มีเรื่องสงสัยอยากถามค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 09:12 PM
1.อยากถามว่าถ้าผู้ชายคนหนึ่งตั้งใจจะบวชลอดชีวิตและถือศีล 8 อยู่เพื่อรอการบวชในอนาคต แล้วอยู่มาวันหนึ่งบังเอิญไปพบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังไม่เคยเข้าวัดและเขาได้พามาวัดและทำให้ผู้ชายคนนั้นเกิดความรู้สึกที่ดีกับผู้หญิงคนนั้นจนผู้หญิงคนนั้นรับรู้ได้แต่ไม่ได้ก่อเหตุหรือวางแผนให้ผู้ชายมารักแต่ก็แอบสงสัยพฤติกรรมของผู้ชายคนนั้นอยู่เหมือนกันแต่ด้วยความสนิทที่มีมากขึ้นก็ทำให้ผู้หญิงรู้สึกดีและรับรู้ได้แต่ก็ไม่เคยแสดงออกอะไรเลยแม้แต่น้อยและไม่เคยคิดทำลายหนทางพระนิพพานเลย และยังคิดสนันสนุนอยากให้บวชด้วยซ้ำ และก็ไม่คิดอะไรไปมากกว่าความเป็นมิตรที่ดีเพราะเคยผ่านประสบการณ์เรวร้ายเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้มามากจึงทำให้อยากเข้าวัดเพื่อหาที่พึ่งทางใจ จึงสอนตัวเองอยู่เสมอเพราะไม่ต้องการทุกข์ใจอีก อยากรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้มีใครผิดหรือถูกหรือไม่ที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
2.อยากรู้ว่าการที่ผู้ชายคนนี้มาทำดีกับผู้หญิงคนนี้มากมายจนทำให้เขารู้สึกถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่ไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ ครู-อาจารย์เลยเพราะคิดว่าผู้ชายคนนี้ให้หนทางสว่างแก่ชีวิต เหมือนกับผู้ให้ชีวิตใหม่กับเขาอีกคนหนึ่งไม่ต่างอะไรกับพ่อแม่ผู้ให้กับเนิดเขาเลยแม้แต่น้อยเมื่อผู้ชายคนนี้ยิ่งทำดีกับเขามากเท่าไหร่ความรู้สึกดีและบุญคุณที่ต้องตอบแทนก็มีมากขึ้นเท่านั้นแต่การที่ผู้หญิงคนนี้เห็นเขาป่วย เห็นเขาเหนื่อยในบางครั้ง เห็นเขามีเรื่องไม่สบายใจในบางครั้งแสดงออกมาให้เห็นจนผู้หญิงคนนี้ไม่สบายใจคิดอยากช่วยเหลือและแสดงออกถึงความห่วงใยมาเป็นคำพูดและสายตาที่ไม่ใช่การยั่วยวนแต่เป็นการสือให้รู้ว่าสงสารอยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยได้อย่างไรอย่างนี้แล้วถือว่าผู้หญิงคนนี้ผิดหรือไม่ที่ห่วงใยคนที่มีบุญคุณกับเขา
3.เมื่อผู้ชายคนนี้ต้องการบวชตลอดชีวิตก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือศีลแปดมาทำหน้าที่ดูแลกำกับชีวิตเกือบทุกขั้นตอนรวมถึงการที่ผู้ชายคนนี้พาเพื่อนผู้หญิงมาวัดด้วย จากการที่ผู้ชายคนนี้มีนิสัยการเป็นผู้ดูแลที่ดีเขาจะดูแลทุกคนได้ดีมากหาข้อบกพร่องไม่ได้เลยบางครั้งดูดีจนทำให้ผู้หญิงที่ถือศีล 8 ที่ทำหน้าที่ดูแลเขาอยู่คิดหวาดระแวงผู้หญิงทุกคนที่เขาพามาวัดและหาโอกาสต่อว่าทั้งต่อหน้าและลับหลัง ให้ผู้หญิงคนอื่นเสียหายโดยที่ยังไม่มีสิ่งใดที่เรวร้ายเกิดขึ้น โดยใช้คำพูดที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนถือศีลต่อหน้าเขาต่อหน้าบ้าง ลับหลังบ้าง ทางโทรศัพพ์ไปว่าที่บ้านทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลยก็มีแบบนี้คนถือศีล 8 จะมีวิบากกรรมอะไรบ้าง
