ไปที่เนื้อหา


* * * * * 1 คะแนน

ทุกข์ของนักบุญ แก้ยังไงดี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 26 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *นักบุญตกอับ*

*นักบุญตกอับ*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 30 June 2005 - 06:24 PM

คือว่า พึ่งได้ฟังเคสเมื่อเร็วๆนี้ เรื่องที่มีคนถามครูไม่ใหญ่ว่า ทำบุญตลอดแต่บุญไม่ยอมส่งผล ชีวิตยังลำบากอยู่ เราฟังแล้วคล้ายๆ กับเราเลย คือว่า เราเข้าวัดมาแล้วก็เป็น 10กว่าปี ทำบุญก็ทำตลอด ไม่เคยขาด ทำแบบทุ่มหมดทุกครั้ง ไม่มีกั๊ก มาวัดเกือบทุกอาทิตย์ แต่ว่าตอนนี้เรากำลังหางานทำอยู่ ตกงานมาหลายเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ยังหางาน วัดก็มีงานบุญ เราก็เอาเงินเก็บที่พอมีบ้างทำบุญตลอด ขอพรยายทีบ้านยายก็ขอแล้ว งานก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ เงินเก็บที่เหลือก็น้อยลงทุกที จนใกล้จะหมดแล้ว มีแต่จ่ายเงินออก ไม่มีเงินเข้ามาใหม่ จนตอนนี้หลายครั้งเริ่มท้อ เริ่มเกิดความคิดว่า ทำไมบุญไม่ส่งผลเลยซะที ทั้งๆที่ทำบุญตลอด ไม่เคยขาด เงินก็เหลือน้อย เริ่มเกิดการลังเลว่าจะเอายังไงกับเงินก้อนที่เหลือดี ทำบุญต่อจนหมดตัวไปเลยดี หรือว่าจะหยุดทำบุญไว้ก่อนเพื่อเอาเงินที่พอมีอยู่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิตต่อไปดี อ้อ...บางคนแนะนำให้เราบวช เผื่อชีวิตจะมีอะไรดีขึ้น เอาบุญบวชมาดึงบุญเก่า เราก็ทำตาม กลายเป็นว่า ตอนบวชก็มีบริษัทติดต่อเข้ามา เราก็ออกไปไม่ได้เพราะบวชอยู่ พอลาสิกขาออกมาแล้วติดต่อกลับไป ปรากฎว่างานที่ว่าก็ไม่ได้แล้ว...เฮ้ออออ...วานผู้มีบุญแนะนำที ว่านักบุญตกอับคนนี้ ควรจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป หรือว่าเป็นไปได้ไม๊ที่ลูกหลวงพ่อจะจนมุมได้ขนาดนี้ จนต้องกลับดุสิตก่อนเวลาอันสมควร......

#2 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 June 2005 - 11:57 PM

บุญส่งผลตลอดเวลาอยู่แล้วล่ะค่ะ ลองคิดดูว่ามีคนที่เค้าลำบากกว่าเราอีกมากมาย ถ้าบุญไม่ส่งเราก็คงต้องกลายเป็นแบบนั้นแล้วค่ะ แล้วกำลังใจเรามีมากแค่ไหน ถ้าเราฝึกใจของเรามากเข้า ใจเราก็มีกำลัง ทำอะไรก็ไม่มีอุปสรรค หรือมีอุปสรรคน้อย
อีกอย่างเราไม่รู้ว่าเราเอง ภพชาติที่ผ่านมาเคยสร้างบุญไ้ว้มากน้อยแค่ไหน เท่าที่เรา่มีชีวิตอยู่อย่างที่เป็นในปัจจุบันอาจจะเรียกได้ว่าดีเลิศแล้วก็ได้เมื่อบวกลบคูณหารผลกรรมที่้เราเคยสร้างไว้นับภพนับชาติไม่ถ้วน
อย่าเพิ่งหมดกำัลงใจหรือใจหมองนะคะ ทำหน้าที่ในการสร้างบารมีของเราให้ครบถ้วนทั้งทาน ศีลภาวนา ต่อไปค่ะ

#3 *T*

*T*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 01 July 2005 - 06:46 AM

ทำดีเรื่อยไป...นึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอนสร้างบารมีสิครับ แม้ไม่เห็นฝั่งก็ยังจะว่ายไปในนำทะเลเลย แล้วเราจะมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นึกบ่อยๆก็จะดีเองนะครับ
และขอน้อมนำเอาโอวาทพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุณีมา ณ โอกาสนี้ครับ
....ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก...

