ไปที่เนื้อหา


- - - - -

สอบถามปัญหาทางธรรม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *ณัฐธิดา*

*ณัฐธิดา*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 31 October 2005 - 03:08 AM

สวัสดีค่ะต้องขอโทษด้วยนะค่ะที่มีคำถามมาถามอีกแล้วถ้าเราสะสมบุญกับหลวงพ่อทุกบุญถึงแม้ว่าเวลาเรานั่งธรรมะถ้าทั้งชาตินี้เราไม่มีบุญพอที่จะเห็นพระธรรมกายในตัวเราเราก็ยังได้บุญแล้วยังได้ไปดุสิตบุรีใช่ไหมค่ะ

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 31 October 2005 - 01:00 PM

มีเคส Study หลายเคส ที่ยังปฏิบัติธรรมไม่เข้าถึง พระธรรมกาย แต่สามารถไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษได้ครับ ล่าสุด ก็เคยทำบุญกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ และคุณยาย จากนั้น เมื่อคุณยาย ย้ายมาวัดพระธรรมกาย ยังตามมาทำบุญ ช่วงแรกๆ แล้วก็หายไปหลายปี มาอีกทีตอนติดจานดาวธรรมที่ 2547 แล้วดู 24 ชั่วโมง เลยปีนี้ 2548 สามีตาย ยังไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้เลยครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 sithman

sithman
  • Members
  • 48 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 October 2005 - 02:27 PM

ต้องหมั่นนึกถึงบุญบ่อยๆ และ อธิษฐาน ให้ได้ไปน่ะครับ
ทำบ่อยๆให้เป็นนิสัย เป็นเรื่องไม่ยาก ครับ
ถ้าเรามีปนิธานจะติดตามท่านไปจริงๆ ท่านไม่ทิ้งหรอก
แม้พลั้งพลาดไปอยู่ดาวดึงส์ ท่านยังไปเอาขึ้นมาเลย ฮ่ะๆ
ขอให้ตั้งใจจริงเท่านั้นแหละครับ สำเร็จ...

#4 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 02 November 2005 - 08:43 PM

