แต่งงานเราเป็นทาสเหมือนตกนรกบวชพระเป็นผู้วิเศษเหมือนขึ้นสวรรค์
#1
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 11:05 AM
#2
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 11:12 AM
ขอบคุณคุณสาครค่ะสำหรับข้อมูลที่มาถ่ายทอดให้ฟัง...แต่ว่าเรื่องอย่างนี้อยู่ที่บุญกรรมทำมาอย่างไรด้วยหรือปล่าวนะ? เราหลีกเลี่ยงได้ด้วยหรือค่ะ?
อนุโมทนาสาธุกับข้อความข้างล่างด้วยค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 11:34 AM
ไม่มีใครไม่มีปัญหาครอบครัวหรอกครับ
ขนาดความคิดของตัวเราเองบางครั้งยังขัดแย้งกันได้เลย (เถียงกับตัวเองในหัว)
แล้วต่างคนต่างความคิดกันมาอยู่ร่วมกันมันก็ต้องมีบ้างแหละครับ
ขอส่งอนุโมทนาบุญของคุณบุญโตไปยังคนข้างล่างต่อละกันนะครับ
เพราะยังไม่ได้ตอบคำถาม หุหุ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#4
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 11:51 AM
การเสพกามเหมือนหมาแทะกระดูก แทะอร่อยหอมหวานเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม
แล้วจะไปไหนครับ 1 อาทิตย์ แบบนี้บอร์ดก็เงียบสิครับ
การตั้งกระทู้มากๆ ไม่มีใครว่าหรอกครับ กลับเป็นผลดีซะอีก การที่ใครมาตั้งกระทู้อะไรก็ตาม เป็นบุญเป็นกุศลนะครับ เพราะ ผู้ที่ได้อ่านคำถามและคำตอบ จะได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้น จัดเป็น วิทยาทานอย่างหนึ่ง เป็นบุญใหญ่ทีเดียว การให้ธรรมทานชนะการให้ทั้งมวล
กระทู้ๆหนึ่ง มีคนเข้ามาอ่านหลายสิบหลายร้อย คนได้ธรรมทาน วิทยาทานของเราไปไม่รู้จักเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เยอะมากทีเดียว
#5
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 12:01 PM
หรือว่าพึ่งมาเป็นหลังแต่งงาน
ผมอ่านแล้วมันทุกข์มากเลย
#6
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 12:52 PM
#7
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 01:40 PM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#8
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 01:41 PM
สาธุ..กับบุญจะบวช..
แล้ว ทุกข์ ใจ อะไร เหรอ คะ..
ทุก อย่าง มี ทาง ออก ..
....................................
การเสพกามเหมือนหมาแทะกระดูก แทะอร่อยหอมหวานเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม
.....................................
อ่าน ประ โยค นี้ แล้ว ดุ้ง เหมือน กัน
ไม่ คุ้น เคย แต่ ถึง ใจ ดี ..
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#9
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 01:50 PM
หลวงพ่อเคยบอกไว้นะครับ ถ้าไม่ได้อย่างที่ท่านบอก ก็ไม่สมควรแต่งครับ
1. ตื่นก่อน นอนทีหลัง
2. มีศีล ทิฐิเสมอกัน
3. ปฏิบัติกับตนเยี่ยงเทวดา
4. บริการพร้อมสรรพ ประทับใจ
มีอีกหลายอย่างครับ จำได้ไม่หมด ถ้าได้ครบ ก็แต่งไปเลยครับ แต่ถ้าไม่ก็อย่าแต่งดีกว่า
#10
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:17 PM
คนดี ๆ แบบคุณสาครนี้ผมนับถือจริง ๆ การบวชพระก็เหมาะสมดีแล้วครับ
#11
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:18 PM
#12
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:29 PM
.....................................................
