เนื้อหาจาก usr20351
ค้นพบทั้งสิ้น 83 รายการโดย usr20351 (จำกัดการค้นหาจาก 29-April 23)
โดยประเภทของเนื้อหา
ดูสมาชิกนี้'s
#115479 รับบุญพิมพ์ข้อมูลหนังสือภาษาบาลี สร้างปัญญาบารมี
โพสต์เมื่อ โดย
บน 17 July 2008 - 06:53 PM
ใน
ข่าวประชาสัมพันธ์
สาธุครับ
#115478 ใครมีแหล่งข้อมูล"พุทธศาสนาในต่างประเทศ"ช่วยด้วยค่ะ
โพสต์เมื่อ โดย
บน 17 July 2008 - 06:47 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
สาธุ ดีครับดี
#115465 ภาคใต้ประกาศหยุดยิง !!??
โพสต์เมื่อ โดย
บน 17 July 2008 - 04:49 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
ถ้าเป็นความจริงก็น่ายินดี ถึงแม้จะประกาศยุติก่อเหตุความไม่สงบ
แต่ยังไงก็ตามวิบากกรรมที่พวกเขาก่อไว้ ก็ไม่มีวันยุติ พวกเขาต้องได้รับ
กรรมที่ทำไว้อย่างแน่นอน กรรมที่พวกนี้ก่อไว้ร้ายแรงนัก
คนที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์นี้มีมากแค่ไหน
อยากรู้นัก อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกนี้มาประกาศยุติเหตุการณ์ความไม่สงบ
ฆ่าคนไปตั้งมากมาย เพิ่งจะมาสำนึกอย่างนั้นเหรอ
คนที่ฆ่าคนตายไปมากมาย จิตใจโหด####มขนาดนี้ อะไรจะเป็นหลักประกัน
แน่นอนว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบอีก ทั้งๆที่รัฐบาลเป็นต่อแท้ๆ แต่จาก
เหตุการณที่ผ่านมาเหมือนเป็นรองพวกโจร ทั้งๆที่อะไรก็ได้เปรียบกว่า
ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หรือกำลัง ยังไงก็อย่าเพิ่งชะล่าใจดีกว่า
แต่ยังไงก็ตามวิบากกรรมที่พวกเขาก่อไว้ ก็ไม่มีวันยุติ พวกเขาต้องได้รับ
กรรมที่ทำไว้อย่างแน่นอน กรรมที่พวกนี้ก่อไว้ร้ายแรงนัก
คนที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์นี้มีมากแค่ไหน
อยากรู้นัก อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกนี้มาประกาศยุติเหตุการณ์ความไม่สงบ
ฆ่าคนไปตั้งมากมาย เพิ่งจะมาสำนึกอย่างนั้นเหรอ
คนที่ฆ่าคนตายไปมากมาย จิตใจโหด####มขนาดนี้ อะไรจะเป็นหลักประกัน
แน่นอนว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบอีก ทั้งๆที่รัฐบาลเป็นต่อแท้ๆ แต่จาก
เหตุการณที่ผ่านมาเหมือนเป็นรองพวกโจร ทั้งๆที่อะไรก็ได้เปรียบกว่า
ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หรือกำลัง ยังไงก็อย่าเพิ่งชะล่าใจดีกว่า
#115122 พระพุทธเจ้ามีอยู่ในทวีปอื่นด้วยเหรอครับ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 14 July 2008 - 05:45 PM
ใน
กระทู้ที่น่าสนใจ
ในขณะที่วิทยาศาสตร์กำลังแสวงหาเรื่องเหล่านี้ แต่ศาสนาพุทธกับรู้อะไรไปหมดแล้ว!
แม้ศาสนาพุทธสามารถรองรับความต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่ศาสนาพุทธ
ก็ล้ำหน้าวิทยาศาสตร์ไป อย่างที่วิทยาศาสตร์ตามไม่ทัน
เป็นเรื่องที่ดี ที่ในปัจจุบัน ศาสนาพุทธได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมาก
และมีแนวโน้วว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซะด้วย
แม้ศาสนาพุทธสามารถรองรับความต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่ศาสนาพุทธ
ก็ล้ำหน้าวิทยาศาสตร์ไป อย่างที่วิทยาศาสตร์ตามไม่ทัน
เป็นเรื่องที่ดี ที่ในปัจจุบัน ศาสนาพุทธได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมาก
และมีแนวโน้วว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซะด้วย
#114246 ทำอย่างไรดี
โพสต์เมื่อ โดย
บน 07 July 2008 - 12:48 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
ใช่ครับ ให้นึกถึงบุญ นึกถึงความดีต่างๆที่ทำเอาไว้
#114239 พระสารีริกธาตุ
โพสต์เมื่อ โดย
บน 07 July 2008 - 12:17 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
ใช่ครับ กระดูกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกว่า "พระบรมสารีริกธาตุ" หรือจะเรียกว่า "พระบรมธาตุ"
ก็ได้ครับ แต่นิยมเรียก"พระบรมสารีริกธาตุ"มากกว่า ส่วนของพระอรหันต์เรียกว่า "พระธาตุ"
เช่น พระธาตุพระสารีบุตร เป็นต้น และของพระปัจเจกพุทธเจ้าเรียกว่า "พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า"
และที่ว่ามีคนสวดมนต์ ถือศีล เป็นประจำแล้วมีพระสารีริกธาตุ มาปรากฏก อยู่ในพาน หรือในบ้านของเขา