4.และเมื่อผู้หญิงที่ถูกต่อว่าไม่มีจิตคิดร้ายกับผู้ชายคนนั้นเลยถูกต่อว่ารุนแรงมากๆเข้าก็ทำให้เสียใจและเสียความรู้สึกมาก
ครั้งหนึ่งตอนยังไม่เกิดเหตุร้ายแรงที่เขามาวัดใหม่เขารู้สึกเป็นมิตรมากรู้สึกดีมากทำให้มองโลกในแง่ดีและทำให้ผลการนั่งสมาธิของเขาดีมากจากที่ไม่เห็นสิ่งใดเลยนอกจากความมืดและปวดหัวจนวันหนึ่งใจเขาหยุดนิ่งได้ ความสว่างก็ปรากฏแผ่ขยายไปทั้งร่างกาย ความเยือกเย็นก็ครอบคลุมแผ่ไปทั้งร่าง แต่เมื่อเขาถูกคนถือศีล 8ต่อว่าคุกคามหนักเข้าทำให้เขารู้สึกเสียใจเสียความรู้สึกและหมดความเคารพในคนถือศีล 8 และหลังจากนั้นเขาก็นั่งสมาธิด้วยน้ำตามาตลอด 1 ปีเศษและเขาก็พบกับความมืดในการนั่งสมาธิอีกครั้งทำให้เขาเสียดายกับความสำเร็จที่เขาทำได้เป็นอย่างมากและรู้สึกเกลียดคนถือศีลแปดมากเกิดจิตคิดร้ายในใจตามมาคิดในสิ่งที่ไม่ดีกับคนศีล 8 อยากรู้ว่าผู้หญิงศีล 5จะมีวิบากกรรมอะไรบ้างและควรแก้ไขอย่างไรดีที่สุดเพราะทุกครั้งที่เจอคนถือศีล 8 เขาจะถูกเหน็บแนมต่อว่าให้รู้สึกเสียใจเพราะเขาคาดหวังความจริงใจและมีเมตตาจิต
จากคนมีศีลไว้สูงมากแต่เมื่อผิดหวังก็รู้สึกแย่มากเช่นกัน จำส่งผลวิบากกรรมเช่นไรทั้ง 2 คน
5.อยากรู้ว่าหากผู้ให้กำเนิดผู้ชายคนนั้นเขาเคยต้อนรับผู้หญิงศีล 5 คนหนึ่งดีมากด้วยเหตุผลประการใดไม่ทราบเช่นกัน
แต่แล้วมาวันหนึ่งเมื่อเขาได้รับฟังข้อมูลด้านเดียวของคนถือศีล 8 ที่เขาใว้ใจให้ดูแลผู้ชายคนนั้นและก็เชื่อตามความนั้นโดยขาดการไตร่ตรองและเหตุผลตามหลักธรรมที่ควรเป็น เพราะเขาต้องการให้ผู้ชายคนนั้นบวชจึงทำตามคำแนะนำของคนถือศีล 8 ทุกอย่างและมาแสดงให้ผู้หญิงศีล 5 คนนั้นรู้ภายหลังโดยการกีดกันทำให้ผู้หญิงศีล 5 มาใหม่เสียใจมากเช่นกันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเสียใจกับสิ่งที่ได้รับนี้จากคนมาสร้างบารมีด้วยกันจนรู้สึกแย่มากแต่น้อยกว่าคนถือศีล 8 เพราะรู้ว่าเป็นธรรมดาผู้ให้กำเนิดย่อมรักและห่วงบุตรของตน แต่ก็อดเสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้นไม่ได้และถูกปิดกั้นโอกาสในการอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างจึงทำให้ผู้หญิงศีล 5 ต้องดึงตัวเองออกมาเพราะรู้ว่าเขาไม่จริงใจด้วยเลยเนื่องจากเสียใจมากและคิดว่าหากทนต่อไปจะทำให้การตั้งใจมาวัดไม่มีประโยชน์อันใดนอกจากบุญก็ไม่ได้แล้วบาปก็จะเกิดขึ้นติดตัวไปอีกจึงหาโอกาสออกมาเสีย