ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 3 คะแนน

ลองอ่านดูคุณอาจจะรู้อะไรมากขึ้น^^


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 22 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Defilement Destroyer

Defilement Destroyer
  • Members
  • 274 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 09:30 PM

ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน
> แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ
> ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี
> วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆ
> ของฉันมีกัน
>
> จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง
>
> พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง
> โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน
> "ใครขโมยเงินไป" พ่อตวาด
>
> ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน
> พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า
> " ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพ
> ก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ"
>
> พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น
>
> ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้
> แล้วพูดว่า
> "ผมขโมยเองครับ"
>
> ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง
> พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด
> จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย
> พ่อนั่งลงบนเก้าอี้ และด่าว่าน้องชายของฉัน
> "ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก
> แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย"
>
> คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้
> หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด
> แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย
>
> กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก
>
> น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า
> " พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว"
>
> ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้
> ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ
>
> หลายปีผ่านไป
> แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง
>
> ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย
> ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี...
>
> เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น
> เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน
> ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย
> ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน
>
> คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน
>
> ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า "ลูกเราทั้งคู่เรียนดี
> เรียนดีมากนะ"
>
> แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า
> " แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไร
> ในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน"
>
> ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า
> " ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว"
>
> พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่
> "ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้
> ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน
> พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้"
>
> คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ
> ทั่วทั้งหมู่บ้าน
> เพื่อขอยืมเงิน
>
> ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า
> "ต้องให้น้องได้เรียนต่อ
> ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้"
>
> แต่ในขณะเดียวกัน
> ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้
> ใครจะรู้ได้ ... วันต่อมาในตอนเช้ามืด
> น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น
> และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว
>
> ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน
> ขณะฉันกำลังหลับ
> " พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ....
> ผมจะไปหางานทำ
> แล้วจะส่งเงินมาให้พี่"
>
> ฉันนั่งอยู่บนเตียง
> อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า ...
> ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป
> ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17ปี ส่วนฉันอายุ 20ปี .
>
> ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน
> รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็นกรรมกรแบกหามที
> ่
> ไซท์ก่อสร้าง ...
> ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3
>
> วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก
> เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า "มีชาวบ้านมาหาเธอ
> อยู่ข้างนอกแน่ะ"
>
> ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ???
> ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่
> ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง
> ...
> ฉันถามเขาว่า
> " ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ"
>
> น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า "ก็ดูผมสิ
> สกปรกมอมแมมออกอย่างนี้
> ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ
> ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี"
>
> ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง
> และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ
> "พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง
> เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม"
>
> จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
> เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน
> แล้วพูดว่า
> " ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง"
>
> ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด
> ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน
> ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี .
>
> วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก
> ฉันสังเกตเห็นว่า
> หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว
>
> เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก
>
> หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า
> "แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก
> เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ"
>
> แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า " แม่ไม่ได้จ้างหรอก
> น้องชายลูกต่างหาก
> วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน
> ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ
> น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ"
>
> ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา
>
> ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ
>
> ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด "เจ็บมากไหม"
> ฉันถาม
>
> " ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ
> มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด
> แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ
> และ..."
>
> น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด
> เพราะฉันหันหน้าหนีเขา
> น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง
> ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23ปี ส่วนฉันอายุ 26ปี...
>
> หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง
> หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน
> ...
> แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ
>
> ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง
> แต่เมื่อออกไปแล้ว
> ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี
> จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม
>
> น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป
> ...
> เขาบอกกับฉันว่า
> "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะ
> ผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง"
>
> สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของครอบครัว
> เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท
> ...
> แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้
> เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา
>
> วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล
> และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด
> เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล
>
> ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล
> น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา
> ... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า
>
> " ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!
> ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆ อย่างนี้
> ดูตัวเองซิ
> เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง"
>
> คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด
> ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา
> " พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน
> ส่วนผมมันการศึกษาต่ำ
> ถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ
> คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด"
>
> น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย .
> ฉันบอกกับน้องว่า
> "แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..."
>
> "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ"
> น้องชายของฉันจับมือฉันไว้
> ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29ปี...
>
> เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี
> เขาได้แต่งงานกับสาวชาวนาในหมู่บ้านเดียวกัน
>
> ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า
> " ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้"
>
> น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล "พี่สาวของผมครับ" .
> และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้
>
> "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง
> เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2ชม. เพื่อเดินไปเรียน
> และเดินกลับบ้าน
> วันหนึ่งผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง
> พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง
> และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล
> เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว
> เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ ... นับจากวันนั้น
>
> ผมสาบานกับตัวเอง
> ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี
> และจะทำดีกับเธอ"
>
> เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว
> สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน
>
> คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ... "ในโลกใบนี้
> คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ"
>
> ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้
> น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...
>
> จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ
> วันในชีวิตของคุณและเขา
> คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ
> น้อยๆ
> แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง
> .. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ
> พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน
> หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม


-------------------------------------------------


ภูเขาศิลาล้วนย่อมตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)

#2 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 09:44 PM

sad.gif cry_smile.gif cry_smile.gif ใครก็ได้มาช่วยเช็ดน้ำตาหนูที cry_smile.gif ความห่วงใย ซึ้งคะ ไม่มีอะไรพูดคะ ขออนุโมทนาสาธุนะคะ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 09:49 PM

