ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

2548-01-02: ปู่เปลี่ยนศาสนาเพราะกลัวเป็นปอบ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 Chadawee

Chadawee
  • Members
  • 299 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 15 February 2006 - 02:47 PM

ปู่เปลี่ยนศาสนาเพราะกลัวเป็นปอบ

2/1/48


คุณพ่อมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน ครอบครัวของพ่อนับถือศาสนาพุทธ แต่เมื่อเจ้าของเคสเกิดมาได้ 2 – 3 ปี ปู่ไม่สบาย ร่างทรงบอกว่าปู่เป็นปอบ ทำให้ปู่เป็นที่รังเกียจของชาวบ้าน พอดีช่วงนั้นมีคนมาชวนคุณพ่อและญาติๆ ไปให้นับถือศาสนาอื่น เขาบอกว่าถ้านับถือศาสนานี้แล้วจะไม่เป็นปอบ เนื่องจากเขานับถือพระเจ้า แต่ศาสนาพุทธยังมีการนับถือทั้งพระและผี ผลก็คือ ปู่ ย่า ครอบครัวของลุงป้าและอาเปลี่ยนจากศาสนาพุทธไปเป็นศาสนานั้นเลยเพราะกลัวเป็นปอบ

ต่อมาเมื่อปู่ย่าลุงและป้าเสียชีวิตก็ได้มีการทำบุญตามความเชื่อในศาสนานั้น และได้ฝังศพไว้ที่ป่าช้า ส่วนคุณพ่อยังนับถือศาสนาพุทธ คุณพ่อเป็นเพียงคนเดียวในครอบครัวที่ไม่ยอมเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น คุณพ่อเคยบวชพระถึง 6 พรรษา คุณพ่อเป็นคนที่รักครอบครัว ขยันทำงาน

เมื่อตอนเจ้าของเคสยังเล็ก มีโจรปล้นบ้าน สูญเสียทรัพย์สินไปหลายรายการ และหลายปีต่อมาเกิดไฟไหม้กระท่อมที่พ่ออบใบยาสูบหรือยาเส้น ช่วงที่เจ้าของเคสเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คุณพ่อขับรถยนต์ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำตกข้างถนน ส่งผลให้คุณพ่อขาขวาและแขนขวาหัก ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายเดือน

พอเจ้าของเคสได้เข้าวัดก็ได้ชวนท่านเข้าวัดเป็นครั้งแรกในวันบวชอุบาสกแก้วรุ่นแรกของโลก และท่านก็เข้าวัดและทำหน้าที่ผู้นำบุญตั้งแต่วันนั้นจนปัจจุบัน

คุณแม่มีพี่น้องทั้งหมด 7 คนเสียชีวิตแล้ว 4 คน คุณตานั้นเสียชีวิตตั้งแต่เจ้าของเคสยังไม่เกิด คุณแม่ได้ดูแลคุณยายอย่างใกล้ชิดอยู่หลายปี วันพระคุณยายจะไปรักษาอุโบสถศีลที่วัดอยู่เป็นประจำ ทำให้ตัวเจ้าของเคสมีโอกาสไปทำบุญที่วัดอยู่เรื่อยๆ

แต่มีวันหนึ่งไม่ทราบว่าคุณยายโกรธคุณแม่เรื่องอะไร จึงว่ากล่าวคุณแม่ต่างๆ นานา ทำให้คุณแม่น้อยใจ คุณพ่อจึงพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่จังหวัดสกลนครโดยไม่ได้เอามรดกใดๆ จากคุณยายเลยเพราะท่านไม่ให้ จากวันนั้นคุณยายก็อยู่ในความดูแลของน้าสาวและคุณป้าพี่สาวของคุณแม่ หลายปีที่ครอบครัวของเจ้าของเคสไม่ได้ไปเยี่ยมคุณยาย แต่ก็สอบถามข่าวความเป็นอยู่ของท่านกับทางญาติอยู่เรื่อยๆ ในช่วงหลังญาติบอกว่าคุณยายถามถึงคุณแม่บ่อยขึ้น และวันที่คุณยายป่วยหนัก ใกล้ถึงวาระสุดท้ายของคุณยาย ท่านเพ้อเรียกหาคุณแม่ และวันที่ท่านจากไปคุณแม่ก็ไปจัดงานศพของท่านจนเรียบร้อย