จนวันหนึ่งพบกับพระอาจารย์ที่รู้จักความเศร้าหมองจากเหตุการณืที่เกิดขึ้นบวกกับปัญหาที่มีอยู่ส่วนตัวทำให้พระอาจารย์สังเกตุเห็นและเมตตาเอ่ยถามเธอจึงบอกว่ามีเหตุไม่สบายใจจากคนที่ไม่มีความจริงใจกับเธอ แต่เอยังคงต้องเจอกับเขาอยู่เพราะยังหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงเป็นเช่นนี้แล้วพระอาจารย์ท่านก็เมตตาบอกว่าเมื่อเขาไม่จริงใจก็ออกมาดีกว่าอย่าไปยุ่งเลยและเธอก็ทำตามนั้น สิ่งที่เธอทำลงไปและพระอาจารย์ท่านแนะนำนั้นมีทางออกใดที่ดีกว่านี้อีกหรือไม่
6.ในใจผู้หญิงที่ถือศีล 5 เธอระลึกถึงสิ่งที่เป็นบุญคุณอยู่ตลอดเวลาที่เธอได้รับจากผู้ชายคนนั้นและผู้ให้กำเนิดเขานั้นด้วย รวมถึงคนที่ถือศีล 8 ที่คอยช่วยเหลือเธอตามคำไหว้วานของผู้ชายคนนั้นที่สั่งให้ดูและผู้หญิงศีล 8 แทนเขาเวลาที่ไม่เจอกัน
ซึ่งคนถือศีล 8 ทำหน้าที่นั้นแล้วก็บ่นว่าให้คนถือศีล 5ฟังเสมอเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้เต็มใจทำหน้าที่ดูแลเธอเลยแต่ไม่อยากขัดใจผู้ชายคนนั้น ซึ่งทำให้ผู้หญิงศีล 5 สงสัยว่าในเมื่อเขาก็ถือศีล 8 แล้วทำไมเขาไม่มีความจริงใจเอาเสียเลย ในเมื่อเขาไม่ชอบไม่อยากทำทำไมเขาไม่พูดตรงๆทำไมต้องทำหน้าอย่างหลังอบ่างแบบนี้ด้วย แต่เธอก็พูดไม่ได้และยอมทำตามคนเหล่านั้นเพราะไม่อยากเป็นคนดื้อถือตัว เพราะคิดว่าไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นต้องเสื่อมเกียรติเพราะตัวเองจึงยอมอดทนต่อไป
แต่ในใจก็รู้สึกแย่กับคนถือศีล 8 มาตลอดและรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นส่งเธอมาให้คนถือศีล 8 ทำร้ายเธอทำไม เธอหมกมุ่นกับคนถือศีลแปดนั้นมาตลอดจากคนที่ปล่อยวางอะไรได้ง่ายๆกับกลายเป็นคนคิดร้ายเพราะรู้สึกว่าทำไมตนต้องมาเจอคนแบบนี้และรู้สึกว่าตนกำลังถูกทำร้ายอย่างไม่มีทางต่อสู้ได้เลย จึงคิดอยากออกไปให้พ้นคนแบบนี้ แต่ก็ยังไม่พ้นเสียทีและสิ่งที่ตามมาคือเมื่อคิดไม่ดีก็ไม่สบายใจเกิดทุกข์ และทำให้ไม่อยากไปวัดเพราะไปก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่พบกับคนนี้ได้ยากมากเนื่องจากถูกวางระบบไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว จึงหนีไม่พ้นความทุกข์แต่ก็รู้สึกผูกพันกับวัดมาก แต่ไปวัดกลับมาก็ร้องให้จนทำให้เริ่มไปวัดน้อยลงเพราะไม่อยากทุกข์ใจและมีบาปกลับบ้าน อยากรู้ว่ากรณีแบบนี้คนที่ถือศีล 5 และศีล 8 จะมีวิบากกรรมอย่างไรและควรแก้ไขอย่างไรดีที่สุด
