ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

เหตุแห่งความเป็นผู้มีอายุยืน


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 18 August 2005 - 10:33 PM

เหตุแห่งความเป็นผู้มีอายุยืนนั้น นอกจากการปล่อยสัตว์ ให้ชีวิตสัตว์ทั้งน้อยและใหญ่เป็นทาน การถวายคิลานเภสัชและยารักษาโรค ให้แก่พระภิกษุ-สามเณร/บุคคลโดยทั่วไป ที่ท่านอาพาธ/เจ็บไข้ และการเป็นผู้มีความเคารพ อ่อนน้อมถ่อมตน ทั้งต่อพระรัตนตรัย ต่อผู้มีพระคุณ อาทิ บิดา-มารดา เป็นต้นแล้ว ยังมีเหตุ/ปัจจัยอื่นใดอีกหรือไม่ครับ ที่จะเป็นเครื่องยังให้ถึงซึ่งความเป็นผู้มีอายุยืน???

คำเตือน : ขอความกรุณาเคารพสิทธิในการแสดงความคิดเห็น และใช้คำพูดที่สุภาพ

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 19 August 2005 - 07:42 AM

ที่ผมทราบก็มีการถวายภัตตาหาร (อาหาร) แด่พระภิกษุสงฆ์นะครับ เพราะเป็นการให้ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 19 August 2005 - 12:50 PM

การไม่เบียนเบียน ชีวิตผู้อื่น ก็จะทำให้ไม่เป็นการบั่นทอนชีวิตของตัวเองให้สั้นลง

อย่างนี้จะถือว่าเป็นการทำให้ชีวิตของตนยืนยาวได้ด้วยหรือเปล่าครับ

#4 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 19 August 2005 - 03:31 PM

ถูกต้องนะคร้าบ บุญจากการรักษาศีล ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยครับ โดยเฉพาะข้อ 1
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#5 ยิ่งหยุด ยิ่งเร็ว

ยิ่งหยุด ยิ่งเร็ว
  • Members
  • 49 โพสต์
  • Location:Tokyo, Japan

โพสต์เมื่อ 19 August 2005 - 08:39 PM

อานิสงส์ต่ออายุ

บุญต่ออายุนี้นับว่าเป็นการไม่ประมาท เพราะทำตามประเพณีของพุทธศาสนา ได้อาราธนาพระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ สวดพระปริตแล้วยังมาจัดให้มีพระธรรมเทศนาอีกด้วยดังนี้ แม้แต่ในเมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดายังมีพระชนม์อยู่ พระองค์ได้ทำทรงทำมาแล้วกับอายุวัฒนกุมาร ดังอาตมาภาพจักยกแสดงเป็นนิทัสนอุทาหรณ์ เพื่อจะได้เป็นเครื่องประดับสติปัญญาบารมีกุศลสืบต่อไป
ดังมีใจความว่ามีพราหมณ์ ๒ คน เป็นชาวทีฆลัมพิกนคร บวชในลัทธิภายนอกพระศาสนาบำเพ็ญตบะอยู่สิ้น ๑๘ ปี บรรดาพราหมณ์ ๒ คนนั้น คนหนึ่งคิดว่าประเพณีของเราจักเสื่อมจึงได้สึกขายบริขารของตนให้แก่ชนทั่วไป เสร็จแล้วได้ภรรยาคนหนึ่งพร้อมด้วยโค ๑๐๐ ตัว ทรัพย์ ๑๐๐ กหาปณะ ตั้งไว้เป็นทุน ฝ่ายภรรยาของเขาคลอดบุตรแล้ว ส่วนสหายนอกนี้ไปสู่ต่างถิ่นกลับสู่นครนั้นเมื่อพราหมณ์สหายทราบข่าว จึงได้พาบุตรภรรยาไปเยี่ยม เมื่อไปถึงพราหมณ์และภรรยาไหว้สหายก็กล่าวว่า ขอให้ท่านทั้ง ๒ จงมีอายุยืน ถึงคราวบุตรไหว้ สหายไม่ได้พูดว่ากระไร

พราหมณ์ตกใจ จึงได้รีบถามว่าทำไมละสหาย เมื่อเราทั้งสองไหว้จึงกล่าวว่าจงมีอายุยืน คราวบุตรไหว้ทำไมจึงไม่พูดว่ากระไร เหตุไรจะมีขึ้นหนอ สหาย เด็กนี้จะตายภายใน ๗ วัน พราหมณ์รู้สึกตกใจเป็นกำลัง จึงได้ถามอุบายแก้ว่าสหายมีวิธีแก้บ้างไหม สหายไม่มีแล้ว วิธีแก้นี่เราเห็นสมณโคดมพระองค์เดียวพระองค์มีวิธีแก้ไขอย่างเลิศสหาย เราจะไปได้อย่างไรเดี๋ยวตบะของ
เราก็เสื่อมเท่านั้น ลูกตายกับตบะเสื่อมจะเอาอย่างไหนดี