นั้น มีจริงครับ เช่นของ คุณทองดี หรรษคุณารมณ์ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุเป็นต้น
มีหลายคนครับ ที่มีประสบการณ์ "พระธาตุเสด็จ" ซึ่งขึ้นอยู่กับกรรมในปัจจุบัน และ
กรรมในอดีตด้วยครับ
ส่วน Link นี้เป็นประสบการณ์ "พระธาตุเสด็จ" ของคุณทองดี หรรษคุณารมณ์
ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุครับ
http://www.oknation....t.php?id=183546
การบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยจิตศรัทธา ทำให้ได้อานิสงค์มาก
หากใครมีไว้บูชาถือเป็นสิริมงคล และควรบูชาให้ดี พระบรมสารีริกธาตุเป็นสุดยอดวัตถุมงคล
จะหาวัตถุมงคลไหนมาเทียบพระบรมสารีริกธาตุไม่ได้ และไม่สามารถประเมินค่าได้
เพราะพระบรมสารีริกธาตุเป็นสิ่งเดียว ที่เกิดจากพระวรกายของพระองค์
ก็ได้ครับ แต่นิยมเรียก"พระบรมสารีริกธาตุ"มากกว่า ส่วนของพระอรหันต์เรียกว่า "พระธาตุ"
เช่น พระธาตุพระสารีบุตร เป็นต้น และของพระปัจเจกพุทธเจ้าเรียกว่า "พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า"
และที่ว่ามีคนสวดมนต์ ถือศีล เป็นประจำแล้วมีพระสารีริกธาตุ มาปรากฏก อยู่ในพาน หรือในบ้านของเขา
นั้น มีจริงครับ เช่นของ คุณทองดี หรรษคุณารมณ์ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุเป็นต้น
มีหลายคนครับ ที่มีประสบการณ์ "พระธาตุเสด็จ" ซึ่งขึ้นอยู่กับกรรมในปัจจุบัน และ
กรรมในอดีตด้วยครับ
ส่วน Link นี้เป็นประสบการณ์ "พระธาตุเสด็จ" ของคุณทองดี หรรษคุณารมณ์
ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุครับ
http://www.oknation....t.php?id=183546
การบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยจิตศรัทธา ทำให้ได้อานิสงค์มาก
หากใครมีไว้บูชาถือเป็นสิริมงคล และควรบูชาให้ดี พระบรมสารีริกธาตุเป็นสุดยอดวัตถุมงคล
จะหาวัตถุมงคลไหนมาเทียบพระบรมสารีริกธาตุไม่ได้ และไม่สามารถประเมินค่าได้
เพราะพระบรมสารีริกธาตุเป็นสิ่งเดียว ที่เกิดจากพระวรกายของพระองค์
#113790 เหตุที่เทพเจ้า คิดว่าตนเป็นพระผู้สร้างสรรพสิ่ง
โพสต์เมื่อ โดย
บน 02 July 2008 - 05:00 PM
ใน
ธรรมกถึก
ดีครับดี
#113310 วันคืนล่วงไปๆ เรากำลังทำอะไรอยู่
โพสต์เมื่อ โดย
บน 28 June 2008 - 03:47 PM
ใน
บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก
...วันคืนล่วงไปๆ เรากำลังทำอะไรอยู่...(พระอาจารย์มิตซูโอะ)
ขณะที่เราอยู่อย่างนี้ เวลาไม่เคยรอใคร
เวลาผ่านไปๆ ทุกขณะๆ วันคืนล่วงไปๆ
ความตายเข้ามาใกล้ทุกขณะๆ
จงพิจารณาดูชีวิตของตนว่า
"เรากำลังทำอะไรอยู่
สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและต่อผู้อื่นแล้วหรือยัง
สร้างประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ข้างหน้า
ประโยชน์สูงสุดแล้วหรือยัง"
คนเราตั้งแต่เกิดมาจนทุกวันนี้
ดิ้นรนแสวงหาแต่ความสุขกันทุกคน
แต่มีใครบ้างได้พบความสุขที่แท้จริง
หรือพอใจในชีวิตของตนจริงๆ
ชีวิตของเราทุกวันนี้มันแข่งกับเวลา รีบร้อนตลอดเวลา
แม้แต่เวลานอนก็ยังรีบร้อนอยู่
คิดนี่ คิดโน่น คิดไปทั่วทุกสารทิศทั้งใกล้ทั้งไกล
รีบร้อนแสวงหาความสุข
แต่ชีวิตเราสังคมเราดูๆ เหมือนจะสับสนวุ่นวาย
ความเดือดร้อนรุนแรงมากขึ้นๆ ทุกวัน
มนุษย์เราค้นคว้าหาความรู้มากขึ้นๆ
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์
สังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์
แพทย์ศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ฯลฯ
ศาสตร์เหล่านี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามกาล ตามเหตุปัจจัย ทุกปีๆ
คนเราส่วนใหญ่วิ่งตามแต่ตามไม่ทัน
หมดแรง หมดหวัง สับสนวุ่นวาย
ศาสตร์เหล่านี้ไม่เคยช่วยเราให้มีความสุขที่แท้จริงได้
ศาสตร์หนึ่งที่พวกเรามองข้ามไปคือ พุทธศาสตร์ นั่นเอง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระบรมครูของเรา
ตรัสรู้มาเป็นเวลา 2583 ปี ก่อนโน้น
พวกเราจำนวนมากมักจะดูหมิ่นดูถูกมองข้ามไป
เห็นว่าเป็นเรื่องเก่าแก่ล้าสมัย
แต่ความจริงคำสั่งสอนของพระองค์นั้น
เป็นสัจจะความจริงไม่เปลี่ยนตามกาล
ใครประพฤติปฏิบัติถูก และเข้าไปรู้เข้าไปสัมผัสแล้วก็จะเหมือนกัน
รู้แล้วก็ทั้งตื่นและเบิกบานใจมีความสุข
จนแม้กระทั่งความสุขอย่างยิ่ง
ตามที่ท่านกล่าวไว้ว่า.....