ขออนุโมทนาบุญกับ ความคิดที่ดีของ ท่านสาคร นะครับ สาธุ ขอเป็นกำลังใจ และกำลังทรัพย์ให้นะครับ
การมองโลกในแง่ดี มองอย่างแยบคาย ตริตรองโดยเหตุและผล ย่อมจะมีวิถีชีวิตที่มีความสุขนะครับ
การ คิด พูด และกระทำอย่างสุดโต่ง ก็อันตราย การเดินทางสายกลางเป็นทางแห่งความสำเร็จ มรรค และ ผล นะครับ
การรักเพื่อนมนุษย์ให้เป็น และรักทุกวัน ยิ่งคนรัก คนใกล้ชิด...............
ความรู้สึกที่เบิกบาน สดชื่น แจ่มใส และสร้างสรรค์ของเราที่มีต่อเพื่อนมนุษย์
ความรู้สึกเหงา โกรธแค้น ใจน้อย แสนงอนนั้น ไม่เรียกว่าเป็นความรักหรอก
แต่เป็นโรคของความรักมากกว่า
ความรักมนุษย์มีองค์ประกอบดังนี้ คือ
1. ความเข้าใจ ถ้าจะรักมนุษย์ต้องเข้าใจมนุษย์ว่าทุกคนมีข้อบกพร่องและทุกคนไม่เท่าเทียมกัน
มีความแตกต่างกันทั้งนั้น
2. การยอมรับ ต้องรับทั้งส่วนที่ดีที่คุณชอบและส่วนที่ไม่ดีที่คุณไม่ชอบในตัวมนุษย์ให้ได้ เรามักจะรับส่วนที่ชอบได้ง่าย แต่ส่วนที่ไม่ชอบซึ่งมักเป็นข้อบกพร่องของเขานั้นเรารับไม่ค่อยได้ คุณต้องทำใจคิดว่าใครที่มีข้อบกพร่องมากก็จะมีความทุกข์จากข้อบกพร่องของเขามากแน่ๆ เราจะได้ยอมรับตัวเขาในความเป็นจริงของเราได้ง่ายขึ้น
3. ความเป็นอกเห็นใจ เมื่อรู้ว่าเขามีทุกข์จากข้อบกพร่องของเขาแล้ว เราจะเห็นใจเขา ไม่โกรธแค้นต่อไป
4. ความช่วยเหลือและการให้ เมื่อเห็นอกเห็นใจแล้วก็อยากช่วยเหลือ หรือมีอะไรที่พอจะให้ได้เราก็จะให้ เช่น การให้กำลังใจ คำแนะนำ คำชื่นชม รวมทั้งวัตถุสิ่งของที่พอจะให้ได้
5. การอภัย เราจะสามารถให้อภัยในข้อบกพร่องหรือความผิดของเพื่อนมนุษย์ได้
เพราะเราเข้าใจและยอมรับเขาตามข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว
นี่แหละครับองค์ประกอบของความรักเพื่อนมนุษย์
ถ้าจะรักมนุษย์ก็ต้องทำให้ได้ดังกล่าว
อาจจะต้องฝืนทำในตอนแรกๆ ฝึกบ่อยๆ ข่มใจไม่ให้เลิก และลดตัวเอง ถ่อมตัวเองด้วย
จึงจะรักเพื่อนมนุษย์ได้ทุกวันและรักแบบถูกต้องด้วย
ตัวคุณเองจะมีความสุขมากขึ้นจากความรักนั้น
โอกาสจะเป็น โรคของความรัก ก็จะน้อยลงครับ
มนุษย์เมื่อถูกรักแล้วเขาจะรักตอบ
คุณจะเป็นคนที่มีคนรักตอบมากขึ้นทุกวันๆ
ความรักเป็นความสุข เป็นความหวังของมนุษย์
คุณอยากได้ไหมเล่าครับ?
........................
การพัฒนาความคิดและปรัชญาชีวิตเสมอ...............