#4 sao-wanee

sao-wanee
  • Members
  • 100 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 July 2005 - 09:20 AM

ทำดีย่อมได้ดี ไม่ช้าก็เร็ว
ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ไม่ช้าก็เร็ว
ทำใจให้สบาย ๆ หากยังไม่สมใจ ยังไม่ได้อย่างใจหวัง

#5 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 01 July 2005 - 10:37 AM

สิ่งที่เราประสบอยู่ในปัจจุบัน มาจากเหตุที่ได้ทำไว้ในอดีต
สิ่งที่เราได้ประกอบเหตุในปัจจุบัน จะส่งให้เราได้รับผลนั้นในอนาคต

บุญบาปชิงช่วงช่วงชิงกันอยู่เสมอ อย่าท้อแท้อย่าท้อถ้อยกับชีวิต
ทำใจใสๆ หมั่นนึกถึงบุญที่ได้ทำไปแล้วตลอด 10 ปีอยู่เป็นนิจ
ให้บุญมาตัดรอนวิบากกรรมเก่า ทางที่ดีที่สุดคือ หมั่นนั่งสมาธิ
และปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายใน จะปลอดภัยครับ.

Qoute->"หรือว่าเป็นไปได้ไม๊ที่ลูกหลวงพ่อจะจนมุมได้ขนาดนี้
จนต้องกลับดุสิตก่อนเวลาอันสมควร."

"ถ้าใครใจใสก็ไปสวรรค์"

อนุโมทนาบุญครับ smile.gif

#6 *กำลังใจ*

*กำลังใจ*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 01 July 2005 - 12:51 PM

ผมเป็นผู้หนึ่งที่มีลักษณะคล้ายๆคุณครับ
วิธีหนึ่งที่ใช้ช่วยอยู่ในปัจจุบันคือ
เลิกท้อ เลิกน้อยใจ เลิกคิดอิจฉาคนอื่น เพราะกลัวจะเป็นผังติดตามตัวไปข้ามชาติ
ชาตินี้จะมีมากน้อย เท่าไหร่ ไม่อาจรู้ แต่ผมขอฝึกตนให้เป็นคนที่มีกำลังใจเต็มเปี่ยม
ไม่ว่าจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน ถ้ารู้เป้าหมายเสียแล้ว ยังไงเราก็ต้องลุยต่ออยู่ดี
ขอบคุณครับ

#7 *นักบุญตกอับ*

*นักบุญตกอับ*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 01 July 2005 - 06:38 PM

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ คิดอยู่แล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้ เพราะคุยกับคนวัดกี่คนๆ ก็ได้คำตอบแบบนี้ อย่างไรก็ดี เราอยากได้คำแนะนำที่เป็นรูปธรรม สามารถทำได้จริง เพราะสิ่งที่ทุกคนแนะนำ เราก็ทำมาตลอด เชื่อมั่นในบุญ เชื่อมั่นในหลวงพ่อ แต่อะไรๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น จนกระทั่งความเชื่อมั่นที่เคยมี มันค่อยๆลดลงๆๆๆ จนแทบจะหมดความเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเคยเชื่ออยู่แล้ว ถ้ายังไง ขอคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ที่ปฏิบัติได้จริงด้วยครับ เพราะอย่าลืมว่าคนเราใช่ว่าจะอยู่ได้แค่กำลังใจนะครับ มันต้องเป็นปัจจัยในกระเป๋าด้วย เพราะคนเรากินลมมันไม่อิ่มนะครับ แถมบุญก็เป็นนามธรรม จะเอาแค่บุญมากินให้อิ่มก็ไม่ได้ด้วย