"นิพพานัง ปรมัง สุขัง พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง"
ขณะที่เราอยู่อย่างนี้ เวลาไม่เคยรอใคร
เวลาผ่านไปๆ ทุกขณะๆ วันคืนล่วงไปๆ
ความตายเข้ามาใกล้ทุกขณะๆ
จงพิจารณาดูชีวิตของตนว่า
"เรากำลังทำอะไรอยู่
สร้างประโยชน์ให้กับตนเองและต่อผู้อื่นแล้วหรือยัง
สร้างประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ข้างหน้า
ประโยชน์สูงสุดแล้วหรือยัง"
คนเราตั้งแต่เกิดมาจนทุกวันนี้
ดิ้นรนแสวงหาแต่ความสุขกันทุกคน
แต่มีใครบ้างได้พบความสุขที่แท้จริง
หรือพอใจในชีวิตของตนจริงๆ
ชีวิตของเราทุกวันนี้มันแข่งกับเวลา รีบร้อนตลอดเวลา
แม้แต่เวลานอนก็ยังรีบร้อนอยู่
คิดนี่ คิดโน่น คิดไปทั่วทุกสารทิศทั้งใกล้ทั้งไกล
รีบร้อนแสวงหาความสุข
แต่ชีวิตเราสังคมเราดูๆ เหมือนจะสับสนวุ่นวาย
ความเดือดร้อนรุนแรงมากขึ้นๆ ทุกวัน
มนุษย์เราค้นคว้าหาความรู้มากขึ้นๆ
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์
สังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์
แพทย์ศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ฯลฯ
ศาสตร์เหล่านี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามกาล ตามเหตุปัจจัย ทุกปีๆ
คนเราส่วนใหญ่วิ่งตามแต่ตามไม่ทัน
หมดแรง หมดหวัง สับสนวุ่นวาย
ศาสตร์เหล่านี้ไม่เคยช่วยเราให้มีความสุขที่แท้จริงได้
ศาสตร์หนึ่งที่พวกเรามองข้ามไปคือ พุทธศาสตร์ นั่นเอง
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระบรมครูของเรา
ตรัสรู้มาเป็นเวลา 2583 ปี ก่อนโน้น
พวกเราจำนวนมากมักจะดูหมิ่นดูถูกมองข้ามไป
เห็นว่าเป็นเรื่องเก่าแก่ล้าสมัย
แต่ความจริงคำสั่งสอนของพระองค์นั้น
เป็นสัจจะความจริงไม่เปลี่ยนตามกาล
ใครประพฤติปฏิบัติถูก และเข้าไปรู้เข้าไปสัมผัสแล้วก็จะเหมือนกัน
รู้แล้วก็ทั้งตื่นและเบิกบานใจมีความสุข
จนแม้กระทั่งความสุขอย่างยิ่ง
ตามที่ท่านกล่าวไว้ว่า.....
"นิพพานัง ปรมัง สุขัง พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง"
#113213 ศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นอย่างไร
โพสต์เมื่อ โดย
บน 27 June 2008 - 05:27 PM
ใน
กระทู้ที่น่าสนใจ
เพราะความเชื่อต่างกัน ความคิดเห็นจึงต่างกัน
แต่ความจริง หรือความถูกต้องนั้นมีเพียงสิ่งเดียว
ที่สำคัญคือ ต้องรู้ว่า สิ่งที่เรารู้นั้นเป็นความจริง
ไม่ใช่เป็นแค่ความเชื่อ แต่มันต้องเป็น "ความจริง"
แต่ความจริง หรือความถูกต้องนั้นมีเพียงสิ่งเดียว
ที่สำคัญคือ ต้องรู้ว่า สิ่งที่เรารู้นั้นเป็นความจริง
ไม่ใช่เป็นแค่ความเชื่อ แต่มันต้องเป็น "ความจริง"
#113129 คีอานู รีฟ บรรยายธรรมะในทิเบต
โพสต์เมื่อ โดย
บน 26 June 2008 - 09:55 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
ในเมื่อทิเบตไม่มีพระนักพูดที่ดึงดูดคนอย่างพระพยอม ก็เลยต้องอาศัยคนดังระดับดาราฮอลลีวู้ดมาเรียกความสนใจซะหน่อย จะเป็นใครเสียมิได้ นอกจากดาราหนุ่มที่นับถือศาสนาพุทธ 2 คน อย่าง ริชาร์ด เกียร์ และคีอานู รีฟส์ ....ทั้งสองคนจะสลับกันบรรยายหลักคำสอนที่มีอยู่ 13 ข้อ ....อ้อ ! ต้องบอกก่อนนะว่า สองหนุ่มนี่เค้าบรรยายตามที่เขียนไว้ให้ ไม่ได้สู่รู้แต่ประการใด
1 Mind and Its Potential
2 How to Meditate
3 Presenting the Path
4 The Spiritual Teacher
5 Death and Rebirth
6 All About Karma
7 Refuge in the Three Jewels
8 Establishing a Daily Practice
9 Samsara and Nirvana
10 How to Develop Bodhicitta
11 Transforming Problems
12 Wisdom of Emptiness
13 Introduction to Tantra
Section 4 : The Spiritual Teacher
ถ้าคุณอยากเรียนอะไรสักอย่างให้กระจ่าง คุณต้องค้นหา ครูที่เป็นผู้รู้แจ้งในเรื่องนั้น โดยเฉพาะในเรื่องหาวิธีพ้นทุกข์ การอ่านหนังสือเอง อาจไม่สามารถตอบข้อสงสัยทุกข้อของคุณได้ทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำอย่างแรกในตอนนี้ คือการเปิดใจเข้าหาครูของคุณLama Tsongkhapa ที่คุณจะได้พบต่อไปนี้ ได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้สอนที่อุทิศตัวให้งานและฝึกฝนวิธีการสอนมาอย่างดี เปิดใจเข้าหาท่าน แล้วคุณจะพบสิ่งนั้น
Section 6 : All About Karma
พวกเราทุกคนล้วนอยากมีความสุข หากเราคิดว่า ชีวิตเราถูกลิขิตมาตั้งแต่แรกเกิด เราก็จะคิดว่า เราไม่สามารถสร้างสิ่งดีๆให้ตัวเราได้ แต่ในศาสนาพุทธ ทุกอย่างไม่เป็นเช่นนั้น พุทธบอกให้เรามองสิ่งที่เกิดบนโลกนี้ในรูปแบบของความจริง (Fact) ที่เรียกว่า กรรม (Karma) ซึ่งขึ้นกับ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ( action body speech and mind) ซึ่งทั้งหมดจะรวมกันเป็น กรรม ที่หมายถึงการรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณเอง ในบทนี้ เราจะเล่าเรื่องง่ายๆที่จะทำให้ กรรมของคุณเป็นสิ่งดี เรียนรู้วิธีที่จะสร้างอนาคตที่ดีต่อตัวคุณเอง
Section 7 : Refuge in the Three Jewels
เมื่อเรามีทุกข์ เรามักหาที่พักพิง สิ่งที่เราใช้กันประจำคือ เหล้า เซ็กส์ ยา อำนาจหรือเงินตรา แต่ในที่สุด มันก็ไม่ยั่งยืนจนเราไม่รู้ว่า อะไรคือความสุขที่แท้จริงกันแน่ ในปรัชญาแห่งพุทธ ที่พึ่งที่ดีที่สุด คือ พระรัตนตรัย ซึ่งประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ , พระพุทธ คือองค์พระศาสดา ผู้เปรียบเหมือนนายแพทย์ที่ค้นพบวิธีพ้นทุกข์ พระธรรม คือตัวยาที่จะฆ่าเหตุแห่งทุกข์ออกไปจากเรา และ พระสงฆ์ คือคณะแพทย์ที่รู้ว่าเราเหมาะกับยาใด เรียนรูพระรัตนตรัย จะทำให้เราพบกับความสุขที่ยั่งยืน
