ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

เลือดแม่เพื่อลูก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2009 - 12:40 PM


เลือดแม่เพื่อลูก
? เลือดแม่นี้ ยอมพลี เพื่อลูกได้
ด้วยหัวใจ แม่รักมั่น มิหวั่นไหว
ขอเพียงลูก มีชีวิต เดินก้าวไกล
ไม่เป็นไร หากแม่ตาย ลูกปลอดภัย.
-นิราลัย-
มีเรื่องเล่าว่า สมัยหนึ่ง นิยมขนส่งผู้โดยสารทางทะเลด้วยการใช้เรือเดินทะเล เพราะเป็นสมัยที่การคมนาคมไม่สะดวก เกี่ยวกับเรื่องการใช้รถใช้เครื่องบิน จึงใช้เรือเป็นส่วนใหญ่
มีเรือขนส่งผู้โดยสารทางทะเลลำหนึ่ง ได้นำผู้โดยสารมีจำนวนเป็นร้อยมุ่งหน้าสู่ทะเล จากฟากหนึ่ไยังอีกฟากหนึ่ง
ในการเดินทางไปกลางทะเลครั้งนี้ ปรากฏว่าเมื่อเรือเดินทางไปถึงกลางทะเลได้ไม่นานเท่าใดนัก ก็เกิดมีพายุพัดโหมกระหน่ำ กระทั่งเรือลำนี้ได้แตก จนถึงกับจะอับปางลง
ธรรมดาของเรือเดินทะเล จะต้องมีเรือเล็กที่เรียกว่า “เรือชูชีพ” ขณะที่เรือจะอับปางเพราะพายุโหมกระหน่ำเช่นนั้น ก็ได้มีการถ่ายเทขนคนจากเรือลำใหญ่ลงสู่เรือลำเล็ก ด้วยความกลัวตายของคนในเรือ จึงมิได้คำนึงถึงเรื่องเสบียงอาหารหรือข้าวของที่ติดมา ต่างก็รีบลงไปเอาตัวรอด คว้าสิ่งของเท่าที่จะหยิบติดมือไปได้จำนวนเล็กน้อย
ปรากฏว่า คนที่ลงไปในเรือมีหลายสิบคน ต้องอดข้าวอดน้ำเป็นเวลานาน เพราะว่าข้าวปลาอาหารที่ได้หยิบติดมือมามีจำนวนน้อยได้หมดลง ทำให้คนเหล่านั้นหิวโหย น้ำที่มีอยู่รอบเรือจะตักขึ้นดื่มก็ดื่มไม่ได้เพราะเป็นน้ำเค็ม ซึ่งไม่มีประโยชน์ในการที่จะกลั้วคอแก้กระหายคลายความหิวได้
น้ำเค็มนี้เปรียบได้เหมือนกับว่า คนเราที่มีลูกหลาย ๆ คนอยู่รอบตัว แต่ถ้าพึ่งพาอาศัยไม่ได้เลย ก็เท่ากับว่าเป็นเหมือนน้ำเค็มอยู่รอบตัว ลูกที่ใจดำ ใจเค็มไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชรา ก็เหมือนกับน้ำเค็มในทะเล ถึงจะมีเต็มทั่วไปทั้งทะเลมหาสมุทร แต่ก็ไม่สามารถจะแก้กระหายคลายความหิวของคนในเรือให้ชุ่มชื่นขึ้นมาได้
พ่อแม่ที่มีลูกหลาย ๆ คนอยู่รอบตัว แต่ลูก ๆ นั้นไม่ได้ทำความชุ่มชื่นในหัวใจให้แก่พ่อแม่เลย ก็ไม่ต่างอะไรกับมีน้ำเค็มอยู่รอบตัว ! ….
เมื่อทุกคนในเรือต่างอดข้าวอดน้ำกันมาเป็นเวลานาน จึงพลัดตกลงไปตายในทะเลทีละคนสองคน
ในเรือลำเล็ก ๆ ซึ่งมีคนลงไปได้ 10 คน 20 คนนั้น จะเห็นว่า มีหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีลูกชายน้อยคนหนึ่งติดตามมาด้วย ลูกชายของเธอก็หิวโหย
เธอพยายามคลำหาน้ำรอบตัว หาทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ให้ลูกได้ดื่มกินแก้หิวคู่ไปกับนมเธอ จนกระทั่งในที่สุดน้ำก็หมด อะไรก็หมด เธอจึงได้ให้ลูกดื่มแต่น้ำนมในอก
ปรากฏว่า ลูกได้ดื่มน้ำนมจากเต้าจนน้ำนมแห้งจากเต้าแล้ว แต่ลูกก็ยังไม่หายหิวโหย ได้ร้องไห้คร่ำครวญต่อไปอีก ด้วยใจรักลูกสงสารลูกเป็นกำลัง ทำให้แม่ต้องคลำหารอบตัวอีกด้วยความทุกข์ใจกระวนกระวายใจอยากได้น้ำได้อะไรให้ลูกได้ดูดดื่มกิน
ขณะนั้น ลูกก็ยังร้องอยู่ทั้งแดดก็ร้อนเปรี้ยง เมื่อแดดส่องถูกหน้าลูก แม่เกิดเมตตาสงสารลูกจับใจ ยอมสละอวัยวะที่ปกคลุมด้วยผ้าคือแผ่นหลัง เพื่อปกป้องไม่ให้แดดต้องส่องผ่านหน้าลูก เธอจึงถลกเอาเสื้อมาคลุมหน้าให้ลูกน้อย เพื่อจะได้คลายร้อน