7.อยากรู้ว่าจะทำอย่างไรดีเมื่อรับไม่ได้อีกต่อไปแล้วกับสิ่งที่ผู้หญิงศีล 5เธอได้รับจากคน 3 คนข้างต้นนี้ที่มาในรูปของผู้มีพระคุณทำให้เธอเห็นประตูระหว่างสวรรค์บนรก ตกลงเขาจะช่วยให้เธอไปสวรรค์หรือนรกกันแน่ และในความรู้สึกแย่เธอก็มีความรู้สึกดีคือบุญคุรและความดีที่ได้รับในครั้งแรกทำให้เธอลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้ยากมาก ทั้งๆที่อยากลืมและอยากเอาธรรมะที่ได้นั้นกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด แต่เธอก็ถูกกีดกันปิดกั้นโอกาสตอบแทนคุณและถูกมองด้วยสาตาเหมือนคนที่ไม่รู้จักคุณคนของเขา 3 คนแล้วในขณะนี้เมื่อเป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำอย่างไรดี
8.เหตุผลที่เธอต้องการแยกตัวออกมาเพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเธอตามมาหากยังทนนิ่งเฉยทำไม่รู้อะไรต่อไปเพราะคนถือศีล 8 พูดตอกย้ำผู้ชายและผู้ให้กำเนิดเขาคนนั้นอยู่เสมอว่าไม่ให้ไว้ใจใครคนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ เข้าวัดมาก็หวังจับผู้ชายบ้าง หวังรวยทางลัดบ้าง ชอบแต่งตัวยั่วยวนบ้าง(ทำนองนี้) ต่อหน้าเธอเพื่อต้องการให้เธอรู้ตัวไว้มาโดยตลอด แม้แต่บางครั้งที่เขาชวนเธอไปทำบุญสร้างกุศลเธอก็จะถูกเหน็บแนมต่อว่าได้ทุกครั้ง เมื่อเธอได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องกฏแห่งกรรมและผลของกรรมทำให้เธอรู้สึกกลัวและไม่สบายใจที่จะทนต่อไปอีก และในส่วนลึกของความรู้สึกเธอต้องการสนับสนุนให้ทุกคนสร้างบารมีได้อย่างสะดวกสะสบาย ไม่ต้องมีวิบากกรรมหรือทำตัวเป็นพญามารอะไรทั้งสิ้นและไม่ต้องการมารบกวนหนทางสร้างบารมีของทุกคน เธอต้องการเห็นตัวเองมีความสุขที่แท้จริงและทุกๆคนด้วย เธอไม่เคยคิดไปแย่งบุญใครหรือไปทำเด่นเกินหน้าตาใครเลย เธอไม่เคยคิดทำเสนห์ให้ใครมารักแต่เพราะเธอไม่ใช่คนสวย คนรวย หรือคนเก่ง แต่เธอเป็นคนซื่อๆตรงๆและ
ที่สำคัญเธออยากเป็นคนดีให้มากที่สุดเพื่อตัวเธอเองจะได้มีโอกาสหลุดพ้นจากการเวียน ว่าย ตาย เกิดได้ง่ายขึ้นและไม่อยากสร้างกรรมให้มีวิบากตามมาให้เธอเป็นทุกข์เหมือนเช่นก่อนหน้าที่เธอจะมีโอกาสมาวัดเพื่อเรียนรู้สิ่งนี้ที่เธอตามหามานาน แต่แล้วเธอก็พ่ายแพ้แก่พญามารอีกครั้งที่เธอไม่สามารถเอาชนะพญามารที่มีในใจตัวเองได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้วยความดีคือความอดทนอดกลั้นต่อปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นนั้นได้เพราะเธอรู้ตัวดีว่ายังเป็นปุถุชน และเมื่อเขาคิดว่าเธอเป็นมารเธอก็พร้อมเสมอที่ออกมาจากชีวิตเขา แต่เธอไม่คิดว่าเขาคืออะไรแต่เธอคิดว่าเขาทำร้ายเธอทำไม????? เขาพากันอุ้มเธอมาและให้ความสนิทสนมจนรู้สึกผูกพันเหมือนพ่อแม่พี่น้องที่มีจิตเมตตาต่อกันเหมือนฝันที่เป็นจริงที่เธอตามหาอยู่และคิดว่ามันคงไม่มีในโลกนี้ที่จะได้เจอกับคนที่ดีมีเมตตา แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็คิดว่าเธอเจอแล้วและนั่นไม่ใช่ความฝัน ในโลกนี้ยังมีคนดีอยู่มากมายเธออย่ามองโลกแง่ร้ายไปเลยศรัทธาเขาเถิด แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อความไม่ระมัดระวังที่มีมากเกินไปเกิดขึ้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไป......เมื่อวันหนึ่งที่ทุกคนมาถึงทางตันทุกคนก็เลือกที่จะผลักให้เธอตกลงนรกเหมือนเดิม รวมทั้งผู้ชายคนนั้นที่เขาต้องเลือกผู้ให้กำเนิดและผู้ที่เขาไว้ใจมากกว่าเธอ............เรื่องนี้คงไม่แปลกสำหรับผู้ผ่านโลกมามากแต่มันแปลกมากสำหรับเธอที่มาจากบ้านนอกและซื่อตรงเกินไป เธอลืมนึกไปว่าทุกคนยังมีกิเลสอยู่ ถึงแม้หนังสือพระอานนท์พุทธอนุชาที่เธอได้ยืมทางวัดมาอ่านนั้นจะเป็นเพียงนวนิยายอิงธรรมะ แต่เธอก็ถือเอาเป็นที่พึ่งที่คอยเตือนสติเธอมาตลอดได้เป็นอย่างดี แต่สุดท้ายเธอก็หลงไปกับภาพลวงตาและนิสัยชอบมองโลกแง่ดีจนเกินไปและคิดว่าเขาเหล่านั้นมีความบริสุทธิ์ จริงใจ และเมตตาเธออย่างแท้จริง เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นมาด้วยดีและจบลงอย่างไม่สวยงามคำถามจึงเกิดขึ้นกับเธอว่า...........แล้วต่อไปเธอควรจะทำอย่างไรดี คำถามนี้ความจริงเธอรู้คำตอบอยู่ว่าที่จริงเธอไม่ควรทำเธอเป็นคนก้าวร้าวเมื่อเจอเรื่องร้ายๆแต่เธอก็มีนิสัยอย่างหนึ่งที่บอกกับผู้ชายคนนั้นมาตั้งแต่ต้นคือเธอเกลียดคนที่ไม่จริงใจมากที่สุด เมื่อใดก็แล้วแต่ที่เธอเจอคนประเภทนี้เธอจะไม่เข้าไปยุ่งด้วยเลย สิ่งนี้เองที่เธอยังปล่อยมันลงไม่ได้เลยทำให้เธอหาคำตอบให้ตัวเองที่ดีไม่ได้ทั้งๆที่เธอควรทำในสิ่งที่ดีเท่านั้นแต่เธอก็ยังทำใจไม่ได้ ขอความเมตตาจากทุกท่านช่วยแนะนำเธอด้วยเถิด หากแต่สิ่งที่เธอได้พบนั้นมีมากกว่าที่จะนำมากล่าวในที่นี้ และอยากรู้ว่าวิบากกรรมที่คิดร้ายต่อคนถือศีลแปดจนบางครั้งพูดออกมาไม่ดีจะส่งผลอย่างไรต่อเธอบ้าง โปรดช่วยแนะนำเธอด้วยค่ะตอนนี้เธอไม่ต้องการกลับไปพบกับคนเหล่านั้นอีกแต่ก็บังเอิญต้องเจอกัน และเธอก็ไม่มีนิสัยชอบสวมหน้ากาก แต่ก็รู้สึกขัดกับคำสอนเรื่องความอดทนอดกลั้นเพื่อเพาะบ่มนิสัยความเป็นบัณฑิตนักปราชญ์เช่นเดียวกัน เธอยังใหม่อยู่และอ่อนต่อโลก เธอไม่มีพี่เลี้ยงคอยเสี้ยมสอนแนะนำเ และส่วนหนึ่งเธอก็ยังเอาชนะพญามารในใจเธอยังไม่ได้ จึงมีความรู้สึกที่ดีและไม่ดีสลับสับเปลี่ยนกันไปมาตลอดเวลา เธอเองก็อยากเอาชนะพญามารเช่นกัน เธอทุกข์และเจ็บมามากแล้วเธออยากพักเสียที เธอคิดเสมอว่าหากวันหนึ่งที่เธอแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ความ
หวังที่เธอจะเอาธรรมะนั้นที่ขาดหายไปกลับมาใหม่คงไม่ยาก หากวันนั้นหัวใจเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดีและมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และอภัยให้กันได้มากกว่าที่เป็นอยู่เหมือนครั้งหนึ่งในชีวิตที่เธอเคยทำได้และก็เลือนหายไปในวันเด็กที่เธอยังไม่มีโอกาสเรียนรู้โลกภายนอกมากมายนัก ที่สำคัญเธอรับไม่ได้กับการเป็นคนไม่รู้คุณคนเลยถึงแม้จะรู้สึกแย่มากก็ตามแต่เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะเวลานี้เขาพูดว่าเธอจะไปทำบุญกับใครก็ไปได้เลยไม่ต้องมาทำกับเขาก็ได้ด้วยความไม่พอใจ......เธอผิดด้วยหรือที่เธอเป็นห่วงคนที่มีบุญคุณกับเธอ เธอผิดด้วยหรือกับการที่ต้องการกลีกเลี่ยงการสร้างกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้นซึ่งกันและกัน เธอผิดด้วยหรือที่รู้ทันความรู้สึกของผู้ชายคนนั้นและต้องการแยกตัวออกมาเพราะตัวเองก็ต้องการสร้างบุญเพื่อหลุดพ้นและไม่อยากให้เรื่องเรวร้ายเกิดขึ้นซ้ำอีก หากคนถือศีลแปดไม่ไว้ใจเธอซึ่งเป็นผู้หญิงแล้วผู้นำบุญเป็นผู้ชายอย่างนี้แล้วการบวชที่มีอุบาสิกาเป็นผู้หญิงจะไว้ใจได้หรือ การทำบุญที่มีญาติโยมผู้หญิงสวยๆงามๆความรู้ดี ฐานะดีกว่าเธอที่มาวัดกันมากมายที่คอยซักถามปัญหาทางโลกและทางธรรมจะทำให้เขาผู้คิดจะบวชตัดใจไม่คิดเรื่องกามคุณได้หรือ ในโลกนี้มีคนที่สามารถบังคับความคิดหรือความรู้สึกในใจของผู้อื่นได้หรือ???????????? ขอคำตอบด้วยค่ะเธอจะได้รับบุญใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้าด้วยความสดใสเสียที และเมื่อหากต้องเจอในสิ่งที่ไม่อยากเจอเธอจะได้ทำตัวได้ถูกต้องเสียที ขอบคุณค่ะ
****เธอทำบุญทุกบุญและให้ทุกคนมีส่วนร่วมในบุญกับเธอเสมอ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาให้ และอฐิษบานจิตว่าหากเขาเหล่านั้นไม่ได้มีความจริงใจและเมตตาต่อเธออย่างแท้จริงแล้วขอเธอและเขาอย่าได้พบเจอกันอีกเลยขอให้ต่างคนต่างสร้างบารมีในวงบุญพระเดชพระคุณหลวงปู่ด้วยความสุขกาย สุขใจต่างคนต่างอยู่ แบบนี้จะดีหรือไม่และควรอฐิษฐานต่อหรือเปล่า****
#2
โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 09:57 PM
ขอตอบในมุมมองที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์การณ์จริง เพียงวิเคราะห์จากข้อมูล ที่นำเสนอเท่านั้น นะครับ
คุณรู้ว่า
เขาอยู่ในเส้นทางประพฤติพรหมจรรย์
ยิ่งเมื่อคุณทราบว่า
เขารู้สึกดี ๆ (มากกว่าการทำหน้าที่กัลยาณมิตร หรือเปล่า ? ) กับคุณมาก
ยิ่งเจอมรสุมความเข้าใจผิดจากคนอื่น โดยเฉพาะมารดาของเขา
และคุณเองก็ทุกข์ใจด้วย
จากข้อมูลนี้ ขอตอบรวม ๆ ว่า
ไม่มีเขา คุณก็สร้างบารมีได้ ครับ
ชาย หญิงใกล้ชิดกัน ทำความดีให้กัน มีเศร้าก็โอ๋กัน โอกาสถลำใจ มากกว่าเป็นกัลยาณมิตร มีนะครับ
และการกระทบกระทั่งกับบุคคลที่รักษาศีลมากกว่า เรา
แง่กฎแห่งกรรม คุณเสียหายกว่านะครับ
อย่าสนใจเลยว่า คนรักษาศีล ๘ จะเคยพูดอย่างไร สร้างภาพไม่ดีให้คุณอย่างไร จะมีวิบากกกรมอย่างไร
เรื่องของเขา
ดังนั้น คุณควรปรับระยะห่างจากเขา นะครับ
ถือซะว่า ตัดวงจรวิบากกรรมวันนี้และวันหน้า
อย่าคิดว่า หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังจำเป็นต้องเจอกัน
ชีวิต คุณ คุณออกแบบได้นี่ครับ
ถ้าคุณได้ทำ คุณก็ทำได้
ถ้าคุณทำได้ ชีวตการสร้างบารมีของคุณ และเขา ก็จะเจริญขึ้น
แม้ช่วงแรกจะทรมานใจ แค่ไหน ก็อด ทน เถอะครับ
ไม่งั้น ชีวิตนี้ และชีวิตชาติหน้า คุณต้องมาซ่อมบารมี กับเรื่องพวกนี้
เสียเวลา เสียโอกาสในการบำเพ็ญบารมียิ่ง ๆ ขึ้นไปครับ
ถ้าผมเข้าใจอะไรผิด หรือพูดในสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจ
ผมขออภัยทาน ด้วยนะครับ
ปรารถนาดี มิได้ปรารถนาร้าย
ปรารถนาให้คุณเจริญในธรรม
มิได้ปรารถนาให้คุณ เสื่อมจากธรรม ครับ
#3
โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 10:19 PM
#4
โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 10:21 PM
แต่สรุปว่า ทุกคนก็มีกิเลสนะครับ ไม่ว่าจะศีล 5 ศีล 8 ศีล10 ศีล 227
อย่าไปมัวเพ่งโทษคนอื่นเลยนะครับ สนใจตัวเองดีกว่าครับ สั่งสมบุญติดตัวไปเยอะๆ นิสัยอะไรที่ไม่ดี ก็ลด ละ เลิก ให้ได้ในชาตินี้ จะดีกว่าไม๊ครับ
#5
โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 11:47 PM
หยุดพูด
หยุดทำ
หยุดในหยุด
"หยุด" เป็นตัวสำเร็จ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#6
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 12:49 AM
ความใกล้ชิดระหว่าง ชายหญิงผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่บังควรเพราะอาจทำให้เผลอใจ และอกุศลเข้าสิงจิตได้
หยุดในหยุด
หยุดเป็นตัวสำเร็จค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 01:02 AM
แต่อยากบอกว่า "หยุด" เป็นตัวสำเร็จ หยุดง่ายที่สุด หยุดที่ตัวเองก่อนค่ะ สมาชิกท่านอื่นได้ให้ความเห็นไว้ดีแล้วค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 07:57 AM
ปฏิบัติตามเดิมสิคะ ศีลห้าที่ถืออยู่ก็ถือต่อไปค่ะ จะขยับขึ้่นมาถือศีลแปด ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ นั่งธรรมะให้ถี่กว่าปกติเลยคะ ใจจะได้ละเอียดมากขึ้น แปบเดียวก็คิดได้ด้วยตัวเองคะว่าต้องทำอย่างไร
ตรงที่ว่าต้องไปวัดแล้วไปเจอบุคคลผู้นี้ โดยเลี่ยงไม่ได้ เพราะถูกจัดระบบไว้แล้ว หมายความว่างัยคะ
#9
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 09:09 AM
#10
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 10:39 AM
#11
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 11:33 AM
หยุด ได้แล้วน้องเอ๋ย
ปวดกะโหลก