งานนี้ คีอานูรับทำฟรี ไม่มีค่าตัว.....ส่วนราคาวีดีโอชุดนี้อยู่ที่ US$108.95 ครับ
1 Mind and Its Potential
2 How to Meditate
3 Presenting the Path
4 The Spiritual Teacher
5 Death and Rebirth
6 All About Karma
7 Refuge in the Three Jewels
8 Establishing a Daily Practice
9 Samsara and Nirvana
10 How to Develop Bodhicitta
11 Transforming Problems
12 Wisdom of Emptiness
13 Introduction to Tantra
Section 4 : The Spiritual Teacher
ถ้าคุณอยากเรียนอะไรสักอย่างให้กระจ่าง คุณต้องค้นหา ครูที่เป็นผู้รู้แจ้งในเรื่องนั้น โดยเฉพาะในเรื่องหาวิธีพ้นทุกข์ การอ่านหนังสือเอง อาจไม่สามารถตอบข้อสงสัยทุกข้อของคุณได้ทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำอย่างแรกในตอนนี้ คือการเปิดใจเข้าหาครูของคุณLama Tsongkhapa ที่คุณจะได้พบต่อไปนี้ ได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้สอนที่อุทิศตัวให้งานและฝึกฝนวิธีการสอนมาอย่างดี เปิดใจเข้าหาท่าน แล้วคุณจะพบสิ่งนั้น
Section 6 : All About Karma
พวกเราทุกคนล้วนอยากมีความสุข หากเราคิดว่า ชีวิตเราถูกลิขิตมาตั้งแต่แรกเกิด เราก็จะคิดว่า เราไม่สามารถสร้างสิ่งดีๆให้ตัวเราได้ แต่ในศาสนาพุทธ ทุกอย่างไม่เป็นเช่นนั้น พุทธบอกให้เรามองสิ่งที่เกิดบนโลกนี้ในรูปแบบของความจริง (Fact) ที่เรียกว่า กรรม (Karma) ซึ่งขึ้นกับ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ( action body speech and mind) ซึ่งทั้งหมดจะรวมกันเป็น กรรม ที่หมายถึงการรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณเอง ในบทนี้ เราจะเล่าเรื่องง่ายๆที่จะทำให้ กรรมของคุณเป็นสิ่งดี เรียนรู้วิธีที่จะสร้างอนาคตที่ดีต่อตัวคุณเอง
Section 7 : Refuge in the Three Jewels
เมื่อเรามีทุกข์ เรามักหาที่พักพิง สิ่งที่เราใช้กันประจำคือ เหล้า เซ็กส์ ยา อำนาจหรือเงินตรา แต่ในที่สุด มันก็ไม่ยั่งยืนจนเราไม่รู้ว่า อะไรคือความสุขที่แท้จริงกันแน่ ในปรัชญาแห่งพุทธ ที่พึ่งที่ดีที่สุด คือ พระรัตนตรัย ซึ่งประกอบไปด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ , พระพุทธ คือองค์พระศาสดา ผู้เปรียบเหมือนนายแพทย์ที่ค้นพบวิธีพ้นทุกข์ พระธรรม คือตัวยาที่จะฆ่าเหตุแห่งทุกข์ออกไปจากเรา และ พระสงฆ์ คือคณะแพทย์ที่รู้ว่าเราเหมาะกับยาใด เรียนรูพระรัตนตรัย จะทำให้เราพบกับความสุขที่ยั่งยืน
งานนี้ คีอานูรับทำฟรี ไม่มีค่าตัว.....ส่วนราคาวีดีโอชุดนี้อยู่ที่ US$108.95 ครับ
รูปภาพแนบ
#113026 มิตรแท้ - มิตรเทียม
โพสต์เมื่อ โดย
บน 25 June 2008 - 06:41 PM
ใน
บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก
มิตรแท้ - มิตรเทียม
คนที่จะคบหา (มิตรแท้ - มิตรเทียม)
การคบเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ มีผลต่อความเจริญก้าวหน้าและความเสื่อมของชีวิตอย่างมาก จึงควรทราบหลักธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องมิตรที่เป็นข้อสำคัญๆไว้ จะแสดงเรื่องคนที่ควรคบกับคนที่ไม่ควรคบและหลักปฏิบัติต่อกันระหว่างมิตรสหายดังต่อไปนี้
ก.มิตรเทียม พึงรู้จักมิตรเทียม หรือศัตรูในร่างของมิตร (มิตรปฏิรูปก์) 4 ประเภทดังนี้
1.คนปอกลอก ขนเอาของเพื่อนไปถ่ายเดียว มี 4ลักษณะ
1. คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
2. ยอมเสียน้อย โดยหวังจะเอาให้มาก
3. ตัวมีภัย จึงมาช่วยทำกิจของเพื่อน
4. คบเพื่อน เพราะเห็นแก่ประโยชน์
2. คนดีแต่พูด(วจีบรม) มีลักษณะ 4
1. ดีแต่ยกหมดของหมดแล้วมาปราศรัย
2. ดีแต่อ้างของยังไม่มีมาปราศรัย
3.สงเคราะห์ด้วยสิ่งที่หาประโยชน์มิได้
4. เมื่อเพื่อนมีกิจ อ้างแต่เหตุขัดข้อง
3. คนหัวประจบ(อนุปิยภาณี) มีลักษณะ 4
1. จะทำชั่วก็เออออ
2. จะทำดีก็เออออ
3. ต่อหน้าสรรเสริญ
4. ลับหลังนินทา
4. คนชวนฉิบหาย(อปายสหาย) มีลักษณะ 4
1. คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา
2. คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน
3. คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการเล่น
4. คอยเป็นเพื่อนไปเล่นการพนัน
ข. มิตรแท้ พึงรู้จักมิตรแท้ หรือมิตรด้วยใจจริง(สุหทมิตร) 4 ประเภทดังนี้
1. มิตรอุปการะ(อุปการก์) มีลักษณะ 4
1. เพื่อนประมาท ช่วยรักษาเพื่อน
2. เพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สินของเพื่อน
3. เมื่อมีภัย เป็นที่พึ่งพำนักได้
4. มีกิจจำเป็น ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก
2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์(สมานสุขทุกข์) มีลักษณะ 4
1. บอกความลับแก่เพื่อน
2. รักษาความลับของเพื่อน
3. มีภัยอันตรายไม่ละทิ้ง
4. แม้ชีวิตก็สละให้ได้
3. มิตรแนะนำประโยชน์(อัตถักขายี) มีลักษณะ 4
1. จะทำชั่วเสียหาย คอยห้ามปรามไว้
2. แนะนำสนับสนุนให้ตั้งอยู่ในความดี
3. ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ไม่เคยได้รู้ได้ฟัง
4. บอกทางสุขทางสวรรค์ให้
4. มิตรที่มีใจรัก(อนุกัมปี) มีลักษณะ 4
1. เพื่อนมีทุกข์ พลอยไม่สบายใจ (ทุกข์ๆ ด้วย)
2. เพื่อนมีสุข พลอยแช่มชื่นยินดี (สุขๆ ด้วย)
3. เขาติเตียนเพื่อน ช่วยยับยั้งแก้ไข
4. เขาสรรเสริญเพื่อน ช่วยพูดเสริมสนับสนุน
ค. มิตรต่อมิตร พึงสงเคราะห์อนุเคราะห์กัน ตามหลักปฏิบัติในฐานะที่เป็นเสมือนทิศเบื้องซ้าย ดังนี้
