Jump to content


Photo
- - - - -

เราจะทราบได้อย่างไรว่า พระองค์นั้นมีศีล หรือทุศีล เวลาเราเจอพระในสถานที่ต่างๆ


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
10 replies to this topic

#1 cheterkk

cheterkk
  • Members
  • 270 posts

Posted 16 January 2014 - 10:13 AM

เราจะทราบได้อย่างไรว่า พระองค์นั้นมีศีล หรือทุศีล เวลาเราเจอพระในสถานที่ต่างๆ  เพราะในพระไตรปิฏกระบุว่าทำบุญกับพระทุศีลเป็นบาป  สำคัฐคือเราไม่รู้นะสิว่าพระที่เราเจอในแต่ละวันไหนมีศีลหรือทุศีล ?



#2 Mind Good

Mind Good
  • Members
  • 39 posts
  • Gender:Male

Posted 16 January 2014 - 10:26 AM

:D ลองชมดูครับ :D

 

http://www.youtube.c...h?v=m8L5d1nMCbM


ดาวน์โหลดธรรมะฟรี ขอบคุณ Drive Google + ควรใช้เบราเซอร์ Google Chrome

https://drive.google...E&usp=drive_web


#3 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3,279 posts
  • Gender:Male

Posted 16 January 2014 - 11:19 AM

1. อย่าว่าแต่พระเลยครับ  คนที่เดินรอบๆ ตัวเรา  บางคนเราก็ยังไม่รู้เลยว่าเป็นคนดี  หรือไม่ดี  ทางพระพุทธศาสนาถึงได้มีคำสอนว่า "อย่าไปเพ่งโทษผู้อื่น"  คือ  อย่าไปจ้องจับผิดผู้อื่นนั่นเอง  เห็นเป็นพระ  ก็คือพระ  ใจศรัทธาก็กราบไหว้  ใจไม่ศรัทธาก็วางเฉยเสีย  ไม่ต้องไปคิดนำอะไรทั้งสิ้น  เพราะคนที่ประสบวิบากกรรมทั้งดีและร้ายคนแรกก็คือตัวเราครับ  

 

2.ที่กล่าวว่าในพระไตรปิฎกระบุว่าทำบุญกับพระทุศีลเป็นบาป   อันนี้ไม่มีปรากฏไว้นะครับ  เข้ใจไปเอง  คิดไปเองหรือเปล่า  มีแต่กล่าวว่าแม้การทำบุญกับสัตว์เดรัจฉาน  บุคคลผู้ไม่นับถือพระพุทธศาสนา  บุคลทุศีลก็ได้บุญแต่จะมาก จะน้อยก็ลดหลั่นกันไปตามความบริสุทธิ์แห่งศีล  กรุณาศึกษาพระไตรปิฎกให้ชัดเจนครับ  ไม่อย่างนั้นจะเข้าใจผิดพลาดไปได้


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#4 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4,531 posts
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

Posted 16 January 2014 - 11:53 AM

ตามที่น้องทศพล บอกไว้ครับ การทำบุญกับคนทุศีลนั้น ไม่ได้เป็นบาป ส่วนการทำบุญแล้วเป็นบาปปนไปด้วย มีหลายประเด็น แต่ที่เกี่ยวข้องในประเด็นเรื่องนี้ คือ ทำบุญเพื่อให้เขาไปทำผิด(ทุ)ศีล น่ะครับ นั่นคือ ไม่ว่าเดิมเขาจะทุศีล หรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าเราทำบุญเพื่อให้เขาไปทำสิ่งทุศีล ย่อมเป็นบาปครับ ได้แก่

 

1. ให้อาวุธ เช่น ทำบุญโดยยกปืนให้เพื่อน(ซึ่งจะเป็นนักเลง หรือไม่ก็ตาม) ให้ไปยิงคนอื่นให้ตาย 

2. ให้เพศตรงข้าม เช่น ผู้มีอำนาจ มาเยี่ยมบ้านเมืองเรา เราก็เลยจัดผู้หญิง ให้ไปเทคแคร์เขา

3. ให้สื่อลามกอนาจาร เช่น นำหนังสือลามกอนาจารไปให้เพื่อนอ่าน

4. ให้ยาเสพติด เช่น นักค้ายาต้องการให้เหยื่อติดใจ จึงยกยาเสพติดให้เหยื่อไปลองฟรีๆ พอภายหลังเหยื่อติดยา ก็บังคับให้เหยื่อซื้อยา หรือ ทำตามคำสั่งในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น

5. ฯลฯ


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#5 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1,478 posts
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

Posted 17 January 2014 - 11:24 PM

....ตัดสินที่บุญของตัวเราด้วยครับ...

 

...ที่เรามาเกิดแล้วไม่เจอพระดีๆ อย่างพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งท่านยังดำรงชีพอยู่ ก็แปลว่าบุญเราไม่ได้มากพอ  หรือแม้แต่พระอรหันต์แท้ๆก็ไม่ได้เจอสักรูป

 

...บางคนหวังจะเจอพระที่ปฏบัติดี แต่ตัวเองที่ผ่านมา เอาแต่ด่าว่าพระพุทธศาสนา ด่าพระ ว่าพระ หรือตำหนิพระ วัดโน้นบ้าง วัดนี้บ้าง แม้ตนเองก็ไม่ทำบุญ ตักบาตรก็ไม่ทำ ผ้าป่าก็ไม่ร่วม กฐินก็ไม่สน แบบนี้ อย่าว่าแต่บุญจะน้อยจนไม่เจอพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเลย แต่ประตูนรกกลับเปิดกว้างมหาศาลทีเดียว  แล้วจะมาว่าพระพุทธศาสนาเสื่อมแล้ว พระดีไม่มีแล้ว.. แต่ที่ไหนได้ ตัวเองนั่นแหละที่บุญไม่มี  นี้ก็เป็นตัวอย่างที่ยกมาตามจริง อย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุด

 

...ส่วนคนที่เจอแต่พระดีๆ ปฏิบัติดี ก็เพราะพื้นเพเป็นผู้ที่ให้ความเคารพพระพุทธศาสนามาโดยตลอด พระรูปไหนจะทำไม่ดี ก็ไม่ได้ไปเห็นด้วย หรืออนุโมทนาบาปกับรูปนั้น และทำนุบำรุงพระศาสนาเป็นอย่างดี ประกอบกับอธิษฐานจิตให้เจอแต่พระปฏิบัติดี และห่างไกลจากพระประพฤติไม่ดี ไม่ถูกต้อง ..เมื่อบุญมากพอ ก็ห่างไกลจากสิ่งนี้ได้แน่นอน และก็เป็นวิธีดั้งเดิมมานานแล้ว ในการใช้บุญตนเอง เพื่อต่อบุญใหม่ ด้วยการสร้างบุญเล็ก เพื่อรอได้สร้างบุญใหญ่ และก็อดทน และมีความใสของจิตใจมากพอ ก็จะได้พบแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่เจริญทั้งสิ้น..


..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#6 cheterkk

cheterkk
  • Members
  • 270 posts

Posted 20 January 2014 - 09:46 AM

ทางพระพุทธศาสนาต้องการให้บุคคลพัฒนาตนให้เป็นคนดี ให้มี บุญขึ้นในตนเองมากกว่าหวังบุญจากผู้อื่น ท่านจึงกล่าวไว้
เช่นนั้น คนส่วนมากมุ่งทําบุญกับผู้มีศีล ซึ่งก็ดีในส่วนหนึ่ง แต่ถ้าไม่ทําตนให้เป็นคนมีศีลมีธรรม ยังเป็นคนไม่ดีอยู่ ก็จะได้ประโยชน์น้อย ถ้าจัดตามลําดับชั้น ทานเป็นเบื้องต้น ศีล, สมถะและวิปัสสนา สูง ขึ้นไปโดยลําดับ ศีลสูงกว่าทานอยู่แล้ว ผู้ทําตน ให้เป็นคนมีศีลธรรม แม้จะให้ทานในผู้ทุศีลก็มีผลมาก ถ้าให้ทานในผู้มีศีลจะมีผลมากขึ้นไปอีก ท่านกล่าวว่าทานของผู้มีศีลย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก แนวคิดอันนี้ได้มากลายเป็นประเพณีวัฒนธรรมไทย ที่ให้เจ้าภาพผู้ทําบุญให้ทาน รับศีลเสียก่อนแล้วจึงถวายทาน

 

ในอรรถกถาแห่งพระไตรปิฎก (อรรถกถา ทักขิณาวิภังคสูตร) ท่านได้ยกตัวอย่างประกอบเรื่องนี้ไว้ว่า จีวรที่
พระสารีบุตรถวายแก่พระพุทธเจ้ากับจีวรที่พระพุทธเจ้าถวายแก่พระสารีบุตร อย่างไหนมีผลมีอานิสงส์มากกว่า? ท่านตอบว่า ที่พระพุทธเจ้าถวายแก่พระสารีบุตรมีผลมากกว่า เพราะพระพุทธเจ้าทรงมีคุณธรรมเหนือกว่าพระสารีบุตร

 

แต่ถ้าจะทําบุญอุทิศให้ผู้ตาย ท่านว่าให้ทําในผู้มีศีล เล่าไว้ใน อรรถกถาแห่งทักขิณาวิภังคสูตรว่า บุคคลผู้หนึ่งทําบุญอุทิศให้ผู้ตาย แต่ทําในภิกษุผู้ทุศีล ๒ ครั้ง อมนุษย์คือผู้ตายได้ร้องขึ้นว่า ภิกษุผู้ทุศีลแย่งสมบัติเขา ผู้ทําบุญได้ทราบแล้ว ในครั้งที่ ๓ ได้ทําบุญในภิกษุผู้มีศีล อมนุษย์ได้รับแล้วร้องบอกให้ทราบว่าเขาได้รับบุญที่อุทิศให้แล้ว 

 

(พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 409)

 


แต่ก็มีอีกบทหนึ่งในพระไตรปิฏกบอกว่า  การทำบุญกับคนทุศีลได้บุญน้อย ตกลงยังไม่ได้ข้อสรุปว่า ทำบุญกะพระทุศีลได้ผลอย่างไรกันแน่ ???

 

"นอกจากนี้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 23  เขตตสูตร พระพุทธเจ้าได้อธิบายว่า

     [๑๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ไม่มี

ผลมาก ไม่มีความดีใจมาก ไม่มีความเจริญมาก นาประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างไร ดูกร

ภิกษุทั้งหลาย นาในโลกนี้ เป็นที่ลุ่มๆ ดอนๆ ๑เป็นที่ปนหินปนกรวด ๑ เป็นที่ดินเค็ม ๑

เป็นที่ไถลงลึกไม่ได้ ๑ เป็นที่ไม่มีทางน้ำเข้า ๑ เป็นที่ไม่มีทางน้ำออก ๑ เป็นที่ไม่มีเหมือง ๑

เป็นที่ไม่มีคันนา ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย พืชที่หว่านลงในนาอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้

ไม่มีผลมาก ไม่มีความดีใจมาก ไม่มีความเจริญมาก ดูกรภิกษุทั้งหลายฉันนั้นเหมือนกันแล

ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ประการ ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก

ไม่รุ่งเรืองมาก ไม่เจริญแพร่หลายมาก สมณพราหมณ์ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างไร

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์ในโลกนี้ เป็นมิจฉาทิฐิ ๑ เป็นมิจฉาสังกัปปะ ๑ เป็นมิจฉา

วาจา ๑เป็นมิจฉากัมมันตะ ๑ เป็นมิจฉาอาชีวะ ๑ เป็นมิจฉาวายามะ ๑ เป็นมิจฉาสติ ๑เป็น

มิจฉาสมาธิ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ

อย่างนี้ ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่รุ่งเรืองมากไม่เจริญแพร่หลายมาก ฯ

 แปลว่า การทำบุญกับคนทุศีลได้บุญน้อย ไม่ใช่ได้บาป

 

ฉะนั้นการที่จะบอกว่า ทำบุญกับพระทุศีล กับคนเลว แล้วได้บาปนั้น จึงไม่ถูกต้อง
เพราะจุดเริ่มต้นคือความรู้สึกอยากสละ หรือการให้ในสิ่งที่ตนมี
เมื่อมีเจตนาแบบนี้ ไม่ว่าผู้รับจะเป็นใคร ก็ได้บุญทั้งสิ้น(แต่ก็จะมากน้อยตามคุณธรรมของผู้รับ)

การทำบุญกับคนทุศีลและสัตว์เดรัชฉานยังได้บุญ
แล้วจะนับประสาอะไรกับการทำบุญกับพระที่ทุศีลเล่า
ก็ต้องได้บุญด้วยเช่นกัน(แต่ก็น้อยกว่าทำกับพระมีศีลครบ)

 

ฉะนั้น เราจึงสบายใจได้ว่า การตักบาตรกับพระนั้น ไม่ว่าท่านจะทุศีลหรือมีศีลครบ
เราก็จะได้บุญอย่างแน่นอน"

 

 

 



#7 cheterkk

cheterkk
  • Members
  • 270 posts

Posted 20 January 2014 - 09:52 AM

ดังนั้น อีกกรณีหนึ่ง ถ้าเราเห็นโจรฆ่าคนหนีมาที่บ้าน แล้วเขาไม่มีอาหารกิน และไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนเลย  แล้วเราจะบอกว่าท่านโจรมากินข้าว ดื่มน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ที่บ้านข้าก่อน แล้วท่านจงไปตามทางของท่านเถอะ  (เกิดความสงสาร อยากทำทาน เห็นคนลำบาก อยากช่วยเหลือ)

 

ซึ่งกรณีที่ทำบุญกะโจรข้างต้น ผมจะได้บุญจากการให้ทาน หรือได้บาปจากการที่ผมไม่แจ้งให้ตำรวจมาจับโจรละครับ  มันกำกึ่งมากเลยนะระหว่าง การทำทานVSความถูกต้อง  

 

เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรบ้างครับ



#8 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4,531 posts
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

Posted 20 January 2014 - 12:35 PM

หากพิจารณาถึงสิ่งที่ควรกระทำจริงๆ ของชาวพุทธน่ะครับ (แต่จะมีใครที่กระทำได้ตามนี้จริงๆ ผมเองก็ยังทำไม่ได้ครับ) คือ

1. ให้ข้าวน้ำแก่ผู้มาขอตามสมควร แม้เขาจะเป็นคนไม่ดีก็ตาม (ตรงนี้ คิดว่าใครๆ ก็สามารถกระทำได้ ถ้าจะกระทำ)

2. เจรจา อธิบายชี้แจงให้เขา ยอมมอบตัว (ตรงนี้แหละครับ ที่ไม่ง่ายนักที่ใครจะกระทำได้ แม้คิดจะกระทำก็ตาม เพราะถ้าเจรจาผิดหู คนเจรจาอาจถึงแก่ชีวิตได้ครับ)


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#9 InnerDot

InnerDot
  • Members
  • 79 posts

Posted 24 January 2014 - 04:18 PM

ลองนึกอย่างผมดูก็ได้นะครับ... เพราะทำให้ใจสบาย ปีติได้จริงๆ เวลาทำ ทานกับใครก็ตาม หรือแม้แต่กับสัตว์

..... ผมจะพยายามนึกก่อนให้ ตั้งใจไว้ที่กลางท้อง นึกถึงผู้รับ(ไม่ว่าคนหรือสัตว์) ว่ากลางท้องของเขามีองค์

พระธรรมกายสว่างไสวประทับนั่งอยู่... ให้ทำความรู้สึกว่าเรากำลังถวายทานแด่พระธรรมกายภายในของเขา

(ซึ่งถูกซ่อนเร้นเอาไว้).... พอลองคิดได้อย่างนี้ ผมจะรู้สึกปลอดโปร่ง ไม่นึกสงสัยคุณธรรมในใจว่าเขา(ผู้รับ) 

จะมีมากหรือมีน้อยปานใด... แล้วอธิษฐานในใจหลังให้ทานไปแล้วว่า ขอให้ทานของเรานี้มีส่วนส่งเสริมให้

เขาเข้าถึงธรรมกายภายใน....  

ลองดูนะครับ ลองดู...



#10 InnerDot

InnerDot
  • Members
  • 79 posts

Posted 24 January 2014 - 04:33 PM

ส่วนกรณีโจรหนีตำรวจมาเข้าบ้าน.... เราจะพิจารณาอย่างไรดี...

     สำหรับผม... ขอเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า ถ้าเราเห็นคนบาดเจ็บ

    ที่ถูกรถเฉี่ยวชน หรือเห็นว่ารถกำลังจะวิ่งมาชนคนที่กำลังเดินข้าม

    ถนน..... หากเราช่วยเขาได้ให้พ้นจากความทุกข์หรือสิ่งที่กำลังจะ

    เกิดขึ้น ถามว่าเป็นบุญหรือไม่......(อย่าลืมนะครับว่า การที่เขา

    กำลังได้รับความเจ็บขณะนั้นหรือที่กำลังจะถูกรถชนต้องเป็นเพราะ

    "กรรม" ของเขาเองที่เคยก่อเอาไว้ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งมาก่อน)

    การที่เราเข้าไปช่วยให้เขาบรรเทาทุกข์ขณะนั้น(อันเนื่องมาจาก

    ไปทำผิดกฏแห่งกรรมเอาไว้) ได้บุญฉันใด... การที่เราจะช่วยโจร

     ให้หลุดพ้นจากความทุกข์อันเนื่องมาจากการถูกจับกุม หรือถูก

     คุมขังลงโทษ(เพราะวิบาก     กรรมไม่ดีทีเขาไปทำเอาไว้)ก็ย่อม

     ได้บุญฉันนั้น...

......แต่ต้องระวังนะครับ... ใจของเราต้องตั้งเจตนาให้ถูกต้องว่า

     เราช่วยเพราะต้องการให้เขาบรรเทาทุกข์กายทุกข์ใจที่กำลัง

     ประสบอยู่ ไม่ใช่ช่วยเพราะมีเจตนาต้องการช่วยโจรให้พ้นจาก

     การจับกุม.... สุดท้ายต้องบอกต้องถือโอกาสสอนเขาด้วยว่า เขา

     การทำแบบนี้ไม่ดีอย่างไร ต่อไปไม่ควรทำอีก เพราะ...บลา..บลา

......ผมเชื่อว่าอย่างนี้ก็ได้บุญครับ ไม่ได้บาป เพราะเป็นแรงผลักที่

     เกิดจาก กรุณาคุณ ที่อยู่ในใจเรา...



#11 qazwsx123

qazwsx123
  • Members
  • 49 posts
  • Gender:Male

Posted 25 January 2014 - 01:42 AM

ก็ชวนพระ สนทนาธรรม สิคับ

ศรัทธาเลื่อมใส ก็ทำบุญ

ไม่ศรัทธา ก็ไม่ต้องทำบุญ