ไปที่เนื้อหา


- - - - -

ที่สุดแห่งธรรม น่าจะดีกว่า ที่สุดแห่งรวย


  • กระทู้นี้ถูกล็อค กระทู้นี้ถูกล็อค
มี 45 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 01:03 PM

ไปงานหล่อหลวงปู่เมื่อวันที 10 มา รู้สึกดีจนกระทั่งตอนจบของงาน ในตอนที่คุณหัวหน้าชั้นให้ร่วมกันเชียร์ขอให้รวยเร็วรวยแรงอะไรปานนี้ ก็รู้ว่ารวยแล้วดี สามารถนำทรัพย์มาใช้สร้างบารมีง่าย

แต่ว่าที่ให้ร่วมเชียร์แบบนี้มันเหมือนกับว่าย้ำให้เราจำเพียงอย่างเดียวว่า เรามาวัดเพื่อหวังรวยแต่อย่างเดียว ไม่ได้พัฒนาจิตใจด้านอื่นบ้างเลย ทางวัดน่าจะลด Degree ตรงนี้ลงบ้าง แล้วหันมาหาสิ่งอื่นหรือคำพูดอื่น ให้พวกเรายึดถือมากกว่าคำว่ารวย เช่น ให้พวกเราย้ำว่าจุดมุ่งหมายของชีวิต คือที่สุดแห่งธรรม (แทนที่จะเป็นที่สุดแห่งรวย)

จาก
คนอยากรวย แต่อยากพัฒนาจิตใจให้เข้าถึงที่สุดแห่งธรรมมากกว่ารวยเพียงอย่างเดียว

#2 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 01:50 PM

ผมก็เข้าใจเจตนาของหัวหน้าชั้นดีครับ เข้าใจมากๆด้วยครับ เมื่อวันที่ 10 ผมได้ชวนคนใหม่ๆมาหลายคนได้ 1 คันรถบัสกับอีก 1 รถตู้ และในแต่ละงานที่ผ่านมา ได้ยินกับหู ว่า หลายๆคนไม่ชอบตรงจุดนี้มากครับ เหมือนกับปลุกระดมอะไรบางอย่าง ในส่วนตัวผมก็รู้สึกว่ามันทะแม่งๆตรงที่ว่า ตลอดพิธีทั้งวัน สงบมาตลอด มารู้สึกตะหงิดๆตอนทิ้งท้าย มันก็ยังไงอยู่ครับ แต่ก็เข้าใจว่าการทำแบบนี้ เป็นประโยชน์ในการรวมพลังรวมใจ เป็นอย่างยิ่ง และก็ทำให้ช่างภาพมีเวลาบันทึกภาพใด้นานๆ แต่โดยส่วนตัว ผมว่าน่าจะให้รัดกุมหน่อยครับ เอาหอมปากหอมคอพอ ขอให้นึกถึงคนใหม่ๆที่ยังไม่ค่อยเข้าใจถึงการรวมพลังของหมู่คณะบ้างครับ อยากฝากไปถึง ฝ่ายพิธีกรรมด้วย มีหลายคนฝากบอกมาครับ




#3 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 01:51 PM

เห็นด้วยอ่ะ

#4 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 03:27 PM

รู้สึกเหมือนกันเลย เมื่อก่อนที่เป็น ทุ่มชีวีสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ นี่ทำให้รู้สึกมีกำลังใจดี แต่พอหลังๆเปลี่ยนมีแบบ รวยเร็ว รวยแรง รวยรวด ทำให้นึกถึงบุญที่ทำมาทั้งวันไม่ออกเลย ยิ่งเจอคนนอกมาวิจารณ์แล้วยิ่งเบื่อเลยอ่ะ

#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 04:13 PM

คำว่า รวย นี้ บางทีอาจทำให้บางท่านรู้สึกไม่สบายใจว่าโลภในทรัพย์หรือเปล่า แต่ รวย ในที่นี้หมายถึง รวยบุญ รวยบารมี ซึ่งครอบคลุมทั้ง รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ซึ่งจะเป็นเครื่องอำนวยประโยชน์ให้ไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้น่ะครับ

