ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คำแปลจารึกลานทองพระธรรมกาย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 February 2008 - 09:40 PM

จารึกลานทองพระธรรมกายในพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๑ รัฐบาลได้มอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีเฉลิมพระชนพรรษา ๕ รอบ

ขณะดำเนินบูรณะปฏิสังขรณ์พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑ และพระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขารประจำรัชกาลที่ ๓ อยู่นั้นเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เวลาประมาณ ๐๘.๑๕ น. ช่างที่กำลังสกัดผิวกระเบื้องเคลือบชั้นนอกขององค์พระมหาเจดีย์ทั้งสองพบว่า บริเวณใกล้คอระฆังด้านทิศเหนือ มีโพลงลึกเข้าไปในองค์พระมหาเจดีย์ พบมีห้องกรุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โบราณวัตถุล้ำค่าต่างๆ พระพุทธรูปและจารึกลานทองเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาบรรจุอยู่ในหีบทองลงยา หนึ่งในนั้นก็คือจารึกลานทองเกี่ยวกับพระธรรมกาย จึงได้อัญเชิญเคลื่อนย้ายลงมา

แต่เนื่องจากวัตถุล้ำค่าในกรุพระมหาเจดีย์มีความสำคัญยิ่งเกี่ยวเนื่องกับพระบรมราชวงศ์จักรีวงศ์ กรมศิลปากรจึงได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เพื่อดำเนินการอันเหมาะสมต่อไป วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๒ กรมศิลปากรได้รับหนังสือจากราชเลขาธิการ อัญเชิญพระราชดำรัสของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวความว่า

๑. โบราณวัตถุทั้งปวงที่บรรจุอยู่ในพระมหาเจดีย์นั้น ควรรวบรวมรักษาไว้โดยจัดพระวิหารหลังใดหลังหนึ่งซึ่งมีอยู่มากมายในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มั่นคง แสดงสิ่งที่ขุดได้อย่างมีระเบียบเป็นหมวดหมู่สำหรับคนรุ่นนี้ และรุ่นหลังได้ศึกษา
๒. วัตถุใดแตกหักเสียหายมากไม่เป็นชิ้นดี จะบรรจุคืนเข้าในพระมหาเจดีย์ก็ควร
๓. ควรจัดทำจำลองวัตถุเดิมขึ้นใหม่โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทัพสัมภาระที่มีค่าสูงบรรจุในพระมหาเจดีย์ ให้พระมหาเจดีย์ที่บูรณะใหม่มีลักษณะเป็น ธาตุเจดีย์ ธรรมเจดีย์ อุทเทสิกเจดีย์ และบริโภคเจดีย์ ครบถ้วนตามลักษณะดั้งเดิม

จารึกจากกรุพระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ มี ๔ รายการได้แก่
๑. จารึกฐานพระพุทธรูปบุเงิน อักษรไทย ภาษาไทย จำนวน ๑ ด้าน มีอักษร ๒ บรรทัด
๒. จารึกคัมภีร์ลานทอง (๑) อักษรขอม ภาษาบาลี-ไทย จำนวน ๙ ลาน มสายสนองร้อยรวมเป็นผูก จารึกอักษรด้วยเส้นจารมีเส้นชุบชาดถมเส้นจารจำนวน ๗ ลานๆละ ๒ ด้านๆละ ๕ บรรทัดรวม ๗๐ บรรทัดกับใบปกอีก ๒ ลานไม่มีอักษรจารึก เรื่องที่จารึกเป็นบทธรรมว่าด้วยพระอภิธรรมทั้ง ๗ ได้แก่ พระสังคิณี พระวิภังค์ พระธาตุกถา พระปุคคลบัญญัติ พระกถาวัตถุ พระยมกและพระมหาปัฏฐาน
๓. จารึกคัมภีร์ลานทอง (๒) อักษรขอม ภาษาบาลีจำนวน ๙ ลาน มีสายสนองร้อยรวมเป็นผูก จารึกอักษรด้วยเส้นจารมีเส้นชุบรักดำถมเส้นจารจำนวน ๗ ลานๆละ ๒ ด้านๆละ ๔ บรรทัด รวม ๗๐ บรรทัดกับใบปกอีก ๒ ลานไม่มีอักษรจารึก เรื่องที่จารึกว่าด้วยปัจยาการ อเนกชาติสังสารัง และพระธรรมกาย
๔. จารึกคัมภีร์ลานทอง (๓) อักษรขอมย่อ ภาษาบาลี-ไทย จำนวน ๙ ลาน มีสายสนองร้อยรวมเป็นผูกจารึกอักษรด้วยเส้นชุบรักดำ จำนวน ๗ ลานๆละ ๑ ด้านๆละ ๔ บรรทัด รวม ๒๘ บรรทัด กับใบปกอีก ๒ ลาน ไม่มีอักษรจารึก เรื่องที่จารึกว่าด้วยพระอภิธรรมทั้ง ๗ ได้แก่ พระสังคิณี พระวิภังค์ พระธาตุกถา พระปุคคลบัญญัติ พระกถาวัตถุ พระยมก และพระมหาปัฏฐาน ซึ่งท่านย่อความไว้พอดีกับแผ่นจารึก

