด้วย ธาตุ + ปัจจัย
เมื่อนำไปใช้ประกอบวิภัติ คือการจำแนกว่าใช้ทำหน้าที่อะไร
โภชนานํ กับ โภชนํ มาจากภุช ธาตุ ธาตุ ในความกิน บริโภช
ลง กับ ยุ ปัจจัย แล้ว แปลง ยุ เป็น อน ส่วน อุ ที่ ที่ ภุ ก็ แปลงเป็น โอ
จะได้รูปเป็น โภชน เพื่อทำตัวให้เป็นนาม แปลว่าการกิน การบริโภค หรือของกิน ของบริโภค
แต่เมื่อ จะใช้ ต้องไปประกอบวิภัติ กรณีของ โภชน นี้ ไปประกอบกับทุติยาวิภัติ
เพื่อทำหน้าที่เป็นกรรม ส่วนโภชนานํ ประกอบกับ จตุตถี หรือ ฉัฎฐี วิภัตติ
เพื่อทำหน้าที่แสดงคำเชื่อมว่า แก่ เพื่อ ต่อ หากเป็น จตุตถี และเป็นคำเชื่อมว่่า
แห่ง ของ เมื่อ เมื่อทำหน้าที่ เป็นฉัฏฐี

ตัวอย่าง
กรณีของ โภชนํ เทติ อาจแปลว่า ให้แล้วซึ่งโภชนะ
กรณีของ โภชนานํ กมฺมํ กโรติ อาจแปลว่า ทำงานเพื่อโภชนะ

ถ้าอยากเข้าใจจริงๆ ควรศึกษา ภาษาบาลีก็จะเข้าใจมากขึ้น