จนกระทั่งที่สุด หลังแม่ก็แสบพองไหม้เกรียมจนแตกสะเก็ด ประกอบกับน้ำเค็มที่เป็นกระไอมากระทบบนหลัง ทำให้แสบสันหลังอย่างมาก แต่เธอก็ไม่หวั่นไหวสะทกสะท้าน ได้พูดขึ้นกับลูกน้อยของเธอว่า
“เอาเถิดลูก ถึงหลังแม่จะแสบร้อนสักปานใด ขอให้ดวงใจของแม่คือลูกอย่าได้ร้อนหน้า แสบหน้าเพราะแดดส่องเผาก็แล้วกัน แม่ร้อนขอให้ลูกนอนเย็นเถอะ แม่จะเอาแผ่นหลังเป็นหลังคา เอาหน้าอกเป็นเพดานป้องกันความร้อนให้ลูก ถึงแม้ว่าหลังของแม่จะแห้งเกรียมไหม้ไปหมดก็ตาม ขอให้หน้าลูกของแม่ได้ร่มไว้ก็แล้วกัน แม่ยอมได้ทุกอย่างเพื่อลูกของแม่”
นางทนต่อไปจนแสนทน อดทนทั้งกายและใจเพื่อลูกของเธอ นมในเต้าของเธอก็หมดเสียแล้ว เมื่อเห็นลูกมีอาการเหมือนจะสิ้นใจเพราะความกระหายน้ำ จึงคิดว่าจะปล่อยให้ลูกตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้ ต้องคิดหาทางแก้ไขช่วยลูกให้ได้
เธอจึงได้พยายามคลำหาสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอีกครั้ง เพื่อประทังความหิวกระหายให้ลูกให้ได้ แต่เมื่อเธอคลำไปคลำมาก็ไม่พบสิ่งอะไรอื่น เอามือคลำไปในกระเป๋าก็ได้พบเอาของแข็งมีคม สิ่งหนึ่งคือมีด เธอจึงได้หยิบมีดเล่มนั้นออกมา
นางหยิบขึ้นมามิใช่เพื่อจะเชือดใคร มิใช่จะเชือดลูก นางคิดว่าคงจะเป็นวิธีสุดท้ายแล้วที่จะช่วยลูกให้มีชีวิตอยู่ได้ ไม่ให้ลูกต้องอดน้ำตายอดนมตายต่อหน้า
เธอกำมีดแน่น แล้วรำพึงกับลูกน้อยว่า “เอาเถิดลูก ถึงแม้แม่จะไม่มีน้ำรอบตัวให้ลูกดื่ม แต่แม่ก็ได้เห็นว่า น้ำส่วนหนึ่งในร่างกายของแม่นี่แหละ ที่จะแก้กระหายของลูกได้ เดี๋ยวแม่จะหาทางทำให้มันไหลออกมา จะต้องเอาออกมาให้ลูกแก้หิวให้ได้”
ในที่สุดเธอก็เอามีดเล่มนั้นกรีดลงไปที่ข้อมือของตน แม้จะต้องเจ็บปวดปานใดก็ตาม ด้วยความรักของแม่ที่มีต่อลูกน้อย แม่ก็ยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูกได้
เมื่อมีดกระทบเข้าไปในผิวหนัง เลือดได้ทะลักไหลออกมา เธอได้รีบประคองเอาปากแผลที่เลือดไหลออกมานั้น แตะลงไปที่ปากของลูก
ด้วยความไร้เดียงสาของลูกน้อยนั้น ไม่รู้หรอกว่าน้ำที่แตะปากตนนั้นเป็นเลือดของแม่ ด้วยความกระหาย ด้วยความไร้เดียงสาจึงทำให้หนูน้อยผู้นี้ได้ดื่มเอา ๆ จากเลือดของแม่ ทำให้เลือดในร่างกายของแม่ต้องเหือดแห้งไป ๆ
ลูกดื่มเลือดจนแม่ซีดเซียว เรี่ยวแรงแม่ก็หมดไป เลือดก็หมดไป แต่น้ำใจรักลูกมิได้เหือดแห้งไปตามสายเลือดที่ลูกดูดดื่มไปเลยแม้แต่น้อย หญิงผู้นี้ น้ำใจประเสริฐจริง ๆ ที่สละเลือดเพื่อลูกได้
ปรากฏว่า เมื่อแม่นั้นเสียเลือดซูบซีด จนถึงกับหมดแรง เธอก็ได้ล้มฟุบสลบไป ฟื้นคืนสติขึ้นมาก็เห็นลูกน้อยของเธอลืมตาปริบ ๆ เมื่อเห็นลูกน้อยยังไม่ตาย เธอก็ดีใจพูดว่า
“ถึงเลือดในร่างกายแม่จะเหือดแห้งไปจนหมดก็ตาม แต่ขออย่าให้ชีวิตของลูกหลุดออกไปจากร่างที่แม่รักถนอมเลย ถึงแม้ว่าอะไรในร่างกายของแม่จะต้องออกไปเสียไป แม้กระทั่งชีวิตและเลือดเนื้อ แม่ก็พร้อมที่จะเสียสละได้ เพื่อให้เหลือไว้ซึ่งชีวิตของลูกก็แล้วกัน แม่ยอมทุกอย่างที่จะหลั่งออกมาเลี้ยงชีวิตลูกเอาไว้”
ในที่สุดเรือลำนั้น ก็ได้ถูกคลื่นซัดเข้าสู่ฝั่ง ทุกคนในเรือเมื่อเรือเกยฝั่ง ก็พยายามรีบตะเกียกตะกายขึ้นสู่ฝั่ง แต่ไม่มีใครได้เหลียวแลหญิงแม่กับลูกสองคนนั้นเลย เพราะตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอด ถ้าไปช่วยด้วยก็จะไม่ไหว เพราะต่างคนต่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเต็มทีแล้ว จึงทำให้แม่และลูก ถูกทอดทิ้งอยู่เพียงสองคนเท่านั้นเอง
หญิงผู้เป็นแม่ พยายามประคองลูกน้อยลงจากเรือ เพื่อไปแสวงหาอาหารรับประทาน เพราะทุกคนเขาได้พยายามไปหาอาหารกันหมดแล้ว ปรากฏว่า ด้วยความอ่อนเปลี้ยเพลียแรงของแม่ พยายามจะประคองลูก แต่ก็ต้องล้มลงไปและล้มลงไปอีกถึง 2 ครั้ง 3 ครั้ง ไม่สามารถจะพาลูกและตัวเองลงจากเรือได้ ในที่สุดเธอก็พยายามรวบรวมกำลังเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อจะขึ้นจากเรือนั้นให้ได้ แต่แล้วด้วยความหมดแรง พอเธอจะก้าวลงจากหัวเรือก็ได้พลัดตกลงไป…
ด้วยความรักที่มีอยู่ในหัวใจของแม่อย่างเปี่ยมล้น เธอได้พยายามเบี่ยงตัวขึ้นเอาหลังกระแทกลงไปกลับพื้น เพื่อจะให้ร่างของลูกนั้นทับลงไปที่อกของแม่
เมื่อลูกน้อยทับลงมาที่หน้าอกแม่อยู่ มองหาไม่มีอะไรที่จะดื่มได้จากอกของแม่ เพราะเลือดในอกของแม่ที่เหือดแห้ง น้ำนมในเต้าก็หมดสิ้น ลูกนั้นจึงคลาน
หาสิ่งมาแก้หิวอยู่เสมอ พยายามจะคลานออกไปจากแม่ แม่ก็ได้พยายามดึงลูกไว้
แต่แล้วปรากฏว่า แรงของแม่ไม่มีเพราะไม่ได้รับประทานอาหารและน้ำ กับทั้งยังถูกลูกดื่มเลือดไปจากแผลที่ตนกรีดให้ลูกได้ดื่มนั้นอีก จึงทำให้แม่หมดแรง ไม่สามารถจะรั้งลูกไว้ได้
แล้วในที่สุด บัดนี้หูตาของผู้เป็นแม่ก็เริ่มพร่าพรางแทบจะสิ้นชีวิตอยู่แล้ว ก่อนจะสิ้นใจแม่จึงได้ออกปากฝากฝังลูกไว้กับแม่พระธรณีว่า “แม่พระธรณีจ๋า ฉันไม่สามารถจะเป็นมารดาที่เลี้ยงลูกคนนี้ต่อไปได้อีกแล้ว เพราะชีวิตของฉันคงจะสิ้นลงเพียงแค่นี้ ขอฝากลูกไว้กับแม่ธรณี ขอแม่ธรณีได้โปรดช่วยเลี้ยงดูลูกฉันทีเถิด” แล้วเธอก็ฟุบหน้าสิ้นชีวิต
ต่อมา หลังจากนางได้ฟุบลงไปกับแม่พระธรณีและสิ้นชีวิตไป เวลาเย็นในวันนั้นเอง ได้มีชาวประมงซึ่งนำเรือเข้าสู่ฝั่ง มาเห็นเด็กน้อยกำลังร้องไห้ ครวญครางคลานอยู่ จึงได้เข้าไปอุ้มขึ้นมา
เมื่ออุ้มขึ้นมาก็ได้เห็นเลือดติดปากเด็ก นึกเอะใจว่า คงจะเกิดอะไรขึ้นในแถวนี้เป็นแน่ จึงได้เดินดูบริเวณใกล้ ๆ ที่เด็กคลานอยู่
เดินดูได้ครู่หนึ่งก็ได้พบศพของหญิงนอนคว่ำหน้าอยู่บนพระธรณีข้างหัวเรือ จึงได้พลิกร่างศพของหญิงคนนั้นหงายขึ้น แต่แล้วก็ต้องทึ่งใจ เพราะเห็นข้อมือของศพหญิงที่มีแผลอยู่ และมีเลือดเกรอะกรัง ซึ่งเลือดที่ข้อมือนั้นก็เป็นเลือดสีเดียวกับเลือดที่ติดปากของเด็ก จึงมั่นใจ
ทำให้ชาวประมงผู้นี้ฉุกคิดขึ้นว่า ผู้หญิงนี้จะต้องเป็นแม่ของเด็กคนนี้แน่นอน เธอคงจะรอนแรมหลงทางมาในกลางทะเล จนน้ำและอาหารหมด ลูกเกิดหิวโหยร้องครวญคราง ด้วยหัวใจที่รักลูกสงสารเป็นกำลังใจ แม่คนนี้คงจะต้องสละเลือดเพื่อให้ลูกได้ดื่มแก้หิว
ชาวประมงได้รำพึงว่า “โอ ! หญิงนี้ช่างประเสริฐ มีน้ำใจอันเลอเลิศในความเป็นแม่ เป็นหญิงที่ประเสริฐเลิศคนหนึ่ง ในบรรดาผู้ที่เป็นแม่อันประเสริฐทั้งหลาย แล้วชาวประมงก็ได้นำเด็กน้อยนั้นไปเลี้ยงไว้
เมื่อเด็กนั้นโตขึ้น ได้รบเร้าถามชาวประมงว่า “ลุงจ๋า ! แม่ของหนูอยู่ไหน หนูอยากจะพบแม่ หนูอยากจะเห็นแม่ หนูอยากจะอยู่ใกล้แม่ หนูอยากจะเรียกแม่ หนูอยากจะทำอะไร ๆ อยู่ใกล้ ๆ แม่เหลือเกิน แต่…แม่หนูอยู่ที่ไหน?”
ชาวประมงเห็นว่า เด็กนี้ก็อายุมากพอสมควรจะได้รู้ความจริงเสียที จึงได้บอกว่า “ลุงจะเล่าเรื่องราวให้ฟัง วันหนึ่ง ลุงได้นำเรือกลับจากการไปทำประมงที่ทะเล เมื่อกลับมาถึงฝั่งก็ได้พบเจ้าเที่ยวคลานร้องไห้อยู่ และมีเลือดติดอยู่ที่ปากเกรอะกรัง ลุงจึงได้ตามหาแม่ของเจ้า ไปพบแม่เจ้ามีบาดแผลที่ข้อมือ และมีเลือดติดอยู่ที่บาดแผล นอนตายคว่ำหน้าบนแผ่นดินข้างหัวเรือ
เมื่อพลิกดูเห็นเช่นนั้นก็รู้ได้แน่ว่าต้องเป็นแม่ของเจ้า เพราะคงต้องกรีดข้อมือเพื่อสละเลือดให้เจ้าดื่มกิน เลือดที่ปากของเจ้าก็เป็นสีเดียวกัน ลุงจึงได้เอาแม่เจ้าไปฝังไว้ที่ใกล้โคนต้นสน”
จากนั้นชาวประมงนั้นก็ได้พาหนูน้อยคนนี้ไปที่หลุมฝังศพผู้หญิงซึ่งเป็นแม่ของเด็กคนนั้น ที่ริมชายหาด
เมื่อหนูน้อยไปที่หลุมฝังศพ ก็ได้ผวาเข้าไปกอดหลุมฝังศพ พร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญรำพันว่า “โถ ! แม่ ทำไมแม่จึงได้จากลูกเร็วเช่นนี้ ทำไมไม่มีโอกาสอยู่ให้ลูกได้ทำหน้าที่ตอบแทน แม่เป็นผู้ที่เสียสละให้ลูกถ่ายเดียว เมื่อไรลูกจะได้มีโอกาสเป็นผู้เสียสละทดแทนคุณแม่ได้บ้าง…”
ลุงเห็นว่า หนูน้อยนี้คร่ำครวญอยู่นานแล้ว จึงได้ไปรั้งร่างของหนูน้อยขึ้นมา ลูบหลังลูบไหล่พูดปลอบใจว่า “เอาเถอะ ! ถึงแม่เจ้าจะสิ้นไปแล้ว ถ้าเจ้าคิดจะตอบแทนละก็ ขอให้เจ้าจงมุ่งมั่นในความดี ทำความดีทุกวิถีทางในชีวิตของเจ้า
เมื่อขณะที่เจ้าเรียนก็ขอให้เรียนให้ดีที่สุด เมื่อเจ้าโตจะทำงานทำการก็ขอให้เจ้าจงทำงานในหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุด และเมื่อเจ้าจะบวชเณรบวชพระก็ขอให้เจ้าบวชให้ดีที่สุด…
เมื่อแม่ของเจ้ารับรู้อยู่ด้วยญาณวิถีอันใด ก็คงจะชื่นใจที่สุด ในการให้เกิด ในการปกป้อง ในการประคองชีวิตของเจ้า จนกระทั่งเจ้าได้รอดตัวมาจนถึงทุกวันนี้ แม่คงจะปลื้มใจอยู่ในสุคติโลกสวรรค์ ถึงแม้แม่เจ้าจะไม่มีชีวิตอยู่เจ้าก็ยังทำความดีให้แม่รับรู้ได้”
“ไม่แน่หรอกลูกเอ๋ย ! หลานเอ๋ย ! บางคนถึงแม้จะมีชีวิตอยู่ร่วมกับแม่ แม่ก็อยู่ตัวเองก็อยู่ แต่ได้สร้างความอดสูบอบช้ำใจให้แก่แม่มากมาย เพราะเผลอไผลไปตามความรื่นเริง ตามเพื่อนที่ชักชวนไปในทางผิด ๆ ตามสิ่งที่ยั่วยวน จนกระทั่งถูกแมลงของคุณธรรมข้อนี้กัดกินจนจิตใจไม่ได้เหลือความรักแม่กตัญญูต่อพ่อแม่
เมื่อเจ้าเกิดจิตสำนึกรู้สึกหวนระลึกนึกจะทดแทนคุณพ่อแม่ของเจ้าแล้วก็ บัดนี้ นับว่าหัวใจของเจ้ามีปุ๋ยมนุษย์คือคุณธรรมข้อนี้หว่านโปรยลงมาแล้ว และก็ขอให้เจ้ารักษาความรู้สึกนึกคิดจะทดแทนคุณของแม่นี้ไว้ให้ดี ด้วยการทำแต่สิ่งที่ดีงามไว้ทุก ๆ วัน แม่เจ้านั้นรับทราบได้ด้วยวิถีทางใด คงจะอิ่มใจปลื้มใจอยู่ในที่นั้นทุกวันไม่รู้ลืม
“ใครที่คิดว่าแม่ของเจ้าตาย หรือใครที่คิดว่าแม่ของเขาตายจากเขาไปแล้ว ก็นับว่าเขาเข้าใจผิดนะลูก แม่ของเจ้าน่ะ ! ยังไม่ตาย เพราะว่าแม่ก็คือเลือดเนื้อในกายของเจ้าอยู่เหมือนกัน เพราะแม่เป็นผู้ให้ชีวิตให้ก้อนเลือดก้อนเนื้อของเจ้ามา ฉะนั้นก้อนเลือดก้อนเนื้อยังมีอยู่ในชีวิตของเจ้า ก็เท่ากับว่าแม่ของเจ้ายังอยู่ เจ้าจงถนอมก้อนเลือดก้อนเนื้อและชีวิตอันนี้ไว้เพื่อทำแต่ความดีเท่านั้น ไม่ทำความชั่ว


เนื้อหาข้างต้นนี้ผมนำมาจากเวปหนึ่ง ซึ่งเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์แก่กัลยาณมิตรทั้งหลาย
ขอกราบอนุโมทนาบุญนะครับ
สาธุ

ขอโทษด้วยครับที่ไม่สามารถเรียงภาพให้อ่านง่าย
ผมไม่ทราบวิธีการครับ
สาธุ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  1.jpg   11.34K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  2.jpg   31.29K   12 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  3.jpg   24.36K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  4.jpg   31.25K   12 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  5.jpg   31.94K   12 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  6.jpg   24.26K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  7.jpg   18.61K   12 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  8.jpg   20.88K   12 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  9.jpg   22.19K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  10.jpg   21.43K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  11.jpg   22.78K   12 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  12.jpg   24.21K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  13.jpg   23.37K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  14.jpg   21.68K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  155.jpg   24.37K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  gfhgfhghfhghgfhhhhhhhhhhhhhhhh.jpg   21.64K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  15.jpg   22.87K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  16.jpg   23.79K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  17.jpg   24.47K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  18.jpg   19.57K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  19.jpg   27.74K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  20.jpg   25.5K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  21.jpg   29.83K   13 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  22.jpg   16.41K   13 ดาวน์โหลด

อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#2 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2009 - 09:32 PM

ขอบคุณกับเรื่องราวดี ๆ ด้วยนะคะ
อ่านแล้ว รักแม่มากขึ้นอีก หลายเท่าตัวเลยค่ะ

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#3 ธรรมะโยโยจัง

ธรรมะโยโยจัง
  • Members
  • 63 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 July 2009 - 06:06 PM

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆๆค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
ก้าวไปข้างหน้าแล้วอย่าได้หันหลังกลับมา

#4 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 31 July 2009 - 07:55 PM

สาระธรรมดีมากครับ
ความรัก ความลำบากตรากตรำของแม่ ความเสียสละของแม่ ที่มีให้ลูก
ไร้ขีดจำกัดจริง ๆ

อนุโมทนา

มีกระทู้เกี่ยวกับพระคุณ มารดา มาให้พิจารณาตามสะดวกครับ

มงคลที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=9089

อากงฺขมานา ปุตฺตผลํ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2917

สพฺรหฺมกสูตร
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2927

มาตาสดุดี โดย หลวงพรปรีชา
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2928

ทำไมต้องบวชเพื่อตอบแทนคุณพ่อแม่?
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=18624

เลือดหยด หยาดนี้ ... ของผู้ใด ... ที่คุณได้ ... ดูด ดื่ม กิน ?
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2920

ใครยังมี แม่ อยู่บ้าง ?
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2914
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#5 สุรชัย (กัปตัน)

สุรชัย (กัปตัน)
  • Members
  • 407 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 August 2009 - 08:35 PM

เป็นบทความที่ดีมากครับ ขออนุโมทนาสาธุบุญกับเพื่อนกัลยาณมิตรด้วยครับ

#6 เดือนเพ็ญ

เดือนเพ็ญ
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 August 2009 - 11:29 AM

บทความนี้มีต้นฉบับจริงๆ อยู่ในหนังสือเรื่อง "ปุ๋ยมนุษย์"
เป็นหนังสือดีที่ควรอ่านมากๆ
ขออนุโมทนาบุญกับ จขกท. ด้วยนะครับ

#7 kissy

kissy
  • Members
  • 589 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 August 2009 - 12:05 PM

อ่านแล้ว ซึ้งจังเลย