#8 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 12:45 AM

1 ตัวเราเองนั่งธรรมะมากขนาดไหน --- ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
2 เวลาที่ตกงานอยู่นี่ทำอะไร --- พยายามหาลู่ทางโดยถามเพื่อนหรือคนรู้จักให้ช่วยแนะนำ อย่าเลือกงานมาก ให้ค่อยๆใต่ระดับไป หาโอกาสหาช่องทางไป และช่วงเวลานี้ก็พัฒนาความรู้และทักษะของเราให้เพิ่มขึ้น โอกาสจะได้มีมากขึ้น
3 ใจเราตอนนี้เริ่มท้ิอหรือเปล่า --- ถ้าเริ่มท้อเรื่มถอย บุญก็ส่งได้ไม่เต็มที่ ยิ่งจะห่างไกลจากความสำเร็จ และแสดงว่าเราไม่ได้ปฏิบัติธรรมอย่างเพียงพอ ใจไม่ได้อยู่ในบุญจริง (เรื่องนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน พอเกิดอุปสรรคก็โทษว่าทำบุญไปไม่เห็นได้ดีอะไรขึ้นมา แต่พอมาดูที่ตัวเองแล้วใจของเราไม่ใสถึงได้คิดอย่างงั้น )เพราะฉะนั้นให้บอกตัวเองไว้เสมอว่าเราทำได้ แล้วก็นั่งธรรมะมากๆ
4 อย่าเพิ่งท้อ คุณบอกว่าคุณเข้าวัดมาสิบปี แต่ยังมาเจออุปสรรคเช่นนี้ ฟังนะคะ ครอบครัวดิฉันเข้าวัดมา 20กว่าปี ทำบุญทุกบุญ ปิดบัญชีก็เคย เมื่อก่อนทางบ้านคุณพ่อคุณแม่มีงานดีเงินดี แต่ตอนนี้ทั้งพ่อก็ป่วยไม่ได้ทำงานมาเป็น 10ปี แล้ว แม่ก็ออกจากงานแล้ว แถมเงินเป็น 10 ล้านก็ต้องสูญไปอย่างไม่ควรจะเป็น มรดกที่ควรได้เป็นสิบกว่าล้านก็ไม่ได้ แถมยังมีเด็กที่เรียนหนังสือไม่จบอีกสองคนในครอบครัว ดิฉันเป็นคนเดียวที่ทำงานได้ในขณะนี้ แต่ก็ยังไม่มีงานทำเหมือนกัน
ดิฉันและครอบครัวไม่เคยท้อหรือโทษว่าบุญไม่ส่งผล หรือนึกน้อยใจอะไร เพราะที่เราเจออุปสรรคอย่างนี้ไม่ใช่เพราะวัดหรือเพราะหลวงพ่อ แต่เพราะกรรมของเราเอง แต่ในเมื่อเรารู้ว่าหน้าที่เราเกิดมาทำอะไรแล้วก็ให้ทำอย่างเต็มที่ต่อไป ดิฉันบอกตัวเองเสมอว่า เราทำสำเร็จ ใจอยู่ในบุญเสมอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่ำรวยอย่างคนอื่น แต่ชีวิตก็ราบรื่นเป็นไปตามตั้งใจ
แต่ถ้าคิดว่าหางานทำทางโลกไม่ได้ ก็มาทำงานทางธรรมเลยค่ะ ไม่ต้องคิดท้อ หรือคิดมากเลยค่ะ

อุปสรรคเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดปัญญานะคะ

#9 *นี้คือรูปธรรม*

*นี้คือรูปธรรม*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 12:52 AM

นก กา กุ้ง หอย ปู ปลา มันยังไม่อดตายเลย เป็นคนจะอดตายได้ไง ยิ่งเป็นลูกหลวงพ่อ ถ้าอดตาย พญามาร มันคงหัวเราะกลิ้งเลยซิ มีงานอะไรๆ ก็ทำไปเถอะครับ คุณยายยังไปเป็นคนใช้เขาได้เลย ลองคิดนอกกรอบบ้างซิครับ

พวก พม่า ลาว เขมร เข้ามาเป็นแสนๆ ไม่เห็นจะอดตายซักกะคน : )

เอาใจช่วยนะ

#10 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 12:56 AM

ดิชั้นจบปริญญาตรี ทำงานถูพื้นล้างจานมาแล้วนะ จะบอกให้ และไม่เคยคิดว่าตัวเองตกอับด้วย แต่คิดว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะหารายได้มาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัว และทำบุญ

