ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

สงสัยครับ!!!


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 _Phoenix_

_Phoenix_
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 07:33 PM

การที่เราอยากให้ผลบุญที่เราทำในปัจจุบัน ส่งผลได้เร็ว

เราต้องมีใจอยู่ในบุญด้วยไหมครับ

แล้วทำไมต้องเอาใจให้อยู่กับบุญด้วยอ่ะครับ

และต้องทำอย่างไรอีกถ้าอยากให้ผลบุญที่เกิดจากบุญที่เราทำในปัจจุบันส่งผมได้เร็ว

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ


>>..........ชีวิตนี้ขอมอบแด่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย..........<<

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 08:05 PM

QUOTE
การที่เราอยากให้ผลบุญที่เราทำในปัจจุบัน ส่งผลได้เร็ว เราต้องมีใจอยู่ในบุญด้วยไหมครับ
- ต้องซิท่าน glare.gif

QUOTE
แล้วทำไมต้องเอาใจให้อยู่กับบุญด้วยอ่ะครับ


บุญ แปลว่า เครื่องชำระใจให้สะอาดบริสุทธิ์จากกิเลสตัณหา

มีวิธีทำได้หลายวิธี โดยย่อมี ๓ คือ

จากการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา

ทาน...ขจัดความโลภ

ศีล...ขจัดความโกรธ

ภาวนา...ขจัดความหลง หลงทิศ หลงทาง หลงผิด หลงลืม หลงใหล

QUOTE
และต้องทำอย่างไรอีกถ้าอยากให้ผลบุญที่เกิดจากบุญที่เราทำในปัจจุบันส่งผมได้เร็ว
- ผู้ให้ ผู้รับ วัตถุทานล้วนบริสุทธิ์มากๆ
- เป็นงานบุญใหญ่
- เปี่ยมด้วยเจตนา ศรัทธาเลื่อมใส ยินดีทุกกาล อธิษฐานจิตอันแรงกล้า
- ใจตั้งจรดศูนย์ อู่แห่งทะเลบุญ nerd_smile.gif
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 abigman10

abigman10
  • Members
  • 75 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 09:43 PM

นั่งธรรมะ ให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในตัว แล้วไปศึกษาวิชชา

#4 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 10:56 PM

ต้องหมั่นระลึกถึงบุญที่ทำมามให้มีความปลื้มปิติใจทุกครั้งที่นึกถึง แล้วต้องหมั่นเติมบุญบารมีเพื่อที่ของเก่าจะได้เต็มเปี่ยมส่งผลในปัจจุบัน

หมั่นศึกษาทำความเข้าใจ มีปัญหาคาใจถามได้ที่WWW.DMC.TVนะครับ
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#5 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 11:19 PM

เคสที่เกี่ยวข้อง

QUOTE
5.เมื่อ ลูกคิดที่จะทำบุญด้วยที่ดิน อยู่ๆก็ขายที่ดินได้ เพราะบุญเก่าส่งผล เป็นบุญในชาติที่เป็นเศรษฐีตระหนี่จัดดังกล่าว โดยในบั้นปลายชีวิตได้มาเจอหมู่คณะ แล้วได้ทำบุญกับหมู่คณะบ้างแต่ไม่มาก กอปรกับในปัจจุบันที่คิดจะทำบุญมารวมส่งผล
  • คนมีเงินหนึ่งเอ็มตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็ม กับคนมีเงินหนึ่งร้อยเอ็มแต่ตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็ม มีปีติยินดีอย่างสุดๆเท่ากัน จะได้บุญเท่ากัน
  • แต่คนมีเงินหนึ่งเอ็มตัดใจทำบุญหนึ่งเอ็ม มักจะมีปีติมากกว่า เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากกว่า

  • เมื่อบุญส่งผล หากปีติเท่ากัน บุญก็ส่งผลเท่ากัน แต่ถ้าปีติมากกว่ากันปลื้มมากกว่ากัน เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากกว่า เมื่อบุญส่งผลจะส่งผลเร็วกว่า
  • แต่ หากตามระลึกนึกถึงบุญบ่อยๆมากกว่ากัน ก็จะส่งผลตามจำนวนชาติที่เกิดใหม่มากขึ้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีโอกาสนึกถึงบุญมากกว่า คือ ผู้ที่ทำบุญด้วยชีวิต
6.อดีตชาติใกล้ๆ ก็เพิ่งจะมีชาตินี้ที่ลูกตัดใจทำบุญได้อย่างนี้ เพราะชาติที่เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ดังกล่าว ตระหนี่จัด เมื่อบั้นปลายชีวิตได้มาเจอหมู่คณะก็ได้ทำบุญบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะความตระหนี่ยังมีอยู่ ทำให้กรรมตระหนี่จัดในชาตินั้นยังส่งผลได้ก่อน บุญที่ทำในชาตินั้นยังปนความตระหนี่ บุญยังไม่มากพอที่จะไปตัดรอนความตระหนี่จัดได้
  • เมื่อลูกและครอบครัวได้คบบัณฑิตและได้ฟังธรรมในปัจจุบัน จึงทำให้เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต และเป็นเหตุให้ตัดใจทำบุญได้

  • ผัง จนได้ถูกรื้อไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังพอมีอยู่ ควรจะรื้อให้หมดด้วยการสั่งสมบุญอย่างสม่ำเสมอ และตามระลึกนึกถึงบุญทุกบุญบ่อยๆ บุญนี้ก็จะส่งผลดีในปัจจุบันเป็นอัศจรรย์


http://www.dmc.tv/pa...2552-08-08.html

QUOTE
1. เหตุ ที่ทำบุญสร้างเสาแก้วพันปีแล้ว ในวันเดียวกันลูกก็สามารถขายบ้านได้ 5หลัง โดยมีราคาประมาณหลังละ 7ล้านบาท ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววเลย เพราะบุญในอดีตและบุญปัจจุบัน มารวมส่งผลพร้อมกัน
* บุญในอดีต คือ บุญที่ลูกเคยทำทานด้วยตนเอง และได้ไปชวนคนอื่นๆมาทำด้วย กับหมู่คณะ
* บุญปัจจุบัน คือ บุญสร้างเสาแก้วพันปีกับหมู่คณะ
* ภายหลังจากวันนั้น ได้มาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวอีก ก็ทำให้ขายบ้านได้อีก 4หลัง เพราะบุญในอดีตดังกล่าว กับบุญที่สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว มารวมส่งผล

** การที่เป็นเช่นนี้ ก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกครั้งและกับทุกคน เพราะมีตัวแปรอย่างน้อยสามประการ คือ...

(1) สิ่งที่เราปรารถนาหรืออานิสงส์ที่เราจะได้นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังบุญแล้ว ต้องพอเหมาะกัน เช่น สิ่งที่เราปรารถนานั้นใหญ่ กำลังบุญก็จะต้องใหญ่ พอเหมาะกันด้วย (เปรียบได้กับเราต้องการบ้านราคา 7ล้าน ก็ต้องมีเงิน 7ล้านจึงจะซื้อได้ หากมีเงินไม่พอก็ซื้อไม่ได้)


(2) บุญในอดีตทางด้านนั้นๆ มีมามากขนาดไหน เช่น บางคน ชวนคนทำทานและทำด้วยตัวเองด้วย สำเร็จตามเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ ไม่ลดเป้าหมายลงมา เมื่อบุญส่งผลก็จะได้สมบัติตามเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้

* หากทำเกินเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ เมื่อบุญส่งผลก็จะได้สมบัติเกินเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้
* หากทำไม่ถึงเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ เมื่อบุญส่งผลก็จะได้สมบัติไม่ถึงเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้

(3) บุญที่ทำในปัจจุบัน ได้เติมลงไปอีกจนเต็มเปี่ยม ในระดับพอเหมาะกับสิ่งที่ตนปรารถนา ถ้าบุญเก่าน้อยก็ต้องเติมบุญปัจจุบันให้มากๆ
* แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บุญเก่าจะให้ผลได้เร็วกว่าบุญใหม่ เพราะบุญเก่านั้นได้ทำงานมาก่อนล่วงหน้า
* เหมือนการปลูกต้นไม้ที่ได้ปลูกมานานแล้ว รอคอยแต่เวลาส่งผล
* ส่วนต้นไม่ที่ปลูกใหม่ก็ต้องรอคอยนานหน่อย คือ ต้องให้บุญมีเวลาทำงานด้วย
* บุญและบาปจะรอคอยทยอยการส่งผล ถ้าบุญได้ช่องก่อน ก็จะส่งผลดี
* ถ้าบาปได้ช่องก่อน ก็จะส่งผลร้าย
* จะชิงช่วง ช่วงชิงกันอย่างนี้ ดังนั้น ในกรณีที่บางคนทำบุญแล้วเจออุบัติเหตุ เพราะบาปเก่าส่งผลก่อนที่บุญใหม่จะส่งผล

3. ช่วงที่นั่งสมาธิมาก ก็ทำให้บุญเก่ามีโอกาสส่งผลได้ง่าย...เปิดโอกาสให้บุญเก่ามาเชื่อมกับบุญใหม่ได้ง่าย จึงมีอุปสรรคน้อย

* สมาธิทำให้เกิดปัญญา ซึ่งจะทำให้เราสามารถวินิจฉัย หรือคาดการณ์อะไรต่างๆได้อย่างถูกต้อง
* จะคิด จะพูด จะทำอะไร เมื่อตั้งอยู่บนฐานของใจที่สบายแล้ว ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นง่าย กอปรกับบุญเก่าบุญใหม่ก็รวมส่งผลได้ง่ายด้วย
* การทำสมาธิ คือ การเปิดโอกาสให้บุญเก่าบุญใหม่มาเชื่อมกันแล้วส่งผล
http://www.dmc.tv/pa...2552-04-17.html

QUOTE
* คำอธิษฐานสัมฤทธิ์ผลเร็วมาก เพราะในอดีตเวลาลูกจะทำบุญ จะตัดสินใจทำทันที ไม่รีรอ นิสัยนี้จึงติดมาถึงปัจจุบัน และเมื่อบุญส่งผลก็จะปุ๊บปั๊บ

7.การที่ทำบุญแบบตกบันไดพลอย (ได้) บุญแบบนี้ เวลาบุญส่งผล สมบัติจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันไม่คาดคิด

* สมบัติจะเกิดขึ้นมาอย่างง่ายๆ แบบไม่มีเงื่อนไข
เมื่อลูกตัดสินใจทำบุญทันที แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่มีเงิน แต่ลึกๆในใจคิดว่า ทำได้ แล้วก็ทำได้สำเร็จจริงๆ
http://www.dmc.tv/pa...2549-08-25.html

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#6 Tung

Tung
  • Admin
  • 195 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 September 2010 - 11:44 PM

ทานที่ให้ผลได้ทันตา ต้องประกอบด้วยองค์ 4 ที่เรียกว่า สัมปทาคุณ มี 4 ประการ คือ
วัตถุสัมปทา ปัจจัยสัมปทา เจตนสัมปทา คุณาติเรกสัมปทา


จริงอยู่ ชื่อว่าสัมปทามี ๔ อย่างคือ วัตถุสัมปทา ปัจจัยสัมปทา เจตนาสัมปทา คุณาติเรกสัมปทา.

ในสัมปทา ๔ อย่างนั้น พระอรหันต์ หรือพระอนาคามี ควรแก่นิโรธสมาบัติ ผู้เป็นทักขิไณยบุคคลล ชื่อวัตถุ สัมปทา.

การบังเกิดขึ้นแห่งปัจจัยทั้งหลาย โดยธรรมสม่ำเสมอ ชื่อปัจจัย- สัมปทา

ความที่เจตนาใน ๓ กาล คือในกาลก่อนแต่ให้, ในกาลกำลังให้, ในกาลภายหลัง สัมปยุตด้วยญาณ อันกำกับโดยโสมนัส ชื่อเจตนสัมปทา.

ส่วนความที่ทักขิไณยบุคคลออกจากสมาบัติ ชื่อว่าคุณาติเรกสัมปทา.

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 26 September 2010 - 08:43 AM

ครบถ้วนกระบวนการ แน่นทั้งความรู้ทางทฤษฎี มากทั้งข้อแนะนำเชิงปฏิบัติ อีกทั้งมีตัวอย่าง Case Study อีกด้วย ตอบได้ครบถ้วนกระบวนความ ต้อง DMC แห่งนี้ครับ

ฮีอ ฮีอ ช้าไปต๋อยเลยเรา....
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 สาหร่าย

สาหร่าย
  • Members
  • 123 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 26 September 2010 - 04:36 PM

พี่หัดฝัน ต้องเร็วกว่านี้นะคะ อิๆ

#9 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 26 September 2010 - 09:24 PM

...เพิ่งรู้เรื่องของ สัมปทาคุณ 4 วันนี้นี่เอง สาธุครับ เคยสงสัยมานานนนนนน
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#10 _Phoenix_

_Phoenix_
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 September 2010 - 08:25 PM

ขออนุโมทนาบุญกับ พี่ๆทุกคนมากครับที่ให้ความรู้ผม


>>..........ชีวิตนี้ขอมอบแด่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย..........<<