nerd_smile.gif อย่าคิดท้อแท้สิครับ เพราะหากเรามีความเพียรจริงแล้ว อย่างไรเสีย ของจริงก็ย่อมคู่กับคนจริงนะครับ อย่าคิดว่าเราจะทำไม่ได้ ทำไม่เป็นเหมือนอย่างกับคนอื่นเขา ใจคนเราเป็นธาตุสำเร็จ คิดว่าทำได้ มันก็ทำได้ คิดว่าทำไม่ได้ มันก็ทำไม่ได้ ตั้งแต่ที่ใจคิดแล้วล่ะครับ ลองนึกภาพตามนะครับ เปรียบเหมือนใจของเราเป็นเก้าอี้ดนตรี ซึ่งสามารถนั่งได้เพียงคนเดียว แล้วมีผู้ชายสองคน คนหนึ่งชื่อนายสำเร็จ อีกคนหนึ่งชื่อนายไม่สำเร็จ หากเราไปนึกเสียก่อนล่วงหน้าว่า อย่างไรเสียชาตินี้เราก็ไม่มีวันได้รู้ได้เห็นธรรมะเหมือนอย่างกับคนอื่นเขาหรอก เมื่อมีความคิดเช่นนี้ ตัวไม่สำเร็จก็ย่อมได้ขึ้นนั่งบนเก้าอี้ (ใจ) ส่วนตัวได้ ตัวสำเร็จ ก็เป็นอันตกไป มองภาพตรงนี้ให้ชัดนะครับ สำหรับเรื่องของการกลับสู่ดุสิตบุรีวงศ์บุญพิเศษนั้น กำลังบุญในตัวต้องละเอียดพอเหมาะกับการรองรับของภพดุสิตนะครับ แม้ว่าคำอธิษฐานของเราจะดีเพียงใดก็ตาม หากแต่กำลังบุญของเรายังไม่ถึงพอ ความปรารถนาของเราก็ยังไม่สัมฤทธิ์ผลหรอกครับ (ปล.ไม่ได้พูดให้เสียกำลังใจ แต่จำเป็นต้องพูดกันตรงๆ หวังว่าคงเข้าใจนะครับ) ขอยกตัวอย่างตัวของกระผมเองเลยก็แล้วกัน ช่วงบ่ายวันหนึ่ง ได้มีโอกาสไปกราบคุณยายอาจารย์ฉลวย สมบัติสุข กระผมได้เรียนถามปัญหากับท่านว่า คุณยายครับ เป็นไปได้ไหม? ถ้าผมจะอธิษฐานว่า เกิดภพชาติต่อไป ขอให้ผมได้เกิดสร้างบารมีทันกายมนุษย์ของท่านเจ้าคุณหลวงปู่ฯ ท่านนิ่งไปสักพัก แล้วท่านจึงตอบกลับมาว่า คำอธิษฐานของหนูดีนะ แต่บุญในตัวของหนูละเอียดดีพอหรือยัง? ที่จะเจอท่าน (ขอก้มกราบท่าน ยอมรับว่าประโยคหลังนี่ ยายพูดได้โดนใจผมจริงๆ) เพียงเท่านี้ กระผมก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเรียนถามท่านอีก เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จงอย่าเป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในความประมาท เพราะความไม่แน่นอน คือความแน่นอน กระผมเคยเจอมากับตัว ทั้งๆ ที่เขาเหล่านั้นมาสร้างบารมีกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ของเราแท้ๆ แต่ตัวเขาเองกลับตั้งจิตปรารถนาเป็นพระอรหันต์ ขอนิพพานในชาติปัจจุบันก็ยังมีเลย (เพราะฉะนั้น จึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ ที่จะได้กลับสู่ดุสิตบุรีวงศ์บุญพิเศษ) หากจะอุปมาไป ก็เหมือนกับนักเรียนที่สามารถสอบผ่านเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ แต่ทั้งๆ ที่เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ทำไม??? บางคนเรียนจบสามปีครึ่ง บางคนสี่ปี (นี่ตามเกณฑ์ส่วนใหญ่) บางคนห้าปีหกปี หรือแม้กระทั่งแปดปีก็ยังมีเลย นี่เพราะอะไร??? เพราะการกระทำของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วเรื่องของการ part ชั้นขึ้นมา โดยที่ท่านเจ้าคุณหลวงปู่ฯ ท่านไปช่วยเอาขึ้นมานี่ ก็ไม่ใช่ทุกรายนะครับ เพราะหากท่านตรวจธาตุธรรมดูแล้ว เห็นว่ายังไม่เหมาะสม (อาทิ มีธาตุธรรมที่สกปรก เป็นต้น) ท่านก็ยังไม่ช่วยเอาขึ้นมาไว้บนดุสิตฯ หรอกครับ.
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#5 yokliu

yokliu
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 November 2005 - 06:02 PM

อยากถามคำจำกัดความ ของ นิโรธ กับ มรรค ว่าแตกต่างกันอย่างไร อ่านจากหนังสือหลายเล่ม ก็ก้ำๆกึ่งๆ ไม่เข้าใจซักที ใครรู้ก็ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 05 November 2005 - 12:28 AM

nerd_smile.gif จำง่ายๆ นะครับ คำว่า "นิโรธ" เป็นไวพจน์ (หมายถึง คำที่มีความหมายพ้องซึ่งกันและกัน) ของคำว่า "นิพพาน" อันหมายถึง ความหลุดพ้นจากกองกิเลส อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ส่วนคำว่า "มรรค" หมายถึง มรรคาหรือหนทาง อันจะนำไปสู่ความวิมุตติหลุดพ้นนั้น.
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#7 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 09 November 2005 - 10:25 PM

ทำการบ้านของหลวงพ่อทุกวัน

#8 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 09 December 2005 - 07:42 AM

Every boon that LP tell us to do it's speceielt for this purpose...to help us get back to Dusitburee. So don't miss any boon na kah!
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#9 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 08:28 AM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