- พึงปฏิบัติต่อมิตรสหาย ดังนี้
1. เผื่อแผ่แบ่งปัน
2. พูดจามีน้ำใจ
3. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
4. มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
5. ซื่อสัตย์จริงใจ
- มิตรสหายอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
1. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
2. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรัษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
3. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
4. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
5. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร
จาก หนังสือธรรมนูญชิวิต พุทธจรยธรรมเพื่อชิวิตที่ดีงาม ของ พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
คนที่จะคบหา (มิตรแท้ - มิตรเทียม)
การคบเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ มีผลต่อความเจริญก้าวหน้าและความเสื่อมของชีวิตอย่างมาก จึงควรทราบหลักธรรมที่เกี่ยวกับเรื่องมิตรที่เป็นข้อสำคัญๆไว้ จะแสดงเรื่องคนที่ควรคบกับคนที่ไม่ควรคบและหลักปฏิบัติต่อกันระหว่างมิตรสหายดังต่อไปนี้
ก.มิตรเทียม พึงรู้จักมิตรเทียม หรือศัตรูในร่างของมิตร (มิตรปฏิรูปก์) 4 ประเภทดังนี้
1.คนปอกลอก ขนเอาของเพื่อนไปถ่ายเดียว มี 4ลักษณะ
1. คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
2. ยอมเสียน้อย โดยหวังจะเอาให้มาก
3. ตัวมีภัย จึงมาช่วยทำกิจของเพื่อน
4. คบเพื่อน เพราะเห็นแก่ประโยชน์
2. คนดีแต่พูด(วจีบรม) มีลักษณะ 4
1. ดีแต่ยกหมดของหมดแล้วมาปราศรัย
2. ดีแต่อ้างของยังไม่มีมาปราศรัย
3.สงเคราะห์ด้วยสิ่งที่หาประโยชน์มิได้
4. เมื่อเพื่อนมีกิจ อ้างแต่เหตุขัดข้อง
3. คนหัวประจบ(อนุปิยภาณี) มีลักษณะ 4
1. จะทำชั่วก็เออออ
2. จะทำดีก็เออออ
3. ต่อหน้าสรรเสริญ
4. ลับหลังนินทา
4. คนชวนฉิบหาย(อปายสหาย) มีลักษณะ 4
1. คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา
2. คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน
3. คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการเล่น
4. คอยเป็นเพื่อนไปเล่นการพนัน
ข. มิตรแท้ พึงรู้จักมิตรแท้ หรือมิตรด้วยใจจริง(สุหทมิตร) 4 ประเภทดังนี้
1. มิตรอุปการะ(อุปการก์) มีลักษณะ 4
1. เพื่อนประมาท ช่วยรักษาเพื่อน
2. เพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สินของเพื่อน
3. เมื่อมีภัย เป็นที่พึ่งพำนักได้
4. มีกิจจำเป็น ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก
2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์(สมานสุขทุกข์) มีลักษณะ 4
1. บอกความลับแก่เพื่อน
2. รักษาความลับของเพื่อน
3. มีภัยอันตรายไม่ละทิ้ง
4. แม้ชีวิตก็สละให้ได้
3. มิตรแนะนำประโยชน์(อัตถักขายี) มีลักษณะ 4
1. จะทำชั่วเสียหาย คอยห้ามปรามไว้
2. แนะนำสนับสนุนให้ตั้งอยู่ในความดี
3. ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ไม่เคยได้รู้ได้ฟัง
4. บอกทางสุขทางสวรรค์ให้
4. มิตรที่มีใจรัก(อนุกัมปี) มีลักษณะ 4
1. เพื่อนมีทุกข์ พลอยไม่สบายใจ (ทุกข์ๆ ด้วย)
2. เพื่อนมีสุข พลอยแช่มชื่นยินดี (สุขๆ ด้วย)
3. เขาติเตียนเพื่อน ช่วยยับยั้งแก้ไข
4. เขาสรรเสริญเพื่อน ช่วยพูดเสริมสนับสนุน
ค. มิตรต่อมิตร พึงสงเคราะห์อนุเคราะห์กัน ตามหลักปฏิบัติในฐานะที่เป็นเสมือนทิศเบื้องซ้าย ดังนี้
- พึงปฏิบัติต่อมิตรสหาย ดังนี้
1. เผื่อแผ่แบ่งปัน
2. พูดจามีน้ำใจ
3. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
4. มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
5. ซื่อสัตย์จริงใจ
- มิตรสหายอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
1. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
2. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรัษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
3. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
4. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
5. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร
จาก หนังสือธรรมนูญชิวิต พุทธจรยธรรมเพื่อชิวิตที่ดีงาม ของ พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
#112399 ขอเชิญกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุจาก 8 ประเทศ
โพสต์เมื่อ โดย
บน 19 June 2008 - 04:11 PM
ใน
ข่าวประชาสัมพันธ์
ในโอกาสฉลองสมโภชพระอารามหลวง วัดยานนาวา ครบ 240 ปี
ขอเชิญกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ของ สมณโคดมศักยมุนีพระพุทธเจ้า
ที่ครบองค์สรีระที่สุดและมีจำนวนมากที่สุด 8,800 องค์
พร้อมกับนมัสการ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าและพระธาตุของอัครสาวก อีก 48 องค์
เช่น พระมหากัจจายนะ , พระสีวลี , พระองคุลีมาล , พระราหุล , พระควัมปติ ,
พระสารีบุตร , พระโมคคัลลานะ , พระอานนท์ , พระอุปคุต ฯลฯ
โดยอัญเชิญจาก 8 ประเทศ เช่น อินเดีย, ธิเบต, จีน, เนปาล, ศรีลังกา, ไต้หวัน,พม่า,ไทย
เพื่อเป็นสิริมงคลและปลอดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ตลอดปี 2551
ณ อาคารมหาเจษฎาบดินทร์ วัดยานนาวา
ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2551 ถึง วันที่ 15 สิงหาคม 2551
ทุกวัน เวลา 9:00 น. - 21:00 น.