ควรมีความเชื่อหรือปรัชญาชีวิตที่ดีๆ เอาไว้เพื่อเตือนตัวเอง
ทั้งในยามทุกข์และสุข แล้วแต่จะเชื่อและชอบอย่างใด
ถ้าเป็นตัวผมเองชอบคิดว่า
1. ทุกคนไม่มีความสมบูรณ์แบบ มีข้อบกพร่องทั้งนั้น ต้องยอมรับได้
2. ทุกคนไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน ต้องยอมรับได้
3. ถ้าเราลดความ อยาก สมบูรณ์แบบลงได้ เราจะพบความปกติในชีวิตปกติของเราได้มากขึ้น
ซึ่งจะทำให้เราพอใจในความปกติที่ไม่สมบูรณ์แบบของเราและของคนอื่นได้
4. มนุษย์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากๆ ไม่ได้หรอก (เพราะคาดหวังมาก) แต่มนุษย์จะทำสิ่งเล็กๆ ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ
(เน้นเรื่องความรักของมนุษย์ต่อตัวเองและสิ่งรอบตัว)
5. ชีวิตเหมือนการแสดงละคร ต้องแสดงให้เป็นตามบทบาทและขั้นตอนที่ตัวเองเป็นอยู่
ชีวิตไม่ใช่ของจริง จึงไม่ควรไปจริงจัง
6. ชีวิตคือการทดสอบ (Test) ไม่ใช่ของจริง ฉะนั้นเราจะไม่ทุกข์มาก
ถ้าทำอะไรไม่ได้หรือล้มเหลว หลังจากไดลงมือทำเต็มความสามารถแล้ว
เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการทดสอบทั้งนั้น เช่น ทดสอบความอดทน
เสียสละ กล้าหาญ ใจกว้าง ฯลฯ และตัวเราก็มีขีดจำกัดของความสามารถด้วย
ถ้าสอบผ่านการทอดสอบได้ก็ดีไป ถ้าสอบไม่ผ่านก็ไม่เป็นไรเพราะได้สอบแล้ว
คราวหน้าจะสอบใหม่ ก็เตรียมตัวให้ดีขึ้น ก็แค่นั้นเอง
อยากให้ทุกคนมีแนวคิดเกี่ยวกับชีวิตที่ชอบเอาไว้เตือนสติตัวเองด้วย
คุณสามารถเปลี่ยนแนวคิดหรือปรัชญาชีวิตนี้ได้ตามความเหมาะสม และตามเวลาที่ผ่านไป ...
ผมระลึกเสมอว่า ตัวผมก็คือผลผลิตแห่งการดำรงเผ่าพันธ์ของมนุษยชาติ ดังนั้นการแสดงความเห็นที่อาจจะกระทบ หรือ ขัดแย้ง
หมิ่นเหม่ต่อการดูแคลน กับต้นกำเนิดของการดำรงเผ่าพันธ์ของเรา ต้องระมัดระวังเสมอครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#13
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 03:51 PM
เมื่อคืนฝันสยองตีสองกว่า
ฝันไปว่านอนซบกับศพผี
นอนขึ้นอืดค้างตายมาหลายปี
เหมือนปิศาจอเวจีที่น่ากลัว
เหม็นซากศพ อบอวลไปทั่วห้อง
ไม่กล้ามองต้องคู้คด นอนหดหัว
ตกใจตื่นขนลุกซู่ ดูรอบตัว
เห็นชัวร์ ๆ แฟนผายลม ระทมใจ (เฮ้อ!!!)
................ ...........ปากีรณัม..........................
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#14
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 04:03 PM
#16
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 05:37 PM
#17
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 06:45 PM
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ฟอรั่มก็มีไว้เพื่อการนี้นะค่ะ
น้าจี้
#18
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 06:50 PM
ขวนขวายงานให้ภรรยา ท่านว่า เป็นคนกลัวเมีย
ขวนขวายงานให้พ่อแม่ ท่านว่า เป็นลูกกตัญญู
ขวนขวายงานพระศาสนา ท่านว่า เป็นไวยยาวัจไมย
งั้นก็บ่นให้เธอฟังทุกวันๆ เลยว่า "อยากบวชๆๆๆๆ" ท่องให้เป็นคาถาสำเร็จเลย แต่ต้องถามตัวเองด้วยนะว่า อยากบวชจริงๆ หรือเปล่าฯ
#19
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 07:16 PM
ฮ่าๆ มีคนถามด้วยว่า อยากบวชจิงหรือเปล่า?