#11 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 04:34 AM

ขอฝากโอวาทของหลวงพ่อไว้ด้วยครับ

เรื่องบุญเป็นเรื่องลึกซึ้ง เพราะฉะนั้นคำว่าบุญไม่ช่วยน่ะอย่าไปพูด อย่าไปนึก อย่าไปคิด บุญน่ะช่วยอยู่ตลอดเวลา ขึ้นกับว่าเราให้โอกาสบุญช่วยไหม การให้โอกาสก็คือเราต้องนึกถึงบุญ ถ้านึกบุญไม่ออก ก็ทำให้ใจนิ่งเฉยๆหยุดนิ่งอยู่ภายใน บุญจะได้ลงหล่อเลี้ยงรักษา ช่วยแก้ไขตลอด 24ชม. ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ก็ตาม ถ้าจะให้ช่วยได้เร็วต้องหยุดกับนิ่ง ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ไม่ตระหนี่ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง บุญถึงจะลงช่วยได้เต็มที่ ....

แล้วก็ขอเป็นกำลังใจแด่นักสร้างบารมีทุกท่านด้วยนะครับ T.T

#12 *สุวิทย์*

*สุวิทย์*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 10:44 AM

ผมเองก็เคยประสบปัญหาเดียวกันกับคุณเหมือนกันเคยตกงานเป็นเกือบปี เคยท้อใจตัดพ้อต่อว่า (ในใจ)ก็หลายหน จะให้นิ่งเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อนคงเป็นไปไม่ได้ (ก็ยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์นี่) ไอ้เราหรือวัดก็เข้าเกือบทุกอาทิตย์ บุญก็ทำไม่ขาด (มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังที่มี) เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ การพนันก็ไม่เล่น ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน ไม่ละเมิดศีลห้ากับใคร ทำไมถึงต้องลำบากอย่างนี้ ไหนว่าทำบุญแล้วเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี มีสมบัติตักไม่พร่อง (โธ่แค่หางานทำเลี้ยงชีพตัวเองจะได้ไม่เป็นภาระให้คนอื่นยังไม่ได้เลย) ที่ไอ้เพื่อนผมนะ วัดมันก็ไม่เข้า เหล้ามันก็กิน บุหรี่มันก็สูบ การพนันมันก็เล่น บุญไม่ต้องพูดถึง นานๆทำที แถมบางคนยังเชื้อในพวกทรงจ้าวเข้าผีอีก แต่มันก็มีงานทำ ได้เงินเดือนสูง ดีกว่าผมหลายเท่านัก ทั้งๆที่รู้ว่าการทำอย่างนี้มันไม่ดีแต่ก็อดไม่ได้ (ก็บอกไปแล้วนี่ว่ากิเลสหนา สันดานหยาบอยู่)

แต่ผมก็มีทางออก จริงๆก็รู้มานานแล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็บอกแล้วบอกอีก พูดแล้วพูดอีกแต่ก็ไม่ทำกัน ละเลยกัน ผมทำอย่างไรอยากรู้หรือเปล่า ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไรแต่จะบอก (ใครจะทำไม) เรียกว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนก็ได้ แต่เป็นมะพร้าวห้าวที่ได้จากการลงมือปฏิบัติจริง แล้วเห็นผลได้จริง เห็นได้ด้วยตนเองด้วย

ตอนเช้าเมื่อผมตื่นนอนมา เมื่อลุกจากที่นอน ผมจะนั่งธรรมก่อนทันที เพราะตอนเช้าสมองยังปลอดโปร่งจะนั่งธรรมะได้ดีที่สุด จะเห็นหรือไม่เห็น จะมืดตื้อมืดมิดอะไรก็ช่างหัวมัน ให้สังเกตตอนที่ใจสบาย ที่สุด มีความสุขที่สุด (ไม่ต้องไปคอยกังวล มันล่ะว่ามันจะสบายหรือเปล่า เอาเป็นว่านั่งไปแล้วรู้สักว่าสบายกว่าก่อนนั่งก็เอาเลยตอนนั้นแหละใช่เลย) ทำการอธิษฐานลงไปเลยว่าอยากได้อะไร ต้องการอะไร มีปัญหาเรื่องอะไร ให้ทำอย่างนี้ เสร็จแล้วก็นั่งต่อไปอีกสักพัก พอมีความรู้สึกว่าอยากเลิก ก็เลิกแล้วก็มีดำเนินชีวิตตามปกติต่อไป ผมทำอย่างนี้ประมาณไม่เกิน 7 วัน (อาจเร็วหรือช้ากว่านี้ขึ้นอยู่กับปัญหาแล้วก็กำลังบุญแล้วก็ความสบายของใจในตอนนั่งธรรมะ) ก็จะมีบริษัทโทรมาตามไปสัมภาษณ์งาน ตอนนี้จะได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่ตัวคุณหล่ะ (บุญครี่งหนึ่ง ตัวคุณเองครึ่งหนึ่ง)

แต่ที่พูดไปนั้นหล่ะยังธรรมดาแบบคนขี้เกียจเขาทำกัน ถ้าจะให้ขยันกว่านี้หน่อย ก็ก่อนนั้งธรรมะ ก้ให้สวดมนต์บูชาพระก่อน (ไม่ต้องไปหาบทสวดมนต์ที่ใหนหรอก บททำวัตรเช้าที่สวดกันที่วัดนั้นแหละ สุดยอดแล้ว) เวลาสวดมนต์ นี่ต้อง สวดให้มีเสียงนะ สวดในใจไม่เอา หรือสวดมีเสียงแบบกระซิบก็ไม่เอา ต้องให้มีเสียงออกมาจาก พุง นี้และใช่เลย จากนั้นถ้าจะให้ ขลังยิ่งขึ้น ก็อารธนาศีล สักหน่อย จะ 5 จะ 8 ก็เลือกเอาตามสะดวกไม่ว่ากัน

แต่สุดยอดยิ่งกว่านั้น ตอนนั่งธรรมพอตาหลับลงก็ให้นึกถึงบุญที่ได้ทำลงไปด้วย ยิ่งบุญที่ทำตอนไม่ค่อยไม่เงินด้วยนี้ยิ่งดีใหญ่เลยจะทำให้ปลื่มอกปลื่มใจเข้าไปใหญ่

ขอนอกเรื่องหน่อย ตอนนี้คุณลำบาก มีเงินจำกัด ตอนทำบุญก็ให้คุณนึกว่า เรามีเงินน้อย เราลำบากเรื่องเงิน แต่เราก็จะสละเงินนี้มาทำบุญเพื่อประโยชน์ต่อพระศาสนา คนที่มีเงินมากกว่าเรา เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีก็ทำบุญได้ไม่เหมือนเรา เพราะเงินจำนวนนี้ถึงมีค่าน้อยนิด แต่ว่ามีค่ามากสำหรับเรา หรือเทวดาที่มีสมบัติมากมายก็ทำบุญได้ไม่เหมือนเรา แล้วก็ให้นึกถึงบุญนี้ว่าบุญที่ทำนี้เพื่อประโยชน์อะไร เช่น บริจาคเงินนี้เป็นค่าอาหารพระภิกษุสามเณรก็เพื่อที่ท่านจะได้มีอาหารขบฉันอย่างสะดวกสบาย จะได้มีกำลัง ในการประพฤติธรรมได้โดยสะดวก เมื่อเราคิดได้อย่างนี้ เราก็จะปลื่มอกปลื้มใจ

ผมยังใช้วิธีนี้ในการแก้ปัญหาอื่นๆด้วย พอใจสบายที่สุดก็อธิษฐานลงไป ว่ามีปัญหาอะไรขอให้แก้ปัญหาได้ แล้วก็ไปทำงาน ภายในกี่วัน ผมก็แก้ปัญหานั้นได้ อาจได้ด้วยตนเอง หรือ มีผู้อื่นมาช่วยแก้ปัญหาให้ ในหลายๆครั้ง ผู้ที่มาช่วยแก้ปัญหาให้ ก็เป็นคนทีไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะมาแก้ปัญหาให้เราได้ แบบว่าอยุ่ๆก็โผล่มา ส่วนระยะเลาในการแก้ปัญหานั้นก็ขึ้นอยู่ว่าปัญหานั้นใหญ่เล็กมาแค่ใหนแล้วก็ขึ้นอยู่กับบุญในตัวของคุณด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด ปัญหาบางอย่างแก้ได้ช้า บางอย่างแก้ได้เร็ว แต่ไม่มีปัญหาใหนที่แก้ไม่ได้

ขอฝากให้ลองไปทำดู

#13 *pong*

*pong*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 10:44 PM

ใช่ครับ คุณต้องมั่นนั่งธรรมะบ่อยๆ นึกถึงบุญบ่อยๆ แล้วนึกอธิฐานให้ได้งาน
ผมใช้มาแล้วได้ผลครับ

ผมก็เคยตกงานมาก่อน อนาคตก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หรือแบบข้างบนบอกไว้ก็ได้ครับ เข้าวัดเลย ทำดีๆบารมี 10 ได้เต็มๆ

ก็เข้าใจนะครับ เพราะช่วงแรกผมก็ทำบุญเยอะ ทำมาก ก็มีบางช่วงมานั่งคิดทำไมบุญไม่ส่งผล
แต่พอทำมากๆเข้า นานๆเข้า เลยได้ข้อสรุปว่าคนที่จะเข้าใจ "ทำดีย่อมได้ดี ผลแห่งกรรมดีย่อมส่งผล" ผู้นั้นต้องประกอบเหตุ กรรมดีอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่มากพอ อย่างต่อเนื่อง

องค์พระศาสดาช่วงที่ท่านยังสร้างบารมีอยู่ ท่านมีความสุขกับการสร้างบารมีมาก ถึงขนาดใครมาขอชีวิตท่าน เกิดความดีใจที่จะได้สร้างมหาทานบารมี มีแต่ความต้องการที่จะสละทรัพย์ ชีวิตเพื่อสร้างบารมี

อย่าท้อนะครับ อย่ามองเพียงแค่ในชาตินี้ มองข้ามไปในภพเบื้องหน้าที่ผลบุญจะติดตามเราไป
หมู่คณะเราลงมาสร้างบารมี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะเสียจุดนี้ไป

#14 *pong*

*pong*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 02 July 2005 - 10:54 PM

อย่าท้อนะครับ
คิดว่าเป็นบททดสอบ นักสร้างบารมี อุปสรรคมากแค่ไหน เข้ามาเลย
ตายเป็นตาย แต่จะมาทำให้ฉันเสียกำลังใจสร้างบารมีไม่มีวัน

นั่งธรรมะให้มากๆ นึกถึงบุญที่เคยทำมาบ่อยๆ วันล่ะหลายๆครั้ง
ผมใช้ได้ผลมาแล้วครับ

แต่แบบข้างบนบอกก็ดีนะ เข้าวัดไปสร้างบารมีเลยดีกว่าครับ

#15 thaizee

thaizee
  • Members
  • 14 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 July 2005 - 05:18 AM

ขอเสนอแนะเรื่องการสมัครงานละกันนะคะ แบบคร่าวๆ โดยทั่วไป

ลองพิจารณาว่าคุณสมบัติใดที่เรายังสามารถปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นไปได้ เพื่อที่จะได้มีความคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่า ผู้สมัครคนอื่นๆนะคะ ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา คอมพิวเตอร์ หรือ ทักษะอื่นๆ ที่เหมาะสมกับ ระดับและตำแหน่งของงานที่เราสมัคร

แนะว่า ให้ไปสมัครงานที่บริษัทที่อยากจะเข้าไปทำจะดีกว่า ส่งจดหมายไปนะคะ เพราะอย่างน้อยบริษัทก็เห็นความตั้งใจ และ เห็นบุคลิกภาพเราด้วย อย่าลืมแต่งกายสุภาพนะคะ พร้อม ปิยวาจาคะ

ลองสำรวจ ประวัติส่วนตัว หรือ resume ให้เห็นแล้วน่าสนใจหรือสะดุดตา ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเข้างาน ถ้าให้ดีควรเป็นภาษาอังกฤษ เพราะอย่างน้อยแสดงว่าคุณมีความสามารถด้านภาษา หากว่าคุณเคยสมัครสอบ โทเฟล โทอิก ให้บอกคะแนนไปด้วย (ถ้าคะแนนดีนะคะ) รวมถึง รางวัลต่างๆ ไม่ว่า กีฬา การเรียน โครงงานต่างๆ หรือ เคยได้รับการอบรมด้านต่างๆ หรือ โปรเจคตอนเรียนมหาวิทยาลัย

อย่าลืม รูปถ่าย ขอให้ดูงามๆ หน่อยนะคะ ไม่ต้องถึงขั้นนายแบบ แต่ว่าดูดี สะอาด เรียบร้อย สุภาพ


อีกอย่างคะ ทำบุญเต็มกำลัง กับ ทำบุญหมดตัว คนละอย่างกันนะคะ

อย่าลืม ขยัน อดทน ประหยัด ด้วยนะคะ

#16 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 03 July 2005 - 08:48 PM

QUOTE("นักบุญตกอับ")
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ คิดอยู่แล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้ เพราะคุยกับคนวัดกี่คนๆ ก็ได้คำตอบแบบนี้ อย่างไรก็ดี เราอยากได้คำแนะนำที่เป็นรูปธรรม สามารถทำได้จริง //ถ้ายังไง ขอคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ที่ปฏิบัติได้จริงด้วยครับ..


คุณ ครับ เคยได้ยินเรื่องของคุณยายทองสุข ไม๊.. น่าจะเคยนะ

" ก้อ เค๊าไม่ได้ให้เอ็งมาทำอย่างนี้ นี่หว่า " หลวงปู่ตอบ

" สึกออกมาทำไม " ผมถาม

#17 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 05 July 2005 - 12:18 AM

หลวงปู่สดเคยสอนว่า "จิตเกษมผ่องใสเงินทองไหลมา" (ปล.ณ เวลานี้ น้องก้องขอถามว่าคุณทำจิตให้ผ่องใสแล้วหรือยัง??? อย่าลืม!!! นะครับ ใสเป็นของพระ หมองเป็นของมาร) ที่คุณทุกข์เพราะคุณตั้งจิตไว้ผิดที่นะครับ (ไม่ได้ตั้งไว้ที่ศูนย์กลางกาย) และสุดท้าย (ปล.ที่ทุกคนมักจะลืมนึกกัน) คุณยายอาจารย์ฯ ท่านเคยสอนว่า "เสียอะไรเสียได้เสียไป แต่อย่าให้ "ใจ" เสีย" ครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#18 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 July 2005 - 05:09 PM

งานตอนนี้กำลังหาง่ายมากเลยครับ ลูกน้องผมลาออกไปสมัครงานที่ใหม่ แล้วก็ได้งานกันเป็นว่าเล่น ทำเอาผมซึ่งเป็นหัวหน้าอยู่ที่ทำงานเก่า กำลังเหนื่อยมาก กำลังคิดชั่งใจว่า เราควรตามลูกน้องไปดี หรือ อยู่ช่วยเจ้าของโรงงานไปก่อนดี เพราะหนีตอนนี้ก็เท่ากับไม่อยู่ช่วยเขา แก้ปัญหาน่ะครับ อ้อ เผลอเขียนเรื่องส่วนตัวของผมมากเกินไป

แต่ที่เขียนมาอยากจะบอกว่า งานมีมากเลยครับ บริษัทผุดเป็นดอกเห็ด ถ้าคุณไม่เลือกงานคุณต้องได้งานครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#19 IQ0

IQ0
  • Members
  • 366 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:MS16
  • Interests:อยากสร้่างบ้านพักคนชราไว้รองรับจนทให้อยู่ใกล้ๆวัด

โพสต์เมื่อ 11 July 2005 - 10:28 PM

ช่วงที่วัดถูกโจมตี ผมทำงานอยู่ต่างประเทศ เงินดีพอสมควร
แต่ก็ตัดสินใจกลับมาเมืองไทยเพราะอยากกลับมาวัด และแม่ป่วยเป็นมะเร็งที่มดลูก

กลับมาไม่มีงานให้ทำด้วยนะครับ เงินที่มีอยู่ก็ต้องใช้รักษาแม่ บุญก็ต้องทำ
หางานอยู่นานพอสมควร จนเงินหมด

หมดคือหมดจริงๆ ไม่เหลือเลย ติดลบด้วยซ้ำ
คิดว่าสักวันบุญคงส่งผล ก็ไม่เคยท้อครับ
งานหยาบก็ทำ คือ หางานไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นร่อนจดหมายอาทิตย์ละ ๑๐ ฉบับ
จนในที่สุดก็ได้งานครับ