ความจริงแล้ว มักมีคนให้ความเห็นว่า พุทธศาสนานิกาย เถรวาท ไม่เน้นความรวย และคนที่ให้ความเห็นมักเป็นคนที่ทรงอิทธิพลทางวิชาการศาสนาด้วย ทำให้มีอิทธิพลต่อความคิดของคนส่วนใหญ่
แต่ความสอนของพระพุทธเจ้าจริงๆ แล้ว ถ้าเป็นฆราวาส ทรงสอนให้ตั้งใจทำมาหากินจนร่ำรวยนะครับ จะได้ช่วยประโยชน์ต่อสังคมได้เต็มที่ เช่น หลักคำสอนหัวใจเศรษฐี
อุปฐานสัมปทา ขยันหาทรัพย์
อารักขสัมปทา ขยันเก็บรักษาทรัพย์ (เมื่อเก็บก็ต้องรวย)
กัลยาณมิตตตา สร้างเครือข่ายคนดี
สมชีวิตา เลี้ยงชีพตามฐานะที่สมควร

ส่วนบรรพชิต นั้นทรงสอนให้ไม่สะสมทรัพย์ ถูกต้องแล้วครับ
ซึ่งที่คนภายนอกไม่เข้าใจ เพราะเข้าใจไปว่า พระของวัดฯ สะสมทรัพย์ใหญ่โต แต่ในความเป็นจริง นั่นคือ สมบัติของวัด ของพระศาสนา ไม่ใช่สมบัติของพระรูปใดรูปหนึ่งครับ ส่วนตัวพระวัดพระธรรมกาย ล้วนเป็นอยู่เรียบง่ายทั้งนั้นน่ะครับ


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 04:23 PM

QUOTE(หัดฝัน @ 12/10/2005 15:13)  

คำว่า รวย นี้ บางทีอาจทำให้บางท่านรู้สึกไม่สบายใจว่าโลภในทรัพย์หรือเปล่า แต่ รวย ในที่นี้หมายถึง รวยบุญ รวยบารมี ซึ่งครอบคลุมทั้ง รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ซึ่งจะเป็นเครื่องอำนวยประโยชน์ให้ไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้น่ะครับ



อย่างที่คุณหัดฝันว่าไว้ก็ทราบอยู่ค่ะ แต่ว่ามีกี่คนทั้งในวัดและนอกวัดที่ทราบและเข้าใจเช่นนั้น

#7 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 04:28 PM

ฝากไปบอกหัวหน้าชั้นด้วยค่ะ ว่ามันเกินงาม อยากถ่ายรูปหมู่ก็ OK หรอก แต่หาคำอื่นดีกว่า

#8 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 05:09 PM

จะรวยอะไรก็ตาม ดีทั้งนั้น ชอบทั้งนั้นครับ แต่พอหัวหน้าชั้นบอกขออีก3รอบ คนแถวๆที่ผมยืนอยู่ ร้องโฮ่กันเลยครับ ที่เล่ามาได้ซีเรียสนะครับ แค่เล่าสู่กันฟัง ขำขำ ครับ




#9 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 05:17 PM

nerd_smile.gif เห็นด้วยอย่างยิ่งกับเจ้าของกระทู้นะครับ คำพูดบางอย่างที่พิธีกรใช้ ควรจะมีการกลั่นกรองก่อนที่จะพูดออกไป ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ก็เป็นเหมือนดาบที่กลับมาฟาดฟันตัวเองได้ในภายหลังน่ะครับ (ปล.ไม่เพียงเท่านั้น ผลเสียยังตกไปถึงครูบาอาจารย์ของเราด้วย หวังว่าคงเข้าใจนะครับ) สำหรับคนที่เข้าวัดมานานแล้วเนี่ย กระผมไม่ห่วงเท่าใดดอก จะห่วงก็แต่คนที่มาใหม่นั่นแหละ แทนที่จะได้บุญล้วนๆ กลับไป ยังต้องพกวิจีกรรมเป็นของแถมติดตัวไปด้วยนี่ คงไม่ถูกต้องกระมังครับ กระผมไม่มีเจตนาขัดแย้งกับพวกท่านหรอกว่า "ความรวย" นั้น เป็นบาทให้สามารถสร้างบารมีขั้นสูงอื่นๆ เป็นไปได้โดยง่ายโดยสะดวก เพียงแต่อย่าลืมว่า "เป้าหมายใจดำแห่งคำสอนของพระพุทธศาสนา อยู่ที่การกำจัด/เผาผลาญ/ชำระกิเลสอาสวะ ให้หมดสิ้นไปจากจิตใจ" นะครับ.
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#10 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 07:19 PM