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#20
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 08:15 PM
แต่ยังไงแต่งไปแล้ว..ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเนอะ คิดซะว่าเราได้บุญที่ได้ทำตัวเป็นสามีที่ดี(มากๆๆ ด้วย) นะคะ
อ่านกระทู้นี้ และฟังความเห็นจากผู้รู้หลายๆท่านแล้วรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกจังค่ะ ที่ตั้งใจจะถือพรหมจรรย์ ไม่แต่งงาน แต่ก็คงต้องใช้กำลังใจสูงมากนะคะ โดยเฉพาะช่วงนี้มารเยอะจังค่ะ ขอทุกท่านเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ...
#21
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 08:40 PM
ก็เป็นภาพในอดีตของเราเองที่ไปทำกับคำอื่นไว้.....
ทำใจใสๆ สบายๆ นั้งสมาธิเยอะๆ และขออนุโมทนาบุญกับพี่ล่วงหน้าที่มีความตั้งใจจะบวช
เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา.....แต่พี่ต้องไปพูดคุยทำความเข้าใจกับคู่บุญของพี่ก่อนนะครับ
#22
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 09:02 PM
เคยได้ยิน คุณป้าถวิล กล่าวบ่อย ๆ ค่ะ ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
#23
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 09:10 PM
เอาให้ระเบิดเลย555 ไม่เครียดนะค่ะ ไม่เครียด อะมิโนโอเค โอเค๊ะๆ
#24
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 10:45 PM
คุณสาครอย่าเพิ่งหายไปไหนนะคะ เดี๋ยวคุณจะเครียดนะคะ ไม่มีเพื่อนให้ระบายให้ฟัง
ประทับใจกระทู้ทุกกระทู้ที่คุณ สาคร ตั้งค่ะ เป็นกำลังใจให้มี idea ในการตั้งกระทู้เยอะๆนะคะ (จะได้ไม่เครียด)
ฝากไว้ค่ะ
ปัญหาทุกปัญหา ถ้าแก้ได้ อย่าทุกข์นะคะ แก้ทันที
ปัญหาทุกปัญหา ถ้ามั่นใจว่าแก้ไม่ได้ อย่าทุกข์ค่ะ ทำใจให้สบาย และ (จำเป็นที่จะต้อง) เรียนรู้ที่จะอยู่กับความทุกข์นั้นโดยทำให้ใจเราเป็นสุขที่สุดนะคะ
สู้...สู้ ค่ะ สู้...ตาย เอ๊ย ไม่ใช่ค่ะ สู้...แต่ไม่ต้องตายค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#25
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 01:19 AM
But, don't be serious na ka. Everyone has trouble.
Open your mind and find the answer by yourself.
#26
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 06:02 AM
#27
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 03:55 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#28
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 05:03 PM
หายไปหนึ่งอาทิตย์ กลับมาคงดีขึ้นนะคะ
ไม่เป็นไรหรอก..อดีตที่ผิดพลาด(ก็แต่งไปแล้วนี่)..ลืมให้หมด
เอ.. วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ เพราะลืมไม่ลงเนื่องจากเธอยังอยู่ที่เดิม..
ก็แนะนำอย่างที่เคยแหละค่ะ..
มาบวชเหอะ..แล้วชีวิตเราสองจะดีขึ้น..(บอกเธอว่าอย่างนี้คงช่วยได้นะคะ)
รีบไปรีบมานะคะ..บอร์ดเหงาแย่เลย..คนขยันตั้งกระทู้ไม่อยู่ซะแล้ว
เอ่อ..บางทีแก้ไม่ไหว..หลบไปตั้งหลักก่อนก็น่าจะดีเหมือนกันนะคะ..
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#29
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 07:02 PM
^^
------------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#30
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 08:33 PM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง