ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เป็น ocd ทำบาปจะบาปไหม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr28668

usr28668
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2009 - 01:18 AM

ผมอยากจะรู้จริงๆว่าถ้าคนที่ป่วยเป็นโรค ocd แล้วบังเอิญทำบาป ทางใจนี้ แล้วจะบาปไหม แล้วถ้าเกิดบาป จะบาปมากน้อยแค่ไหน เพราะทุกครั้งที่เรานึกคิดออกมาในสิ่งที่ไม่ดีนั้น เราไม่ได้มีความยินดีในสิ่งที่เราคิดออกมาเลย ผมอยากทราบจริงๆๆ ถ้าเกิดผมทราบผมอาจจะสะบายใจมากขึ้นครับ

#2 Regenbogen

Regenbogen
  • Members
  • 441 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2009 - 03:44 PM

ocd ช่วยอธิบายรายละเอียดอีกนิดเกี่ยวโรค เพราะไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไรจริงๆ ขอโทษด้วยที่ไม่รู้ว่าocd คือโรคอะไร อยากรู้เหมือนกันเพื่อคราวหน้าอยากจะรู้จะได้หยิบจากข้อมูลตรงนี้มาใช้จ้ะ

#3 usr28668

usr28668
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2009 - 07:52 PM

โรคนี้จะมีพฤติกรรมที่แปลกก็คือ จะ คิด จะพูด จะทำ ในสิ่งโง่ๆ หรือในสิ่งที่ตนเองก็รู้อยู่แล้วว่าไม่อยากทำและไม่ควรทำ แต่ห้ามตัวเองให้ไม่ทำไม่ได้ แล้วก็จะทำบ่อยๆ ทุกครั้ง เป็นประจำ แต่เมื่อทำลงไปแล้วก็จะเป็นทุกข์และทรมาณใจมาก แล้วส่งผลกระทบทำให้เครียด โดยอาการของผมนี้ คือ เมื่อผมเดินผ่านรูป หลวงปู่ หรือ คุณยาย หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย(หรือสิ่งที่ผมคิดว่าคิดไม่ดีแล้วมันจะบาป) ผมก็จะคิดไม่ดีต่อสิ่งเหล่านั้น เช่น นึก ด่า นึกว่า และนึกไม่ดีในสิ่งนั้นต่างๆโดยทั้งที่ผมไม่อยากที่จะทำแบบนั้นเลย แต่มันห้ามไม่ได้ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ โดยหลังจากที่ผมนึกไม่ดีกับสิ่งเหล่านั้นแล้ว ผมก็มานั่งเสียใจว่า เราไม่ควรทำอย่างนั้น เราไม่น่าทำอย่างนั้น เราไม่อยากทำอย่างนั้น แต่ทำไม เราถึงต้องทำด้วย แล้วเราทำไปแล้วเราจะบาปไหม หรือมีเหตุการณ์หนึ่ง คือ ผมเองนั้นเป็นคนที่มีคุณธรรมทางด้านหิริโอตัปปะสูงมากและกลัววิบากกรรมทุกชนิด ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเล่ามา โดยเฉพาะวิบากกรรมที่เกิดจากการอนุโมทณาบาป ผมกลัวมากๆ จึงทำให้เวลาที่ผมนั้นได้รับรู้ รับทราบ เรื่องราวต่างๆที่ผู้อื่นประสบหายนะ ผมก็จะ ใจผมก็จะนึกว่า"สมน้ำหน้าสมควรโดนอย่างนั้นแล้ว" หลังจากที่ผมนึกจบผมเอง ก็บังเกิดความทุกข์ทรมาณ ทางใจอย่างแสนสาหัส เพราะผมกลัวผลของบาปที่ผมได้อนุโมทณาบาปลงไป และยังนึกเสียใจที่เรานั้นไม่สามารถห้ามความคิดของเราให้ไม่ทำอย่างนั้นได้ ปัจจุบันนี้อาการย้ำคิดย้ำทำของผมกำเริบหนักขึ้นไปทุกข์ที่ จนทำให้ผมเครียดอย่างหนัก จนบ้างครั้งผมก็คิดบ้าๆ ว่าจะฆ่าตัวตาย แต่นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อที่ว่า ถ้าเราฆ่าตัวตายไป มันจะเป็นบาปอย่างมหันต์ต่อตัวเอง และจะทำให้ผมไปเกิดในมหานรก ไม่สิ(ผมพอมีบุญอยู่บ้าง) ผมน่ำจะไปเกิดที่ยมโลก หรือ โลหะกุมภีร์ อะไรพวกนั้น พอผมนึกอย่างนั้นได้ผมจึงไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอีก อาการของโรคที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกครั้งที่ผมนั่งสมาธิจิตใจผมจะไม่สงบ ยังนึกฟุ้งถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนั้นอยู่ และยัง ส่งผลให้จิตใจของผมนั้นคิดฟุ้งตลอดเวลาอยู่ในพิธีงานบุญใหญ่ๆ จะมีวิธีใดช่วยให้ผมหายจากอาการประหลาดๆอย่างนี้ได้ไหม แล้ว วิบากรรมทางมโนทุกชนิดที่เกิดจากโรคocdโดยผมไม่ได้ตั้งใจหรือต้องการให้เกิดนี้ จะมีผลกับผมอย่างไร