อยากให้แจ้งไปยังหัวหน้าชั้นด้วย จะได้ปรึกษากับคุณครูไม่ใหญ่ว่าควรจะปรับแบบใดจึงจะเหมาะสม

เพื่อความเข้าใจและยอมรับได้กับคนส่วนใหญ่ด้วย

#11 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 09:56 PM

I totally agree. [I used to comment about this but my message was not approved. That was perfectly O.K. though. I respected the moderator, and was not angry at all). Please allow me this time. I really mean well.]

And please someone take this matter seriously because many people have been concerned about it for many years. There are a few people who I have taken to the temple in the past few years (both at home and abroad) never want to go back again because of this activity. I have been a super faithful follower of this temple for nearly 20 years and understand the temple well. But it's really difficult to explain to the new comers for what could be regarded as unnecessary activity. (Well it's not that difficult to explain but it's hard for them to appreciate.)
.......................

Quote Khun หัดฝัน &Khun แจ่ม [คำว่า รวย นี้ บางทีอาจทำให้บางท่านรู้สึกไม่สบายใจว่าโลภในทรัพย์หรือเปล่า แต่ รวย ในที่นี้หมายถึง รวยบุญ รวยบารมี ซึ่งครอบคลุมทั้ง รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ซึ่งจะเป็นเครื่องอำนวยประโยชน์ให้ไปสู่ที่สุดแห่งธรรมได้น่ะครับ] [...]
Khun แจ่ม [อย่างที่คุณหัดฝันว่าไว้ก็ทราบอยู่ค่ะ แต่ว่ามีกี่คนทั้งในวัดและนอกวัดที่ทราบและเข้าใจเช่นนั้น]

Yes, even though we all understand that the word รวย has its obvious and strong meaning. The word รวย, by itself, never conveys the meaning of "รวยบุญ รวยบารมี ซึ่งครอบคลุมทั้ง รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ" etc..

I understand that this activity makes many people feel more "alert", but it ruins the perfect-ness of sacred atmosphere we built up all day.

Please, please, please change the wording for this activity!!!!!! For the "perfect" image of our temple.


#12 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 12 October 2005 - 11:09 PM

This comes back to the word "STRATEGY".

Branding & Image management strategy is something to be done seriously.

#13 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 12:39 AM

nerd_smile.gif ที่สำคัญงานนี้ บุคคลที่จะได้รับผลเสียโดยตรงเลยก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ นะครับ ไม่ใช่พวกเรา ได้โปรดสงสารท่านเถิดครับ ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะกระผมรักท่านมาก ไม่อยากเห็นท่านต้องมาโดนกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก แม้ว่าท่านเองจะเปี่ยมล้นด้วยขันติธรรมอย่างสูงยิ่งเพียงใดก็ตาม.
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#14 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 01:41 AM

ขอเสริมด้วยค่ะว่า นอกจากเรื่อง "รวย" แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ติดใจชาววัดมากก็คือ "นอสตราดามุส" ที่ดิฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

ทำไมเราใช้ "ศีล" "ธรรม" หรือ "ทีสุดแห่งธรรม" เป็นจุดเด่นไม่ได้หรือคะ ต้องไปเอาคำทำนายทายทัก เอาสิ่งที่ไม่ใช่พระพุทธศาสนา เอาสิ่งที่ไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฏก มาใช้โฆษณาชวนเชื่อ ฟังแล้วไม่เจริญใจเลยค่ะ เพราะนอสตราดามุส ก็ไม่ต่างอะไรไปจากคำว่ารวยเลยค่ะ

#15 Nibbuta

Nibbuta
  • Members
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 09:23 AM