คำแปลจารึกลานทองพระธรรมกาย

ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระรัตนตรัย

"เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะ ๖ เพราะอายตนะ ๖ เป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัส และอุปายาสะ เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั้น เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัยดังกล่าว

อีกส่วนหนึ่งเพราะอวิชชาดับสนิทไม่เหลือ ปราศจากราคะ คือความกำหนัด สังขารจึงดับ เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ เพราะวิญญาณดับนามรูปจึงดับ เพราะนามรูปดับอายตนะ ๖ จึงดับ เพราะอายตนะ ๖ ดับผัสสะจึงดับ เพราะผัสสะดับเวทนาจึงดับ เพราะเวทนาดับตัณหาจึงดับ เพราะตัณหาดับอุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับภพจึงดับ เพราะภพดับชาติจึงดับ เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปาสะจึงดับ เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลล้วนดับตามเหตุปัจจัยดังกล่าว

เราเที่ยวแสวงหานายช่างทำบ้านเรือน(ตัณหา) เมื่อไม่พบ จึงต้องท่องเที่ยวไปในสงสารหลายชาติไม่น้อย ชาติ(ความเกิด)บ่อยๆ นำทุกข์มาให้ นายช่างเอ๋ย(บัดนี้) เราได้พบท่านแล้ว ท่านจักสร้างบ้านเรือนต่อไปอีกไม่ได้ เพราะเราได้หักทำลายรื้อโครงและยอดบ้านเรือนของท่านกระจัดกระจายหมดสิ้นแล้ว จิตของเราหมดกิเลสเครื่องปรุงแต่งแล้ว เราได้บรรลุธรรมเป็นที่สิ้นตัณหาแล้ว

พระเศียรหมายถึงพระสัพพัญญุตญาณ พระเกศาหมายถึงอารมณ์พระนิพพาน พระลลาตหรือพระนลาฎหมายถึงจตุตถฌาณ พระอุนาโลมหมายถึงสมาบัติญาณเพชร พระภมู(พระขนง) ทั้งสองหมายถึงนีลกสิณ พระจักษุทั้งสองหมายถึงทิพพจักษุ ปัญญาจักษุ สมันตจักษุ พุทธจักษุและธรรมจักษุ พระโสตทั้งสองหมายถึงทิพพโสตญาณ พระฆานะหมายถึงโคตรภูญาณ พระปรางทั้งสองหมายถึงมรรคญาณผลญาณและวิมุติญาณ พระโอษฐ์(ริมพระโอษฐ์)ทั้งสองหมายถึง โลกิยฌาณและโลกุตรฌาณ พระทนต์หมายถึงโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ พระเขี้ยวแก้วทั้ง ๔ หมายถึงมรรคญาณ ๔ พระศอหมายถึงสัจจญาณ ๔ การเอี้ยวพระศอทอดพระเนตรดูหมายถึงพระไตรลักษณญาณ พระพาหาทั้งสองหมายถึง เวสารัชญาณ ๔ พระองคุลีทั้ง ๘ หมายถึงอนุสสติญาณ ๑๐ พระอุระหมายถึงสัมดภชฌงค์ ๗ พระถันทั้ง ๒ หมายถึงอาสยานุสยญาณ พระอวัยวะส่วนกลางหมายถึงพลญาณ ๑๐ พระนาภีหมายถึงปฏิจจสมุปปบาท พระชฆนะหมายถึงอินทรีย์ ๕ พละ ๕ พระอุระทั้ง ๒ หมายถึงสัมมัปปธาน ๔ พระชงฆ์ทั้ง ๒ หมายถึงกุศลกรรมบท ๑๐ พระบาททั้ง ๒ หมายถึงอิทธิบาท ๔ สังฆาฏิ (ผ้าสำหรับห่มซ้อน) หมายถึงศีลและสมาธิ จีจรสำหรับห่มปกปิดกล่าวคือผ้าบังสุกุลหมายถึงหิริและโอตตัปปะ ผ้าอันตรวาสก(ผ้าสำหรับนุ่ง) หมายถึงมรรค ๘ ประคตเอวหมายถึง สติปัฏฐาน ๔

เพราะเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงมีพระอวัยวะทุกส่วนสูงสุดประกอบด้วยสัพพัญญุตญาณ ที่รู้กันว่าพระธรรมกายไม่มีใครจะเป็นผู้นำโลกได้เท่า ทรงรุ่งโรจน์กว่าเทวดาและมนุษย์เหล่าอื่น (ดังนั้น)พระโยคาวจรผู้มีญาณแก่กล้าเมื่อปรารถนาจะเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า พึงระลึกถึงบ่อยๆซึ่งพุทธลักษณะคือ พระธรรมกาย ว่าพระพุทธเจ้า(พระองค์ใด) ทรงมีพระวรกายสูง ๑๒ ศอก มีพระมงกุฎ (เครื่องประดับศรีษะ) ที่มีแสงสว่างดุจเปลวไฟพุ่งสูงขึ้นไปตลอดกาลเป็นนิจถึง ๖ ศอก พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นจึงชื่อว่าสูงได้ ๑๘ ศอก"

