ทำไมสังคมที่มีแต่ข่าวข่มขืน
#1
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 04:37 PM
คนพวกนี้ใจคอมันทำด้วยอะไร ขนาดบางคนมีความรู้เป็นถึงอาจารย์ ดอกเตอร์ ก็ทำ
ใจคนพวกนี้เขาทำด้วยอาไร
#2
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 04:55 PM
#3
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 05:15 PM
เมื่อคนส่วนใหญ่นิยมบริโภคแต่ข่าวร้ายๆ เช่นนี้ บรรดาสื่อมวลชนคนทำข่าว ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำแต่เรื่องพวกนี้มาลงให้อ่านกันน่ะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 05:46 PM
ลงโทษ ผศ.ฉาว ม.อุบลฯ พักงาน-ตั้ง กก.สอบวินัย
จากกรณีนักศึกษาหญิงชั้นปีที่ 3 คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เข้าแจ้งความต่อตำรวจขอให้ดำเนินคดีกับ ผศ.จักรฤทธิ์ อุทโธ อายุ 41 ปี อาจารย์ประจำคณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ เพื่อแลกกับการอัพเกรดนั้น
วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.ประกอบ วิโรจน์กูฏ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลฯ นัดประชุมด่วนผู้บริหารและนิติกรมหาวิทยาลัย ในเวลา 10.00 น. เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าว หลังจากเบื้องต้นในส่วนมหาวิทยาลัยอุบลฯ ได้มีคำสั่งพักราชการและตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผศ.จักรฤทธิ์ แล้ว
ด้านนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่จะดำเนินการไปตามระเบียบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา สภามหาวิทยาลัยและระเบียบข้าราชการที่มีการวางโทษทางวินัยไว้แล้ว โดยมหาวิทยาลัยสามารถตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงได้ทันทีหากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน
เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ตนได้สอบถามอย่างไม่เป็นทางการกับเพื่อนในมหาวิทยาลัยอุบลฯ เพื่อหาข้อมูลและติดตามความเคลื่อนไหวของผู้บริหารว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการดำเนินการที่เหมาะสมสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจะดำเนินการเอง
วันเดียวกัน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เป็นครูอาจารย์ไม่ควรทำ ควรทำตัวเป็นตัวอย่าง ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้สังคมเหมารวมว่า อาจารย์ทุกคนไม่มีจริยธรรม เพราะอาจารย์ส่วนใหญ่ไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น
ทางด้านนายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนอาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับนักศึกษาว่า สัปดาห์ก่อนได้ให้อาจารย์ที่ถูกสอบสวนมาชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว ภายในกลางเดือนหน้าจะได้ข้อสรุปเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยต่อไป
ล่า 3 กามโฉด โทรมสาวคาโรงแรม
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.ท.ประทีป ทองดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งจาก น.ส.คำมา เจริญวัย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเช่า ย่านสุทธิสาร กทม. ว่า มีเพื่อนสาวถูก 3 คนร้ายบุกเข้าไปห้องพักแล้วจับรุมข่มขืน เหตุเกิดที่ห้องพักหมายเลข 002 ของโรงแรมแอปเปิ้ลอินน์ ถนนพัทยาสาย 3 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองพัทยา และผู้บังคับบัญชาทราบ รีบตรวจสอบพร้อมกำลังและมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา พบเหยื่อกามนอนร้องไห้ สภาพเปลือยกายอยู่บนเตียง ทราบชื่อ น.ส.นุ้ย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี บ้านอยู่ จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่ง รพ.บางละมุง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา
สอบปากคำ น.ส.คำมา เพื่อนของสาวผู้เคราะห์ร้าย ให้การว่า ได้มาเที่ยวพัทยากับ น.ส.นุ้ย และเปิดห้องพักในโรงแรม เกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. หลังเปิดห้องเสร็จแล้ว ได้ชวน น.ส.นุ้ยออกไปเที่ยวข้างนอก แต่ น.ส.นุ้ยปฏิเสธ เนื่องจากไม่สบายเป็นไข้และกินยาแก้ไข้แล้วขอนอนหลับพักผ่อนก่อน ตนจึงออกไปเที่ยวข้างนอกปล่อยให้ น.ส.นุ้ยนอนอยู่คนเดียว โดยล็อกกลอนลูกบิดประตูห้องด้านในไว้
กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืน น.ส.นุ้ยได้ร้องไห้โทรศัพท์บอกว่าถูกคนร้าย 3 คน บุกเข้าไปในห้องแล้วจับกรอกยาน้ำ ไม่ทราบว่าเป็นยาอะไรทำให้สะลึมสะลือแต่ยังรู้สึกตัว จากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คนช่วยกันจับแขนขาแล้วผลัดกันข่มขืนจนสำเร็จความใคร่หลายครั้ง น.ส.นุ้ย พยายามต่อสู้ขัดขืนแต่ไม่มีแรง หลังคนร้ายลงมือข่มขืนจนสำเร็จต่างแยกย้ายกันหลบหนีไป
ส่วน น.ส.นุ้ย หลังแพทย์ รพ.บางละมุง ตรวจร่างกายแล้วพบร่องรอยการถูกข่มขืน ร่างกายบอบช้ำมากและต้องรอผลตรวจว่าตัวยาที่คนร้ายจับกรอกปากเหยื่อนั้นเป็นยาประเภทไหน ขณะนี้ น.ส.นุ้ยยังไม่สามารถให้การได้ แพทย์ต้องให้นอนพักรักษาตัวอย่างน้อย 2 วัน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุอาจจะเป็นคนในเพราะกุญแจห้องไม่มีรอยงัดแงะและรู้ว่าเหยื่อนอนพักอยู่คนเดียว
#5
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 06:36 PM
#6
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 07:41 PM
#7
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 08:27 PM
ดังกรณีนี้...ก็สะท้อนให้เห็นว่า...มโนธรรมไม่ได้แปรตามคุณวุฒิเสมอไป...กิเลสตระกูลราคะครอบงำได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานันดร ทุกระดับการศึกษานะ
ยังไงข่าวก็คือข่าว...
1. สะท้อนมุมมืดสังคมบางส่วน...ยังมีมุมมืดอีกมากที่ไม่ได้ลงเป็นข่าว...ในทางกลับกันยังมีข่าวดีอีกมากที่น่าจะลงแต่ไม่ให้โอกาสลง เช่น การประชาสัมพันธ์โครงการตักบาตร...
2. กระแสสังคมยังตอบรับการวิพากษ์วิจารณ์ข่าวร้ายๆอยู่ เพราะหนังสือพิมพ์ยังขายดี ถ้าผู้อ่านใช้วิจารณญานรวมตัวเป็นชมรมผู้อ่านข่าวได้ ทำการขับเคลื่อน แนะนำ-ต้านทำให้ยอดขายตกได้ คงจะเปลี่ยนแปลงลงข่าวดีได้บ้าง
3. อ่านแล้วใจหมองควรเลี่ยงดีกว่าเพราะอ่านแล้วร้อนใจอาจพลาดก่อวจีกรรม อ่านแล้วเกิดธรรมสังเวชก็พอจุนเจือได้ แล้วจะรู้สึกว่าเราโชคดีที่ไม่ได้ก่อวิบากกามเช่นนี้
#8
โพสต์เมื่อ 30 June 2008 - 08:57 PM
คือ ขี้เกียจอ่านข่าวหมองๆอ่ะจ๊ะ..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#9
โพสต์เมื่อ 01 July 2008 - 12:06 PM
#10
โพสต์เมื่อ 01 July 2008 - 05:19 PM
เราต้องสร้าง TREND ใหม่ SLOGAN ใหม่ " ข่าวดีลงฟรี แอนตี้ข่าวร้าย "
#11
โพสต์เมื่อ 01 July 2008 - 06:10 PM
#12
โพสต์เมื่อ 01 July 2008 - 08:17 PM
เห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากระบบการศึกษาในปัจจุบันมิได้สอนวิชาชีวิต มิได้มีการปลุกฝังศีลธรรม เป็นหน้าที่ของพวกเราเหล่าลูกพระธัมฯ ลูกหลานหลวงปู่ คุณยาย จะต้องทำหน้าที่กันต่อไป ให้ทุกคนได้เห็นความจริงของชีวิต
ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อจึงได้สร้างสื่อสีขาว สื่อที่ผู้ได้ดูมีความสุข และอยากให้พวกเราช่้วยกันเผยแพร่ออกไป
ขออนุญาติติง ที่นำข่าวที่อาจทำให้ใจหมองมาลงในเว็บแห่งนี้ ...โดยส่วนตัวดูเพียงหัวข้อ เพราะใจยังไม่สามารถวางเฉยได้พอที่จะอ่านข้อความโดยไม่เกิดความรู้สึกอันใด
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#13
โพสต์เมื่อ 01 July 2008 - 10:19 PM