เรื่องนอสตราดามุสนี่น่าจะเป็นการเล่าเรื่องมากกว่าที่ทางวัดจะเจตนาให้เป็นอื่น ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นหลวงพ่อย้ำแต่พระรัตนตรัย ไม่เคยเห็นสอนผิดจากนี้ เรื่องนอสตราฯ นี่ เท่าที่ดูแล้ว เป็นแค่การนำเรื่องมาเล่า โดยเนื้อหาในหนังสือเมื่อมีการมาถอดความแล้วพอดีมันมาพ้องกับเรื่องราวทางวัดหรือหลวงปู่ก็ตาม ก็เลยมีการเชื่อมโยงให้เห็นว่า "บุคคล" ดังกล่าว บังเกิดขึ้นแล้วในโลก หรือคิดในทางกลับกัน เหตุการณ์ต่างๆ น่ะ มันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วหรือดำเนินอยู่แล้วไม่ว่าจะมีคำทำนายพวกนี้หรือไม่ก็ตาม ดังนั้นคำทำนายพวกนี้ก็เหมือนเป็นเพียงส่วนเสริมเพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชาวโลกได้รับรู้เท่านั้น ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ปักใจคิดว่าวัดเอาคำทำนายพวกนี้มาสร้างจุดเด่นหรือดึงศรัทธาจากประชาชนเป็นหลัก แต่กลับคิดว่า นอสตราดามุส ต่างหากที่ต้องอาศัยเหตุการณ์พวกนี้ที่เขาเห็นว่าจะเกิดขึ้นมาทำเป็นจุดเด่นให้งานของเขา เพื่อให้ชาวโลกทราบว่าคำทำนายนั้นแม่นยำ ไม่รู้นะ ข้าพเจ้าคิดแบบนี้

#16 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 09:38 AM

อย่ามาเทียงกันเลยนะ เอาเป็นว่าทำดีกันต่อไปเถอะ ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์พร้อม ทำใจเฉยๆๆเย็นๆๆสิดีก่าว บ้างทีอะไรมากระทบทางหูเราก็ทำเฉยๆๆซะ หมดปัญหา อย่างนี้เรียกว่ามีปัญญา มีปัญญามะมีปัญหา มีปัญหาเพราะมะมีปัญญา สิ่งที่หลวงพ่อสอนก็คื่อสร้างบารมี กันต่อไป แรกๆๆ เราก็ฟังว่าเกินงาม แต่ลองคิดกลับกันสิว่า เรามาสร้างบารมี ทุกคนตอ้งรวยเพื่อ่กู่พระศาสนา กลับมาให้เจริญยิ่งๆๆขึ้นไป

#17 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 10:28 AM

เห็นด้วย ถ้างั้นพวกเราช่วยกันโทรไปหาคุณวินิจ หัวหน้าชั้นเลยดีไหม เบอร์ **-*******

#18 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 11:57 AM

ขอยกสิ่งที่คิดว่าไม่เหมาะสมมาให้พวกคุณพิจารณาตัวเองกันบ้าง หากไปทำให้ใครหมองใจหรือบาดหมางใจ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่อย่างที่หลวงพ่อสอน เรื่องพระพุทธศาสนาต้องเอาอุเบกขาวาง (และดิฉันคิดว่าแม้จะต้องตักเตือนพวกเดียวกัน ก็ต้องทำ แต่ขอให้ทุกท่านเข้าใจว่านี่เป็นการติเพื่อก่อ)

ดิฉันเข้าใจดีอยู่แล้วว่าต้องรวยเพื่อจะได้นำทรัพย์สินมาสร้างพระพุทธศาสนาให้เป็นหลักยึดเหนี่ยวของคนทั้งโลก และกำลังพยายามทำอยู่

แต่ต่อให้มีเงินมากเท่าไหร่ก็คงไม่ช่วยอะไรถ้าเราไม่สามารถทำให้ผู้คนนอกเหนือจากคน หนึ่งล้านคนที่มาวัดปัจจุบันให้หันมาศรัทธาวัด และศรัทธาพระพุทธศาสานาได้

และทุกคนคงทราบดีว่าคงมีคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่จะหันศรัทธาวัดของเราหากเขาได้ยินว่าชาววัดท่องแต่คำว่า "ขอให้รวยขอให้รวย" หรือ "โอนี่ต้องใช่แน่ ๆ เห็นไม๊ ขนาดนอสตราดามุสยังบอกเลย"

ดังนั้นดิฉันจึงคิดว่า

1. ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปทำให้นอสตราดามุสมีชื่อเสียง โดยการบอกคนอื่น ๆ ว่า นอสตราดามุสทายแม่นจริง ๆ นี่ไง เป็นตามนี้เลย เห็นไม๊

2. ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปอ้างว่านี่เราเป็นผู้ที่นอสตราดามุสทำนาย ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม เพื่อสร้างศรัทธา เพื่อความสนุกสนาน คึกคะนองใจ หรือแม้แต่สร้างกำลังใจว่าพวกเรากำลังเดินมาถูกทางแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้กับความงมงายมันห่างกันเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด

3. ไม่จำเป็นที่เราจะต้อง เน้นคำว่า "รวย" กันอย่างเอิกเกริก ถ้าหากว่าผู้คนส่วนใหญ่ยังติดคิดว่า "รวย" นั้นคือรวยทรัพสินเงินทองเพียงอย่างเดียว ไม่ได้คิดไปว่าคำว่า "รวย" คือรวยบุญบารมี

ถ้าคนนอกวัด ที่เขายังไม่ศรัทธาได้ฟังแล้วเขาก็คงได้แต่ส่ายหัว (เหมือนอย่างที่ดิฉันได้เคยเห็นมาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน ขนาดตัวเองเข้าวัดมาตั้งแต่เด็ก ก็ยังส่ายหัวเหมือนกันกับคนอื่น ๆ เลย) แล้วก็ได้แต่แก้ต่างให้วัดต่าง ๆ นา นา ว่า ไม่หรอก วัดนี้เขาไม่ได้สอนให้คนโลภหรือหลงติดอยู่กับวัตถุหรอก...ect... ต่าง ๆ นา นา จนเหนื่อยไม่รู้จะแก้ต่างอย่างไรแล้ว

แล้วถ้าเป้นอย่างนี้เมื่อไหร่เราถึงจะสามารถเผยแพร่พระศาสนาของเราได้ให้กว้างไปกว่าคนหนึ่งล้านคนที่อยู่ตรงนี้หละ

#19 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 12:00 PM

ฝากโทรกันเอาเองในหมู่ผู้รู้จักเถอะ คุณหัวหน้าชั้นเขาคงไม่เชื่อคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จักเท่ากันกับหมู่อาสาสมัครในวัดหรอก

ฝากบอกคุณหัวหน้าชั้นเบา ๆ แต่ฝากบอกคณะทำงานแรง ๆ เพื่อจะได้มีแนวทางร่วมกันในการทำงานในอนาคต

#20 opalhima

opalhima
  • Members
  • 22 โพสต์
  • Location:BANGKOK

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 12:05 PM

จริงๆ แล้ว ผมว่าเราทุกคนอยากรวยด้วยกันทั้งนั้น แต่อาจเป็นเพราะว่าบุคลิกของหัวหน้าชั้น บรรยากาศในขณะนั้นทำให้เราเกิดความรู้สึกว่าไม่เหมาะ ไม่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "รวย" ที่แท้จริง เมื่อตอนเข้าวัดใหม่ๆ ก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนเหมือนกันครับ แต่หลังจากที่เข้าวัดมาได้ระยะหนึ่ง จึงรู้ว่า คำว่า "รวย" นี้ ไม่ได้หมายถึง รวยโภคทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมหมายถึง รวยอริยทรัพย์ รวยบุญ รวยปัญญา รวยบารมี ซึ่งเป็นที่ปราถนาของพวกเราทุกคนที่จะใช้เป็นเสบียงในการเดินทางไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
การสร้างบารมีย่อมมีอุปสรรค ทำใจใสใสไว้ดีกว่าครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

#21 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 12:52 PM

ได้ส่งจดหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปให้หัวหน้าชั้นแล้วค่ะ


#22 *Nothing Perfect*

*Nothing Perfect*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 03:03 PM

จริงๆแล้วชอบหัวหน้าชั้นนะ ตลกดี happy.gif

แต่ก็คิดว่าถ้ามีคนทักท้วงมาขนาดนี้ก็คงต้องหันมาพิจารณาแล้วล่ะ

จิ้งจกทัก คนโบราณยังบอกให้หยุดฟัง

นี่คนทัก..ก็ต้องยิ่งฟังใหญ่เลยเนอะ... rolleyes.gif

#23 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 03:29 PM

ความจริงแล้วนะคะ ท่านหัวหน้า น่าจะไม่มีเจตนาที่จะพูดอย่างนั้นหรอกนะคะ ที่ท่านทำไปน่าจะเป็นเพราะว่าท่านอยากที่จะให้พวกเราได้มีความรู้สึกว่า การที่เรามาวัดนั้นเป็นเรื่องที่ดี และก็จะทำให้เราเจอกับสิ่งที่ดีดี เพราะ เมื่อ กาย ใจ เราดีแล้วสิ่งต่างๆในชีวิตน่าจะดีตามไปด้วยน่ะค่ะ ดิฉันก็เป็นเพียง น.ศ. คนหนึ่งซึ่งเข้าวัดมาไม่ได้นานนะคะแต่ว่าก็พอที่จะเข้าใจอยู่ว่าทำไมเจ้าของกระทู้ถึงตั้งข้อความขึ้นมา เอาเป็นว่าเราต่างก็มีความศรัทธาที่จะเข้าวัดเหมือนกัน เราก็ต่างตั้งใจที่จะทำความดีเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมาร่วมกันคิดอย่างรอบคอบและสันติดีกว่า มาเติมและบรรเทาสิ่งที่แต่ละคนขาดหายไปเพื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ และเพื่อความดีสำหรับเรา สำหรับชาวโลก และสัพสัตว์ทั้งหลายที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่บนโลกนี้
ปล. จากลูกพ่อขุน ปี หนึ่ง น่ารัก

#24 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 03:30 PM

เห็นด้วยนะในบางส่วนของความคิดเห็น เช่นเปลี่ยนคำว่า "รวย." เป็น "รวยบุญ รวยบารมี"

ในเรื่อง "นอสตราดามุสทำนาย" มี2ส่วน ส่วนแรกการประชาสัมพันธ์ให้บุคคลภายนอกเข้าใจ ก็ฟังดูดีนะ ส่วนหลังถ้าเน้นประเด็นนี้มากไป ก็จะดูไม่ดี ....... ความเห็นผมนะเฉยๆ ไม่เห็นจะเป็นประเด็น เพราะมีข้อดีข้อเสีย

แต่ประเด็นเรื่องหัวหน้าชั้นนะ มีความคิดเห็นดังนี้ครับ
1. ต้องทำความเข้าใจเรื่อง "หน้าที่ กันก่อน." ต้องมีความเคารพในการทำหน้าที่ของบุคคล ยกตัวอย่างนะครับ "ถ้าหน้าที่นั้นเป็นของเรา เราจะทำได้ดีเท่านี้หรือไม่." ถ้าไม่ดีกว่า ผมจะไม่วิจารณ์เรื่องนั้นๆ กลัวว่าจะคล้ายเคสการต่อว่าภิกษุผู้มีศีล จะมีวิบากกรรม เพราะอย่างไรศีลท่านก็มากกว่าเรา ผู้ถือศีล 5 ศีล 8
2. "เรื่องส่วนตัว ให้วางอุเบกขา เรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง"
3. "ทิฐิ" อันนี้ผมก็มีอยู่มาก แต่ฟังเคทของผู้ที่พลัดออกจากหมู่คณะ ซึ่งมีจำนวนมาก ผมไม่อยากเป็นเช่นนั้น ก็เลยวางเฉย ในหลายๆเรื่อง


ผมเล่าเรื่องที่เคยได้สัมผัสกับตัวเองให้ฟังครับ เรื่องมีอยู่ว่า "เมื่อปีกลาย ได้ไปร่วมทำบุญที่วัดและเข้าโรงเรียนอนุบาล ได้รู้จักผู้มีบุญท่านหนึ่ง ผมเห็นแล้วชื่นชมเพราะท่านนั้นได้เป็นเจ้าภาพบุญในหลายๆบุญ แต่ในวันนั้น ที่โรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน เขาบอกกับผมว่า เขาไม่ชอบหัวหน้าชั้น ซึ่งลึกๆผมก็รู้สึกเหมือนกัน เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปและผมนั่งสมาธิมากขึ้น ผมเริ่มรู้สึกว่าที่ผมไปคิดตามเช่นนั้น (มองแง่ลบ)บุญผมหายไปมากต่อมากๆ (ภาชนะรองรับบุญไม่เปิดกว้าง) ใจผมใสน้อยลง (ขุ่นมัว) จึงได้เลิกคิดเช่นนั้น (Positive Thinking) และในภายหลังจึงได้เข้าใจการทำหน้าที่มากขึ้นครับ
เร่งสร้างบารมี ทำใจให้ใส เปลี่ยนความคิดลบ เป็นคำอนุโมทนาบุญในทุกบุญ และอธิษฐานจิต "ให้ได้ตามติด ติดตามหลวงพ่อ..ใกล้ชิด."

ไม่ได้มีเจตนาให้ท่านใดใจหมองนะครับ แต่ขอแสดงความเห็นไว้เตือนสติ(ตนเอง) ผมไม่อยากหลุดออกจากหมู่คณะ บุญใดที่จะบังเกิดขึ้นได้ขอให้บุญนั้นจงถึงแด่เพื่อนร่วมวงบุญ หากคำกล่าวใดผิดพลาดพลั้งไปก็ขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ครับ

กราบอนุโมทนาบุญครับ

#25 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 04:01 PM

ใจใส ก็ได้บุญมาก...
ใจขุ่นก็ได้บุญน้อย...

ผ่านมา

#26 saowanee15

saowanee15
  • Members
  • 207 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 05:24 PM

หากเป็นคนเก่าและพอเข้าใจ...เค้าจะถือว่า เป็นการชูใจ เป็นบุญบันเทิงนะค่ะ..
คำว่า รวย ใช้ทั้งสองกรณีค่ะ
คือ รวย ทางโลก กับ รวยทางธรรม ก็ให้อธิษฐานเอาว่าจะรวยแบบไหน
บางคนทางโลกมีพร้อมแล้วก็อยากรวยทางธรรม..
บางคนก็เหมือนเรา(ตัวเราเอง) รวยก็ยังไม่รวยเท่าไหร ทางธรรมก็ยังไม่เท่าไหร
ก็จะเอาทางโลกก่อนแล้วก็ทางธรรมตามทีหลัง ...ไม่ค่อยได้นึกเท่าไหร...
เพราะฉะนั้น คุณชวนใครมาวัด ถือว่า เป็นสิ่งดี ๆ นะค่ะ
อนุโมทนาบุญค่ะ...
แต่ หากเค้าสงสัยสิ่งใด ควรอธิบายให้เค้าฟัง
เพราะคนเราแต่ละคนมีอินทรีย์ต่างกันนะค่ะ
แต่ว่า พอเปลี่ยนมารวยบุญ รวยบารมี ก็จะโดนอีกนะค่ะ
เออ! ทำบุญหวังให้รวยบุญ รวยบารมี...
คนเรานานาจิตตังนะค่ะ
แต่เราว่า หาคำใหม่ ๆ เปลี่ยนให้ ที่คนทั่วไป ๆ คนใหม่ ๆ หรือแม้คนเก่า ๆ ได้หัวใจพอง ๆ
ดีกว่าค่ะ..เพราะคำว่า รวย ส่วนใหญ่ คงคิดว่า รวยทรัพย์สินเงินทอง มากกว่าค่ะ
เช่น ทุ่มชีวี..สร้างบารมี..รวยถึงที่สุดแห่งธรรม ขอมีแจมคำรวยหน่อย ๆ นะค่ะ...
เพราะคำว่า สร้างบารมี ก็รวม ๆ คำว่ารวยบุญ รวยบารมี..ส่วนรวยหลัง เจาะจงไปว่า รวยทรัพย์สินเงินทองซะมากกว่าค่ะ

#27 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 06:09 PM

คำว่า รวย ในความรู้สึกของคน กลายเป็นมีความหมายใกล้เคียงกับ คำว่า โกง และ โลภ เข้าไปทุกๆ ทีแล้ว เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ราวกับว่า เป็นความเชื่อที่ถูกปลูกฝังไปในใจคนไทยไปแล้วว่า ถ้ารวย แสดงว่า ต้องเคยมีการโกงมา หรือ จิตใจย่อมไม่บริสุทธิ์
น้อยคน ที่จะเชื่อว่า จะมีคนที่รวยโดยที่มีจิตใจบริสุทธิ์ และไม่เคยโกงมา ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว มีคนที่รวยอย่างนั้นจริง และสร้างประโยชน์ให้โลก และสังคมมหาศาล ทั้งในอดีต เช่น ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี และนางวิสาขา มาจนถึงปัจจุบัน อีกจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน
แต่ผมเชื่อมั่นว่า หากได้เผยแผ่ ธรรมะที่ถูกต้อง (ไม่ถูกปลอมปนโดยนักวิชาการศาสนายุคปัจจุบันกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมักได้รับการเผยแผ่ข้อคิดจากสื่อมวลชน) ไปยังชนหมู่มาก ให้เขารู้ว่า รวยอย่างถูกต้อง สวยหล่ออย่างถูกต้อง และฉลาดอย่างถูกต้อง อีกทั้งจะย้อนกลับมาเป็นประโยชน์ให้สังคมนั้นมีอยู่ ดังเช่น บัณฑิตในอดีตกาล เมื่อนั้น ทัศนคติที่สมบูรณ์จะเกิดขึ้นในใจคนทั้งหลาย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#28 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 07:36 PM

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ

ผมเองเข้าวัดมาสิบกว่าปีแล้ว เข้าใจเข้าใจโครงงานหลวงพ่อทุกอย่าง แต่ทุกครั้งที่ต้องมาตะโกนร้อว่า รวยเร็ว รวยแรง รวยรวด และอีกสารพัดรวย รู้สึกว่าใจมันจะตกยังไงก็ไม่รู้ครับ รู้สึกไม่ดีเท่าไร จริงๆก็เห็นด้วยนะครับที่รวยแล้วดี รวยแล้วสร้างบารมีสะดวก แต่ก็ไม่ควรตะโกนพูดแบบนั้น มันรู้สึกว่าไปหวังผลว่าบุญจะส่งให้รวย ทำบุญเพื่อให้รวยมากๆๆๆ จริงๆแล้วหลวงพ่อเองท่านก็สอนแค่ว่าทำทานแล้วก็จะรวย เพราะเป็นหน้าที่ของบุญ เรามีหน้าที่อธิษฐานให้บุญส่งผลไปในทางเสริมการสร้างบารมีของเรา แต่ส่นตัวผมคิดว่าไม่เหมาะเท่าไรที่จะไปตะโกนอย่างนั้น ยังมีคำดีๆที่ส่งเสริมกำลังใจอีกหลายคำ อยากให้ลองเปลี่ยนดูบ้างน่ะครับว่าจะเหมาะมั้ย

เห็นด้วยกับบางท่านที่บอกว่า ไม่อยากตอบคำถามเวลาพาคนใหม่ไปวัดแล้วเขาสงสัยกิจกรรมอย่างนั้น จะมีสักกี่คนกันเล่าทั้งในและนอกวัดที่เข้าใจงานของหลวงพ่อที่แท้จริง ไม่อยากให้เรื่องเล็กๆน้อยๆมากระทบให้หลวงพ่อท่านเสียเวลาทำงานใหญ่น่ะครับ

#29 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 09:01 PM

The real issue here is not about the meaning of รวย, but the way we SHOUT it out in the calm and sacred occasion.

QUOTE
ใจใส ก็ได้บุญมาก...
ใจขุ่นก็ได้บุญน้อย...


That's right. But to make thousands of people shout the word that make some people doubt about our temple and make them ใจขุ่น may not do any good for any body.

May be it’s better to yell out a “purer” word, and we can still keep wishing for richness quietly by heart. That would make everybody happy, wouldn’t it?!

{I’m sorry that I cannot type in Thai (though my English may not be that good). I would appreciate if someone could translate this into Thai}

#30 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 October 2005 - 10:08 PM

คงไม่ได้มีใครไม่ชอบหัวหน้าชั้นหรอก เพียงแต่ว่า ทางคณะทำงานควรจะตกลงหาแนวทางร่วมกันถึง คำพูดที่ควรใช้ เพื่อรักษา image และ ไม่ส่อไปในทางที่ไม่น่าศรัทธาต่างหาก