พราหมณ์เลยตัดสินใจพาบุตร และภรรยาไปสู่สำนักของพระศาสดาเมื่อถึงแล้วก็ ไหว้พระศาสดา พระองค์ก็ตรัสว่าจงมีอายุยืน ต่อเมื่อบุตรน้อยไหว้พระศาสดาก็ไม่ตรัสว่ากระไร พราหมณ์จึงกราบทูลถึงวิธีแก้ไขเหตุนั้น พระศาสดาตรัสอุบายที่จะไม่ให้เด็กนั้นตายใน ๗ วัน แก่พราหมณ์ว่า ท่านเองทำมณฑปไว้ เมื่อเสร็จแล้วก็นิมนต์พระสงฆ์ไปเจริญพระพุทธมนต์ ๘ รูป หรือ ๑๖ รูป พราหมณ์จึงรับได้พระเจ้าเข้า

พระศาสดาเมื่อพราหมณ์สร้างมณฑปเสร็จแล้ว จึงได้ส่งภิกษุไปตามจำนวนที่พราหมณ์ต้องการ ภิกษุได้เจริญพระพุทธมนต์สิ้น ๗ วัน ในวันที่ ๗ พระศาสดาได้เสด็จไปเอง เจริญพุทธมนต์ด้วยหมู่ภิกษุ อวรุทธกยักษ์ผู้บำรุงท้าวเวสสุวรรณ ต้องการจะจับเด็กนั้นไปกินเป็นอาหาร ก็กลับไปด้วยความผิดหวัง ในวันที่ ๘ สองสามีภรรยาได้นำบุตรมาวางไว้แทบพระบาทของพระศาสดา พระองค์จึงตรัสว่าขอเจ้าจงมีอายุยืน พราหมณ์ถามด้วยความสงสัยว่าจะมีอายุเท่าไร พระเจ้าข้า พระศาสดาตรัสตอบว่า ๑๒๐ ปี พราหมณ์

พราหมณ์ ๒ สามีภรรยาจึงตั้งชื่อบุตรว่า อายุวัฒนกุมาร เมื่อเขาเติบโตแล้วได้มีอุบาสก ๕๐๐ คน แวดล้อมแล้ว ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่าผู้มีอายุทั้งหลายอายุวัฒนกุมารนี้จะตายภายใน ๗ วัน แต่แล้วกลับจะมีอายุ ๑๒๐ ปี เหตุเป็นเครื่องเจริญแห่งอายุ ของสัตว์เห็นจะมี พระศาสดาเสด็จมา แล้วตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลายพวกเธอสนทนาด้วยเรื่องอะไรกัน เมื่อภิกษุกราบทูลว่าเรื่องชื่อนี้ พระองค์จึงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลายอายุเจริญอย่างเดียวเท่านั้นหามิได้ ก็สัตว์เหล่านี้ไหว้ท่านผู้มีพระคุณ ย่อมเจริญด้วยเหตุ ๔ ประการ พ้นจากอันตรายดำรงอยู่จนตลอดอายุทีเดียว

http://www.84000.org/anisong/30.html

#6 โป้ง

โป้ง
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 August 2005 - 09:34 PM

แล้วการบริจาคโลหิต ทุกๆ 3 เดือน ทำจนตลอดชีวิต
และทำด้วยความปิติใจ เลือดที่ให้ ให้โดยไม่เจาะจง เป็นเหมือนสังฆทาน

แบบนี้ได้บุญเยอะพอ ทำให้มีอายุยืนนานไหมครับ ยังมีอะไรทำได้ดีกว่านี้อีกไหมครับ

#7 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 19 August 2005 - 11:16 PM

อย่างนี้ก็ได้บุญแรงเหมือนกันครับ เรียกว่าเป็น "อุปทานบารมี" (คือ ทานบารมีในระดับปานกลาง) อย่างตัวของกระผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ชอบบริจาคโลหิตด้วย กระผมก็ขอนำเอาบุญนี้มาฝาก ให้กับนักรบกล้าทหารหาญพันธุ์ตะวันลูกพระธรรมทุกๆ รูปทุกๆ ท่านด้วยนะครับ นอกจากนี้ การบำเพ็ญอุปทานบารมีที่เป็นสังฆทานนั้น ย่อมมีอานิสงส์ไพศาลยิ่งกว่าการให้ในลักษณะที่เป็นปาฏิบุคลิกทาน (คือ การบำเพ็ญทานอย่างจำเพาะเจาะจง) อย่างแน่นอน ซึ่งจะยังอานิสงส์แก่ผู้บำเพ็ญบารมีในลักษณะนี้ ให้ถึงพร้อมด้วยความเป็นผู้มีพละกำลังมหาศาลและมีอายุขัยยืนยาวนาน ดังเช่นพระพากุละเถระ ผู้เป็นเอตทัคคะในด้านของ "ความเป็นผู้มีอาพาธน้อย" ยังไงล่ะครับ