แล้วผมจะบาปไหมครับ

#4 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2009 - 10:15 PM

สรรพสัตว์ย่อมเป็นไปตามกรรม ปล่อยวาง ทำใจยอมรับความจริง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เดินทางสายกลางสร้างบารมี ทาน ศีล ภาวนา

#5 chai189

chai189
  • Members
  • 275 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 March 2009 - 11:36 PM

ขอให้หายเป็นอัศจรรย์

#6 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 March 2009 - 12:00 AM

ให้ลองหาโอกาสไปวิปัสสนา ซัก 4-5 วัน จิตใจจะใสสงบขึ้นครับ แล้วความคิดในแง่ลบพวกนี้จะค่อยๆดีขึ้น ลองทำดู




#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 19 March 2009 - 12:44 PM

โรคนี้เกิดจาก มโนกรรม ครับ คือ ชาิติในอดีต มักมีนิสัยจับผิดผู้อื่น พอจับผิดหนักเข้าหนักเข้า ในที่สุดก็จะกลายเป็นจับผิดผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว ต่อมาก็จะพัฒนาขึ้นเป็นจับผิดผู้อื่นโดยแม้รู้ตัว แต่ก็ควบคุมตัวเองไม่ได้

วิธีแก้ก็คือ ให้หมั่นจับดีู้ผู้อื่นแทน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนมีเสียมีดีด้วยกันทั้งนั้่น แต่ีเนื่องจากเรามีอาการดังนี้แล้ว ให้ฝึกจับแต่สิ่งดีๆ ของผู้อื่น เดี๋ยวอาการจะค่อยๆ หายไปเองล่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 ดอกบัวยามเช้า

ดอกบัวยามเช้า
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 March 2009 - 01:56 PM

บัวเองก็เคยเป็นเหมือนกับคุณเจ้าของกระทู้เหมือนกันค่ะ แต่ไม่หนักเท่า บางครั้งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ จู่ๆ ก็คิดไม่ดีขึ้นมาเอง นึกขึ้นมาเองทั้งที่ไม่ได้ต้องการหรืออยากจะนึกเลย ตอนแรกก็รู้สึกกังวลใจมากๆ เหมือนกันค่ะ แต่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่สาวที่เข้าวัดเหมือนกัน พี่ของบัวบอกว่าอย่าไปใส่ใจเลย สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มาจากจิตใจของเราเองหรอก แต่เป็นสิ่งที่ฝ่ายดำพยายามสอดมา ตั้งแต่นั้นมาบัวเลยหาวิธีแก้โดยการที่ พอสิ่งที่ไม่ดีมันผุดขึ้นมาในใจปุ๊บ ก็ให้พยายามหยุดมันปั๊บทันที หรือพยายามนึกถึงหลวงปู่บ้าง พระธรรมกายบ้าง หลวงพ่อหรือคุณยายบ้าง ตามแต่จะนึกได้ในตอนนั้น คือเอาภาพหลวงปู่มาแทนที่ความคิดที่ไม่ดีเลยว่าอย่างนั้นเถอะ แล้วก็ท่องสัมมาอะระหังไปเรื่อยๆ จนเจ้าอาการคิดไม่ดีมันหายไป ก็ค่อยนึกขอขมามหาปูชนียาจารย์ที่เราไปนึกล่วงเกิน พอทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อาการคิดไม่ดีมันก็ค่อยๆ น้อยลงค่ะ ปัจจุบันไม่ค่อยเป็นแล้ว แต่ก็มีบ้าง พอมีขึ้นมาก็แก้ไขด้วยวิธีที่บอก จุดสำคัญคือ ถ้าเกิดขึ้นมาแล้วอย่าไปใส่ใจค่ะ ให้ลืมไปเลย เหมือนที่หลวงพ่อสอนในโรงเรียนว่าสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ลืมมันให้หมด เรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ สิ่งไม่ดีที่คิดไปแล้วก็ถือเป็นอดีตแล้วเหมือนกัน ให้ลืมมันไปทันที เพราะถ้าเราย้ำคิดย้ำทำเสียใจถึงมัน มันก็จะยิ่งตอกย้ำให้เป็นหนักขึ้นแทนค่ะ ประมาณว่ายิ่งเกลียดยิ่งได้ ยิ่งไม่อยากคิดยิ่งคิด เพราะใจไปนึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา

สำหรับเรื่องวิบากกรรมก็คงมีบ้างค่ะ เพราะเป็นแผนของฝ่ายดำที่เขาอยากให้เราทำบาปอยู่แล้ว แต่ตามความคิดของบัว คิดว่าไม่น่าจะเป็นวิบากกรรมหนัก เพราะไม่ได้มาจากเจตนา ถ้าไม่สบายใจก็ขอให้หมั่นขอขมาพระรัตนตรัยบ่อยๆ นะคะ และให้พยายามลืมสิ่งไม่ดีที่ไม่เกิดขึ้นไปเลย พอมันเกิดขึ้นใหม่ก็ให้ขอขมาแล้วก็ลืมอีก ทำซ้ำๆ อยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ บัวเชื่อว่ามันจะบรรเทาลงค่ะ

สำหรับเรื่องฟุ้งซ่านเวลางานพิธีใหญ่ๆ บัวก็เป็นเหมือนกัน ทางแก้ก็คือต้องพยายามตามสติตัวเองให้ได้ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น บัวชอบฟุ้งเวลาหลวงพ่อให้พรหรือนำอธิษฐานเรื่อยเลย เพราะช่วงเวลามันยาว ตอนหลวงพ่อเริ่มให้พรหรือนำอธิษฐานตอนแรกก็ยังตั้งใจตามได้ดีอยู่ แต่พอผ่านไปสักพักมันก็จะต้องฟุ้งเผลอคิดโน่นนี่ทุกที แต่ทุกครั้งที่เป็นอย่างนี้ บัวก็ตั้งใจว่าไม่เป็นไร ครั้งหน้าเอาใหม่ คราวหน้าต้องมีสติดีกว่านี้ และพอถึงช่วงให้พรหรือนำอธิษฐานครั้งหน้า บัวก็จะตั้งสติไว้เลยว่า เอาล่ะนะ จะเริ่มแล้วนะ ฉันต้องตั้งใจตามหลวงพ่อจนจบให้ได้ แต่สุดท้ายก็มักจะมีบางช่วงที่หลุดจนได้ แต่ถ้ามองพัฒนาการตั้งแต่เริ่มต้นปรับปรุงก็ถือว่าดีขึ้นมากค่ะ เพราะเดิมบัวจะฟุ้งแทบจะ 100% แต่ปัจจุบันลดลงเหลือสัก 30% เห็นจะได้ บางวันโชคดีก็ตั้งใจตามหลวงพ่อได้จบเลย

ยังไงก็อย่าท้อใจนะคะ เรื่องนี้ต้องอาศัยเวลาในการแก้ไข และสำคัญที่สุดอยู่ที่กำลังใจ ให้ทำไปเรื่อยๆ มันจะค่อยๆ ดีขึ้นค่ะ อย่างที่บัวพยายามปรับปรุงเรื่องฟุ้งนี่ก็ใช้เวลา 3-4 ปีเลยนะคะ และคิดว่าก็คงจะปรับปรุงต่อไปเรื่อยๆ

