ผี ผี ผี
#1
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 02:31 PM
แล้วถ้าสมมติว่า กลางดึกเขามาหาเรา พยายามจะมาเข้าเรา แล้วมาติดกันถึง 2 คืน ทั้งมาทำเสียงร้องให้ จิ้งหรีด แบบ sterio โดยไม่กลัวเรา ทั้งๆที่เรามีพระมหาสิริราชธาตุ + ดวงแก้ว 2 ดวง คอยปกป้อง
เป็นเพราะอะไรคะ
#2
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:08 PM
ความละเอียดของใจไม่ใช่คุณธรรมเท่ากับอาทิสมานกายนั้นนะครับ
เมื่อใจละเอียดตรงกับอายตนะหรือภพใดก็จะสามารถเห็นภพภูมินั้นได้ครับเป็นของปกติที่ผู้ฝึกสมาธิ
สงบจิตได้จริงจะต้องมีผลการปฏิบัติเป็นของพิสูจน์ครับ
เรื่องของพระเครื่องนั้นเป็นเพียงอนุสติให้ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเท่านั้นนะครับอย่าไปผูกใจติดว่าพระเครื่องคือ
พระพุทธเจ้าเข้าหละครับ เพราะพระพุทธองค์จริงๆ นั้นนิพพานไปแล้วครับ และธรรมดาพระย่อมไม่เบียดเบียนผู้ใด
ดังนั้นการที่เราเห็นอาทิสมานกายอื่นๆ เจตนาของเขาก็ไม่ได้มาทำร้ายอะไรเราจะให้พระท่านเบียดเบียนขับไล่เขา
ได้อย่างไรหละครับ
และถ้าเราไปเห็นนรกทั้งนรกยิ่งไม่ต้องให้พระท่านไล่กันหมดนรกหรือครับ 5555+
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#3
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:15 PM
พระพุทธเจ้าเข้าหละครับ เพราะพระพุทธองค์จริงๆ นั้นนิพพานไปแล้วครับ และธรรมดาพระย่อมไม่เบียดเบียนผู้ใด
ดังนั้นการที่เราเห็นอาทิสมานกายอื่นๆ เจตนาของเขาก็ไม่ได้มาทำร้ายอะไรเราจะให้พระท่านเบียดเบียนขับไล่เขา
ได้อย่างไรหละครับ
และถ้าเราไปเห็นนรกทั้งนรกยิ่งไม่ต้องให้พระท่านไล่กันหมดนรกหรือครับ 5555+
เขามาหา หนูไม่ได้ไปหา
เบียดเบียนขับไล่อะไรกันคะ การไล่ไม่ใช่การเบียดเบียนนะคะ
แล้วนรกน่ะเป็นที่ทรมาณสัตว์ทำกรรมชั่ว ไม่เห็นเกี่ยวกับที่หนูเจอเลย แหม พี่เล่นอย่างนี้เลย 555+
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#4
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:21 PM
และอาจจะศรัทธาในสิ่งที่น้องทำและเป็นอยู่ก็ได้
#5
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:25 PM
และอาจจะศรัทธาในสิ่งที่น้องทำและเป็นอยู่ก็ได้
แผ่เมตตาแล้ว เธอก็ไม่ยอมรับค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#6
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:57 PM
แต่เสียงจิ้งหรีกนี่ แน่ใจว่าเป็นเสียงผีรึเปล่าจ๊ะ ที่บ้านพี่ก็จิ้งหรีดเยอะ เสียงยิ่งกว่าใส่ subwoofer surround sound system เลย นอนไม่หลับเล้ย
ส่วนเสียงพิมพ์คอมพ์พิมพ์ดีดก๊อกแก๊ก อันนี้ยืนยันว่ามี sure!
พิสูจน์มาหลายคืนแล้วที่ต้องไปสอนหนังสือตอนดึก ๆ มีผีใครก็ไม่รู้อยู่คนนึงที่จุฬาคณะจิตวิทยา ตึกที่อยู่ตรงบริทิชเคาน์ซิลหนะค่ะ ชั้น 16 ชอบพิมพ์คอมพ์เล่น ก๊อกแก๊ก เปิดประตูไปดูก็ไม่เห็นใคร ปิดประตูก็พิมพ์คอมพ์ ก๊อกแก๊กอีกแล้ว ทุกคืนเลย
ทำบุญสังฆฑาน แล้วแผ่ส่วนบุญไปให้เธอก็ยังไม่ยอมไปเหมือนกัน ทั้งนักเรียนและอาจารย์ทึ่คณะได้ยินกันทั้งน้านนนน
ใครรู้ช่วยหนูด้วยอีกคนก็ดีค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 04:48 PM
1) ดวงตก
2) พอดี ขณะนั้นใจมีความละเอียด ทำให้ไปเห็นกายละเอียดได้
3) เค้ามาขอส่วนบุญ เนื่องจากเห็นเรามีบุญเนื่องจากกายสว่างแต่ แบ่งเป็นอีก
3.1 มาขอส่วนบุญ แล้วผีเค้าก็อนุโมทนาบุญเป็น ก็ได้รับบุญและหายไป
3.2 มาขอส่วนบุญ แต่เค้าอนุโมทนาบุญไม่เป็น ทำให้ไม่ได้รับบุญ ทั้งๆ ที่เราอุทิศให้เค้าแล้ว ดังนั้น เค้าก็เข้าใจว่า เรายังไม่ได้อุทิศบุญให้เค้า เค้าก็มาหาต่อไป
4) ใกล้ตาย
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#8
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 04:58 PM
อีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้คือ อาจเคยเป็นญาติในอดีตชาติ หรือ เคยเกิดร่วมชาติกันมากับเราแต่เค้าตกไปอยู่ในสภาพทุกขเวทนา
ก็ ทำสมาธิให้ใจหยุดใจนิ่งดีในระดับหนึ่ง แล้วก็แผ่ความปรารถนาดี เป็นมิตร อุทิศบุญกุศลที่เราได้กระทำมาให้แก่เค้า ( ให้เราทำความรู้สึกว่าตัวเราขยาย ครอบคลุมพื้นที่ )
*** " แผ่เมตตาแล้ว เธอก็ไม่ยอมรับค่ะ "
เป็นได้หลายสาเหตุ สาเหตุหนึ่งนั้นอาจเป็นไปได้ว่า เธอนั้น อาจจะไม่รู้วิธีรับส่วนบุญ และไม่เข้าใจในวิธีการรับบุญที่เราอุทิศไปให้ อาจจะมีมิจฉาทิฐิบ้างในใจของเค้า
ก็ให้เราสอนเค้า ให้เค้าทำสมาธิให้ใจสบาย ผ่อนคลายจากความยึดมั่นถือมั่นอันเป็นเหตุแห่งทุกข์ที่เค้าได้รับ และให้เค้านึกถึงคุณความดีที่เค้าได้เคยกระทำมา หรือให้นึกถึงองค์พระ หรือสอนให้สวดมนต์ โดยสอนเข้าไปในกลางของกลางของเรา พร้อมกับนึกถึงบุญกุศลที่เราได้กระทำมา แล้ว แผ่อุทิศไปให้เค้า ด้วยความปรารถนาดี และ บริสุทธิ์ใจ และสอนให้เค้าอธิษฐานให้ผลบุญกุศลที่ได้กระทำมานับภพนับชาติไม่ถ้วน กลั่นเป็นแสงสว่างนำทางไปสู่สุขคติภพภูมิ และจะอธิษฐานอะไรต่อไปในทางที่ดีเป็นกุศลก็ว่าไปเลยจ้า
#9
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:17 PM
อันนี้ได้ไปปรึกษาหลายๆ คน และหลวงพี่ด้วย ก็ได้ข้อสรุปว่า
1 สงสัยจะเป็นญาติ หรือ คู่กรรมคู่เวร ในอดีต ให้อุทิศบุญให้เขาอย่างสม่ำเสมอค่ะ แล้วก็ไม่ต้องไปกังวลใจอะไร
2 หรืออาจจะเป็นใครก็ได้ ที่เห็นดวงบุญในตัวเรามีความสว่าง และอยากได้บุญ ก็เลยมาขอ ซึ่งก็อาจจะมาได้หลายรูปแบบ แล้วแต่ว่าเขามีฤทธิ์เพียงใด ก็ให้แผ่บุญเขาไป แค่นั้นเองค่ะ ไม่ต้องกังวลใจอะไรมาก ข้อนี้นั้น พระอาจารย์ท่านบอกว่า ต้องอุทิศแผ่บุญกุศลทุกคืนก่อนนอนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่อย่างนั้น กายละเอียด เขาจะมาทวงบุญในส่วนที่เขาควรจะได้รับค่ะ โดยเฉพาะการออกไปปฎิบัติธรรมนอกสถานที่ ในป่า ในเขา เป็นต้นค่ะ
3 เป็นนิมิตหลอก ให้เราออกจากสมาธิ จริงๆแล้วเป็นภาพหลอก ประมาณนั้นค่ะ ให้เอาใจจรดที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว แล้วก็ให้อธิษฐานว่าให้รู้ถูกเห็นถูก รู้จริง เห็นจริง ภาพหลอน นิมิตหลอกต่างๆ อย่าได้พบเจอเลย สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:43 PM
[quote]แต่เสียงจิ้งหรีกนี่ แน่ใจว่าเป็นเสียงผีรึเปล่าจ๊ะ ที่บ้านพี่ก็จิ้งหรีดเยอะ เสียงยิ่งกว่าใส่ subwoofer surround sound system เลย นอนไม่หลับเล้ย[quote]
ก็เสียงมันมาวนอยู่ข้างๆหูเลยล่ะค่ะ
[quote]4) ใกล้ตาย[/quote]
ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ให้ชีวิตสัวต์เป็นทานมานับครั้งไม่ถ้วน ขออย่าให้เป็นข้อนี้เลย
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#11
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:56 PM
#12
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:09 PM
ตักบาตรตอนเช้าเลยครับ
ถวายสังฆทานก็ดีนะครับ
เอารูปหลวงปู่ติดไว้หัวนอนด้วย.ให้ช้วยอีกแรง
#13
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:24 PM
อย่างเคยเห็นบางคนที่ตกบันไดแล้วมีกายละเอียดมาช่วย หรือว่าปวดคอเพราะมีกายละเอียดมานั่งถ่วงไว้อย่างนี้นะครับ เจ้าตัวก็ไม่รู้เรื่อง รู้แค่ว่าปวดคอ
แต่ถ้าบางครั้งอายตนะของใจเราไปตรงกับภพภูมิของเขา เราก็อาจจะเห็นและรู้สึกได้มากเป็นพิเศษ
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนขอให้เราเชื่อมั่นในความดี เชื่อมั่นในบุญกุศลที่เราได้ทำมา อย่าไปนึกถึงอย่างอื่น อย่าไปกังวลหรือกลัวจนเกินเหตุ เพราะยิ่งกลัวยิ่งกังวลก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา แก้ปัญหาไม่ได้ครับ
แล้วกายละเอียดทั้งหมดเขาก็เคยเกิดเป็นมนุษย์เหมือนเรา ๆ มนุษย์ก็มีนิสัยแตกต่างกันไป คนที่เกะกะระรานก็ไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้ คนที่ใจดีใคร ๆ ก็อยากเข้าใกล้ กายละเอียดก็น่าจะมีนิสัยแตกต่างกัน ลองนึกดูว่าถ้าเราอยู่ในภพภูมิแบบเขา แล้วใครเห็นเราเขาก็กลัวไปหมด ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นคนน่ากลัวอะไรแล้วเราจะรู้สึกยังไงล่ะครับ
ฉะนั้นอย่าคิดไปก่อนว่ามันน่ากลัวเลยครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติในโลกนี้ เขาก็เป็นเพื่อนร่วมโลกเวียนว่ายตายเกิดเหมือนเราเพียงแต่อยู่ในคนละภพภูมิ หรือเหมือนเพื่อนต่างประเทศที่พูดกันคนละภาษา ให้ตั้งสติให้ดี ดูให้ดีว่าเขามีเหตุผลอะไรที่มาหาเรา อย่าคิดแต่ว่าอยากให้เขาไปให้พ้น ๆ เลยครับ มันจะเหมือนว่าเราเห็นขอทานมายืนขอเงินแล้วเราก็เอาแต่ไล่เขาไปนะครับ
ตั้งสติให้ดี แล้วปัญญาจะเกิดครับ
#14
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 10:16 PM
ที่หลังมาก็ลึกไปหาเรย จะเอาไง หึหึ ไปทำบุญมา ญาติเก่าไม่ก็เจ้ากรรมเรยมาขอหนะ ไม่ก็เทวดามาช่วยส่งเสริมมั้ง สมาธิจะได้ก้าวหน้า
แผ่เมตตา มีเมตตาไว้ให้แผ่หรือป่าว ไม่ใช่สักแต่ว่าแผ่พอสิ้นซาก อย่างงั้นก็ยากที่เขาจาปายจากท่าน พยายามทำใจดีๆสงบๆหน่อย เมตตาเค้าจริงๆหน่อย เด่วเขาก็ไป
อิอิ
-------------------------------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#15
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 10:28 PM
อิอิ
มีสิ
แหม เดี๋ยวคืนนี้ถ้าเจออีกจะลองถามดู
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#16
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 12:01 AM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
#17
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 08:13 AM
ผู้ที่เคยเห็นผีเกิดจากสาเหตุหลายประการ.......
1.อายตนะตรงกัน มีจิตใจตกต่ำเช่นเดียวกับผีบ้าง
2.มีบุญและใจสูงกว่าผี หากอายตนะตรงกันก็เห็นได้
3.ต้องเห็นด้วยสมาธิเมื่อใจหยุดนิ่งเข้าถึงณานหรือเห็นพระธรรมกายภายใน
และมี case ช่วงเมษายน 49 ที่เธอเห็นผีได้ เพราะชาติในอดีตเธอได้ฟังเรื่องราวจากเพื่อนๆเล่าเรื่องประสบการณ์เจอสิ่งเหล่านี้ แต่เธอไม่เห็นกับตาเธอก็ไม่เชื่อเลยเกิดความสงสัย ฉนั้น ตอนทำบุญก็ได้อธิษฐานว่าให้ได้เห็นสิ่งเหล่านี้บ้าง มาชาตินี้บุญส่งผลก็ทำให้เธอได้เห็นและได้ยินด้วยตาและหูของเธอเอง.
#18
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 10:29 AM
สาธุ
#19
โพสต์เมื่อ 04 March 2007 - 11:59 AM