สำหรับบุญที่ทำแล้วมีอานิสงส์แรงที่สุดนั้น กระผมขอยืนยันเลยว่าไม่มีกุศลผลบุญใดเลย ที่จะมาเทียบเท่ากับ "การเจริญภาวนาจนกระทั่งได้บรรลุเข้าถึงพระธรรมกายภายใน" เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "บุญที่เกิดจากการเจริญสมาธิภาวนา เป็นยอดแห่งบุญทั้งปวง"
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#8 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 21 August 2005 - 07:34 PM

เมื่อวานได้ยินคุณครูเพิ่มเติมเหตุแห่งความมีอายุยืนอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งผมปลึ้มมาก เพราะผมรับบุญนี้แทบทุกวันเหมือนกัน คือ หลานชายเจ้าของเคส รับบุญเป็นสารถีคอยรับส่งพระภิกษุไปยังที่ต่างๆ ซึ่งคุณครูบอกว่า จะทำให้ได้ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ด้วยล่ะครับ

แล้วก็เลยนึกขึ้นได้ ถึง ธรรมโฆษกเทพบุตร ที่ชาติที่เป็นสุนัข คอยเห่าไล่สัตว์ร้าย นำทางพระปัจเจกพุทธเจ้า ไปฉันภัตตาหารที่บ้านเจ้านาย ทำให้ยืดอายุ แคล้วคลาดจากอันตรายทุกๆ อย่าง ตอนที่มาเกิดเป็นมนุษย์เลยล่ะครับ

อ้อ แล้วก็ยังมีเคสของลุงวัน ที่เข้าใจว่าตนเองมีของศักดิ์สิทธิ์หนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้า อาศัยอยู่ในป่า มีโจรมารบกวนตลอด แต่รอดทุกครั้ง คุณครูบอกว่า ในอดีต เคยหักร้างถางพงในป่า ทำทางเดินให้พระภิกษุผู้ทรงอภิญญา มาฉันภัตตาหารที่บ้านของตนครับ บุญนี้ต่างหากที่คอยคุ้มครองไว้ ไม่ใช่ของศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ลุงวันหูตาสว่างครับ

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#9 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 22 August 2005 - 02:55 AM

กระผมขออนุโมทนาบุญกับพี่ และขอเอาบุญที่ได้ร่วมปัจจัยถวายคิลานเภสัชเป็นสังฆทาน แด่...พระภิกษุสงฆ์-สามเณร (เมื่อวันพระที่ผ่านมา) มาฝากพี่และทุกๆ ท่าน ณ ที่นี้ด้วย อนุโมทนาบุญซึ่งกันและกันนะครับ สาธุ...
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#10 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 22 August 2005 - 12:38 PM

อ้อ!!! ลืมไปอย่างหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "การดูแลอุปัฏฐากภิกษุผู้ป่วยไข้ เท่ากับได้ปฏิบัติดูแลเราตถาคต" หากใกล้บ้านท่านมีโรงพยาบาลที่ดูแล รักษา พระภิกษุสงฆ์อาพาธ ท่านก็สามารถไปร่วมบุญได้ ไม่ว่าจะเป็นการไปให้กำลังใจ การถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน การร่วมปัจจัยถวายอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนคิลานเภสัชปัจจัยต่างๆ ฯลฯ ได้นะครับ สำหรับการบริจาคโลหิตนั้น หากท่านต้องการที่จะได้อานิสงส์แรงจริงๆ ขอให้ท่านบรรพชา/อุปสมบทเป็นสามเณร/พระภิกษุ แล้วบริจาคโลหิตสิครับ เพราะศีล โดยเฉพาะศีลของพระภิกษุนั้น เป็น "อปริยันตปาริสุทธิศีล" คือ ศีลอันไม่มีประมาณ ไม่มีขอบเขต ไม่มีสิ้นสุด ที่เราทราบกันอยู่ทุกวันนี้นั้น เป็นเพียงศีลของพระภิกษุในขั้นต้น คือ ศีล ๒๒๗ เท่านั้น แท้ที่จริงแล้ว หากเป็นสิกขาบทในระดับมัชฌิมะจะมีถึง ๙ โกฏิ ๙ ล้านสิกขาบท และในระดับปรมัตถ์ คือ ไม่มีประมาณ ฉะนั้น การทำบุญด้วยเพศพรหมจรรย์ไม่เพียงแต่ทานเท่านั้นนะครับ การรักษาศีลและการเจริญภาวนา ก็ย่อมมีอานิสงส์แรงยิ่งกว่า การบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนาของบุคคลธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ประพฤติพรหมจรรย์ ฉะนั้น ใครก็ตามที่เป็นชายแท้ (ทั้งกายและใจ) แต่!!! ยังไม่เคยได้บวช ก็ให้รีบหาโอกาสบวชเสียนะครับ เพราะโอกาสเช่นนี้ หาใช่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แม้เกิดขึ้นแล้ว เราจะมีโอกาสอันประเสริฐ ที่จะได้กลับมาอยู่ในเพศภาวะเช่นนี้ได้อีกหรือไม่นั้น ก็ไม่มีผู้ใดทราบได้ ทั้งนี้เพราะ "ความตาย เป็นสิ่งที่ไม่มีนิมิตหมาย" ครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#11 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 03 October 2005 - 03:34 PM