นั่งสมาธิบัวก็ฟุ้งค่ะ จอมฟุ้งเลย เพราะปกติก็เป็นคนช่างจินตนาการอยู่แล้ว แต่ก็คิดว่าเอาเถอะ ได้นั่งก็ยังดีกว่าไม่ได้นั่ง ความฟุ้งนี่เปรียบไปก็เหมือนขยะในบ้านค่ะ บ้าน(ใจ)เราคงมีขยะเยอะกว่าคนอื่น เลยต้องใช้เวลากวาดนานกว่ามากหน่อย แต่กวาดไปๆ สักวันมันก็ต้องหมดอยู่ดี ถ้าไม่เริ่มกวาด หรือไม่กวาดบ่อยๆ นี่สิคะ ขยะใหม่คงสุมเข้ามาอีก ทีนี้ล่ะ อานเลย ถ้าฟุ้งมากตอนนั่งสมาธิ ให้เลิกนั่งแล้วหันมาสวดมนต์แทนบ้างก็ได้ค่ะ แล้ววางใจไว้กลางท้องตอนสวดมนต์ ก็น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีเหมือนกัน

ขอให้แก้ไขเรื่องนี้ให้ลุล่วงได้โดยเร็วนะคะ

#9 แก้วใสปิ๊ง

แก้วใสปิ๊ง
  • Members
  • 191 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 March 2009 - 10:50 AM

เห็นด้วยกับคุณดอกบัวยามเช้าครับ
บางทีถ้าวิบากกรรมยังเยอะอยู่ คงนั่งสมาธิไม่ได้ dry.gif
น่าจะเน้นที่การสวดมนต์แทน สวดบ่อยๆและหมั่นอธิษฐานจิต
น่าจะค่อยๆดีขึ้นครับ เป็นกำลังใจให้ red_smile.gif

ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"


#10 สงบนิ่งสง่างาม

สงบนิ่งสง่างาม
  • Members
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 March 2009 - 11:01 AM

ผมก็มีอาการแบบนี้ ไม่เคยรู้ตัวเองว่าอาจจะเป็น ocd เหมือนกัน ความคิดไม่ดีมักจะผุดขึ้นมาแบบไม่ตั้งตัว บางครั้งก็ไม่นึกว่าตนเองจะความคิดที่ไม่ดีได้ถึงขนาดนี้ ผมใช้วิธีสบัดหัวเหมือนกับจะให้ความคิดไม่ดีหลุดออกไป หรือนึกว่าใช้แปรงลบกระดาน ลบทันทีเหมือนลบกระดานดำ ต่อจากนั้นผมจะนึกถึงองค์ธรรมกายให้อยู่ที่ศุนย์กลางกาย พยายามทำใจให้นิ่งให้หยุด แต่ไม่เคยขอขมาเหมือนคุณบัวเลย
ผมจะเปลี่ยนมาใช้วิธีของคุณบัวบ้าง ซึ่งน่าจะสามารถทำให้ผมหยุดใจได้
สุ้ต่อไปซักวันจะต้องหยุดได้ หยุดได้จากกิเลสทั้งปวง

#11 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 March 2009 - 01:13 AM

OCD = obsessive Compulsive Disorder เป็นกลุ่มอาการทางจจิตเวชชชนิดหนึ่ง คือมีอาการสำคัญคือ ย้ำคิด ย้ำทำ คือคิดซ้ำๆ ทำซ้ำๆ พูดซ้ำๆ ความรุนแรงแล้วแต่อาการของโรคค่ะ

#12 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 March 2009 - 02:51 PM

เจ้ากรรมนายเวร dont_tell_anyone_smile.gif ไม่เคยละเว้นใคร แม้แต่เด็กทารกผู้ไร้เดียงสา...ที่ร้องไห้รบกวนผู้ฝึกสมาธิในที่สงัด
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#13 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 May 2009 - 10:14 PM

คุณ usr 28668 ลองดูตามlink เผื่อจะมีทางออกที่ดีได้บ้าง
http://topicstock.pa...7/L6401287.html
http://www.dtam.moph...ative/sto...