โอ้ เป็นเรื่องที่ซาบซึ้งมาก ๆเลยครับ
cry_smile.gif cry_smile.gif cry_smile.gif

ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำ เรื่องราวดีๆ มาให้ชุมชนครับ



ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  0011.gif   15.75K   9 ดาวน์โหลด

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#4 สายธารธรรม

สายธารธรรม
  • Members
  • 125 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 11:59 PM

โห!! ซาบซึ้งมากๆๆๆเลยค่ะ cry_smile.gif cry_smile.gif

เป็นความรักของพี่น้องที่บริสุทธิ์มากค่ะ

อ่านแล้วรู้อะไรมากขึ้นเยอะเลยจริงๆ ohmy.gif

อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ happy.gif
บุญเป็นพลังแห่งความบริสุทธิ์

ที่จะบันดาลให้เกิดความสุข ความสำเร็จในชีวิตในทุกๆระดับ

#5 ท่านต้นผู้ยิ่งใหญ่

ท่านต้นผู้ยิ่งใหญ่
  • Members
  • 265 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 12:52 AM

เป็นเรื่องสั้นที่ดีครับ แต่น่าจะบอกไว้ตอนก่อนจะเล่าเรื่องสักนิดนึงว่าเป็นเรื่องแต่งหรือเรื่องจริง

#6 Dok_Bua

Dok_Bua
  • Members
  • 233 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:UK

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 05:20 AM

ซึ้งมากๆๆๆๆค่ะ อนุโมทนาด้วยนะคะ ขออนุญาตก๊อบส่งเมลล์ไปให้เพื่อนนะคะ

อ่านแล้วร้องให้ตามเลยค่ะ ขอบคุณมาก
...ขอสร้างบารมี เอาชีวีเป็นเดิมพัน ...

#7 asama

asama
  • Members
  • 157 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 08:24 AM

ซึ้งมากๆๆๆๆ
พลังลูกพระธัมฯ

#8 รัก แล้ว ทุกข์

รัก แล้ว ทุกข์
  • Members
  • 270 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 08:55 AM

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความดีๆ
อ่านไปน้ำตาไหลเลย
ใครนะช่างเขียนได้ดีเช่นนี้
ขอบคุณอีกครั้งนะครับ

#9 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 09:03 AM

ขอบคุณค่ะ

#10 arraya

arraya
  • Members
  • 298 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 09:11 AM

แง๊ อยากมีน้องแบบนี้มั่งอ่ะ

#11 เราคือใคร

เราคือใคร
  • Members
  • 137 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 09:17 AM

ถ้าในอดีตชาติ ครอบครัวเขาได้รู้จักกับการสร้างทานบารมี เรื่องเศร้าๆ เหล่านี้ก็คงไม่เกิดกับพวกเขาน่ะครับ

จะเห็นว่ายังมีผู้คนอีกมากมายในโลกนี้ ที่กำลังรอการทำหน้าที่กัลยาณมิตรของพวกเราอยู่ครับ


#12 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 10:56 AM

ปกติเคยฟังเพลง"พี่ชายที่แสนดี"

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของ"น้องชายแก้ว"เพียงแต่จะมีมูลความจริงหรือไม่หนอ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#13 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 06:53 PM

เป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ อยากเป็นเหมือนน้องชายคนนี้จังตอบแทนบ้างจัง เอาไปเป็นข้อคิดที่ดีเลยครับเป็นต้นแบบ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#14 ปรารถนาจะเข้าถึง

ปรารถนาจะเข้าถึง
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 06:55 PM

อนุโมทนา อนุโมทนา อนุโมทนา บุญ สาธุ (ซัมเมอร์นี่อยากอบรมธรรมทายาทมากครับ)

#15 สิทฺธิกโร(V-active)

สิทฺธิกโร(V-active)
  • Members
  • 486 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:สมุทรปราการ
  • Interests:ธรรมมะ และการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 26 October 2006 - 11:11 AM

น้ำตาจะไหล เลย ดีมากๆๆเลย

#16 Kotcha...

Kotcha...
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 October 2006 - 11:56 AM

ตื้นตันจังเลยครับ อานุภาพแห่งความกตัญญูกตเวที โมทนาผู้ที่เอาเรื่องนี้มาโพสนะครับ สาธุ

#17 จริยคุณกุลภัทร์

จริยคุณกุลภัทร์
  • Members
  • 368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 October 2006 - 07:00 PM

กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวเลย ซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ สาธุๆๆ

#18 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 October 2006 - 09:20 PM

cry_smile.gif cry_smile.gif cry_smile.gif โห!ซึ้งจริงๆค่ะ อ่านไปนำตาไหลไป รักน้องเพิ่มขึ้นจังเลยค่ะ laugh.gif laugh.gif laugh.gif

#19 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 12:40 PM

ขอบคุณ สำหรับเรื่องราวดีดีครับ สาธุ
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#20 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 October 2006 - 11:18 AM

อืมม...ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ต้องบอกว่าเขาดีจริงๆ
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#21 ปลื้มในบุญ

ปลื้มในบุญ
  • Members
  • 26 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 October 2006 - 11:42 AM


ซาบซึ้งจริง ๆ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ



#22 preechabia

preechabia
  • Members
  • 17 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 June 2007 - 02:45 PM

อ่านไปน้ำตาคลอไปด้วย ซาบซึ้งมากทำให้เรารู้ว่า จงรีบทำดีกับคนรอบตัวเราเสียแต่บัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้องครอบครัวของเราเพราะเวลาของเรามีไม่มากแล้ว

#23 usr31102

usr31102
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 September 2009 - 11:04 PM

ขอบคุณ สำหรับเรื่องดีๆ ครับ สาธุ