ใจเราเป็นธาตุสำเร็จ
ถ้าเราอยากได้จริงๆ มันก็จะได้จริงๆ
งานหยาบก็หางานไป ต้องหาไว้เยอะๆ
ส่วนละเอียดก็ทบทวนบุญไปเรื่อยๆ ครับ
พอได้จังหวะ เราจะได้งานที่ดี ตามที่เราต้องการ
อย่าเพิ่งท้อ อย่าให้ใจตก
อย่าคิดว่าบุญไม่ส่งผล

เวลาเกิดอะไรขึ้น ผมจะคิดว่าเราไปทำแสบ ทำซ่าไว้เยอะพอสมควร
ก็ต้องอดต้องทนไปครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ต้องสู้ถึงจะชนะครับ

#20 *ยิ้ม*

*ยิ้ม*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 July 2005 - 12:59 AM

มาก๊อบ know how ของคุณสุวิทย์ค่ะ ยอดเยี่ยมมาก สาธุค่ะ _/|_

ขอให้เจ้าของกระทู้ได้งานไวๆ ใจใสใจสบายค่ะ

#21 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 13 July 2005 - 02:20 AM

You should be recalled that Roam was not built in a day.
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#22 *เจ้าของกระทู้*

*เจ้าของกระทู้*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 13 July 2005 - 10:05 PM

ได้งานแล้วคร้าบบบ ต้นเดือนที่ผ่านมาตั้งใจอธิษฐานจิตอย่างเต็มที่ ไม่เอาบุญไปอธิษฐานเรื่องอื่นเลย อธิษฐานเรื่องงานอย่างเดียว ปกติเวลาไปวัดมักจะอธิษฐานหลายเรื่อง สงสัยอธิษฐานหลายเรื่องมากเกินไป บุญเลยไม่ได้มีกำลังแรงมากพอ ทำให้เรื่องใดเรื่องนึงสำเร็จเร็วน่ะครับ...เกี่ยวหรือปล่าว ใครรู้ช่วยตอบทีครับ

#23 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 14 July 2005 - 08:29 PM

สาาาาาาาาาธุ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ laugh.gif

แต่แม้จะได้งานแล้ว ก็อย่าลืมทำสมาธิ ทำใจใสๆ อยู่เสมอนะครับ wink.gif

แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง


#24 *somCroatia*

*somCroatia*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 15 July 2005 - 01:17 AM

saa thu saa thu

#25 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 05 August 2005 - 04:03 AM

ที่คุณถามมาตอนท้ายนั้นผมไม่ทราบ แต่ที่ผมทราบก็คือ "ถ้าหากรู้จักคิดแล้วจิตเราก็จะไม่เป็นทุกข์" ครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#26 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 20 August 2005 - 01:54 AM

ท้าลิขิต :

ในชีวิตของคนอย่างฉัน ไม่ง่ายดายเหมือนอย่างฝัน ต้องฝ่าฟันมากมาย ใคร??? บนฟ้าลิขิตหรือไร??? ให้ฉันต้องเจอเรื่องร้ายที่รุมเข้ามา บุญก็ทำ กรรมไม่สร้าง มันจะไม่มีหนทางหรือไร??? โชคชะตา เป็นเช่นไร??? "แต่ว่าใจ... ไม่แพ้" อยากจะขอท้าลิขิต อยากจะขอขีดเส้นทาง จะขอเดินตามทางของหัวใจ และจะยังคงเชื่ออยู่ ความดีที่ทำไว้ "สุดท้ายต้องมีสักวัน... เป็นของเรา"

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#27 JAK

JAK
  • Members
  • 71 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:เขดดุสิต กทม(นะครับ)

โพสต์เมื่อ 29 October 2005 - 08:42 AM

Browsing this Board, and thinking that "IEEE Career Alert: Mastering the Job nterview"http://www.todayseng...5/Sep/6ways.asp might help in interviewing, krab!

First of all, don't get your mind cloudy. The interviewers don't give the job to those with cloudy mind but those with cheeful mind through medition the DMKY way, krab!