ทั้งนี้ สามารถเข้าชมและกราบไหว้ขอพรจากพระบรมสารีริกธาตุได้ อย่างใกล้ชิด และ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยเงินรายได้จากการร่วมทำบุญซื้อดอกไม้ ธูปเทียน และเงินบริจาคทั้งหมดจะนำมาร่วมสมทบทุนสร้างศาลาเฉลิ มพระเกียรติ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
การเดินทาง
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว จอดได้ภายในวัด แต่อาจจะไม่ค่อยสะดวกในวันหยุด
2.รถไฟฟ้า BTS สุดสายที่สถานีสะพานตากสิน แล้วเดินไปได้ ใกล้มาก
แผนที่มาวัด http://www.watyan.co...php?id_view=204
ที่มา http://www.watyan.com/
สาธุ
ขอเชิญกราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ของ สมณโคดมศักยมุนีพระพุทธเจ้า
ที่ครบองค์สรีระที่สุดและมีจำนวนมากที่สุด 8,800 องค์
พร้อมกับนมัสการ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าและพระธาตุของอัครสาวก อีก 48 องค์
เช่น พระมหากัจจายนะ , พระสีวลี , พระองคุลีมาล , พระราหุล , พระควัมปติ ,
พระสารีบุตร , พระโมคคัลลานะ , พระอานนท์ , พระอุปคุต ฯลฯ
โดยอัญเชิญจาก 8 ประเทศ เช่น อินเดีย, ธิเบต, จีน, เนปาล, ศรีลังกา, ไต้หวัน,พม่า,ไทย
เพื่อเป็นสิริมงคลและปลอดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ตลอดปี 2551
ณ อาคารมหาเจษฎาบดินทร์ วัดยานนาวา
ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2551 ถึง วันที่ 15 สิงหาคม 2551
ทุกวัน เวลา 9:00 น. - 21:00 น.
ทั้งนี้ สามารถเข้าชมและกราบไหว้ขอพรจากพระบรมสารีริกธาตุได้ อย่างใกล้ชิด และ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
โดยเงินรายได้จากการร่วมทำบุญซื้อดอกไม้ ธูปเทียน และเงินบริจาคทั้งหมดจะนำมาร่วมสมทบทุนสร้างศาลาเฉลิ มพระเกียรติ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
การเดินทาง
1.โดยรถยนต์ส่วนตัว จอดได้ภายในวัด แต่อาจจะไม่ค่อยสะดวกในวันหยุด
2.รถไฟฟ้า BTS สุดสายที่สถานีสะพานตากสิน แล้วเดินไปได้ ใกล้มาก
แผนที่มาวัด http://www.watyan.co...php?id_view=204
ที่มา http://www.watyan.com/
สาธุ
#112004 ปัญหาอะไรบ้างที่อาจเกิดขึ้นเมื่อศาสนาพุทธโด่งดัง ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 15 June 2008 - 12:16 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
[size=3]ในสมัยพุทธกาล มีเหล่าพวกนอกศาสนาเป็นจำนวนมากที่มีความไม่พอใจที่เห็นศาสนาพุทธ
มีความเจริญ รุ่งเรือง เพราะทำให้พวกตนเสื่อมจากลาภ จึงได้หาวิธีทำร้าย ด้วยวิธีต่างๆ ซึ้งทำให้เกิดผล
กระทบต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เช่น ในกรณีของพระโมคคัลลานะ เป็นต้น
ในปัจจุบัน ต้องบอกว่าพระพุทธศาสนากำลังเบ่งบานไปทั่วโลก นั้นก็อาจจะทำให้มีกลุ่มคนที่ไม่พอใจก็ได้
ซึ้งถือว่าไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนาเลย ถ้ามีวิธีการ ที่ทำให้กลุ่มคนที่ไม่พอใจเหล่านั้น ได้หันมา
ศรัทธาในพระพุทธศาสนาก็จะดีมาก ได้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ปัญหาและอุปสรรคในการเผยแผร่
ธรรมะจะน้อยลง
มีความเจริญ รุ่งเรือง เพราะทำให้พวกตนเสื่อมจากลาภ จึงได้หาวิธีทำร้าย ด้วยวิธีต่างๆ ซึ้งทำให้เกิดผล
กระทบต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เช่น ในกรณีของพระโมคคัลลานะ เป็นต้น
ในปัจจุบัน ต้องบอกว่าพระพุทธศาสนากำลังเบ่งบานไปทั่วโลก นั้นก็อาจจะทำให้มีกลุ่มคนที่ไม่พอใจก็ได้
ซึ้งถือว่าไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนาเลย ถ้ามีวิธีการ ที่ทำให้กลุ่มคนที่ไม่พอใจเหล่านั้น ได้หันมา
ศรัทธาในพระพุทธศาสนาก็จะดีมาก ได้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ปัญหาและอุปสรรคในการเผยแผร่
ธรรมะจะน้อยลง
#112003 อยากทราบวัดธรรมกายสาขาต่างประเทศ
โพสต์เมื่อ โดย
บน 15 June 2008 - 11:39 AM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
#112002 ถ้าคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาสนใจวิชชาธรรมกาย ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 15 June 2008 - 11:31 AM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
อีกไม่นานครับ
#111926 DISUK - จัดปฏิบัติธรรม ณ เมือง Hereford ประเทศอังกฤษ
โพสต์เมื่อ โดย
บน 14 June 2008 - 11:33 AM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
สาธุ ดีครับ พระพุทธศาสนากำลังเจริญมากขึ้นทุกที
#111893 อเมริกาผุดหนังสารคดีอบรมการนั่งสมาธินักโทษ
โพสต์เมื่อ โดย
บน 13 June 2008 - 09:23 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
อเมริกาผุดหนังสารคดีถ่ายชีวิตนักโทษที่เข้ารับการอบรมนั่งสมาธิ
มีหนังสารคดีใหม่ของอเมริกาชื่อ Dhamma brother แปลเป็นไทยคือ พี่น้องเพื่อนผ้องธรรมะ
กํากับโดย Andrew Kukura, Jenny Phillips, Anne Marie Stein
โดยในหนังสารคดีเรื่องนี้ ได้ไปถ่ายนักโทษในคุก โดนัลสัน ที่อลาบาม่าสหรัฐอเมริกา โดยให้นักโทษเข้ารับการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนา ตามหลักศาสนาพุทธ
นักโทษคนนึงให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกมีความสุขมากที่ ความเจ็บปวดในใจเขาที่ฝังอยู่มาเต็มๆ 9 ปี ได้หลุดหายไปจากการนั่งสมาธิ จิตใจมีความสงบขึ้น
สําหรับเพื่อนๆที่สนใจ ลองเข้าไปดูที่