วันนี้ไปบริจาคโลหิตที่โรงพยาบาลมาเหมือนกัน แบ่งบุญให้กับลูกพระธรรมทุกๆคนนำครับ

#12 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 18 October 2005 - 01:42 PM

ขอรบกวนถามเพื่อให้หายข้องใจค่ะ
เป็นไปได้หรือไม่ ที่หากว่าเรากำลังตั้งครรภ์ แล้วจะมีผลให้บุคคลรอบข้างผู้เป็นที่รักมีอันเป็นไป (คือต้องตาย) ด้วยเหตุผลที่ว่า ตั้งครรภ์ผิดเวลา ไม่สมควรในเวลานี้ จึง
ทำให้ได้ 1 เลยต้องเสียอีก 1 (มีคนเขาทักมาค่ะ) แต่ด้วยความที่เป็นนักเรียนอนุบาลฯ จึงคิดว่า กรรมของใครก็เป็นของคนนั้น มันไม่น่าจะโยงใยถึงกันได้ และการที่
กำลังตั้งครรภ์ ก็เป็นเพราะผู้ที่จะมาเกิดมีบุญกุศลร่วมกัน หรือมีศีลเสมอกัน มิใช่หรือ?
หากดิฉันเข้าใจผิด ขอได้โปรดช่วยตอบเพื่อไขข้อข้องใจนี้ให้กระจ่างด้วยค่ะ

#13 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 19 October 2005 - 01:44 AM

ผมไม่แน่ใจนะครับ
แต่ในพระไตรปิฎกก็เคยมีเคสที่
เด็กที่มาเกิดทำให้ครอบครับและชุมชนยาจกที่ยากจนอยู่แล้ว จนลงไปอีก
ครอบครัวยาจกที่เคยขอทานได้บ้างไม่ได้บ้างก็ขอไม่ได้เลย

อย่างนี้เคยมีมาแล้วในพุทธกาลครับ
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ทราบครับ

รอท่านอื่นมาตอบดีก่า
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#14 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 20 October 2005 - 01:43 AM

nerd_smile.gif สำหรับกรณีของแขกผู้เยี่ยมชม กระผมขออธิบายเพิ่มเติมว่า กรรมที่บิดามารดาเป็นผู้กระทำ ไม่ได้ตกทอดไปถึงบุตรนะครับ (กรรมของใคร ก็ของผู้นั้น อันนี้ขอฟันธงครับ) แต่แรงกรรมที่บิดามารดามีอยู่นั่นเอง ที่เป็นเครื่องดึงดูดให้ผู้มีกรรมแบบเดียวกันมาถือกำเนิดด้วย อาทิ พ่อแม่ที่มีกรรมเกี่ยวกับสุรายาเสพย์ติด ก็จะไปดึงดูดเอาลูกประเภทที่มีกรรมดังกล่าวให้มาเกิด เรียกได้ว่า เมื่อไหร่ที่แม่มีอาการแพ้ท้อง เป็นต้องเทเหล้าผสมโซดา มาดื่มย้อมใจให้หายอยากเสียให้ได้ ในทางตรงกันข้าม หากเป็นผู้มีบุญมาเกิด ผู้เป็นแม่มักมีอาการ เช่น อยากสวดมนต์ อยากทำบุญตักบาตร อยากนั่งสมาธิเจริญภาวนา เป็นต้น

nerd_smile.gif สำหรับกรณีศึกษาของเด็กที่เกิดมา ซึ่งโดยปกติแล้วครอบครัวของเขานั้นมีฐานะยากจนมากเป็นมหาทุคตะ เมื่อมาถือกำเนิดขึ้น ก็ทำให้ครอบครัวที่ยากจนอยู่แล้วมีอันต้องจนหนักขึ้นไปอีกนั้น เป็นเรื่องราวของท่านอานันทเศรษฐีน่ะครับ พี่มองอย่างแมว

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี