วันพระใหญ่ คือ อะไร ต่างจากวันพระอื่นๆ ที่ตรงไหนค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 08:45 AM
เพราะไม่มีปฏิทิน แต่พอไปถึง ที่วัด พี่ๆ น้องๆ อุบาสิกาบอกว่าวันนี้คือ วันพระนะ ข้าพเจ้าโชคดีนะ ที่ได้มาทำบุญ
ข้าพเจ้าก็เลยยิ้มรับบุญ ก่อน แต่ในใจยังสงสัยอยู่ค่ะ ว่า
1.วันพระใหญ่ คือ อะไร?
2.วันพระใหญ่ ต่างจาก วันพระธรรมดา อย่างไรค่ะ และ เพราะอะไรค่ะ?
3.ทำไม ถ้าทำบุญในวันพระแล้ว จึง ถือว่าได้บุญมากค่ะ แล้ว ถ้าทำวันอื่นจะต่างกันมากไม๊ค่ะ?
ขออนุญาติ รบกวน พี่ๆ และ เพื่อนๆ อนุบาลนะค่ะ คือ ข้าพเจ้าไม่ทราบจริงๆค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 08:55 AM
ได้ตามความเหมาะสม เลยนะครับ
#3
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 12:14 PM
วันพระ หมายถึง วันที่พระพุทธ ศาสนากำหนด ไว้ว่าเป็นวันฟังธรรม ตามปกติ จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วันธรรมสวนะ แปลว่า "วันฟังธรรม" วันพระยังเป็นวันรักษาอุโบสถศีล ของชาวพุทธอีกด้วย
วันพระนั้นกำหนด ทางจันทรคติ คือ วันขึ้น ๘ ค่ำ ขึ้น ๑๕ ค่ำ แรม ๘ ค่ำ แรม ๑๕ ค่ำ หรือ แรม ๑๔ ค่ำ ในเดือนคี่ สรุปว่า ในเดือนหนึ่งทาง จันทรคติจะมีวันพระ รวม ๔ วัน เป็นวัน ข้างขึ้น ๒ วัน ข้างแรม ๒ วัน คือ ขึ้น ๘ ค่ำ เป็น วันพระต้นเดือน ขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็น วันพระกลางเดือน แรม ๘ ค่ำ เป็น วันพระปลายเดือน แรม ๑๕ ค่ำ เป็น วันพระสิ้นเดือน แต่ถ้า เป็นเดือนคี่ คือเดือนอ้าย เดือน ๓ เดือน ๕ เดือน ๗ เดือน ๙ เดือน ๑๑ วันพระสิ้นเดือน จะเป็นวันแรม ๑๔ ค่ำ สำหรับระเบียบ ปฏิบัติของชาวพุทธในอดีต เมื่อวันพระ มาถึง มีดังนี้
...
๖. เมื่อพระสงฆ์แสดงธรรมจบแล้วผู้รักษา อุโบสถศีลพึงพักผ่อน ตามอัธยาศัย ด้วย การสนทนาธรรม กันบ้าง ภาวนากัมฐาน กันบ้าง หรือจะท่อง บทสวดมนต์ และ อ่านหนังสือธรรมะ ก็ได้ เมื่อถึงเวลา รับประทานอาหาร กลางวันให้ปฏิบัติให้ เสร็จเรียบร้อยภายใน เที่ยงวัน แล้วพักผ่อน จนถึงเวลาบ่ายหรือเย็น จวนค่ำ แล้วจึงประชุมกันทำวัตรค่ำ ตามแบบนิยมของวัดนั้น ๆ ในภาคบ่ายจนถึงเย็นนี้ บางแห่งทางวัดจัดให้มีพระธรรมเทศนาอีกหนึ่งรอบ พึงนั่งฟังธรรมโดยเคารพอย่าง พิธีตอนเช้า
๗. หากไม่มีพระธรรมเทศนาในช่วงเย็นนี้ พอทำวัตรจบ ผู้ประสงค์จะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน พึงเข้าไปลาพระสงฆ์ ส่วนผู้ประสงค์จะค้างคืนที่วัด ก็ไม่ต้องลา เมื่อถึงอรุณรุ่งวันใหม่จึงบอกลาพระสงฆ์ กลับบ้าน เป็นเสร็จพิธีรักษาอุโบสถศีล
ทำไมจึงกำหนดวันพระขึ้น/แรม ๑๕ ค่ำ เป็นวันพระใหญ่ ดังที่กล่าวแล้วแต่ต้นว่า
...
(หมายเหตุ ดูเสมือนว่า ในเวปเพจนี้ ข้อมูลยังไม่สมบรูณ์ อย่างที่ควรเป็น ซะเท่าไร... )
ในเดือนหนึ่งมีวันพระ ๔ วัน คือ วันขึ้น ๘ ค่ำ ๑๕ ค่ำ วันแรม ๘ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ เฉพาะวันขึ้น ๑๕ ค่ำ และแรม ๑๕ ค่ำ ถือเป็นวันที่ พระภิกษุสงฆ์ จะต้องฟัง พระปาติโมกข์ ตาม พระวินัยบัญญัติ เพื่อให้ง่ายต่อการจำ ท่านจึงเรียกวัน ขึ้น ๑๕ ค่ำ แรม ๑๕ ค่ำ ว่า วันพระใหญ่ เมื่อถึง วันพระใหญ่ดังกล่าว ก็เป็นที่ทราบกันว่า พระสงฆ์ทุกรูปจะต้องประชุมพร้อมกัน เพื่อฟัง พระปาติโมกข์ คำว่า วันพระใหญ่ จึงถูกเรียกขาน กันต่อมาจนถึงทุกวันนี้
วันพระในอดีตกับวันพระวันนี้ที่สังคมเกือบลืม ในอดีต วันพระถือว่าเป็นวันที่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต ของผู้คนในสังคมไทยเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นวันที่ ชาวบ้านหยุดงานกันโดยทั่วไปแล้ว ทางราชการก็ยังกำหนด ให้วันพระเป็นวันหยุดราชการอีกด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้คนไปวัดทำบุญสุนทาน ทำประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งเป็น การส่งเสริมให้คนสน ใจเข้าวัดอบรมจิตใจ มากขึ้น แม้การนับ วันเดือนปี ก็ยังนิยม อาศัยขึ้นแรมเป็นตัว กำหนด นับแทน วันที่อย่างที่ใช้กันอยู่ ทุกวันนี้
ในปัจจุบัน ลองถามเด็กหรือ เยาวชนสมัยนี้ว่า วันไหนเป็นวันพระ หากเด็กคนไหนตอบได้ก็คงต้องชมเชยผู้ปกครอง ว่า สอนลูกหลานมาดี แต่จะมีเด็กสักกี่คนที่ตอบได้ถูกต้อง อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่เองจะรู้ว่าวันไหนเป็นวันพระ ก็ยังต้องอาศัยศีรษะพระเป็นที่หมายรู้ (คือพอเห็น ศีรษะพระที่โกนใหม่ ๆ จึงรู้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันพระ) หากจะ โทษว่าเป็นเพราะกระแสของสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา ผู้คนในสังคมต้องทำงานแข่งกับเวลา จนทำให้ลืมวันโกนวันพระไปชั่วขณะ ขอให้ระลึกไว้ เสมอว่า การพยายามทำตัวเองให้ทันสมัย (ทันสมัยเฉพาะวัตถุ) แต่ไม่พัฒนาจิตใจนั้น อาจกลายเป็นผลร้ายต่อตัวเอง ส่วนรวมและสังคม อย่างไม่น่าให้อภัย
ลองถามตัวเองดูสักนิดว่า วันพระที่จะถึงนี้ ตรงกับ วันที่เท่าไร และท่านจะทำความดีอะไรบ้าง เพื่อตัวเอง และ เพื่อสังคม
#4
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 12:40 PM
ข้าพเจ้า ได้อ่านข้อมูลดีๆ ที่ท่าน นักเรียนอนุบาล Peacefulness ได้ให้มาแล้ว ทำให้เข้าใจวันพระได้มากขึ้นค่ะ
ข้าพเจ้า ต้องขอยอมรับแบบตรงๆเลยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าพเจ้าทำบุญ มาตลอดตามวาระ และ โอกาส แต่ไม่เคยได้เห็นความสำคัญของวันพระเท่ากับวันนี้เลย ข้าพเจ้าคงจะต้องปรับปรุงมุมมองใหม่เสียแล้ว
แต่ยังมีปัญหาอีก 1 ข้อ ที่ยังคาใจ ค่ะ คือ ข้อ3
ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปขอความรู้เพิ่มเติมได้ไม๊คะ คือสงสัยจริงๆคะ
#5
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 12:58 PM
ด้วยความยินดีครับ
อื่มๆ....ไม่ทราบว่า ท่าน Bgood ได้หาโอกาส ชมดู มหัศจรรย์วันพระ โดย ท่านพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ท่านคุณครูไม่ใหญ่) บ้างแล้วหรือยังครับ...
ถ้าหากว่า ท่าน Bgood ยังไม่ได้หาโอกาส ชมดู แล้วอย่างไรก็ตาม...ข้าพเจ้าใคร่อยากจะแนะนำให้ ลองหาเวลา ลองชมดู นะครับ เพราะ ข้าพเจ้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งเลยว่า ความเข้าใจ ต่างๆเกี่ยวกับ วันพระ จะเพิ่มมากขึ้น อย่างชนิดที่เรียกว่า ผิดหู ผิดตา เลยทีเดียวละ จ้า
#6
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 01:33 PM
ข้าพเจ้าขออนุญาต เพิ่มเติมข้อมูลอีกนะครับ
ที่มา คลิ๊กที่นี้
#7
โพสต์เมื่อ 06 January 2007 - 02:20 PM
ยังเลยคะ แต่ดาวน์โหลด ไปแล้วคะ กำลังจะเอาไปศึกษาคะ ขอบคุณมากที่สุดเลยคะ สำหรับความรู้ที่เอื้อเฟื้อให้กับข้าพเจ้าคะ
#8
โพสต์เมื่อ 07 January 2007 - 09:32 AM
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!