นับเป็นบุญของแผ่นดินไทยโดยแท้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปรีชาญาณ ทรงเล็งเห็นการณ์ไกล มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญจารึกลานทองเรื่องราวเกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอน ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา จัดตั้งแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เพื่อมหาชนได้ศึกษาเรียนรู้ จารึกลานทองพระธรรมกายจึงได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกเป็นเครื่องยืนยันว่า พระธรรมคำสั่งสอนที่เกี่ยวกับพระธรรมกายในพระพุทธศาสนานั้นมีอยู่จริง พระบูรพมหากษัตริย์ไทยทรงเห็นถึงความสำคัญยิ่ง ทรงเกรงว่าพระคัมภีร์ล้ำค่าทางพระพุทธศาสนาจะสูญหายไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จารึกไว้บนลานทองเก็บรักษาไว้ในพระมหาเจดีย์ เมื่อถึงคราวมหามงคลสมัยในพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรมอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เจริญพระชนพรรษา ๖๐ พรรษา ก็มีเหตุอัศจรรย์บังเกิดให้ได้ค้นพบจารึกลานทองพระธรรมกายภายในพระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ ๑ เป็นศุภนิมิตหมายที่ดียิ่งประกาศถึงพระเกียรติคุณองค์มหาราชโดยธรรมพระองค์นี้ว่า ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองจนถึงที่สุดแห่งยุค จะเผยแผ่ขจรไกลไปทั่วโลก ชาวโลกทั้งหลายจักได้สัมผัสกระแสสันติสุขโดยถ้วนหน้า แผ่นดินไทยนี้จักได้ชื่อว่า แผ่นดินศรีวิไล ที่มนุษยชาติใฝ่ฝันมานาน สมดังคำพยากรณ์ของพระอรหันตเถระ ขอพระบรมราชจักรีวงศ์ดำรงอยู่คู่พระพุทธศาสนาตราบสิ้นกัลป์

จากวารสารกัลยาณมิตร ฉบับที่ ๑๖๐ เมษายน ๒๕๔๒

ไฟล์แนบ


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#2 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 February 2008 - 04:33 PM

ขออนุโมทนาทุกบุญอันเกิดจากการโพสเรื่องนี้ กับคุณวัดในดวงใจด้วยนะคะ อาทิ
- ธรรมทาน ที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องมากมาย
- บุญที่ได้ยกย่องเชิดชู สรรเสริญ บุคคลที่ควรบูชา เช่น พระรัตนตรัย คุณครูบาอาจารย์ พระมหากษัตริย์ผู้มีพระคุณ
- วิทยาทาน
- ความเพียร
ฯลฯ

สุดยอดค่ะ
วันหลัง ขออีกเรื่อยๆ นะคะ

สาธู๊ _/\_
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#3 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 February 2008 - 09:33 PM

Sa Thu Krub

#4 เฉย เฉย

เฉย เฉย
  • Members
  • 618 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:เรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำ สมาธิ

โพสต์เมื่อ 13 February 2008 - 09:27 AM

สาธุ
แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม

#5 sunshining

sunshining
  • Members
  • 111 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 February 2008 - 10:09 AM

สาธุค่ะ

#6 hk_girlza

hk_girlza
  • Members
  • 580 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 February 2008 - 09:38 PM

สาธุค่ะ


#7 ให้ ปรกติ เจริญ

ให้ ปรกติ เจริญ
  • Members
  • 23 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 February 2008 - 10:21 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
สาธุ..

#8 JaiKaeW

JaiKaeW
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 February 2008 - 04:04 AM

Khob khun..K. Watnaiduangjai na ka with very good topic!! anumothanaboon ka.

#9 Thesun

Thesun
  • Members
  • 46 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:londoon,germany
  • Interests:สมาธิ

โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 05:03 PM

เรารีบปฏิบัติธรมให้เข้าถึงพระธรรมกายกันทั้งโลกเลยนะครับ จะได้เป็นพยานให้กับพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย
ด้วยกันนะครับ

ไฟล์แนบ


เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี  สิ่งที่เราทำย่อมเป็นของเรา  ทำทั้งทีทำให้ปลื้ม


#10 ::: นายพีท ลูกพระธัมฯ :::

::: นายพีท ลูกพระธัมฯ :::
  • Members
  • 706 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:โรงกลั่นอุดมการณ์

โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 02:34 PM

อนุโมทนาครับ สาธุๆๆๆๆๆๆๆ

#11 นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน

นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน
  • Members
  • 380 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 02:51 PM

อนุโมทนาบุญ ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
เพราะเป้าหมายของพวกเราคือ "ที่สุดแห่งธรรม"

#12 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 12 May 2008 - 11:08 PM

สาธุ สาธุค่ะ อนุโมทนาบุญอย่างล้นเหลือ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#13 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 23 August 2010 - 10:43 PM

Sathu ๆ ๆ ka