ก้อลำบากใจมาก ก้อเลิกติดต่อไปเลย ไม่เห็นจะแปลก บุญคุณส่วนบุญคุณ เก็บไว้ทดแทนวันหลังก้อแล้วกัน วันนี้ไปทำใจให้สบายก่อนปะ เลิกคิดมากเรื่องชาวบ้าน ว่าใครเขาจะคิดยังไง แล้วก็เลิกเอาคำพูดชาวบ้านมาทบทวนตอกย้ำให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่ได้แล้ว ที่น้องมาโพสท์เนี่ย พี่บอกตรงๆ ว่าไม่ได้อ่านหรอก เพราะเห็นแล้วก็รู้เลยว่าเรื่องมันก็แค่เรื่องของคนมีกิเลส
ยังเด็กจงฟังไว้ให้ดี
ออกห่างมาเสีย เลิกติดต่อไปเลย หากเดินเจอกันก็แค่ยกมือไหว้ จบ... ที่เหลือ ไปหยุดใจตัวเองซะ เลิกพร่ำเพ้อพิไรรำพันเสียที ไม่เกิดประโยชน์ ทำให้คนรอบตัวรำคาญไปด้วยนะ
จบข่าว
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#12
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 12:22 PM
#13
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 12:50 PM
1. เจ้าของกระทู้จะได้ชื่อว่า หลีกห่างออกจากเรื่องนี้โดยอัตโนมัต เพราะไปอยู่เชียงใหม่เกือบเดือน ขาดการติดต่อกันขนาดนี้ ก็เท่ากับเลิกติดต่อไปโดยปริยาย
2. เจ้าของกระทู้จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ จะที่ที่เคยคุ้นเคย ไปสู่บรรยากาศใหม่ ทำให้ลืมเรื่องค้างๆ คาๆ ในใจได้โดยง่าย สมัยผมยังไม่เข้าวัดจริงๆ จังๆ เวลามีเรื่องทุกข์ใจหนักๆ มาก ผมก็จะหยิบนิยาย มังกรหยก ขึ้นมาอ่าน อ่านไปอ่านไป มันก็จะตัดความย้ำคิดย้ำทำในเรื่องทุกข์ๆ นั้นได้ไปโดยอัตโนมัต อ้าว นี่ไม่ได้แนะนำให้อ่านนิยายนะครับ เพียงแค่อธิบายให้ฟังว่า เปลี่ยนเรื่องดู เปลี่ยนเรื่องพูด มันก็เปลี่ยนเรื่องคิดได้
3. เจ้าของกระทู้ก็จะได้ปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ เป็นเดือนทีเดียวล่ะครับ จะบอกให้
#14
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 12:52 PM
#15
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 02:06 PM
ตั้งต้นชีวิตใหม่โดยลองหากลุ่มเพื่อนนักสร้างบารมีกลุ่มใหม่ที่จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้น ดีกว่ามาทนทุกข์กับสิ่งที่คุณเองก็แก้ไขอะไรไม่ได้
ไม่แน่นะครับ คุณอาจพบกับเพื่อนใหม่ที่ทำให้การสร้างบารมีของคุณไปไกลกว่านี้ มีความสุขกว่านี้
ขอฝากบทกลอนมาให้ลองอ่านดูครับ
มายา
วันชื่นคืนสุข วันทุกข์คืนเศร้า
เร่งรีบเต้นเร้า โลดแล่นกันไป
วันนี้ก็วันหนึ่ง พอตื่นขึ้นก็วันใหม่
ผลันเปลี่ยนเวียนไป มีสิ่งใดจะยาวนาน
ดิ้นรนให้ได้มา ปรารถนาสุขสำราญ
วันคืนก็ผลันผ่าน เหตุการณ์ก็ผ่านไป
ทุกสิ่งล้วนชั่วคราว จะร้าวรานไปถึงไหน
สิ่งหนึ่งเมื่อผ่านไป เพื่อสิ่งใหม่ได้ผ่านมา
ใยเลยจึงยึดมั่น ผูกพันกับมายา
ดับกิเลสกันเถิดหนา แล้วเปิดดวงตา...แสวงหาสัจจธรรม
#16
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 08:18 PM
#17
โพสต์เมื่อ 15 September 2008 - 12:56 PM
รักบุญ เชื่อในบุญ
mata072 windowslive.com