น้องชายของเจ้าของเคสได้เข้าวัดพร้อมคุณพ่อคือบวชอุบาสกแก้วรุ่นแรกของโลก และจากนั้นได้ทำหน้าที่ผู้นำบุญเรื่อยมาจนถึงประมาณต้นปี 2546 เขาได้ไปพูดคุยกับพระรูปหนึ่งที่มาธุดงค์ในหมู่บ้าน จ. สกลนคร น้องชายก็ไปหาทุกวัน ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ แล้วมาบอกพ่อกับแม่ว่า พรรษานี้จะบวชแล้วก็ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ ใครห้ามปรามอย่างไรก็ไม่ฟัง เจ้าของเคสพูดคุยกับเขาทางโทรศัพท์แล้วก็ไม่เป็นผล น้องชายก็ยืนยันที่จะบวชอยู่ที่วัดป่าแห่งหนึ่ง พฤติกรรมเหมือนคนสติไม่ดีเลย จำคำพูดของตนเองไม่ได้ หลังจากออกพรรษาปี 2546 ได้ไม่นานเขาก็ลาสิกขาแล้วก็เข้ารับการรักษาทางด้านจิตเวชที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และขณะนี้ก็ยังพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน

พี่ชายของน้องเขยมีอาชีพทำนา แต่ช่วงว่างจากการทำนาจะใช้รถจักรยานยนต์ไปขายเสื้อผ้าตามสถานที่ต่างๆ แบบไปเช้า–เย็นกลับ วันหนึ่งพี่ชายของน้องเขยไปขายเสื้อผ้าแต่ถึงเวลาเย็นแล้วก็ยังไม่กลับ วันรุ่งขึ้นญาติๆ ก็พากันออกตามหาแต่ไม่พบ รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งจึงทราบข่าวว่า มีคนพบศพนอนตายที่กระท่อมกลางทุ่งนาในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำรวจไปชันสูตรศพ พบว่าไหลตาย สภาพศพนั้นเล็บเขียวคล้ำ ตำรวจไม่สามารถตามหาญาติได้เลย เพราะไม่พบบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรใดๆ เลย ตำรวจและทางโรงพยาบาลก็สรุปว่าให้ทำพิธีฝังศพเลย เมื่อญาติๆ ทราบข่าวก็ไปดูที่ฝังศพ แต่ความเชื่อของคนที่นั่นถือว่าคนตายโหงจะไม่ขุดศพขึ้นมา ดังนั้นญาติๆ ก็เห็นแต่ที่ฝังศพพร้อมรูปถ่ายที่ตำรวจถ่ายไว้เท่านั้น แล้วก็กลับบ้านทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ตามประเพณี

เจ้าของเคสเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว เกิดในครอบครัวชาวนา จ. กาฬสินธุ์ และได้รู้จักวัดและหมู่คณะเมื่อมาทำงานในภาคใต้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541 ตอนนี้เจ้าของเคสมีกำลังใจเต็มเปี่ยมจากหลวงพ่อในการสร้างบารมี แต่สิ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นกังวลสำหรับเจ้าของเคสนั่นก็คือภาระหนี้สินของเจ้าของเคสเอง

หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที แล้วนำมาเล่าเป็นนิยายปรัมปรา


1. ทำไมญาติๆ ของคุณพ่อจึงเปลี่ยนศาสนาจากศาสนาพุทธไปเป็นศาสนาอื่นๆ ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่เจ้าของเคสอุทิศไปให้หรือไม่ ที่น้องชายของเจ้าของเคสฝันถึงคุณป้าหมายความว่าอย่างไร และที่เจ้าของเคสสร้างองค์พระถวายพระสังฆาธิการไม่เจาะจงชื่อให้ท่าน ท่านได้รับหรือไม่อย่างไร
ตอบ ปู่ ย่า ลุง ป้า เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตายแล้วก็ไปเป็นภุมเทวาในหมู่บ้านภุมเทวาเดียวกันแถวๆ บ้านที่เป็นมนุษย์อยู่ มีชีวิตแบบชาวบ้าน ที่มาอยู่ตรงนี้ทั้งหมดทุกคนเพราะตอนเป็นมนุษย์ก็นับถืออย่างผิวเผิน แต่ก็ทำตามคำสอนบ้าง ดำเนินชีวิตแบบชาวบ้านทั่วๆ ไปบ้าง เช่น ฆ่าสัตว์ทำอาหารบ้าง ใจดีต่อเพื่อนบ้านบ้าง เป็นต้น ก็เพื่อจะหนีจากคำว่า “เป็นปอบ” ที่เจ้าของเคสทำบุญสร้างพระถวายพระสังฆาธิการโดยไม่เจาะจงนั้น อุทิศบุญไปให้ ท่านก็ไม่ได้รับบุญนั้น เพราะไม่ได้เจาะจงถึงท่าน กับท่านก็ไม่มีศรัทธาในศาสนาพุทธด้วย เพราะฉะนั้นก็รับบุญไม่ได้ ก็ยังเป็นชาวบ้านจนๆ อย่างนั้น ตอนนี้ลำบาก ก็ให้ทำบุญเจาะจงไป ก็พอจะได้บ้าง เหตุที่ญาติของคุณพ่อเปลี่ยนไปเป็นศาสนาอื่นเพราะในอดีต ญาติคุณพ่อทำบุญในพระพุทธศาสนาน้อย อีกทั้งไม่ได้ศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนา คือ เป็นชาวพุทธแค่ในนาม ก็ไม่ค่อยได้ทำบุญ และก็ไม่ได้ศึกษาว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนอะไรบ้าง เมื่อไม่ได้ศึกษาก็ไม่รู้ว่าจะทำตามคำสอนอย่างไรได้ถูกต้อง จึงทำให้มีบุญด้านนี้น้อย จึงคล้อยตามได้ง่าย

2. ทำไมคุณพ่อจึงไม่เปลี่ยนความเชื่อเหมือนญาติคนอื่นๆ และเจ้าของเคสจะทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับญาติๆ ของคุณพ่อให้มาสร้างบารมีกับหมู่คณะได้สำเร็จหรือไม่
ตอบ ส่วนคุณพ่อมีบุญทั้งอดีตและปัจจุบันที่ได้ทำไว้ในพระพุทธศาสนามากกว่า อีกทั้งได้ศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนามามากกว่าด้วย จึงไม่คล้อยตาม เจ้าของเคสจะเป็นกัลยาณมิตรให้หมู่ญาติได้ เจ้าของเคสจะต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า ทุกชีวิตขึ้นอยู่กับการกระทำ ไม่ใช่พระเจ้าองค์ใดจะบันดาลให้ อีกทั้งจะไม่มีใครมาช่วยล้างบาปได้นอกจากตนเอง ต้องสร้างบุญให้ถูกหลักวิชา ถึงจะไปตัดรอนบาปในตัวได้ ซึ่งการจะไปโปรดหมู่ญาติดังกล่าว เจ้าของเคสต้องแม่นในหลักความรู้ในพุทธศาสนา อีกทั้งก็ต้องอดทนและเยือกเย็น ถ้าญาติคนไหนบุญเก่าตามมาทันก็จะเข้าใจได้

3. วิบากกรรมอันใดที่ทำให้ครอบครัวของเจ้าของเคสถูกโจรปล้นและไฟไหม้ ทรัพย์สินเสียหาย
ตอบ ที่บ้านของเจ้าของเคสถูกโจรปล้นและไฟไหม้เพราะ กรรมในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้ไปแกล้งขโมยพืชผลของเพื่อนบ้านและเผาโรงนา เพราะไม่ชอบหน้ากัน ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น

4. วิบากกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนขาและแขนขวาหัก
ตอบ คุณพ่อประสบอุบัติเหตุจนแขนขาขวาหักเพราะกรรมในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม ได้เอาไม้ไปตีขาวัวของเพื่อนบ้านที่ทะเลาะกัน เอาไม้ท่อนใหญ่ๆ จนขาวัวหัก เมื่อกรรมตามทันทำให้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

5. คุณยายละโลกแล้วไปอยู่ที่ไหน ก่อนเสียชีวิตท่านรู้สึกอย่างไรกับคุณแม่บ้าง จะมีวิบากกรรมอันใดติดค้างกันหรือเปล่า
ตอบ คุณยายละโลกแล้วไปเป็นเทพธิดาสายยักษ์ ชั้นจาตุมหาราชิกา มีวิมานทองขนาดปานกลาง ด้วยบุญที่ทำทาน รักษาศีล ในพระพุทธศาสนา และก็มีความมักโกรธเล็กน้อยเจืออยู่ ก่อนเสียชีวิตท่านคิดถึงคุณแม่มาก จึงถามถึงตลอดเวลาจนกระทั่งจากโลกนี้ไป เพราะท่านอยากเห็นหน้าลูกทุกๆ คนก่อนตาย โดยเฉพาะกับคุณแม่ซึ่งตัวท่านเองรู้สึกว่าผิดที่ว่ากล่าวทำร้ายจิตใจลูกของท่านจนกระทั่งต้องหนีหน้าท่านไป ถ้าไม่ได้ขอขมากันก็อาจต้องไปเจอเหตุการณ์ซ้ำเดิมอีก จะแก้ไขก็ต้องทำบุญอุทิศถึงท่าน และก็ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย ก็จะพ้นวงจร

6. น้องชายของเจ้าของเคสถูกไสยศาสตร์หรือไม่ วิบากกรรมใดทำให้มีอาการทางประสาทจนต้องเข้ารับการรักษา และจะทำอย่างไรให้หายและกลับมาสร้างบารมีอย่างเต็มที่กับหมู่คณะต่อไปได้ น้องชายเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร
ตอบ น้องชายไม่ได้ถูกไสยศาสตร์ แต่เป็นกรรมสุราในอดีตตามมาส่งผล ดื่มสุราทำให้เป็นบ้า ใบ้ ปัญญาอ่อน เป็นต้น จะแก้ไขเจ้าของเคสต้องสร้างบุญแทนให้ไปก่อน โดยใส่ชื่อน้องแล้วอธิษฐาน ให้บุญไปตัดวิบากกรรมจนกระทั่งเบาบาง เมื่อน้องชายพอรู้เรื่องบ้างก็ให้จบอธิษฐานเวลาจะทำบุญทุกครั้งด้วยตัวเองตอนที่เค้าพอจะรู้เรื่องขึ้นมา น้องชายเคยเป็นกองเสบียงของหมู่คณะ ตอนบวชเป็นสามเณรวัยรุ่นไปคบกับสามเณรเกเร ได้ไปลองแอบดื่มเหล้าจนเมามาย ชาตินี้จึงต้องมาบวชแล้วเสียสติ

7. พี่ชายของน้องเขยเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ตายแล้วไปไหน วิบากกรรมใดทำให้ตายโดยที่ไม่มีญาติจัดงานศพให้เลย
ตอบ พี่ชายของน้องเขยหมดอายุขัย ตายแล้วก็วนเวียนเป็นภุมเทวาชั้นล่าง เมื่อได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็มีสภาพดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นภุมเทวาอยู่ วิบากกรรมที่ทำให้อายุสั้นเพราะกรรมในอดีตฆ่าสัตว์ใหญ่เอาไว้มาก ที่ไม่มีญาติมาจัดงานศพมาให้เลยเพราะขาดบุญสงเคราะห์ญาติและบุญเลี้ยงดูบิดามารดา

8. วิบากกรรมอะไรที่ทำให้เจ้าของเคสต้องมีหนี้สินเกินตัวเช่นนี้ และจะปลดภาระหนี้สินเหล่านี้ได้หรือไม่ อย่างไร เจ้าของเคส คุณพ่อ คุณแม่ เคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร ในอดีตเจ้าของเคสเคยเข้าถึงพระธรรมกายไหม และในปัจจุบันเจ้าของเคสมีโอกาสเข้าถึงไหม เจ้าของเคสมีสิทธิ์ไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษไหม
ตอบ ที่เจ้าของเคสมีหนี้สินเกินตัวก็เพราะทานบารมีในอดีตน้อยกับปัจจุบันไม่รู้จักประมาณในการใช้จ่าย จึงมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ เจ้าของเคสก็ต้องพยายามลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ด้วยการขยายช่องทางทำมาหากิน อีกทั้งต้องสั่งสมทานบารมีด้วย เจ้าของเคส คุณพ่อ คุณแม่ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะแบบตามอารมณ์ เพราะฉะนั้นบางชาติก็เจอกัน บางชาติก็ไม่เจอกัน ทำให้ชีวิตในชาตินี้ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์เท่าที่ควร เพราะสร้างบุญไม่ต่อเนื่อง ผลการปฏิบัติธรรมในอดีตก็พอช่วยตนเองได้ เพราะนั่งไม่ต่อเนื่อง ไม่สม่ำเสมอ ชาตินี้เจ้าของเคสมีโอกาสเข้าถึงพระธรรมกายได้ถ้ามีความเพียรและทำถูกหลักวิชา ให้สั่งสมบุญทุกบุญอย่าได้ขาด แล้วอธิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ ก็มีสิทธิ์ไปได้