เป็นโฆษณาของหนังสารคดีเรื่องนี้ครับ
มีหนังสารคดีใหม่ของอเมริกาชื่อ Dhamma brother แปลเป็นไทยคือ พี่น้องเพื่อนผ้องธรรมะ
กํากับโดย Andrew Kukura, Jenny Phillips, Anne Marie Stein
โดยในหนังสารคดีเรื่องนี้ ได้ไปถ่ายนักโทษในคุก โดนัลสัน ที่อลาบาม่าสหรัฐอเมริกา โดยให้นักโทษเข้ารับการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนา ตามหลักศาสนาพุทธ
นักโทษคนนึงให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกมีความสุขมากที่ ความเจ็บปวดในใจเขาที่ฝังอยู่มาเต็มๆ 9 ปี ได้หลุดหายไปจากการนั่งสมาธิ จิตใจมีความสงบขึ้น
สําหรับเพื่อนๆที่สนใจ ลองเข้าไปดูที่
เป็นโฆษณาของหนังสารคดีเรื่องนี้ครับ
#111663 ถ้าคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาสนใจวิชชาธรรมกาย ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 11 June 2008 - 04:11 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
เห็นด้วยกับคุณหัดฝัน ครับ ทุกคนเร่งประพฤติปฏิบัติธรรม และช่วยกันเผยแพร่
รับรองครับ ไปโลด
รับรองครับ ไปโลด
#111647 ถ้าคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาสนใจวิชชาธรรมกาย ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 11 June 2008 - 01:00 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
คนไม่แสวงหาความจริง และความจริงไม่มาหา เขาก็ไม่มีทางพบความจริงได้
แต่ถ้าเปรียบเทียบแล้ว ความจริงมาหา จะดีกว่าแสวงหาความจริง คือไม่เสียเวลาแสวงหา
ค้นพบความจริง นำแสงสว่าง นำสิ่งที่ดีๆไปสู่ชีวิตพวกเขา
แต่ถ้าเปรียบเทียบแล้ว ความจริงมาหา จะดีกว่าแสวงหาความจริง คือไม่เสียเวลาแสวงหา
ค้นพบความจริง นำแสงสว่าง นำสิ่งที่ดีๆไปสู่ชีวิตพวกเขา
#111644 ถ้าคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาสนใจวิชชาธรรมกาย ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 11 June 2008 - 12:45 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
ถ้าคนมีอำนาจ มีชื่อเสียงระดับโลก ได้มานั่งสมาธิ ได้เห็นแก้วกลมใส ยังไม่ต้องถึงขั้นบรรลุพระธรรมกาย นั้นก็
จะทำให้เขามีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ้งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อพระพุทธศาสนา
ถ้าคนมีอำนาจ มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งหลายร่วมมือกัน โดยมีเจตนาที่จะขยายพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย
ให้กว้างไกลไปทั่วโลก โอวาว ลองคิดดูสิครับมันจะเป็นยังไง มันจะต้องดีแน่ๆ รู้ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้
ต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่าง แต่ถ้าไม่ละความพยายามซะก่อน ความสำเร็จ สิ่งที่ทุกคนมุ่งหวัง จะต้องเกิดขึ้นแน่
จะทำให้เขามีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ซึ้งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อพระพุทธศาสนา
ถ้าคนมีอำนาจ มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งหลายร่วมมือกัน โดยมีเจตนาที่จะขยายพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย
ให้กว้างไกลไปทั่วโลก โอวาว ลองคิดดูสิครับมันจะเป็นยังไง มันจะต้องดีแน่ๆ รู้ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้
ต้องอาศัยเหตุปัจจัยหลายอย่าง แต่ถ้าไม่ละความพยายามซะก่อน ความสำเร็จ สิ่งที่ทุกคนมุ่งหวัง จะต้องเกิดขึ้นแน่
#111640 ถ้าคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาสนใจวิชชาธรรมกาย ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 11 June 2008 - 12:32 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
หลังจากที่บิลเกต ประสบความสำเร็จทางด้านไมโครซอฟท์ เขาก็กลับไปเรียนต่อจนรับปริญญา (ตอนที่บิลเกตก่อตั้ง
บริษัทไมโครซอฟท์เขายังเรียนไม่จบ) มีผู้สื่อข่าวและคนจำนวนมากมาในวันรับปริญญาของบิลเกต เพื่อจะได้ฟัง
ถึงสิ่งที่ไมโครซอฟท์ จะออกมา ความสำเร็จของไมโครซอฟท์ เป็นต้น แต่แทนที่บิลเกตจะพูดถึงเรื่องนี้ เขากลับพูดอะไร
รู้ไหมครับ เขากลับพูดถึง ความไม่เท่าเทียมกันของคน พูดถึงคนอีกเป็นแสนที่กำลังจะอดตาย เขาต้องการให้คนที่มีโอกาสหรือคนร่ำรวยได้ช่วยผู้คนที่ลำบาก และบิลเกต ก็เป็นเศรษฐีที่บริจาคเงินมากที่สุดในการช่วยสังคม ช่วยผู้คน
นี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาล่วงจากอันดับเศรษฐีโลก จากอันดับ1 มาเป็นอันดับ3 แต่เขาก็ไม่แคร์ บิลเกตครองแชมส์
คนรวยที่สุดในโลกมาถึง13 ปี เขาขึ้นไปถึงจุดสูงสุด เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้วมองลงมาเขาย่อมมองเห็นหมด
เขาคงจะคิดว่าชีวิตไม่ได้มีแค่การรวยที่สุดในโลก และมีข่าวว่าบิลเกตส์ประกาศวางมือจากไมโครซอฟท์ในเดือนกรกฎาคม 2551 โดยจะไปลุยงานมูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ ซึ่งทำงานเกี่ยวกับสุขภาพและการศึกษาทั่วโลก
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด คงเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า บิลเกตเป็นคนมีเมตตา ต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกที่กำลังลำบาก
คนประเภทนี้พอจะชักชวน เข้าสู่ทางธรรมได้
#111575 ถ้าคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมาสนใจวิชชาธรรมกาย ?
โพสต์เมื่อ โดย
บน 10 June 2008 - 06:05 PM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
สมมติว่าถ้าบิลเกต ประธานาธิบดีสหรัฐและองค์การสหประชาชาติ หรือ คนที่มีอำนาจ มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นต้น มาสนใจวิชชาธรรมกายคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ผมว่านะ พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จะต้องเป็นที่รู้จักของคนเกือบทั่วโลกแน่ ว่าไหมครับ
เพราะว่าคนที่กล่าวมา เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เมื่อคนระดับโลก หรือผู้มีอำนาจ มีการนำร่อง
คนที่อยู่ระดับล่างลงมาย่อมเกิดความสนใจ จะทำให้พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ครอบคลุมได้มากขึ้น กว้างขึ้น เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้นก็สามารถเผยแพร่ได้รวดเร็ว เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าโปรดหัวหน้าชฎิลดาบส พวกบริวารก็ย่อมคล้อยตาม
พวกคนมีอำนาจ มีชื่อเสียงระดับโลก ย่อมเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ทำให้เกิดประสิทธิภาพและรวดเร็วอย่างยิ่ง และพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ก็จะเป็นที่รู้จักและเป็นที่นับถือของคนทั่วโลก
แค่คิดเล่นๆนะครับ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลในสิ่งที่กล่าวมา เพื่อนสมาชิกมีความเห็นยังไงบ้างครับ
ผมว่านะ พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จะต้องเป็นที่รู้จักของคนเกือบทั่วโลกแน่ ว่าไหมครับ
เพราะว่าคนที่กล่าวมา เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เมื่อคนระดับโลก หรือผู้มีอำนาจ มีการนำร่อง
คนที่อยู่ระดับล่างลงมาย่อมเกิดความสนใจ จะทำให้พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ครอบคลุมได้มากขึ้น กว้างขึ้น เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้นก็สามารถเผยแพร่ได้รวดเร็ว เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าโปรดหัวหน้าชฎิลดาบส พวกบริวารก็ย่อมคล้อยตาม
พวกคนมีอำนาจ มีชื่อเสียงระดับโลก ย่อมเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ทำให้เกิดประสิทธิภาพและรวดเร็วอย่างยิ่ง และพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ก็จะเป็นที่รู้จักและเป็นที่นับถือของคนทั่วโลก
แค่คิดเล่นๆนะครับ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลในสิ่งที่กล่าวมา เพื่อนสมาชิกมีความเห็นยังไงบ้างครับ
#111453 การนั่งสมาธิ เริ่มบูมในประเทศฮอลแลนด์
โพสต์เมื่อ โดย
บน 09 June 2008 - 11:47 AM
ใน
เว็บบอร์ด DMC
ศาสนาพุทธกำลังแพร่หลายไปทั่วโลก คนต่างประเทศเริ่มสนใจพุทธศาสนามากขึ้น
...ไม่นานความจริงจะถูกค้นพบ...
...ไม่นานความจริงจะถูกค้นพบ...
#110905 โลกที่ผูกมัดด้วยความจริง
โพสต์เมื่อ โดย
บน 03 June 2008 - 03:46 PM
ใน
บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก
...ทุกคนใช้ชีวิตโดยยึดติดกับความรู้และความเข้าใจของตนเอง โดยเชื่อว่าความรู้และความเข้าใจของตนนั้น เป็นสิ่งที่จริง หรือถูกต้อง
สิ่งนี้เรียกว่า"ความจริง"
แต่ความรู้และความเข้าใจที่เขาเชื่อนั้น อาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาก็ได้ ทุกคนใช้ชีวิตตามความตามรู้ ความเข้าใจของแต่ละคน โดยผูกมัดอยู่กับความเชื่อเอาไว้ มันก็คือโลกที่ถูกครอบงำด้วยความเชื่อของพวกเค้า
สิ่งนี้เรียกว่า"ความจริง"
แต่ความรู้และความเข้าใจที่เขาเชื่อนั้น อาจจะเป็นเพียงภาพลวงตาก็ได้ ทุกคนใช้ชีวิตตามความตามรู้ ความเข้าใจของแต่ละคน โดยผูกมัดอยู่กับความเชื่อเอาไว้ มันก็คือโลกที่ถูกครอบงำด้วยความเชื่อของพวกเค้า
#107817 “ 9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ “
โพสต์เมื่อ โดย
บน 30 April 2008 - 05:33 PM
ใน
บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก
" 9 เทคนิค ฝึกสมองไบรท์ “
โดย วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด
ผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัดเรื่องอา หารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1. จิบน้ำบ่อย ๆ
สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี
คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ
การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal
ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %
การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม
โดย วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพจาก ม.ฮาร์วาร์ด
ผู้หญิงสมัยนี้ อยากสวย ฉลาด และสุขภาพดี ทุกคนจึงพากันดูแลรูปร่าง ด้วยการออกกำลังกาย เคร่งครัดเรื่องอา หารการกิน แต่ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะดูแลสมองอย่างไรให้มีสุขภาพดี ทั้งที่สมองเป็นอวัยวะที่ตัดสินใจทุกเรื่องของชีวิต เราจึงควรเอกเซอร์ไซส์สมองให้ไบรท์ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ต่อไปนี้
1. จิบน้ำบ่อย ๆ
สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2. กินไขมันดี
คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที
หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ
การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ
ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน
สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน
ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal
ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึก ๆ
สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %
การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม
