ไปที่เนื้อหา


hk_girlza

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 13 Nov 2007
ออฟไลน์ ใช้งานล่าสุด May 03 2010 07:32 PM
-----

โพสต์ที่ฉันโพสต์

ในกระทู้: อานิสงส์การบวช

02 April 2010 - 07:22 PM

อานิสงส์การบวชยังมีอีกมากมายเลยค่ะ

เพราะการเปลี่ยนคน ปุถุชน ( กิเลสหนา ) ให้เป็น พระ ( มีศีล 227 ข้อ ) นั้น อย่างน้อยที่สุด คือ มีความเข้าใจถูกเรื่องโลกและชีวิต ตามความเป็นจริง เป็น สัมมาทิฏฐิ ชีวิตจะเลือกเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง ถึงเรียกว่า ปิดอบาย ได้ไงคะ

ในกระทู้: อดีตเปลี่ยนไม่ได้....อนาคตสร้างได้

02 April 2010 - 07:15 PM

เป็นหนังสือที่ดี่ที่สุด เล่มหนึ่งเลยค่ะ

อ่านแล้วเกิดแรงบันดานใจ อยากเป็นอย่างพระพุทธเจ้า จริง ๆ

วิธีการมีบอกไว้แล้ว ที่เหลือแค่ ปฏิบัติด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เท่านั้น

อนุโมทนาบุญค่ะ

ในกระทู้: เทคนิคพิชิตปัญหาของผู้มีบารมี ภาคสอง

02 April 2010 - 07:10 PM

การทำบุญ เป็นกายขัดใจ และเพิ่มพลังใจ อย่างหนึ่งที่รวดเร้วประการหนึ่งทีเดียวค่ะ

หลังจากทำบุญแล้ว บุญยังส่งผลต่อเนื่อง หากยังมีปีติอยู่ตลอดเวลา

อนุโมทนาบุญค่ะ

ในกระทู้: กลโกงคนขายปลาดุกปล่อยที่ตลาดรังสิต

02 April 2010 - 07:05 PM

เราจะทำบุญ เราก็ได้บุญส่วนของเรา อย่าให้ใจหมอง เลยค่ะ

ใครทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นย่อมตามสนอง บาปของใคร ก็ของคนนั้น

อนุโมทนาบุญในการปล่อยปลาของคุณจขกท ด้วยนะคะ สาธุ

ในกระทู้: วิบากกรรมที่ทำให้เกิดความน้อยใจ

02 April 2010 - 07:00 PM

ไม่ทราบว่า พอจะช่วยได้มั้ย แต่เอามาลงให้ได้อ่านกันค่ะ

ถาม จิตที่กระทบความดีของผู้อื่นแล้วทนไม่ได้ กระสับกระส่าย กระวนกระวาย ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้แม้ไม่แสดงออก ก็จัดว่าเป็นจิตที่ริษยาครอบงำ ผู้มีจิตริษยาจึงเร่าร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผา จะยืน เดิน นั่ง นอน หาเป็นสุขไม่ หลวงพ่อคะ ทำอย่างไร จึงจะเลิกนิสัยอิจฉาชาวบ้านได้คะ


ตอบ ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า การที่คุณเป็นคนอิจฉาริษยาชาวบ้านนั้นเป็นเพราะ คุณมีบุญน้อย อยากจะรวยก็รวยไม่ได้ เพราะให้ทานมาน้อย อยากฉลาดก็ฉลาดสู้เขาไม่ได้ เพราะทำภาวนามาน้อย อยากจะเกิดในชาติตระกูลสูงก็ไม่ได้ เพราะไม่เคยเคารพกราบไหว้ผู้มีคุณธรรมมาก่อน จึงต้องเป็นรองเขาร่ำไป เมื่อเป็นรองเขาเรื่อยไป แทนที่จะได้คิดว่าเป็นรองเขาเพราะสร้างบุญมาน้อย กลับปล่อยให้โมหะความหลงผิดเข้าครอบงำจิตใจ ไปอิจฉาริษยาเขา


คนที่จะเลิกอิจฉาริษยาชาวบ้านได้ จึงต้องพิจารณาให้เห็นโทษของความอิจฉาริษยาให้ชัดเจนเสียก่อนว่า มันทำให้เกิดความเสียหายแก่เราอย่างไรบ้างตั้งแต่ทำให้วาสนาของตัวเองตกต่ำ มิหนำซ้ำยังไม่มีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไปอีกแม้จะเกิดไปกี่ภพกี่ชาติเบื้องหน้าก็จะเป็นคนที่มีอานุภาพน้อย จะต้องเป็นรองคนอื่นเขาอยู่ร่ำไป แม้ที่สุดจะเกิดเป็นกษัตริย์ก็จะตกเป็นประเทศราช

ฉะนั้น ถ้าต้องการแก้ไขนิสัยไม่ดีดังกล่าว จึงต้องทำดังนี้


1. ทุกครั้งที่รู้ตัวว่า เรากำลังมีจิตคิดอิจฉาริษยาใครก็ตาม ต้องรีบเตือนสติตัวเองว่าที่เป็นเช่นนี้ เพราะคุณความดีในตัวเรามีน้อยมีบุญน้อยจังได้น้อยหน้า ไม่เท่าเทียมเขา เป็นความผิดของเราเอง ที่ภพในอดีตไม่ชอบสร้างบุญกุศล ไม่ใช่ความผิดของคนอื่น เพราะฉะนั้น จะต้องรีบเร่งสะสมความดี สร้างบุญกุศลให้มากๆ


2. หมั่นฝึกสมาธิให้มากๆ เป็นประจำทุกวัน แม้จะได้ผลช้ากว่าคนอื่นก็เพียรเรื่อยไป เมื่อใจผ่องใสละเอียดอ่อนขึ้น ก็จะเห็นช่องทางในการทำความดี ในการสร้งบุญกุศลกว้างขึ้นมากขึ้นแล้วตั้งใจทำความดีตามนั้นอย่างสุดกำลังความสามารถด้วยความไม่ประมาท บุญของเราก็จะสะสมมากขึ้นๆ ในที่สุดก็เป็นคนที่มีความดีอยู่ในตัวมากจนไม่จำเป็นต้องไปอิจฉาริษยาใครอีกต่อไป แต่แน่นอน กว่าจะทำให้นิสัยขี้อิจฉาริษยานี้หมดไปต้องใช้เวลานานมาก ฉะนั้นขณะกำลังฝึกตัวก็ควรได้กัลยาณมิตรเช่นครูบาอาจารย์ ผู้ใหญ่เพื่อนที่นิสัยดีๆ ฯลฯ เป็นพี่เลี้ยงช่วยเตือนสติให้ก็จะดียิ่งขึ้น


ถ้ากำจัดความริษยาให้สิ้นไปจากใจได้เมื่อไรก็จะพบความสงบสุขเมื่อนั้น